คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : #12
#12
“เรียวจัง!!!! เรียวจังหยุดฟังพี่ก่อนซิ” ไดกิคว้าหมับเข้าที่แขนอีกคนที่กำลังเดินหนีเขา
“นี้ใช่มั้ยที่ทำพี่เครียด นี้ใช่มั้ย เพราะพี่ต้องย้ายบ้านใช่มั้ย!!!!!!!!” เสียงของเรียวสุเกะแผดดังลั่นไปทั่วบ้านจนคนที่เหลือวิ่งมาดูเหตุการณ์
“ใช่ แต่พี่ยังไม่ได้ตกลงกับแม่นะ”
“ปล่อยผม”
“เรียวสุเกะ...”
“ผมอยากอยู่คนเดียว อย่างน้อยก็ในตอนนี้” เรียวสุเกะมองหน้าไดจังนิ่งๆ
“แต่พี่อยากคุยกับเรียวสุเกะก่อน”
“พี่จะปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว...หรือจะให้ผมกลับโตเกียววันนี้?” ได้ยินอย่างนั้นมือที่จับแขนไว้อยู่ก็รีบปล่อยทันควัน เรียวสุเกะเดินหนีอีกฝ่ายกลับขึ้นห้องไปทันที ไดกิก็ได้แต่หันมามองหน้าเพื่อนๆน้องๆแล้วก็ถอนหายใจเฮือก ทุกคนต่างทำหน้าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จะมีก็แต่เคย์กับยูโตะที่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ปล่อยยามะจังไปก่อนเหอะหน่า เดี๋ยวยามะจังอารมณ์ดีขึ้นแล้วนายค่อยไปคุย ส่วนเรื่องแม่นาย...เราขอที่อยู่ร้านนายหน่อยซิ”
ไดกิเดินไปจดที่อยู่ของร้านส่งให้อิโนโอะ ทั้งสองคนยืนกระซิบกระซาบกันซักพัก อิโนโอะก็รีบดึงตัวไดกิมาปลอบก่อนที่ไดกิจะร้องไห้อีกครั้ง
ใครว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น...
ผู้ชายก็เป็นคนคนหนึ่งเหมือนกัน
“งั้นเดี๋ยวเรากลับมานะ พวกนายฝากดูไดกิกับยามะจังด้วย อย่าให้ตีกันบ้านแตกหละ”
“เคย์ ผมไปด้วยนะ”
ยูโตะเสนอตัวขึ้นมา ในใจคิดว่ายังไงเคย์ก็ปฏิเสธแน่ๆ แต่ผิดคาดเคย์กลับพยักหน้าอนุญาตซะดื้อๆ ยูโตะเดินตามเคย์ต้อยๆ ไม่กล้าที่จะไปเดินเคียงข้าง เพราะถึงแม้อีกฝ่ายจะพยักหน้าในมาด้วยกัน แต่สีหน้าของอีกคนกลับเครียดซะจนเข้าเองก็แอบกลัว หวังว่าคนข้างหน้าเขาคงไม่วีนแตกโมโหอาละวาดหรืออะไรหรอกนะ
“แต่แม่อยากให้ไดกิมาอยู่ด้วยกัน แม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับไดกิแล้ว”
“คุณแม่คิด แล้วคุณแม่ได้ถามไดกิรึยังครับ?” อิโนโอะยกชาที่คุณแม่ของไดกิยกมาเสิร์ฟขึ้นดื่ม
“อิโนะจัง ถึงแม่จะรู้จักเรามานาน แม่จะไว้ใจให้เราดูแลไดจัง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมาทำตัวแบบนี้กับแม่ได้นะ”
“ผมทำอะไรครับ? ผมพูดจริงๆครับคุณแม่ คุณแม่ลองถามไดจังรึยัง ว่าไดจังอยากจะย้ายบ้านมารึเปล่า”
“แต่ที่แม่คุยเมื่อวานไดจังเขาก็โอเคนะ”
“โอเคของไดจัง แต่แม่รู้มั้ยครับว่าไดจังเครียดจนนอนไม่หลับ กินข้าวไม่ลง แถมยังร้องไห้กับผม” ยูโตะได้แต่นั่งมองอิโนโอะด้วยความรู้สึกทึ่ง ในอีกแง่มุมหนึ่งของคนที่เขาชอบ ความสุขุมน่าเกรงขามดูเป็นผู้ใหญ่ วางตัวได้นิ่งสนิท
“ไดจังร้องไห้เลยหรอลูก?”
