คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Nobody knows
Nobody knows :: BuHik
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ โคตะคุงใช่มั้ย?”
“ครับคุณน้า ขอบคุณนะครับที่รับผมเข้ามาอยู่ด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มานี่ซิฮิคกะจัง นี้โคตะคุง เขาจะมาอยู่กับเราด้วย” ฮิคารุเงยหน้าขึ้นมาจากกองหนังสือแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว
ถ้าเป็นเด็กตัวเล็กๆเขาจะไม่แปลกใจเลย แต่นี้...ดูแก่กว่าเขาด้วยซ้ำ จะมาหาบ้านอุปถัมภ์ตอนนี้มันไม่ช้าเกินไปเป็นสิบปีรึยังไง? แล้วถ้าอย่างนั้นเขาเป็นใครกันหละ?
“คุยทำความรู้จักกันไปก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่ไปทำอาหารเย็นต่อก่อน” พอแม่เดินออกไปแล้วคนที่ยืนงงก็ถอนหายใจเฮือก ทำอะไรไม่ถามลูกซักคำ
“นายชื่อไรอ่ะ เรายาบุ โคตะ”
“สกปรก อย่าเอามือมาแตะตัวฉัน”
“ไหนคุณน้าบอกว่าลูกชายตัวเองดีนักหนา สงสัยคุณน้าจะโดนหลอก”
“ว่าแต่นายเป็นใคร มาจากไหน ทำไมจู่ๆถึงต้องมาอยู่ที่บ้านฉัน”
“อายุเราเกินที่จะสถานพินิจตั้งนานแล้ว แต่เราไม่มีที่ไปเลยอยู่ต่ออีกหลายปี คุณน้าเลยชวนมาอยู่ด้วยกัน”
“แม่นะแม่ ดันชวนพวกเด็กเหลือขอมาซะได้ นายอย่ามายุ่งกับฉันแล้วกัน ต่างคนต่างอยู่ โอเคป่ะ?”
“ฮิคกะจัง โคตะคุงมากินข้าวได้แล้วลูก เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน”
“ครับคุณแม่” ฮิคารุปั้นหน้ายิ้มแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวโดยมียาบุเดินตามมาข้างหลัง
“เป็นไง ลูกชายน้า น่ารักมั้ย? หมอนี่หนะเห็นแบบนี้แต่ก็เรียนเป็นที่หนึ่งมาตลอดเลยนะ ถ้าจบปีนี้แล้วยังได้ที่หนึ่งอยู่ คงไม่พ้นเกียรตินิยมแน่ๆ” ได้ทีคุณนายยาโอโตเมะก็คุยโวลูกตัวเองไม่หยุด จนฮิคารุต้องบอกให้แม่ตัวเองกินข้าวต่อ ก่อนที่อาหารจะเย็นชืด
“จริงซิครับแม่ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วผมไปบ้านยูยะนะ มันให้ไปติวให้หนะ”
“ได้ซิจ้ะ งั้นพาโคตะคุงไปด้วยนะลูก จะได้พาไปรู้จักเพื่อนๆ ไหนๆก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
“แต่แม่ผมไปติว...”
“ถ้าไม่ให้โคตะคุงไปด้วย ฮิคกะจังก็ให้ยูยะคุงมาติวที่บ้านแล้วกัน”
“โถ่ แม่อ่ะ ก็ได้ฮะ ให้ยาบุไปด้วยก็ได้”
“อ๊ะๆ ไม่เอาลูก ครอบครัวเดียวกันแล้ว ต้องเรียกชื่อซิจ้ะ”
“ครับ งั้นโคจังไปกับเรานะ” ยาบุแทบจะสำลักข้าว เมื่อกี้ลูกชายเจ้าของบ้านเรียกเขาว่าอะไรนะ
“โคจัง รีบกินนะ เดี๋ยวยูยะมันรอ”
“ครับ ฮิคกะจัง” ฮิคารุแอบถลึงตาให้ยาบุ เขาแค่พูดประชดแม่เฉยๆ แต่อิบ้านี้ดันกวนประสาทเขาซะแล้ว
“เฮ้ย ช้าจังวะ แล้วนั้น?”
“ยาบุ โคตะ แม่เราชวนมาอยู่ที่บ้านอ่ะ แล้วพวกคนอื่นหละ? ขอบใจ” ฮิคารุรับบุหรี่กับไฟแช็คมาจุดสูบทันทีที่เข้ามาในบ้านของยูยะ ควันสีขาวบางถูกพ่นออกมา
“ในบ้าน ที่รักมึงก็ด้วย ไม่รู้ป่านนี้เมาเละยัง แล้วอย่างนี้เขามาด้วย ไม่เอาไปบอกแม่แกหมดหรอวะ?”
