คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : #Chapter 13
“ยูโตะคุง ช่วยรับจดหมายไว้ด้วยนะคะ”
“เอ้อ แต่ผมไม่ชอบผู้หญิง” ยูโตะตอบเพื่อนร่วมรุ่นตัวเองอย่างตรงๆ ก็เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงจริงๆ ไม่งั้นเขาจะมีแฟนเป็นยามาดะหรอ?
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คืออยากให้รับเอาไว้” หญิงสาวพยายามยัดเยียดจดหมายใส่มืออีกฝ่าย
“ไม่ดีกว่าครับ ยูมิจังก็รู้ว่าผมจีบยามาดะอยู่” ยูโตะเลือกที่จะใช้คำว่าจีบ แทนที่จะเป็นคำว่าแฟน ไม่งั้นถ้าเรื่องถึงหูยามาดะเมื่อไหร่ เขาคงโดนคนสวยวีนใส่แน่ๆ
“รับไว้เถอะนะคะ คือแค่รับไว้ฉันก็ดีใจแล้ว”
“เอ่อ คือว่า...” จะบอกยังไงถึงจะเข้าใจหละวะ ว่ากูไม่ชอบผู้หญิง!!!!
“นะคะ รับไว้เถอะ” ยูมิยัดจดหมายลงกระเป๋าเสื้ออีกฝ่าย แล้วรีบวิ่งออกไป ปล่อยให้ยูโตะยืนเหวออยู่คนเดียว
“อะไรวะเนี้ยผู้หญิงสมัยนี้”
“ยูโตะไปรึยัง? ง่วงนอน” เสียงหวานคนรักตัวจริงของเขาดังขึ้น จนเขาต้องรีบวิ่งเข้าไปหยิบกระเป๋าแล้วพาอีกคนไปที่ร้าน
“นี้ฮิคารุ”
“ครับผมไดจัง?” ฮิคารุหันมาทำหน้าแบ๊วใส่เพื่อน จนคนเป็นเพื่อนอยากจะตบให้ ถ้าแบ๊วได้ถึงครึ่งของเขาค่อยมาทำใส่แล้วกัน!
“อยากกอดนายจัง วันนี้ไปค้างด้วยได้มั๊ย?”
“ไม่ได้//ไม่ให้” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเสียงใครเป็นคนขัด
“จะไปอ่ะ เขาอยากนอนกอดฮิค”
“นายนอนกอดฮิคแล้วฉันจะกอดใคร!!!” สองเสียงยังคงประสานขึ้นพร้อมกัน
“นอนกอดกันเองไง! ไม่เอาอ่ะ ตั้งแต่ฮิคไปอยู่กับนายฉันไม่ได้กอดฮิคเลย คิดถึงฮิคจะแย่อยู่แล้ว” ไดกิกระโดดกอดฮิคารุหนึบไม่ยอมปล่อย แม้ว่ายาบุจะส่งสายตามหาโหดมาให้แค่ไหนก็ตาม
“ไดกิกลับบ้าน” อิโนะพยายามเอาตัวอีกคนกลับบ้านเหมือนกัน เพราะถ้าคืนนี้ไดกิไปนอนกับฮิคารุ แล้วเขาจะทำกับใคร?
“ไม่กลับ ไดกิจะไปค้างห้องฮิคารุ” ไดกิถูกหน้าตัวเองกับแขนฮิคารุอย่างอ้อนๆ
“อ่า ก็มาซิ” ฮิคารุหยิกแก้มคนที่ยิ้มร่า
“ใครเป็นเจ้าของห้อง ขออนุญาติเจ้าของห้องรึยัง?” ยาบุพูดเสียงเหี้ยมจนฮิคารุชักจะกลัว
“งั้นไปนอนห้องฉัน” ไดกิยังคงไม่ยอมแพ้
“ใครจ่ายค่าห้องไดกิ นายไม่ได้ออกซักเยน อย่าทำตัวเป็นเจ้าของห้อง”
“เคย์!!!!”