“ครับ แม่ก็รู้นี้ครับว่าตอนนี้ไดจังกับยามะจังเขาคบกันแล้ว แม่จะแยกพวกเขาสองคนจริงหรอ?”
“แล้วอิโนะจังจะให้แม่ทำยังไงทิ้งไดจังอยู่บ้านคนเดียวอย่างนั้นหรอ?”
“เฮ้อ ไดจังเขาก็ไม่ได้อยากแยกกันอยู่กับครอบครัวนะครับ เขาก็ยังอยากอยู่กับแม่อยากอยู่กับพ่อ แต่เขาก็ไม่ต้องการจะแยกจากแฟนเขาเหมือนกัน”
“แล้วร้านที่นี่หละ?”
“ก็มาดูบ้างเป็นครั้งคราวก็ได้หนิฮะ ไม่เห็นจำเป็นต้องมาตลอด เพราะถึงคุณแม่มาดูร้านสาขาที่นี่ แล้วร้านที่โตเกียวหละฮะ? ตอนนี้คุณแม่ก็เหมือนปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ คุณแม่ไม่ไว้ใจคนที่คุณแม่จ้างมาทำงานหรอครับ? แต่ผมว่าถ้าคุณแม่ไม่ไว้ใจคุณแม่ก็คงไม่จ้างมาไว้หรอกนะครับ” อิโนโอะพูดเสียงดังและชัดเจนจนพนักงานในร้านต่างหยุดแล้วให้มามองว่าคุณนายเจ้าของร้านจะว่าอย่างไร
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แม่จะทำตามที่อิโนะจังบอกก็ได้” อิโนโอะลอบยิ้มออกมาที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ สุดท้ายคุณแม่ของไดกิก็ตัดสินใจไม่ย้าย สุดท้ายเพื่อนของเขาก็ยังอยู่ที่โตเกียว
“แล้วบ้านที่นี่ที่แม่เพิ่งซื้อหละ?” อิโนโอะหยุดกึก เขาลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย แม่ของไดจังเพิ่งซื้อบ้านใหญ่อลังการไป
“คุณป้าสนใจเปิดบ้านพักมั้ยครับ? บ้านหลังนั้นเปิดเป็นเรียวกังขนาดเล็กได้สบายๆเลยนะฮะ” ยูโตะที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นพูดขึ้นแทน
“แต่ถ้าเปิดเรียวกังก็ต้องมีคนดูแลตลอดเวลา...”
“ร่วมหุ้นกับบริษัทผมมั้ยครับ? ผมขอแค่ 25% จากกำไรทั้งหมดรวมสี่ไตรมาสและหักค่าภาษีไปแล้ว เรื่องคนดูแลทั้งหมด ผมจะส่งคนที่บริษัทมาจัดการให้ทุกอย่าง คุณป้าก็รอรับกำไรจากเรียวกังนั่นฟรีๆ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น ที่สำคัญชื่อที่ดินและสิ่งก่อสร้างทุกอย่างยังเป็นของคุณป้า”
“อิโนะจัง แล้วนี้ ใครกัน?” อิโนโอะที่มัวแต่ทึ่งกับยูโตะถึงกับสะดุ้ง รีบแนะนำตัวอีกคนแทบไม่ทัน
“นาคาจิม่า ยูโตะ ครับ น้องเขาเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนเทอมนี้ อยู่ห้องเดียวกับยามะจัง ยูริจัง แล้วก็เคย์โตะคุง”
“นาคาจิม่า ยูโตะ ครับ ถ้าคุณป้าสนใจ ติดต่อได้ตามนามบัตรผมเลยนะครับ ผมจะให้ทนายมาช่วยจัดการเรื่องสัญญาให้” ยูโตะหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเปิดส่งนามบัตรให้อาริโอกะซัง ส่งเคย์ได้แต่นั่งช็อคไปแล้ว ไหนมันบอกว่าเปิดบริษัทเล็กๆไงวะ ถึงขั้นต้องมีทนายมาทำสัญญา แล้วเท่าที่เขาฟัง บริษัทมันเหมือนเป็นบริษัทระดับชาติยังไงก็ไม่รู้
“นาคาจิม่าคอร์ปอเรชั่น จำกัด...”