“เคย์ไม่ใช่ที่รักกู ก็แค่สนุกกันเฉยๆ ส่วนไอ้หมอนี่อ่ะหรอ?” ฮิคารุหันหลังกลับไปมองอีกคน แล้วก็เหยียดยิ้มออกมา จูบเบาๆทับริมฝีปากของยาบุ “อย่าบอกแม่นะ...ที่รัก ไปสนุกกันเถอะ” พูดเสียงติดอ้อนหน่อยๆตามสไตล์ แค่นี้ไม่ว่าใครก็เชื่อฟังเขาง่ายๆ
ฮิคารุเดินนำทั้งสองคนเข้ามาในห้องที่ถูกบุอย่างดี กันเสียงลอดออกไปภายนอก ทั้งห้องหันมาทักทายคนที่เขามาใหม่ บางคนก็เดินมาทำความรู้จักกับอีกคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ภายในห้องนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นผับย่อมๆสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยที่ไว้คลายเครียดจากการเรียน เหล้าบุหรี่ถูกเตรียมไว้ไม่อั้นโดยเจ้าบ้าน ยาบุได้แต่มองไปรอบๆห้องอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก แล้วก็ต้องขมวดคิ้วแน่นเป็นปมเมื่อหันไปเจอคนที่พาเขามากำลังนั่งซ้อนตักอีกคน ปล่อยให้อีกฝ่ายคลอเคลียไม่หยุดราวกับมันเป็นเรื่องปกติ บุหรี่ในมือถูกสูบจนหมดมวน พอบุหรี่หมดก็มีผู้ชายอีกคนเดินถือแก้วเหล้ามาให้ ฮิคารุรับมาดื่มอย่างอารมณ์ดี เมื่อความอดทนถึงที่สิ้นสุดก็เดินเข้ามาหาร่างบางที่กำลังโดนอีกคนปลดกระดุมเสื้อ
“เคย์~ วันนี้ค้างไม่ได้นะ ต้องกลับบ้านแหละ”
“ทำไมหละ ไม่อยากสนุกกันหรอ?”
“ก็วันนี้...ญาติมาด้วยหนะ อ๊ะ อย่ากัดซิ” ฮิคารุจับใบหน้าอิโนโอะให้เชิดขึ้นมา ก่อนจะประกบจูบอย่างร้อนแรงไม่แคร์สายตาคนรอบข้างแม้ซักนิด
“เฮ้นาย...ไม่ต้องไปห้ามฮิคารุมันหรอก เรื่องปกติของมันนั่นแหละ” ยูยะเดินเข้ามาห้ามยาบุที่สีหน้าดูท่าจะหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “แล้วเรื่องนี้ อย่าเอาไปบอกแม่มันเลย ถึงฮิคารุจะติดเที่ยว ติดเหล้า ติดบุหรี่ แต่การเรียนมันก็ที่หนึ่งตลอด เรียนหนักขนาดนั้นมันก็ต้องการจะผ่อนคลายบ้าง แล้วที่สำคัญแม่ของฮิคารุเป็นโรคหัวใจ ลองนายบอกดูซิ แม่หมอนั่นได้เข้าโรงบาลแน่ๆ”
“แล้วเมื่อไหร่ฮิคารุจะกลับ?”
“รอจนมันนัวเนียกับเคย์จนพอใจก่อนนั้นแหละ”
“แฟนเขาหรอ?”
