พี่เจตน์บอกว่าเจ๋นิสัยเหมือนเด็กผู้หญิงที่โคตรจะงี่เง่า
เจ๋อยากจะเถียงให้ใจขาดตายไปเลยว่าไม่ได้งี่เง่า ในเมื่อพี่ตันหยงไม่อยากคุยกับเจ๋นักเจ๋ก็ไม่คุย!
เกือบสองอาทิตย์เเล้วมั้งที่ไม่ได้คุยกัน พี่ตันหยงเจอหน้าเจก็ไม่ทัก เจ๋เองก็เหมือนกัน ในเมื่อพี่ตันหยงไม่คุยเจ๋ก็ไม่จำเป็นต้องพยายามฝ่ายเดียว
เกือบห้าโมงเย็นเป็นเวลาที่คนในตลาดดูจะคึกคักที่สุด เจ๋ในชุดนักเรียนกำลังรับออเดอร์ลูกค้า ส่วนป๊ากับหม่าม้าอยู่ในครัว พี่เจตน์ก็กำลังล้างจาน หน้าที่ที่ต้องใช้หน้าตาทำมาหากินที่สุดก็หนีไม่พ้นต้องตกเป็นของนายจิรัชยา เเซ่เจิ้งคนนี้
เวลาเย็นที่ลูกค้าเเน่นเป็นพิเศษ เจ๋กำลังหัวหมุนกับการรับออเดอร์ลูกค้า หิวน้ำจนคอเเห้งไปหมดก็ยังไม่ได้กิน พอคนลุกออกปุ๊บเจ๋ก็ต้องเก็บชามส่งให้พี่เจตน์ล้างทันทีเพราะไอ้จะรอพี่เจตน์ออกมาเอาน่ะไม่ทันการ
วุ่นวายจนไม่ทันได้สังเกตุว่าพี่ตันหยงเดินเข้ามาตอนไหน พอลูกค้าเริ่มบางตาลงนั่นเเหละถึงเจอพี่ตันหยงนั่งที่โต๊ะข้างในสุดกับไอ้เด็กฝรั่งร้านขายเฟอร์นิเจอร์
มาด้วยกันได้ไงวะ
พี่ตันหยงคงเห็นเเล้วเเหละว่าเจ๋มอง เเต่อีกคนเลือกที่จะนั่งเฉยๆไม่เเสดงอาการอะไรทั้งนั้น เจ๋เองก็เหมือนกัน อยากกินมากนักก็ไปร้านอื่น เจ๋ไม่ขาย ไม่เสริฟด้วย!
ซะที่ไหนล่ะวะ
อาชีพพ่อค้าเเละความเป็นอยู่ของปากท้องมันค้ำคอ สุดท้ายก็จำใจยกสมุดจดเล็กๆขึ้นมาเเล้วถามลูกค้าทั้งสองคนว่าจะรับอะไรดีครับ
“โจ๊กหมู ใส่ไข่สองฟอง ไม่ใส่ขิง ไม่ใส่ต้นหอม”
ไอ้ฝรั่งเรื่องมาก นั่นก็ไม่กิน นี่ก็ไม่กิน ไม่ต้องกินมั้ย ยังไง กลับบ้านไปเลยปะ
“เเล้วจะเอาเหมือนเดิม–”
“โจ๊กหมูใส่ไข่ใส่ขิงไม่ใส่ต้นหอม”
“เเล้วเเป๊ปซี่–”
“เอาเเป๊ปซี่ด้วยสอง”
อยากให้พี่เจตน์มาเห็นชิบหาย ใครกันเเน่ที่งี่เง่าเป็นเด็กผู้หญิง
เจ๋เเอบเงยหน้ามองพี่ตันหยงที่มองมาอยู่ก่อนเเล้วก็รู้สึกคิ้วกระตุกเเปลกๆ ปากดี ทำเป็นพูดกระเเทกเสียงใส่ เดี๋ยวจะโดนกระบวยป๊าเจ๋ฟาดหน้าสักทีข้อหาดื้อเก่ง
“ครับ”
พูดจบก็ยัดสมุดจดใส่กระเป๋าผ้ากันเปื้อนก่อนจะเดินออกไปทันที ยิ่งมองหน้าเเมวๆที่เชิดขึ้นอย่างถือดีก็ได้เเต่หงุดหงิดในใจ จะโกรธอะไรนักหนาวะ เบื่อเเล้ว ไม่คุยก็ไม่ต้องคุยเหอะ คิดว่าเจ๋เเคร์ขนาดนั้นหรือไง
เออ คิดถูกเเล้ว เจ๋เเคร์ เเคร์มากด้วย เเอบนอนกัดผ้าห่มร้องไห้ทุกวันจะร้องดังก็ไม่ได้เดี๋ยวป๊าตื่นอีก บำลากชิบหายเลย