“เฮ้อ ให้ไดกิมาค้างเถอะนะฮะ ไม่งั้นคืนนี้มีคนงัดห้องคุณแน่” ฮิคารุหันมาขอยาบุ “ผมโดนมาแล้วนะคุณ ไม่ให้ไดกิเข้ามานอนด้วย โดนงัดซะประตูพัง”
“ประตูพัง ใช้อะไรงัดวะเตี้ย” ยาบุมองคนตัวเล็กอย่างอึ้งๆ
“ชะแลง! ก็ฮิคารุเล่นล็อคกลอนอ่ะ มันก็ต้องใช้ชะแลงงัดดิสูง”
“ไปหาชะแลงมาจากไหนอ่ะไดจัง” อิโนโอะถามออกมาด้วยความเสียวไส้ เกิดวันดีคืนดีไดกิโกรธเขาขึ้นมา เขาไม่โดนชะแลงฟาดตายหรอ?
“ไดกิซ่อนเอาไว้ใต้เตียงหน่ะอิโนะจัง ระวังนะ ไปทำอะไรให้ไดกิไม่ถูกใจ นายโดนฟาดแน่” ฮิคารุหันมาบอกอิโนโอะที่เริ่มหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ
“นะ ฮิคารุ อยากนอนกอดฮิคารุนะ”
“นะครับคุณยาบุ” ฮิคารุส่งสายตาอ้อนยาบุจนคนมองใจอ่อน ยอมให้อีกคนมาค้างได้
“แต่! ห้ามจูบฮิคารุเข้าใจมั๊ยไดกิ ไม่งั้นฉันไล่นายกลับบ้าน”
“ก็ได้ ไม่จูบหรอก งั้นวันนี้ให้ฮิคไปที่ร้านแทนนะ แลกกับที่เราไม่จูบฮิค”
“ไม่ได้!!” ยาบุพูดออกมาเสียงดุ
“เด็กที่ร้านบ่นคิดถึงฮิคารุกันทั้งนั้น ให้ฮิคไปเถอะนะ ไม่งั้นฉันจูบฮิคจริงด้วย” ไดกิไม่ขู่เปล่ากลับดึงหน้าฮิคารุเข้ามาใกล้หน้าตัวเอง จนยาบุกับอิโนะร้องเสียงหลง ของใครใครก็หวงแหละวะ!
“นับถึงสาม ไม่งั้นจูบ แล้วอย่าคิดว่าอยู่โรงเรียนฉันไม่กล้านะ”
“เอาจริงหรอไดจัง?” ฮิคารุถามออกมา เขารู้หรอกว่าคนตรงหน้าแหย่เล่น
“หนึ่ง สอง สาม เงียบหรอ? ได้” เมื่อไม่มีเสียงอนุญาติออกจากปากยาบุ ไดกิจูบลงที่ปากฮิคารุอย่างรวดเร็ว จนแม้แต่ฮิคารุเองยังตกใจ ถ้ามันเป็นจูบปากธรรมดามันจะไม่เป็นอะไรเลยนะ แต่นี้มัน....
“ไอ้เตี้ย!!!!!! กูให้ไปแล้วเว้ย เอาลิ้นออกมาจากปากฮิคเดี๋ยวนี้!!!”
จ๊วบบบบ จุ๊บ!
ไดกิถอนจูบออกมาเสียงดัง ก่อนจะจุ๊บลงบนปากคนที่ยืนหน้าเหวออยู่
“ไปที่ร้านกันเถอะฮิค”
“เฮ้ย! ฮิคารุมา” เสียงของพนักงานในร้านดังขึ้น ทำเอาเสียงพูดคุยหยุดลงแล้วหันมามองกลุ่มขึ้นที่เดินเข้ามาใหม่
“ว่าไงยะซุย ไม่เจอกันนานเลยนะ” ฮิคารุส่งยิ้มให้เจ้าของเสียงที่พูด
“ฮิคารุจริงๆด้วยดิ เฮ้ย เรียกคนอื่นมาเร็ว ฮิคารุกลับมาแล้ว”
“ให้เวลาถึงแค่สี่ทุ่มแล้วกลับ เข้าใจมั๊ยฮิค” ยาบุดึงอีกคนเข้ามาพูดด้วยก่อนจะปล่อยตัวให้เด็กในร้านลากไปนั่งคุย
“ไปตามคุมจะดีหรอวะ?” อิโนโอะเอ่ยถามเพื่อนสนิท ก็สายตาของคนในร้านมันน่าไว้ใจซะที่ไหน พวกลูกค้าเก่าทั้งนั้น
“ใครมันกล้าทำอะไร กูเป่าสมองมันแน่”
“เออๆ ว่าแต่เห็นไดกิมั๊ย?”