“ป่าว คู่ขามัน แต่จริงๆมันก็เพื่อนในมหาลัยเดียวกันแหละนะ ฮิคมันเรียนสังคมศาสตร์ส่วนอิโนะเรียนสถาปัตย์ ส่วนฉันทาคาคิ ยูยะ เจ้าของบ้าน เรียนอยู่เอกเดียวกับฮิคารุ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ยินดีที่ได้รู้จัก เรา ยาบุ โคตะ เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านฮิคารุ”
“บุหรี่มั้ย?” ยูยะยื่นซองบุหรี่ให้พร้อมไฟแช็คแต่ยาบุกลับส่ายหน้าปฏิเสธ ยูยะไหวไหล่แล้วหยิบขึ้นมาสูบเอง
“ฉันรอที่ไหนได้บ้างมั้ย มึนหัวหนะ พอดีเราไม่สูบบุหรี่”
“ห้องนั่งเล่นข้างนอกได้เลย ทำตัวตามสบายนะ เพื่อนไอ้ฮิคก็เพื่อนเราเหมือนกัน”
“ขอบใจยูยะ”
ยาบุมองไปที่ฮิคารุอีกรอบแล้วก็ต้องเบือนหน้าหนี ทำไมไม่ขึ้นห้องไปเลยวะ!? สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินออกไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น เปิดทีวีนั่งดูคนเดียว ในขณะที่คนอื่นๆกำลังสังสรรค์กันอยู่ในห้องเก็บเสียงนั่น เขากลับเดินออกมาหาที่สงบ การที่เขาอยู่ในสถานพินิจมาตั้งแต่อายุสิบห้าก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องมีนิสัยติดเหล้าสูบบุหรี่นินา
เวลาผ่านไปซักพักยาบุก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก และคนที่เขารอก็ออกมาซักที ฮิคารุเดินตาเยิ้มมาหาเขาก่อนจะทรุดนั่งลงข้างๆ หัวพิงมาที่ไหล่ แขนขาก็พาดกอดอีกคนราวกับเป็นหมอนข้าง
“เหม็นบุหรี่เชียว กลิ่นเหล้างี้ก็หึ่ง”
“หน่า นานๆที อยู่บ้านก็อ่านหนังสือตลอด ขอออกมาเที่ยวหาความสุขบ้างไม่ได้ไง?”
“แล้วจะเข้าบ้านยังไงเนี้ย กลิ่นซะขนาดนี้”
“โคจัง อาบน้ำให้หน่อยซิ”
“หือ!?”
“อาบน้ำให้หน่อย นะ...ที่รัก” น้ำเสียงที่ใช้เวลาอ้อนคนอื่นถูกงัดออกมาใช้อีกครั้ง
“เฮ้อ ก็ได้”
ยาบุยอมทำตามที่ฮิคารุขอ แล้วก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ ร่างกายของคนตรงหน้ายั่วยวนเขาเป็นอย่างมาก กว่าจะคุมสติให้อาบน้ำจนเสร็จได้ก็เกือบจะแย่ เกือบจะเผลอตัวทำอะไรไปหลายต่อหลายครั้ง พออาบน้ำใส่เสื้อผ้าเสร็จ ก็รีบพาอีกคนกลับบ้าน เนื่องจากดึกมากแล้ว
“ฮิคกะจัง กลับมาแล้วหรอลูก แม่เป็นห่วงแทบแย่แหนะ” คุณนายยาโอโตะเมะรีบเดินเข้ามาหาลูกชายตัวเอง
“ขอโทษครับแม่ พอดีแบตหมด แล้วแม่ไม่โทรหาโคจังหละฮะ?”
“จริงซิ แม่ลืมนึกไปเอาเถอะ แต่ทั้งสองคนกลับมาปลอดภัยก็โอเคแล้ว รีบขึ้นไปนอนกันเถอะจ้ะ”
“แล้วผมนอนที่ห้องไหนหรอครับ?”
“จริงซิ น้ายังไม่ได้บอกเลยหนิเนอะ นอนห้องเดียวกับฮิคกะจังนะจ้ะ น้าเอาของไปไว้ให้แล้ว จริงๆเมื่อก่อนก็มีห้องนอนเหลือตั้งสองห้องแหนะ แต่ไปๆมาๆคิดว่าคงไม่มีใครอยู่เพิ่ม เลยตัดสินใจทุบห้องรวมกันให้เหลือแต่สองห้องแทน”
“แม่ แต่ผมอยากนอนคนเดียว ให้อิตานี่นอนที่ห้องนั่งเล่นไม่ได้รึไง? มันกวนสมาธิเวลาผมอ่านหนังสือนะ”
“ฉันจะนอนกับนาย...หรือว่าฉันจะบอกแม่นายดีนะ...” ยาบุก้มลงกระซิบที่หูอีกคน
“โคจังนอนกับเรานะ ไปกันเถอะ ง่วงแล้ว” ฮิคารุยิ้มให้แม่บอกราตรีสวัสดิ์ก่อนจะลากอีกคนขึ้นห้องนอนอย่างเร็ว
“นายจะทำบ้าอะไร! อย่าให้แม่ฉันช็อครึไงฮะ”
“แหม๋ ก็ลูกชายแสนดี ความจริงแล้วดันติดปาร์ตี้ ติดเหล้า ติดบุหรี่ แถมที่สำคัญ...ยังติดผู้ชาย ปล่อยให้ผู้ชายนัวเนีย ปรนเปรอไม่หยุดหย่อน” คนฟังถึงกับหน้าตึง
“นายต้องการอะไรจากฉัน?”
