ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    STORY of memories.. {KAIYUAN}

    ลำดับตอนที่ #2 : Story - {2}.. หายกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 248
      4
      4 ม.ค. 58

              

    Story - {2}..  หายกัน








               “หยวนนนนน! เสร็จรึยัง ไม่งั้นพี่ไปก่อนนะ” ผมตะโกนเรียกเจ้าตัวเล็กที่อยู่บนชั้นสอง ตอนนี้ผมนั่งรอหวังหยวนอยู่หน้าบ้าน อันที่จริงก็ไม่ได้รีบอะไรหรอกครับ ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ แต่ก็นั่นแหละครับ แค่ อยาก แกล้ง..

              “เฮ้ย! เดี๋ยวสิ เสร็จแล้วๆๆๆๆๆ”

     

              ตึง ตึงๆๆๆ

              “หวังหยวน! เคยบอกแล้วไงว่าอย่ารีบวิ่งลงบันได” เห็นอย่างนี้แล้วก็หงุดหงิด เอาเข้าจริงไม่รู้ว่าบอกแล้วไม่จำ หรือจำแต่ไม่ยอมทำตามกันแน่ แล้วอย่างนี้ผมจะปล่อยให้เจ้าตัวเล็กอยู่คนเดียวได้ยังไง

              “ก็ต้าเกอบอกจะไปก่อนอะ” หวังหยวนก้มใส่รองเท้า สะพายกระเป๋าแล้วเดินมาหาผม ตกลงนี่ผมผิดใช่มั๊ยเนี้ย

              “ทีหลังอย่าวิ่งลงบันไดอีกนะ”

              “ต้าเกอก็อย่าบอกว่าจะไปก่อนสิ”

              “มันคนละเรื่องกันเลยนะที่เราพูดหน่ะ”

              “คนละเรื่องได้ไง ก็ต้าเกอบอกจะไปก่อน หยวนก็เลยต้องรีบลงมา มันก็เรื่องเดียวกัน” หยวนยังเถียงออกมาเพื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ผิด

              “หวังหยวน”

              “ก็หยวนไม่ผิดนี่  อีกอย่างวิ่งลงบันไดแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกหน่า”

              “จะไม่เป็นไรได้ยังไง ถ้าตกบันไดลงมาจะทำยังไง”

              “ก็ไม่ได้ตกซักหน่อย”

              “ทำไมชอบเถียงจังห๊ะ!  

             

     

     

    “............”

    “นี่กะจะเถียงให้ชนะให้ได้เลยใช่มั๊ย”  ผมถามเจ้าตัวเล็กที่ยืนมองหน้าผมแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หวังหยวนหัวรั้น ใช่ อันนี้ผมรู้  จะดื้อกับผมแค่ไหนก็ได้ แต่ร่างกายของตัวเอง ก็ควรดูแลไม่ใช่รึไง

     

    “ได้ หยวนไม่ผิด พี่ผิดเอง  ขึ้นรถ” ผมหันไปหยิบหมวกกันน็อคยื่นให้หวังหยวน แล้วก็หันมาใส่ของตัวเอง

     

     

     
    Yuan’s Part

              ผมนั่งมองแผ่นหลังของคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์พาผมไปโรงเรียน  เพราะว่าผมขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ต้าเกอก็เลยต้องเป็นคนขี่ไปทุกวัน  เหตุการณ์ก่อนที่ผมกับต้าเกอจะออกมาจากบ้านผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้าเกอจะต้องโมโหขนาดนั้นด้วย ก็แค่วิ่งลงบันได คนเรามันจะตกบันไดกันง่ายๆได้ยังไง แล้วผมก็ยังไม่ได้ตกสักหน่อย ตั้งแต่ที่แม่ไปต่างจังหวัดต้าเกอโมโหใส่ผมบ่อยมาก รอแม่กลับมาก่อนเถอะ หยวนจะฟ้องแม่ ชิ

     

     

    “หยวนนนนนน!”  เสียงเสี่ยวตี้เรียกผมตั้งแต่ที่ผมยังไม่ทันเดินเข้าไปในห้อง

    “โหย มาแต่เช้าเลย”

    “เรามาปกตินะ วันนี้หยวนมาช้าเอง- -“

    “ก็จริง ฮ่าๆ” ผมก้มมองนาฬิกาก็พบว่าผมมาช้าจริงๆนั้นแหละ  ที่จริงเสี่ยวตี้เด็กกว่าผมหนึ่งปี แต่เพราะผมเข้าเรียนช้าเลยได้มาอยู่ชั้นเดียวกับเสี่ยวตี้ เขาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดในห้องของผม เสี่ยวตี้เรียนเก่ง มักจะคอยจดการบ้านให้ผมเสมอ เขาไม่เคยว่าถ้าผมหลับในห้องเรียน อย่างน้อยก็แค่คาบสองคาบ ไม่เหมือนต้าเกอ ถ้ารู้ผมโดนว่าอีกแน่ๆ

     

    “หยวน เป็นอะไร ทำหน้ายุ่งๆ”