“อยู่กับพวกฮิครึเปล่า?” แล้วยาบุก็ตะโกนถามคนรักให้ แต่คำตอบที่ได้รับกลับไม่มีใครเห็นไดกิเลย
“หายไปไหนวะ?” อิโนโอะควักมือถือออกจากกระเป๋าแล้วรีบโทรหาคนตัวเล็กทันที ก่อนจะมุ่ยหน้าลงเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ไหน
“ทำไมวะ?”
“ไปหายูริจัง เห็นบอกว่ายูริโทรมาบอกว่ามีเรื่องกับไอ้ยูยะ เลยไปหาที่ร้าน ตอนนี้ไดกิกำลังพามาที่นี่”
“เออๆ” ยาบุตัดบทเพื่อนก่อนจะสั่งเครื่องดื่มมากินแก้เซ็ง ก็ไม่มีแฟนคนสวยให้กอด ไม่มีแฟนคนสวยมาอ้อน เขาก็เบื่ออ่ะดิ
ทั้งสองคนนั่งดื่มกันไปซักพัก คนตัวเล็กของอิโนโนะก็พารุ่นน้องหน้าหวานเขามาในร้าน เรียกให้สายตาแขกในร้านจ้องตาเป็นมัน นอกจากจะหน้าหวานแล้วนี้มันเด็กนักเรียนชัดๆ ชุดมัธยมปลายชัดๆ ถ้าเพียงแต่พวกเขาประมูลตัวเด็กคนนี้ไป คงจะมีความสุขไม่น้อย
“เอ่อ...รุ่นพี่ครับ แต่พวกเราอายุไม่ถึงนะครับ เขามาได้หรอครับ?” ยูริเอ่ยถามรุ่นพี่อย่างกล้าๆกลัวๆ
“ก็เข้ามาแล้วนี่ครับ อีกอย่างนี้ร้านของยาบุ ใครจะกล้ามาว่าหละ?”
“แล้วพวกตำรวจ เอ่อ....”
“นี้ ยูริจัง ตำรวจที่มีเงินหนุนจากครอบครัวยาบุเขาคงไม่โง่มาจับหรอกครับ ป่ะ เชื่อพี่ เดี๋ยวพี่พาไปหาพวกฮิคารุ ยามะจังก็น่าจะอยู่” ไดกิจูงมือรุ่นน้องไปที่เคาน์เตอร์ที่พวกฮิคารุกำลังยืนจับกลุ่มกันอยู่ แล้วถามหายามาดะ เผื่อคนน่ารักจะอุ่นใจขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอยู่ด้วย แต่คำตอบที่ได้รับกลับผิดคาด
“ยามะจังกับคุณยูโตะเข้าห้องไปตั้งแต่มาถึงแล้วฮะ” เสียงฮาชิโมโตะ เรียวสุเกะเอ่ยตอบรุ่นพี่ในที่ทำงาน
“หว่า แล้วงั้นยูริไปนั่งที่โต๊ะกับพวกพี่ก่อนแล้วกัน” ไดกิที่กลับหลังหันเตรียมพายูริไปนั่งที่โต๊ะมีอันต้องสะดุ้งวาบ เมื่อเจอคนรักตัวเองยืนจ้องหน้าอยู่ ก่อนจะลากไดกิออกไปจากหน้าเคาน์เตอร์หายไปทางหลังร้าน จนคนที่ยืนข้างๆอย่างยูริสะดุ้ง ก็รุ่นพี่เมื่อกี้ดูน่ากลัวมากเลยหน่ะซิ
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะยูริจัง เคย์ก็แค่ลากไดกิไปทำโทษเท่านั้นแหละ” ฮิคารุยิ้มปลอบใจอีกคน “มานั่งด้วยกันซิ เอ้า ไอ้สวยลุก”