“ปรนเปรอฉันบ้างเป็นไง?”
“ฝันไปเถอะ”
“งั้นโอเค...คุณน้าคร้าบ~...”
“เฮ้ยๆ คุยกันก่อนซิ” ฮิคารุรีบคว้าตัวอีกคนเอาไว้ก่อนที่แม่เขาจะได้ช็อคเข้าโรงพยาบาล
“ว่าไง ข้อเสนอฉัน หรือว่า แม่นายรู้ความจริง” ยาบุยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“มีข้อเสนออื่นบ้างมั้ย?”
“งั้นก็เลิกยุ่งกับอิโนโอะ เคย์”
“นี้! ข้อเสนอแต่ละอย่าง ทำไมฉันเสียประโยชน์ขนาดนี้”
“โหย ก็มาปรนเปรอฉันไง วิน วิน นายก็ได้คนมาสนุกเพิ่ม ไม่ดีรึไง?”
“นายกำลังจะบอกว่าฉันมั่วใช่มั้ยฮะ!?”
“เอาไง ฉันให้เวลานายจนกว่าฉันจะอาบน้ำเสร็จ ถ้ายังไม่ได้คำตอบ จะถือว่านายให้บอกแม่นายได้”
ยาบุเดินไปเปิดกระเป๋าตัวเองออกหยิบเสื้อผ้าผ้าเช็ดตัวข้าวของเครื่องใข้ส่วนตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ฮิคารุนั่งหน้าเครียดอยู่คนเดียว ตอนนี้เขาชักอยากจะรู้แล้วหละซิ ไอ้คนที่ทำเอาเขาคิดไม่ตกนี้...มันไปก่อเรื่องอะไรมาถึงได้ต้องเขาสถานพินิจ ถ้าให้เดาสงสัยคงเป็นเรื่องต้มตุ๋นชาวบ้านแหง๋ๆ
“นั่งหน้าบื้ออยู่นั่นแหละ คิดออกยังจะเอาไง”
“นายนี้นา ไปหลอกชาวบ้านมาใช่ป่ะถึงได้ต้องไปอยู่ในสถานพินิจเนี้ย”
“ก็ได้เงินมาหลายล้านอยู่นะ ว่าไงคำตอบ...”
“เออๆ ฉันยอมทำให้นายก็ได้ ให้ตายซิ”
“นึกว่านายจะเลือกเลิกยุ่งกับอิโนโอะซะอีก”
“เรื่องอะไร? อิโนะจังออกจะเก่ง เลิกยุ่งก็เสียดายแย่”
“เดี๋ยวพอนายเจอลีลาฉัน นายจะลืมไอ้หมอนั่นเองหนะแหละ”
โอ๊ย ยาโอโตเมะ ฮิคารุจะบ้าตาย แค่วันแรกก็สร้างเรื่องให้เขาปวดหัวได้ขนาดนี้เลยหรอเนี้ย
“ไอ้ฮิค บุหรี่ป่ะ?”