“ยินดีรับใช้ครับ มีเรื่องอะไรก็โทรติดต่อได้ตลอดเวลา”
“สองคนนั้นหละยาบุจัง?”
“ยามะจังยังอยู่ในห้องส่วนไดจังนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องนั่นแหละ ยังไม่ยอมมากินข้าวเที่ยงกันเลย แล้วเรื่องที่ไปคุยมาเป็นไงบ้าง” ยาบุยื่นจานขนมให้เพื่อน
“เรียบร้อยแล้วหละ แต่เสือกมีเรื่องบางเรื่องโผล่ขึ้นมาให้กูช็อคเล่น”
“ทำไมวะ?”
“นาคาจิม่าคอร์ปอเรชั่น...นาคาจิม่า ยูโตะ ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการโรงแรมรายใหญ่ของประเทศ”
“นาคาจิม่าคอร์...ที่นายเคยบอกว่าอยากไปทำงานให้กับบริษัทนี้อ่านะ” ฮิคารุพูดออกมาอย่างตกใจ
“เออ ล่อซะกูไปต่อไม่ถูก”
“แล้วยูโตะมันไปไหนหละเนี้ย?”
“ไม่รู้วะ กูหนีกลับมาก่อน...มันช็อคอ่ะ บริษัทที่กูอยากเข้าไปทำงาน ดันเป็นบริษัทของบ้านยูโตะเนี้ย เฮ้อ เดี๋ยวกูไปหาไดจังก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวค่อยมาคุยกันต่อ ไม่รู้ว่าป่านนี้ยามะจังยอมคุยด้วยรึยัง”
“เรียวสุเกะ คุยกับพี่ก่อนได้มั้ย?”
“...”
“เรียวจัง พี่ไม่ได้จะย้ายนะ พี่อยากอยู่กับเรียวจังนะ”
“พี่จะให้พ่อแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่กันสองคนแล้วพี่อยู่ที่โตเกียวงั้นหรอ?”
ได้ยินอย่างนั้นไดกิก็ได้แต่นิ่งเงียบ ทรุดตัวนั่งลงพิงบานประตู ไม่รับรู้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เขาได้แต่หวังว่าอิโนโอะจะไปคุยกับแม่เขาสำเร็จเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาไม่อยากแยกจากพ่อแม่ แต่เขาก็ไม่อยากแยกจากยามาดะเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าให้เลือก เขาก็ต้องเลือกพ่อแม่อยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้เขากลับรักยามาดะ รักมากขึ้นทุกวัน รักจนไม่อยากจะอยู่แยกจากกัน...
“นั่งหน้าซึมกระทืออยู่นั้นแหละ ไม่หิวข้าวหรอวะ นี้มันเลยเที่ยงมาแล้วนะเว้ย”
“อิโนะจัง!!!!”
“เลิกเครียดได้แล้ว ทั้งคู่เลย ยามะจังฟังพี่อยู่ใช่มั้ย” แม้จะไม่มีเสียงตอบรับออกมาแต่อิโนโอะก็มั่นใจว่าอีกคนได้ยินเขาอยู่แน่ๆ
“เรื่องที่ไดกิต้องย้ายบ้านหนะ ไปเคลียให้แล้วนะ สรุปว่านายอยู่โตเกียวต่อไปได้”
“แล้วพ่อแม่เราหละ?”
“ไม่ย้ายเหมือนกัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ฉันว่านายต้องคุยกับพ่อแม่นายเองนะ เอาแค่ว่าตอนนี้ ไม่มีใครต้องย้าย และทุกคนยังคงอยู่ด้วยกัน”
แกร๊ก!