“โหยพี่อ่ะ มีเด็กใหม่ไล่เด็กเก่า” ไทงะแกล้งทำหน้างอนๆใส่คนที่ตนรักเหมือนพี่ชายแท้ๆ ไม่แค่เขาหรอกนะ แต่ทุกคนที่นี่รักและเคารพฮิคารุกันหมด
“พี่ไม่ได้ไล่ ถ้าไล่หละก็ ไล่ออกไปนานแล้ว ไม่ปล่อยนายไว้ให้ไอ้ยะซุยมันจีบเอาหรอก” ฮิคารุพูดพลางแอบจิกอีกคน แล้วแนะนำให้ยูริรู้จักเด็กในร้าน “ไอ้สวยปากจัดนี่ชื่อไทงะ ส่วนไอ้หน้าเด็กที่เป็นบาร์เทนเดอร์ชื่อยะซุย ไอ้เด็กหน้าแก่ที่ตอบไดกิเมื่อกี้ชื่อฮาชิโมโตะ ที่ยืนปากห้อยนั่นทามาโมริ เถื่อนข้างๆมันชื่อฟูจิกายะ ส่วนคนที่ยืนหน้าแก่ที่สุดข้างๆพี่ เป็นผู้จัดการร้านคาเมะนาชิ คาซึยะ ส่วนคนอื่นๆเดินเสิร์ฟ แล้วก็ทำอย่างอื่นอยู่ เดี๋ยวนายก็รู้จักเองแหละ”
“อ่าครับ ผม จิเน็น ยูริ ยินดีที่ได้รู้จักนะฮะ เรียกชี่ก็ได้” ยูริยิ้มหวานตามสไตล์แล้วโค้งตัวลงแนะนำตัวเอง
“เฮ้ย ไม่ต้องขนาดนั้นหรอยูริจัง คนกันเอง เนอะๆ”
“เดี๋ยวพี่มานะยูริ ยาบุเรียกหน่ะ”
“อ๋อฮะรุ่นพี่ ผมคงไม่ทำให้พี่ยาบุหึงใช่มั๊ยเนี้ย” ฮิคารุยิ้มให้แทนคำตอบ แล้วรีบเดินไปหายาบุ ก็เขายังไม่ได้บอกคนที่ร้านเลยหน่ะซิ ว่าเขาคบอยู่กับยาบุ
ยูริยืนคุยเล่นกับพนักงานที่เหลือ บางคนก็แวะเข้ามาแนะนำตัวแล้วทักทายคนตัวเล็ก เพียงไม่นานไดกิก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับปากบวมแดง ที่ไม่ต้องบอกเด็กในร้านก็รู้ว่าโดนอะไรมา แต่ยกเว้นยูริจังนี้ซิ
“นี้ยูริไม่รู้หรอ?” ยูริได้แต่พยักหน้ารับ เขาไม่รู้นี้มันแปลกหรอ?
“เคย์จูบพี่มาหน่ะ แล้วพวกนายอย่าสอนอะไรไม่ดีๆให้ยูริจังนะ น้องยิ่งอินโนเซนต์อยู่ เดี๋ยวเป็นแบบพวกนายขึ้นมาแย่เลย”
“แย่ไรเล่าพี่ เรื่องพวกนี้มันก็ต้องรู้เอาไว้บ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวโดนทำอะไรขึ้นมาแย่เลย...”
“ฮัชชี่!!!” ไม่ทันที่ฮาชิโมโตะจะพูดต่อ ไดกิก็แทรกขึ้นมาทันควัน ก่อนทุกคนจะหันไปมองร่างเล็กที่ยืนหน้านิ่งหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ปากพาซวยยกร้านแล้วไงไอ้ฮัชชี่!!