“ทั้งซองเลยมึง เอามาด่วน ประสาทจะแดกตาย”
“อ่ะ เอาไป” พอฮิคารุเห็นซองบุหรี่ก็อยากจะเขวี้ยงใส่หัวเพื่อนทันที
“ไอ้เวร เอาซองแดงมา กูเครียดจริง”
“สูบจัดไปแล้วนะครับ สูบเป็นซองขนาดนี้เอาไลท์ก็พอแล้วหละ”
“แต่เราจะสูบเรดมาโบโร่” ฮิคารุหันไปเถียงผู้มาใหม่ ให้ตายซิตั้งแต่แม่พาไอ้หมอนี่มาอยู่ในบ้าน มันเกาะติดเขาหนึบ สองอาทิตย์แล้วนะเว้ยที่ต้องมีมันเป็นเงาติดตัวไปทุกที่
ถ้าไม่นับที่ได้เสพสมกับยาบุ
ชีวิตเขาแทบจะจืดชืด
เป็นปิดเทอมที่น่าเบื่อที่สุดตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยมา
กับอิโนโอะก็ไม่เคยอีกเลย ไม่ใช่เพราะติดใจอะไรยาบุมันหรอกนะ แต่พอไปปาร์ตี้ที่บ้านยูยะ ยาบุก็ตามประกบเป็นเงา กระดิกตัวไปไหนแทบจะไม่ได้ จะกินเหล้า มันก็เอามาให้กิน จะสูบบุหรี่แม่งก็พกไว้ติดตัวเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ แถมไอ้อันที่พกไว้ แม่งโคตรจะอ่อน เบาหวิวอย่างกับไม่ได้สูบ อยากดูดซองแดง ดันเอาซองขาวมาให้เขาเฉยเลย จะบ้าตาย
“แม่นายไม่อยู่บ้านนี้เอาใหญ่เลยนะ ยาบุนายก็ปรามๆมันซะบ้างซิ”
“ห้ามแล้วฮิคารุฟังมั้ยเล่า ถ้าฟังป่านนี้ฉันคงนอนอยู่บ้านแล้ว ไม่มาบ้านนายให้เสียเวลาหรอก” ยาบุถอนหายใจเฮือก ก็ฮิคารุหนะดื้อตัวแม่ ต่อหน้าแม่ก็เป็นเด็กดีซะเหลือเกิน แต่ลับหลังหน่อยนะ เปลี่ยนเป็นคนละคน ยิ่งพอแม่ไม่อยู่บ้านเป็นอาทิตย์ยิ่งออกลายใหญ่ ออกมาเที่ยวเล่นแทบจะทุกวัน
“หน่าๆ พวกนายก็ ปิดเทอมทั้งทีก็ขอเละบ้างดิ เดี๋ยวก็จะเปิดเทอมแล้ว เปิดเทอมก็ต้องเรียนแล้วนะ”
“นายนี่มัน! ไปเอาสมองเอาความรู้มาจากไหนวะ ปาร์ตี้ฮาร์ด แต่ก็เรียนเก่งเวอร์”
“เพราะฉันมันอัจฉริยะ” ฮิคารุพูดสั้นๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ในซองออกมาจุดสูบอย่างสบายอารมณ์ด้วยความเคยชิน จนยูยะกับยาบุได้แต่นั่งมองตาปริบๆ สูบไม่กลัวมะเร็งถามหาเลย
จนในที่สุดยาบุที่นั่งทนมองคนสวยพ่นควันสีขาวไม่หวังจัดการดึงบุหรี่ในมือดับมันกับที่เขี่ยแล้วฉุดฮิคารุให้ลุกขึ้นยืนเตรียมกลับบ้าน
“รีบหรอ?”
“นายสูบจัดเกินไปแล้วนะ เพลาๆบ้างเถอะ”
“โหยที่รัก วันนี้ยังสูบไม่ถึงซองเลยนะ”
“ร่างกายนายจะตายเอา พักบ้างเหอะ กลับบ้านได้แล้ว วันนี้ล่อทั้งเตกิล่าทั้งบุหรี่”
“เปิดเทอมก็ไม่ได้ปาร์ตี้แบบนี้แล้ว นะ นะ”
“ไม่ กลับบ้าน” ยาบุพูดเสียงดุจนฮิคารุต้องยอม
“กลับก็ได้ ไว้พรุ่งนี้มาใหม่นะยูยะ”
“ถ้านายคิดว่าพรุ่งนี้จะลุกขึ้นมาปาร์ตี้ได้ ก็ลองดู!” ยาบุดุจนแม้แต่คนนอกอย่างยูยะยังเสียววาบ
“ทำไมบ้านไฟเปิดหละโคจัง?” ฮิคารุที่เดินควงแขนยาบุด้วยความมึนถึงกับสร่าง ตาสว่างอย่างตกใจ
“ถ้าขโมยไม่น่าจะเปิดไฟนะ หรือว่า...คุณน้าจะกลับมาแล้ว!!!”
“บ้าหน่า ก็แม่บอกว่ากลับมะรืนหนิ” ฮิคารุเริ่มหน้าซีด แต่ยาบุกลับเดินไปไขกุญแจเข้าบ้านแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก เข้าบ้านกันเถอะ” ยาบุยื่นมือมาให้อีกคนจับ ก่อนจะพากันเข้าไปข้างใน แล้วก็เป็นอย่างที่ยาบุพูดตอนแรก...