“จริงหรอฮะพี่เคย์?” ในที่สุดคนหน้าหวานก็ยอมเปิดประตูออกมาจากห้อง
“จริงซิ พี่เพิ่งไปคุยมาเมื่อกี้นี้เลย ดีใจด้วยนะทั้งคู่ เดี๋ยวพี่ขอไปนอนพักก่อนนะ ง่วง” ไดกิรอจนอิโนโอะเดินเข้าไปในห้อง แล้วรีบกระโดดกอดยามาดะ
“ทีนี่ก็คุยกับพี่ได้แล้วใช่มั้ย?”
“ดีใจจังเลย”
“ถามจริง ถ้าเกิดพี่ต้องย้ายจริงๆเรียวสุเกะจะทำไง?”
“ก็คงได้แต่นั่งเศร้าหนะแหละ ทำอะไรไม่ได้หรอก ยังไงครอบครัวก็สำคัญกว่า”
“ไม่คิดบ้างหรอว่าพี่จะอยู่กับยามะจังแล้วให้พ่อแม่มาอยู่ที่นี่กันสองคน”
“ถ้าไดจังทำงั้นนะ ผมเนี้ยแหละ จะถีบส่งไดจังมาเองเลย”
ยูโตะเดินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นแต่เพื่อนของเขากับริวทาโร่กำลังเตะบอลเล่นกันอยู่ตรงสวน พวกรุ่นพี่เองก็เอาแต่นั่งคุย แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเขาก็หาคนที่เขาต้องการจะคุยด้วยไม่เจอเลยซักนิด ไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ
“ไอ้หนู ถ้ามองหาคุณชายเคย์ มันอยู่ในห้องมันแหนะ”
“อ่า ขอบคุณครับ” ยูโตะกำลังจะเดินกลับเข้ามาในตัวบ้าน ก็โดนเสียงเรียกของยาบุฉุดเอาไว้ซะก่อน
“นาย...เป็นทายาทบริษัทนาคาจิม่าคอร์ปอเรชั่นงั้นหรอ?”
“ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่าฮะ?”
“รู้มั้ยว่าเคย์มันอยากเข้าไปเป็นสถาปนิกให้บริษัทนาย?”
“จริงหรอครับ?”
“จริงซิ มันบอกพวกพี่มาตลอดว่าซักวันมันจะเรียนสถาปัตย์แล้วเข้าไปทำงานออกแบบอาคารให้บริษัทนาย”
“ทำไมพี่เคย์ถึงอยากหละครับ?” ยูโตะนั่งลงข้างๆรุ่นพี่
“เพราะบริษัทนายขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบสิ่งก่อสร้างและออกแบบภายใน มีแต่คนเก่งๆเข้าไปทำงานที่นั่น โรงแรมหรืออาคารต่างๆของบ้านนายถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีการออกแบบอย่างสมบูรณ์แบบหาที่ติไม่ได้...เหตุผลแค่นี้ พอมั้ยหละ ยูโตะ”
“เคย์...” ยูโตะหันมามองคนที่มาใหม่
“แต่คิดว่าตอนนี้ต่อให้พี่เรียนจบสถาปัตย์จริงๆก็คงไม่เข้าแล้วหละ”
“ทำไมหละครับ บริษัทผมไม่ดีรึไง?”
“บริษัทนายดี แต่พี่ไม่อยากทำงานกับนาย” พูดจบก็เดินออกจากตัวบ้านไปเตะบอลกับพวกรุ่นน้อง ยูโตะได้แต่นั่งหน้าตึง
“โดนปฏิเสธจังๆเลยแหะ” ยูยะได้แต่ตบไหล่รุ่นน้องแล้วพูดให้กำลังใจ
“จะบอกให้ว่า อิโนโอะเป็นพวกที่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ชู้สาวกันในที่ทำงาน เพราะงั้นพี่หวังว่ายูโตะคงคิดอะไรได้นะ”
ความคิดเห็น