เดินลงส้นเท้ามาจนถึงห้องครัวก็เห็นป๊ากำลังคนหม้อโจ๊กกับหม่าม้าที่กำลังใส่เครืองปรุงอยู่ เจ๋ฉีกกระดาษในสมุดเล่มเล็กใส่มือพี่เจตน์อีกข้างที่รอรับอยู่ก่อนจะเดินออกไปไม่วายได้ยินเสียงพี่เจตน์ตะโกนบอกป๊าไม่เบานักว่า
“โจ๊กหมูใส่ไข่ไม่ใส่ต้นหอมขิงซอยเยอะๆให้อีตันหยง โจ๊กหมูไม่ใส่ไข่ใส่ต้นหอมขิงซอยเยอะๆให้เพื่อนมันด้วย”
หมั่นไส้มันมานานเเล้ว ขอสักทีเถอะ
เรื่องมันก็เลยบานปลายมาถึงขนาดนี้
“พี่บอกไม่เอาขิง–”
“ก็ลืม เเล้วยังไง จะกินมั้ย”
“เห้ย เเต่–”
“จอห์นหยุด”
เกิดมาสิบห้าปีรู้เเล้วว่าตอนนี้เกลียดขี้หน้าใครที่สุด
เกือบสิบนาทีที่พี่เจตน์ตะโกนบอกเจ๋ว่าโจ๊กพี่ตันหยงเสร็จเเล้ว เจ๋รีบสาวเท้าเร็วๆเข้าไปหาหม่าม้าในครัว ยกโจ๊กสองชามในถาดสีฟ้าขึ้นมาถือไว้ให้เเน่นก่อนจะรีบยกไปเสริฟ
พอวางชามโจ๊กปุ๊บปัญหามันก็เกิดขึ้นมาตอนนั้นเเหละ
โจ๊กสองถ้วยในชามสีฟ้าอ่อนใบนึงใส่ไข่ไม่ใส่ต้นหอมใส่ขิงซอยเยอะๆ ส่วนอีกใบไม่ใส่ไข่ใส่ต้นหอมกับขิงซอยให้ด้วย
ไม่พอใจอะไรอีกอะ
“น้องทำมาผิดก็ควรจะรับผิดชอบมั้ย”
“เดี๋ยวคืนตัง โอเคมั้ย ส่วนจะกินไม่กินก็อีกเรื่อง”
“เห้ย ทำไมพูดงี้อะ”
“ทำไมอะ จะให้พูดยังไง”
“เเค่ขอโทษมาก็จบเเล้วมั้ย”
“ขอโทษ พอใจยัง”
“สัด ไอ้เด็กเวร–”
“อ้าว ไอ้–”
“จอห์น!”
ก่อนที่จะบานปลายมากกว่านี้พี่ตันหยงก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน พี่ตันหยงขมวดคิ้วเเน่น มองไอ้ฝรั่งนั่นเป็นเชิงให้นั่งลง เเอบเห็นด้วยว่าปรายตามามองเจ๋เเปปนึงก่อนจะหันหน้าหนี
“เจ๋ เกิดอะไรขึ้น”
เเต่พี่ตันหยงห้ามช้าไปเสียเเล้ว
ป๊าเดินมาพร้อมกับกระบวยในมือ วินาทีนั้นเจ๋ใจเต้นไม่เป็นส่ำยิ่งกว่าตอนเห็นหน้าไอ้ฝรั่งนี่อยู่กับพี่ตันหยงครั้งเเรกเสียอีก ป๊าเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเจ๋มองหน้าเจ๋ไปมาสลับกับไอ้ฝรั่งนั่น
“มีเรื่องอะไรกัน”
ใจเต้นเเรงจริงๆตอนที่มาหันมามองพร้อมกับขมวดคิ้วเเน่น เจ๋ก้มหน้า ไม่รู้จะเเก้ตัวยังไง ในเมื่อไอ้ฝรั่งนั่นมันยืนสะเหล่ออยู่ตรงนี้ มีหวังได้โดนไม้เรียวหวดเเหงๆ
“น้องเค้าทำมาผิดเเถมยังพูดจาไม่ดีใส่ผม–”
“จอห์น ขอร้อง”
เเละเป็นพี่ตันหยงอีกนั่นเเหละที่ห้ามทัพ เเต่มันก็คงไม่ทันเมื่อมือขวาของป๊าจับที่หัวไหล่เจ๋เรียบร้อย ป๊าไม่ได้หยิก ไม่ได้ตีด้วยเเต่ป๊าบังคับให้เจ๋ก้มหัวให้มัน
“ลุงขอโทษเเทนลูกชายด้วยนะ เดี๋ยวลุงทำให้ใหม่ ถือว่ากินฟรีชดเชยที่ทำมาผิดเเล้วกัน”
“เจ๋ ขอโทษลูกค้า”
เกลียดมัน เกลียดมันเเทบตาย เกลียดมันชิบหายเเต่สุดท้ายก็ต้องก้มหัวขอโทษมันอยู่ดี
ความคิดเห็น