แม่ของเขากลับมาแล้ว
“ฮิคกะจัง ไปไหนมากลับซะดึกดื่นเชียวลูก”
“กลับมาแล้วหรอครับแม่” ฮิคารุยิ้มเจื่อนๆก่อนจะหลบข้างหลังอีกฝ่าย
“สวัสดีครับคุณน้า ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ” ยาบุยิ้มตาหยี “เดี๋ยวผมพาฮิคารุไปนอนก่อนนะครับ วันนี้ไปเที่ยวตะลอนกันมาทั้งวัน” ยาบุดันตัวฮิคารุไปฝั่งตรงข้ามกับแม่ของเขา แล้วเดินผ่านไปอย่างเนียนๆ
“เดี๋ยวลูก!! แม่ได้กลิ่นบุหรี่ เหล้าด้วย นี้แอบไปไหนกันมาเนี้ย”
“เอ่อ คือ...” ฮิคารุยืนนิ่ง ไม่รู้จะตอบมารดาอย่างไรดี จนยาบุที่ยืนอยู่ข้างๆต้องช่วยออกรับแทน
“ผม...สูบเองครับ เหล้าด้วยครับคุณน้า ผมขอโทษครับ” ยาบุโค้งลงขอโทษอีกคน จนฮิคารุถึงกับช็อค
“เฮ้อ~ น้าผิดหวังนะ น้าว่าน้าดูคนไม่ผิด...แต่ก็เอาเถอะ น้าไม่อยากให้มันมีอีก ถ้ามีอีกน้าคงต้องขอให้ออกไปอยู่ที่อื่น” ฮิคารุได้แต่ยืนกัดฟันแน่นเมื่อได้ยินแม่ตัวเองพูดแบบนั้น
“เข้าใจแล้วครับคุณน้า ขอบคุณที่ยังกรุณาให้ผมอยู่ต่อ ผมสัญญาครับจะไม่มีอีก ขอตัวก่อนนะครับ” ยาบุดึงตัวฮิคารุที่ยืนแข็งทื่อให้ขึ้นห้องไปด้วยกัน
“นายพูดงั้นออกไปได้ไง แม่ฉันโกรธนายนะนั้น” ทันทีที่เข้ามาในห้องฮิคารุก็รีบสวนทันที
“หรือนายจะบอกว่านายเป็นคนสูบ? แม่นายเป็นโรคหัวใจไม่ใช่รึไง เดี๋ยวก็ช็อคกันพอดี”
“โคจัง...ขอบคุณนะ นายน่ารักที่สุดเลย”
“น่ารัก...แล้วรักมั้ย”
“รักซิ ถึงนายจะทำเอาปิดเทอมเราน่าเบื่อไปเยอะ แต่ลีลานายใช่ย่อย ไม่รักก็แย่แล้วหละ”
“ขาดเรื่องอย่างว่าไปนานรึไง สมองถึงได้สั่งให้ปากพูดเนี้ย”
“ก็นานพอควรแหละน้า ไม่คิดถึงกันบ้างไง?”
“ปากหวาน ลุกไม่ขึ้นแล้วจะรู้สึก”
“เอ้า แล้วใครกันบอกกับฉันว่า ถ้าพรุ่งนี้ฉันลุกมาปาร์ตี้ไหวก็ลองดู...ใครกันนะ ไม่รู้จะทำได้เหมือนที่พูดรึเปล่า” ฮิคารุยิ้มยั่วยวนอีกคน
“งั้นก็มาลองดูดีกว่าเนอะ”
“ฮิค...” ยาบุพลิกตัวมาหมายจะนอนกอดอีกคน แล้วก็ต้องคิ้วขมวด เมื่อคนที่ต้องการจะกอดกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ดวงตาคมลืมขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
เมื่อคืนว่าหนักแล้วนะ มันยังหนักไม่พอรึยังไง!?
เพล้งงงงงง!!!!!!
ยาบุรีบคว้าเสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงพื้นขึ้นมาใส่ลวกๆ ก่อนจะรีบวิ่งลงมาข้างล่าง แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นฮิคารุยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นแม่ ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนมีชามข้าวที่ตกแตกกองอยู่
“ลูกหมายความว่าไง...”
“เรื่องเมื่อวาน...ทั้งกลิ่นบุหรี่ ทั้งกลิ่นเหล้า ผม...เป็นคนทำเองครับ” ฮิคารุก้มหน้าสำนึกผิด
“ลูกจะบอกว่าลูกสูบบุหรี่แถมยังกินเหล้าอีกงั้นหรอ?”
“ครับ...ผมติดบุหรี่ สูบจัดเลยก็ว่าได้ เหล้าด้วย ผมชอบปาร์ตี้ แล้วอีกอย่างคือ...”