“ยูริจังไปนั่งกับพี่กับยาบุดีกว่านะ” ไดกิชวนอีกคนไปนั่งที่โต๊ะวีไอพี เดี๋ยวหลังจากปลอบใจยูริเสร็จอีกรอบเขาจะกลับมาด่าฮาชิโมโตะซะหน่อย พูดอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ
“ยูริอย่าทำหน้าเศร้าซิ ไหนยิ้มให้พี่หน่อยนะ”
“ยูริเป็นอะไรครับ? ทำไมทำหน้าแบบจะร้องไห้ ใครทำอะไรยูริจังหรอ?” เสียงที่อ่อนโยนอย่างเป็นห่วงของทั้งไดกิและฮิคารุทำเอายูริต่อน้ำตาแตก
“พี่ฮิคารุ.....” พูดได้แค่นั้น ยูริก็โผเข้ากอดตัวฮิคารุเอาไว้แล้วร้องไห้ออกมา จนฮิคารุต้องหันไปถามเพื่อนแทนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“นู้น ไอ้ยูยะมันบุกไปที่ร้านของยูริ แล้วปล้ำจูบยูริ แล้วก่อนจะออกจากร้านไป มันหันมาขู่ยูริว่าครั้งหน้าจะโดนมากกว่านี้” ไดกิรู้สึกสงสารรุ่นน้องตัวเองจับใจ ก็รุ่นน้องเขาออกจะใสซื่ออินโนเซนต์ขนาดนี้ ไอ้ยูยะมันกล้าทำได้ไงวะ!!!!
“ยูยะ? ทาคาคิ ยูยะ อ่านะ?” ยาบุถามซ้ำออกมาอีกรอบ
“เออ แฟนเก่ายูริอ่ะ เพิ่งเลิกกันตอนไปออนเซ็น สาเหตุก็เพราะที่จะไปกดฮิคนั้นแหละ”
“ห๊ะ!!!!!! ใครกดอะไรฮิค” ยาบุคิ้วขมวดเข้าหากัน มันยังมีคนที่กดแฟนเขาเหลืออีกหรอวะ!!
“นี้ ยูริจัง พี่มีแผนแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า ยูริจังอยากจะสั่งสอนทาคาคิ ยูยะรึเปล่า” อิโนโอะพูดขึ้นก่อนที่เพื่อนตัวเองจะโวยวายไปมากกว่านี้แล้วบุกบ้านทาคาคิเอาปืนเป่าหัวมันตายซะก่อน
“อยากฮะ ผมอยากทำให้ไอ้บ้ารู้สึก ว่าผมไม่ใช่ของๆมันที่มันจะมาทำอย่างนี้กับผมได้” ยูริพูดเสียงอู้อี้เมื่อหน้ายังซุกอยู่กับเสื้อฮิคารุ
“นายมีแผนอะไรเคย์?” ไดกิถามออกมาอย่างสงสัย ก็แผนของอิโนโอะมีแต่เรื่องบ้าสุดโต้งทั้งนั้น แต่ถ้ามันสำเร็จมันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
“นายไว้ใจให้ฉันดูแลจิเน็นป่ะหละไดกิ?”
“บอกมาก่อนว่าแผนอะไร”
“ก็แค่ให้น้องดื่มวอดก้าซักสองช็อท แล้วหาหน้าม้ามาอีกซักคน จัดสเตจอีกซักหน่อย แล้วโทรเรียกทาคาคิมาที่ร้าน” อิโนโอะพูดออกมาง่ายๆ
“จะให้ยูริเป็นสตริปเปอร์?”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ” ไดกิมองหน้าอิโนโอะอีกครั้งอย่างพิจารณา แล้วมองคนตัวเล็กที่ฮิคารุกำลังกอดปลอบให้เลิกร้องไห้อยู่
“ฉันจะเชื่อใจนายได้มั๊ยเนี้ย?”