    “ฮะ อ๋อเปล่าๆ” ผมรีบกลับมาทำหน้าปกติ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอนึกถึงต้าเกอแล้วทำหน้ายุ่งออกมาอีกจนได้

     

     

     

     

     

     

     

    พักกลางวัน

    “ไปเร็วเสี่ยวตี้! เดี๋ยวคนเยอะ” ผมรีบกวาดทุกอย่างลงใต้โต๊ะ แล้วลากเสี่ยวตี้ไปโรงอาหาร วันนี้พักช้าซะด้วย มีหวังอดกินของชอบแน่  ผมกับเสี่ยวตี้ฝ่าฟันคนนับร้อยเพื่อไปซื้ออาหารมานั่งกินกันจนได้ กว่าจะต่อแถวซื้อเสร็จก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง

     

    “หยวน พี่จุนไคอะ” ผมเงยหน้ามองไปตามสายตาของเสี่ยวตี้ที่หันไปทางต้าเกอ ต้าเกอพึ่งเดินเข้ามาในโรงอาหาร แต่เพราะโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ติดกับหน้าประตูเลยเจอกันพอดี

     

    “ต้าเกออออออ กินข้าวยัง”

    “ยัง”

    “ไปกินเลย นั้นๆร้านนั้นคนน้อย” ผมชี้ไปทางร้านริมสุดที่มีคนต่อแถวอยู่แค่สองสามคน

    “ไม่หิว”

    “-3- ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวก็ปวดท้องพอดี ไม่กินข้าวกลางวัน”

    “ก็ยังไม่ปวดนิ” 

     

    พูดไว้แค่นั้นแล้วก็เดินไปหาเพื่อนที่จองโต๊ะไว้ก่อนแล้ว  และต้าเกอก็ไม่เดินไปซื้อข้าวจริงๆ แล้วทำไมต้าเกอต้องเฉยชาใส่ผมด้วย ยังไม่หายโกรธรึไง ผมอุตส่าเลิกคิดเรื่องเมื่อเช้าไปแล้วนะ

    “หยวน ร้องไห้หรอ”

    “ห๊ะ อ๋อเปล่า ไปเหอะ เราอิ่มแล้ว” ผมดึงสติกลับมามองเสี่ยวตี้ นัยน์ตารู้สึกร้อนขึ้นมา ผมรู้ รู้ว่าตัวเองคงต้องน้ำตาคลออยู่แน่ๆ

     

    ตลอดทางที่กลับมาจากโรงเรียน ต้าเกอไม่แม้แต่จะหันมาคุยกับผม จนถึงบ้านต้าเกอก็ยังไม่พูดกับผม ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย  รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีตัวตน ทำไมต้าเกอต้องทำเหมือนผมไม่อยู่ในสายตาด้วย

    “หยวน” ผมรีบหันไปตามเสียงเรียกด้วยความดีใจ  เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ต้าเกอเรียกผม หลังจากเมื่อเช้า

     

    “วันนี้พี่ไม่กินข้าวนะ กินไปเลย มีข้าวผัดอยู่ในตู้เย็น”

    “แต่ว่าเมื่อกลา..” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบต้าเกอก็เดินขึ้นบ้านไป 

     

     

    ทำไม..

    นี่ผมทำอะไรผิดมากเลยหรอ ทำไมต้าเกอต้องเฉยชาใส่ผม แล้วจะเป็นแบบนี้ไปอีกเมื่อไหร่  ต้าเกอไม่ชอบคนดื้อ  ผมดื้อมากไปใช่มั๊ย  ต้าเกอไม่รักผมแล้วใช่มั๊ย..

     

    Yuan’s Part End

     

     

     

    หงุดหงิด นี่เป็นคำเดียวที่อยู่กับผมมาตลอดทั้งวัน  ผมไม่ชอบที่หวังหยวนคิดว่ามันเป็นเรื่องแค่นี้ เป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ ตัวของตัวเองควรดูแลไม่ชีรึไง มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะคอยดูแลเค้าตลอดนี่  ผมรู้ว่าผมพาล พาลใส่เจ้าตัวเล็กตั้งแต่เมื่อกลางวัน ผมแค่อยากให้หวังหยวนรู้บ้างว่า คนที่เป็นห่วงหน่ะเค้ารู้สึกยังไง

     

     

    ก๊อกๆๆๆ

     

    หวังหยวนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับอุปกรณ์เครื่องเล่นอีกสองเครื่องเหมือนทุกๆวัน ผมหันไปมองแค่แว๊บเดียวแล้วก็หันมาอ่านหนังสือต่อ ถ้ามองไม่ผิด เหมือนเจ้าตัวเล็กของผมจะตาแดงๆ

    “ต้าเกอ เล่นเกมกันนน”  หวังหยวนพูดชวนด้วยน้ำเสียงสดใสที่เจ้าตัวมี แต่ผมกลับรู้สึกได้ว่ามันฝืนเอามากๆ

    “ไม่ล่ะ พี่จะอ่านหนังสือ”

    “งั้นหยวนเล่นก่อนก็ได้ หยวนผ่านด่านก่อนต้าเกอแน่ๆ ฮ่าๆ”

     

     

     

     

     

    “ไปเล่นที่ห้องได้มั๊ย พี่จะอ่านหนังสือ” พูดบอกเจ้าตัวเล็กทั้งๆที่ยังไม่ได้หันหน้าไปหาแต่อย่างใด

    “.....................”