“โอ๊ย แม่จะเป็นลม ยังมีอย่างอื่นอีกหรอลูก คงไม่ใช่เรื่องผู้หญิงหรอกใช่มั้ย”
“ป่าวครับ แต่...แต่...ผมมีอะไรกับ...ผู้ชายครับ”
ได้ยินเพียงแค่นั้นนางยาโอโตเมะก็แทบทรุดลงไปนั่ง มือกำที่หน้าอกแน่น ปวดหัวใจจนเหมือนใจจะขาด...
นี้เธอเลี้ยงลูกไม่ดียังไง ลูกเธอถึงได้เป็นถึงขนาดนี้
“คุณแม่ครับ!/คุณน้า!” ทั้งฮิคารุและยาบุรีบเข้ามาพยุงตัว
“จริงหรอลูก...ลูกไม่ได้แกล้งแม่เล่นใช่มั้ย? แม่เลี้ยงลูกมาไม่ดียังไง ลูกถึงได้เป็นขนาดนี้”
“ผมขอโทษครับแม่ แต่ผมไม่อยากจะปิดบังแม่อีกต่อไปแล้ว”
“ลูกทำอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
“ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยครับ ผมขอโทษครับที่ทำให้แม่ผิดหวัง”
“แม่จะเป็นลม...” คุณนายยาโอโตเมะหลับตาลงสนิท เป็นลมไปพร้อมกับความช็อคที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ
“คุณแม่ คุณแม่!!”
“ฉันว่าพาคุณน้าไปนอนพักดีกว่านะ เดี๋ยวฉันอุ้มไปให้”
“ขอบคุณนะโคจัง” ยาบุอุ้มร่างแม่ของฮิคารุขึ้นมา ก่อนจะพาไปนอนตรงโซฟาตัวกว้าง แล้วหันมาช่วยฮิคารุเก็บเศษชามที่แตกอีกแรง
“เอาไงดีโคจัง คุณแม่ยังไม่มีท่าทางจะฟื้นเลยอ่ะ โทรเรียกรถพยาบาลดีมั้ย?” ฮิคารุที่นั่งเฝ้าอยู่นานเริ่มเป็นกังวลใจ เกิดโรคหัวใจกำเริบโดยที่เขาไม่รู้หละ การรักษาอาจจะมาถึงช้าไปก็เป็นได้
“หน่าๆ คุณน้าไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่ห่วงตัวเองบ้างดีมั้ยครับ เมื่อคืนใช้แรงไปเยอะนา ตอนเช้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยหนิ” ยาบุยกจานข้าวห่อไข่ที่เพิ่งทำเสร็จมาวางไว้ตรงหน้าอีกคน
“ป้อนหน่อยนะ เหนื่อย หมดแรงแล้ว เพราะใครบางคนแถวนี้แหละ ร้อนแรงได้ตลอด เสียวจนไม่รู้จะเสียวไงแล้วนะ” ยาบุยิ้มแต่ก็ยอมป้อนข้าวให้อีกคน ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาฮิคารุชะงักไปได้เหมือนกัน
“ลืมอิโนโอะ เคย์ไปได้รึยังหละ?” ฮิคารุเหลือบตามองยาบุนิดๆ
“เคย์หนะ คนแรกของฉัน...ใครจะลืมลงหละ แต่ถ้าตอนนี้ที่สำคัญที่สุด ก็มีแต่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ จู่ๆทั้งหัวก็มีแต่ตอนที่อยู่กับนาย”
“ได้ยินแล้วชื่นใจจังแหะ แสดงว่ารักผมแล้วดิ”
“ก็บอกแล้วไงว่าลีลาเด็ดขนาดนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว”
“ในเมื่อรักแล้ว มาเป็นคนรักกันมั้ย?” ยาบุถามออกมานิ่งๆ แต่ใบหน้ากลับแดงระเรื่อด้วยความเขิน จนฮิคารุอดหัวเราะไม่ได้ มือนิ่มหยิกไปที่จมูกเบาๆ
“ถ้าภายในหนึ่งนาทีแม่ฉันฟื้น จะเป็นแล้วกันนะ”
“เฮ้ ไม่แฟร์อ่ะ”
“ให้เลือกเอา จะรอหนึ่งนาที หรือจะให้ฉันปฏิเสธทันที?” ยาบุหน้าจ๋อยก่อนจะตอบเบาๆว่ารอก็ได้
“เมื่อวานอ่ะ ขอบคุณนายมากนะที่พูดปกป้องฉันแบบนั้น”
“นั้นซิฉันอุตส่าห์ทำถึงขนาดนั้น นายยังตื่นแต่เช้ามาทำให้แม่ช็อคเล่นอีกต่างหาก”
“ก็ไม่อยากปิดบังนี่นา เหลืออีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอก ว่าโดนนายหลอกเอาตั้งแต่วันแรกที่นายเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว” ฮิคารุค้อนขวับจนยาบุสะดุ้งเล็กๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกทั้งคู่ เมื่อคุณแม่ของฮิคารุลุกขึ้นมานั่ง
“ฮิคกะจัง โคตะคุง...พวกเธอสองคน...ได้เสียกันอย่างนั้นหรอ?”