“เชื่อฉันซิไดกิ ได้เห็น แต่จับต้องไม่ได้ หรือเอามาเป็นของเราไม่ได้ มันทรมาณสุดๆไปเลย” ไดกิเหล่มองยาบุที่นั่งนิ่งอยู่ตั้งแต่อิโนะอธิบายแผน เมื่อเห็นอีกคนพยักหน้าอนุญาติ ไดกิก็ถอนหายใจเฮือก งานนี้ยาบุมันเอาด้วย เห็นทีเหล้าคงไม่ใช่แค่วอดก้า คงเป็นจินผสมกับวอดก้าซักสี่ถึงห้าช็อทแน่ๆ
“อย่ามอมจนน้องเขาไม่รู้เรื่องก็พอ เราไม่รู้ว่าน้องเขาเมาแล้วเป็นยังไง”
“เออหน่า ไม่ถึงกับเมาไม่รู้เรื่องหรอก”
“ฝากด้านนี้ด้วยแล้วกันอิโนะ เดี๋ยวฉันพายูริไปเปลี่ยนชุดหลังร้านเอง นายก็หาหน้าม้าไปแล้วกัน” ยาบุพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วสะกิดให้ฮิคารุพายูริเดินตามตนไปหลังร้าน
“พนันเลยว่าทาคาคิคลั่งตายแน่ ถ้าเห็นยูริเป็นอย่างนั้น อย่าลืมเรียกยามาดะกับยูโตะออกมาดูด้วยแล้วกัน”
“นี้เคย์ แล้วเอาใครเป็นหน้าม้า?”
อิโนโอะยิ้มให้ก่อนจะชี้ไปตรงเคาน์เตอร์ “เฮ้ย เคนโตะ!”
“ครับ?” เจ้าของชื่อรีบวิ่งมาหาเพื่อนสนิทเจ้าของร้าน
“สนใจขึ้นสเตจกับยูริป่ะ?”
“ขึ้นสเตจ?”
“เออ จะล้างแค้นคนนิดหน่อย ไปเปลี่ยนชุดหลังร้านเลยไป แล้วเออ ก่อนไป เอาวอดก้ามาห้าช็อทด้วย” เคย์ยิ้มออกมา สนุกแน่งานนี้
*****************************
งุงิ ตีหนึ่งสิบแปดนาที - -" เริ่มกลับมาอัพฟิคดึกๆอีกแล้ว
วันนี้เห็น!!!!! เห็นคนในกรุ๊ปเฮย์เซย์เวิร์ลในเฟซอ่านฟิคของพลอย
เอ่อ......ตอนที่แชทส่งลิ๊งยามะชี่อยู่ พลอยเห็นพอดี ตกใจเลย แหะๆ ขอบคุณที่อ่านนะคะ แอบเขินอ่ะ >< แต่ก็ดีใจมากๆเลย
แม้ว่าฟิคเรื่องนั้นจะไม่ได้เอาความจริงมาทั้งหมดก็ตาม ชนวนฟิคเรื่องนั้นจากเเค่ว่าชี่เจ็บเอว เท่านั้นแหละ ฮ่าๆๆๆ
ถ้าใครรู้ว่าสตริปเปอร์คืออะไร ตอนหน้าก็เป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถ้าไม่รู้ก็...รออ่านเอาแล้วกัน ฮ่าๆๆๆ เพื่ออะไรวะ?
ตอนนี้สอบเสร็จว่างยาวอีกสองอาทิตย์ คงจะพยายามแต่งลงให้เรื่อยๆให้ต่อเนื่องนะคะ จะพยายามๆๆๆๆๆ ไม่อยากดองฟิค แม้ว่าฟิคเราคนจะไม่ได้ตามเยอะอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่อยากดองฟิค ประเด็นไม่ใช่อะไรหรอก กลัวลืมว่าเนื้อเรื่องเก่าเป็นไงแล้วต้องมาย้อนอ่านใหม่ ฮ่าๆๆๆ เกรียนจริง
ความคิดเห็น