     

     

     

     

    “ฮึก ฮึก”

     

    “หวังหยวน”  เหมือนจะได้ยินเสียงสะอื้นเลยหันไปมองก็เห็นเจ้าตัวเล็กกำลังนั่งก้มหน้าเช็ดน้ำตาตัวเองที่ดูยังไงก็เหมือนจะยิ่งไหลออกมา

    “ร้องไห้ทำไม” สุดท้ายผมเลยต้องเดินไปหาหวังหยวน แต่เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา 

     

    เฮ้อ  นี่ผมทำเด็กร้องไห้ใช่มั๊ยเนี้ย

     

    “นี่ ร้องไห้ทำไมครับ”  ใช้สองมือจับแก้มนิ่มทั้งสองข้างแล้วค่อยๆให้เด็กขี้แงตรงหน้าเงยหน้าขึ้น  ทั้งตาใสๆ และจมูกเล็กตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดง  ชนิดที่ว่าดูยังไงก็รู้ว่าคงร้องไห้มาก่อนหน้านี้ด้วยแน่ๆ

     

    “ฮืออ”  หวังหยวนไม่ตอบอะไรแถมยังก้มหน้าลงไปร้องไห้อีก  ผมเลยตัดสินใจดึงร่างของเจ้าตัวเล็กเข้ามากอด มือก็ลูบหัวไปด้วย หวังหยวนก็ยังสะอื้นอยู่  สงสัยคราวนี้ผมเป็นคนผิดจริงๆแล้วล่ะมั้ง

     

    “ร้องไห้ทำไมครับ”  

    “ต้าเกอ อึก ไม่สนใจหยวน” ผ่านไปสักพัก เจ้าตัวเล็กก็พูดออกมา ทั้งๆที่ยังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดผม

     

    “นี่ไง สนใจแล้ว ไม่เอาไม่ร้อง ดูสิ ตาบวมหมดแล้ว” ผมคลายอ้อมกอดออกแล้วใช้ปลายนิ้วค่อยๆเช็ดน้ำตาออกจากแก้มใส

     

    “ต้าเกอไม่คุย ฮึก.. กับหยวน”  ตอนนี้หวังหยวนยังคงสะอื้นอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่มากเท่าตอนแรก

    “นี่ไง คุยอยู่นี่”

    “ต้าเกอไม่ยอมกินข้าว”

    “หื้ม? ทำไมล่ะ พี่ไม่กินข้าวก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”

    “เดี๋ยวปวดท้อง”

    “ก็ไม่เห็นปวดเลย”

     

    “ก็แล้วถ้าต้าเกอปวดล่ะ!

     

    ..

    .

     

     

     

    “แล้วถ้าหยวนตกบันไดล่ะ”  ผมพูดออกมา ทำให้หวังหยวนชะงักไปนิด

              “เกี่ยวกันตรงไหน  ไม่เห็นเกี่ยว”

              “หยวนบอกว่าถ้าพี่ไม่กินข้าวพี่อาจจะปวดท้อง  แล้วถ้าหยวนวิ่งลงบันได หยวนก็อาจจะตกบันไดเหมือนกัน”

             

    “...............................”

              “หยวนห่วง กลัวพี่จะปวดท้อง  พี่ก็ห่วงกลัวหยวนจะตกบันไดเหมือนกันนะ” ผมมองหน้าเจ้าตัวเล็กที่คงเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะบอกแล้ว

             

     

             

    “หยวนขอโทษ”

              “^^ พี่ก็ขอโทษที่ไม่สนใจหยวน งั้นหายกันโอเคมั๊ย” ผมยิ้มให้เจ้าตัวเล็กที่ทำหน้าสำนึกผิด แค่หวังหยวนเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด แค่รู้ว่าผมเป็นห่วง ก็พอ

     

             

     

     

     

    “ต้าเกอยังรักหยวนอยู่ใช่มั๊ย”   หวังหยวนถามไม่ยอมสบตา เหมือนคนที่กำลังกลัวคำตอบ

     

             

     

    เฮ้อ เจ้าตัวเล็กของผมคิดไปถึงไหนเนี้ย..

     

             

     

    “ฮ่าๆ รักสิ”

    “ต้าเกอรักหวังหยวนที่สุดในโลกเลย”




    --------------------------------------------------------
    สตอรี่ที่สองมาแย้ว มันยังโอเคอยู่ใช่มั๊ย 5555555555555555555555555
    พล็อตเราไม่ค่อยมีหรอก แค่ดำเนินเรื่องให้เห็นความรักของไคหยวนด้วย
    และมันก็ยังสั้นอีกตามเคย- -

    ปล. ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ^^




     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×