“คุณแม่...”
“ครับคุณน้า ผมกับฮิคารุเรามีอะไรกัน และผมก็เต็มใจที่จะรับผิดชอบฮิคารุด้วย”
“เด็กสมัยนี้มันอะไรกัน จะทำให้ผู้ใหญ่ช็อควันละกี่รอบกันเนี้ย” ฮิคารุได้แต่ยิ้มแหยๆรับคำบ่นเพราะเขาทำอะไรไม่ได้ “ไม่ใช่ช็อคเพราะเสียใจหรอกนะ แต่ช็อคเพราะตกใจมากกว่า ถามว่าผิดหวังมั้ย มันก็ผิดหวังนะ เลี้ยงมาดีซะขนาดนี้แท้ๆ ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้”
“ขอโทษครับ” ฮิคารุรีบก้มหัวลงขอโทษทันที
“แต่ก็เอาเถอะ ยังไงก็ลูกของเราแหละนะ จะให้ดีชั่วยังไง เขาก็เป็นลูกของเรา แม่ไม่โกรธหรอก”
“ไม่โกรธจริงหรอครับแม่?” ฮิคารุรีบเงยหน้ามองมารดา
“ไม่โกรธ แต่มีข้อแม้ว่า ฮิคกะจังต้องสูบบุหรี่ให้น้อยลง จากที่สูบจัดต้องเปลี่ยนเป็นสูบเฉพาะเวลาเครียด แล้วเรื่องการเรียน ต้องรักษาเอาไว้อย่าให้ตก รู้จักแบ่งเวลา”
“ขอบคุณครับคุณแม่!!”
“เรื่องเรียนคงจะง่ายนะครับคุณน้า แต่เรื่องสูบบุหรี่คงจะยาก ผมพยายามแล้ว”
“งั้นน้าคงต้องขอให้เราพยายามต่อไป น้าฝากฮิคกะจังด้วยนะ โคตะคุง”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณน้า รับรองว่าผมจะดูแลอย่างดีเลย!”
“แต่ก็ถนอมๆลูกน้าหน่อยนะ ยังเหลือให้เรียนอีกตั้งปีนึง เดี๋ยวจะไปเรียนแบบฟ้าเหลืองซะก่อน”
“คุณแม่!!!” ฮิคารุพูดเสียงดังลั่นบ้าน ก็ประโยคเมื่อกี้หนะมันเข้าทางยาบุเต็มๆเลย
“แม่ไปก่อนดีกว่า เคลียกันเองแล้วกันนะเด็กๆ แม่ขอไปกินยานอนพักซักหน่อย ยังรู้สึกเหนื่อยๆอยู่เลย”
“ไปหาหมอมั้ยครับ?” ยาบุเอ่ยถามออกมา
“ไม่เป็นไรหรอก นอนพักแปบเดียวเดี๋ยวก็หาย” ทั้งสองคนพยักหน้ารับ รอจนคุณนายยาโอโตเมะเดินออกไปยาบุถึงหันมาคุยกับฮิคารุต่อ
“เมื่อกี้ ตามสัญญา”
“สัญญาอะไร?” ฮิคารุแกล้งทำเป็นลืมกับสัญญาที่เพิ่งทำกันไม่นาน
“อะไรกัน จะแกล้งลืมใช่มั้ย?”
“สัญญาที่ว่าถ้าแม่ฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งนาที ฉันจะเป็นคนรักนายใช่มั้ยหละ? ใครจะลืมกันเล่า...ที่รัก”
“ดีมาก เป็นคนรักกันแล้วนะ เพราะงั้นกับอิโนโอะห้ามเด็ดขาด”
“เข้าใจแล้วครับคุณแฟน”
“ดีมาก!”
***********************
ทักทาย ฮัลโหลๆ สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านฟิคของพลอยก็ขอฝากฟิคด้วยนะคะ คนที่เคยอ่านแล้วก็ขอฝากด้วยเช่นกัน ^^
ความคิดเห็น