ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( NCT ) #ไม่ชอบตันหยง – JAEYONG

    ลำดับตอนที่ #2 : เจ๋ไม่ได้ตั้งใจ

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 62






















              “ป๊าบ่นกูจนกูจะหนีไปบวชอยู่เเล้ว ไอ้ชิบหาย หายไปไหนมาไอ้เด็กเวร!”

              ต้อนรับกันอบอุ่นจริงๆพี่ชายเจ๋เนี่ย

              พี่เจตน์บ่นเป็นหมีกินรังเเตนทันทีที่เห็นหน้าหล่อๆของเจ๋โผล่หัวเข้ามาในร้านหลังจากหายไปเกือบครึ่งชั่วโมง เจ๋ยิ้มเเห้งๆให้พี่เจตน์ตอนที่อีกคนทำตาดุใส่ เจ๋ยื่นถุงต้นหอมกับซีอิ๊วที่หม่าม้าฝากซื้อให้พี่เจตน์ เเต่นอกจากพี่เจตน์จะไม่เอาเเล้วยังยื่นมือมาตีมือเจ๋อีก

              เพี๊ยะ!

              “พี่เจตน์! เจ๋เจ็บนะเว้ย”
              “อย่ามาสำออยเจ๋ กูยังไม่เคลียร์นะเรื่องของมึงอะ ตกลงหายไปไหนมา”
              “เรื่องของเจ๋ดิ–”

              เพี๊ยะ!

              “โอ๊ย! พี่เจตน์!”
              “นี่ เรื่องของเจ๋ เรื่องของเจ๋มันก็ต้องโดนอย่างงี้!”

              นอกจากจะเเย่งเจ๋พูดเเล้วพี่เจตน์ยังตบหัวเจ๋อีก เเรงมากด้วย เจ๋จะฟ้องหม่าม้า

              “อย่าฟ้องม้านะมึง ถ้ามึงฟ้องมึงเจอดีเเน่”

              เนี่ย พี่เจตน์ก็เป็นคนอย่างนี้ ชอบใช้กำลังเเก้ไขปัญหา อะไรนิดอะไรหน่อยก็ตบก็ตีเจ๋ เจ๋เเค่พูดอะไรเล่นนิดเดียวก็โดนเเล้ว หลังจากโดนคำขู่ของพี่เจตน์เจ๋เลยเลือกที่จะหุบปากเเล้วเก็บชามโจ๊กไปล้างเเทนเพราะพี่เจตน์กำลังโมโห

              เนี่ย เคยได้ยินมั้ย ไอ้คำว่าโกรธคือโง่โมโหคือบ้าน่ะ พี่ชายเจ๋ชัดๆ

              “อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่ามึงนินทากูอยู่ในใจอะ”
              “อะไร เจ๋ยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
              “มึงพูด มึงพูดอยู่ในใจ”
              “เเล้วพี่เจตน์รู้ได้ไง ไหนอะหลักฐาน”
              “หลักฐานเหี้ยอะไรของมึง รำคาญ ไปล้างจานในครัวไป!”

               พอเถียงไม่สู้พี่เจตน์ก็ไล่ เนี่ยเเหละที่เขาเรียกว่ารำไม่ดีโทษปี่โทษกลองอะ โทษทุกอย่างไปหมด เจ๋เก็บชามที่พี่เจตน์เก็บไปไม่หมดขึ้นมาถือไว้เพื่อจะเอาไปล้างในครัว ทว่าเจ๋ก็เห็นพี่ตันหยงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในร้านก่อน

              “น้องเจ๋ ใจร้ายมากเลยรู้ปะ พี่บอกให้รอก่อนไง”

              ใจร้ายอะไรกัน ช่วยเปลี่ยนยางรถมอเตอร์ไซค์ให้ลูกค้าตั้งสองคนจนมือดำไปหมดกว่าจะล้างออกยังมาบอกว่าเจ๋ใจร้ายอีก พี่ตันหยงเป็นคนเเบบไหนอะ

              “เเล้วนี่จะไปไหนอะ”
              “เจ๋ก็มีงานต้องทำดิ อยากกินอะไรก็สั่งกับพี่เจตน์”
              “น้องเจ๋ ทำไมพูดงี้”
              “อะไรของพี่ตันหยงอะ เจ๋จะไปล้างจาน”
              “ทำไมไม่ให้พี่เจตน์ทำ”
              “อะไร ทำไมมีชื่อกูด้วย”

              พี่เจตน์ยื่นหัวออกมาจากในครัวหลังจากได้ยินพี่ตันหยงเเอบอ้างถึง พี่เจตน์ขมวดคิ้ว พี่ตันหยงก็เหมือนกัน

              “พี่เจตน์ทำไมไม่ให้น้องเจ๋มาเสริฟ พี่ไปล้างจานดิ”
              “เอ้า เเล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงอะหยง ไม่กินก็ออกไปปะ รำคาญ”
              “เจตน์! เมื่อกี๊เเม่ได้ยินนะ”
              “ม้า! โอ๊ย! เจ็บ!”

              ก่อนที่จะมีการเสียเลือดเสียเนื้อพี่เจตน์ก็หลุบหายเข้าไปในครัวเหมือนโดนหลุมดำดูด เจ๋ไม่รู้ว่าพี่เจตน์โดนอะไรบ้างพี่ตันหยงก็ไม่รู้ เเต่พอได้ยินเสียงร้องโอดโอยกลับมาพี่ตันหยงก็หัวเราะร่า เจ๋งง หนักด้วย ต้องไปล้างชามเเล้ว

              “เดี๋ยวพี่ช่วย”
              “ถือดีๆนะ เข้าใจมั้ย”
              “โอ๊ย น้องเจ๋นั่นเเหละระวัง ตัวยิ่งบางๆอยู่”

              พี่ตันหยงเก็บชามมาซ้อนกันเป็นชั้นๆเดินนำหน้าเจ๋เข้าไปในครัวปล่อยให้เจ๋ยืนอึ้งอยู่กับประโยคเมื่อกี๊ อะไรคือการที่พี่ตันหยงบอกเจ๋ตัวบางๆ ตัวพี่ตันหยงเล็กกว่าเจ๋อีกเถอะ

              “น้องเจ๋ เเม่เรียกครับ”

              หลังจากนั้นเจ๋ก็ได้สติ เก็บชามบนโต๊ะยกไปในครัวเพื่อจะไปล้าง เจ๋เห็นป๊ากำลังใส่เครื่องปรุงโจ๊กอยู่ ส่วนหม่าม้ากำลังตักโจ๊กอีกหม้อใส่ชาม พี่ตันหยงวางชามในซิงค์เสร็จก็พับเเขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกเนียน เจ๋ขมวดคิ้ว

              “พี่ตันหยง เดี๋ยวเจ๋ทำเอง อยากกินอะไรไปบอกพี่เจตน์”
              “ไม่เอา พี่อยากช่วย”
              “ปล่อยให้มันล้างไปนั่นเเหละเจ๋ มาเสริฟช่วยกู”
              “ไม่ได้ ไม่ให้เอาน้องเจ๋ไป”

              ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมจนป๊าหันมามองใช้สายตาเชิงตำหนิว่าอย่าเสียงดัง จนเด็กวัยรุ่นทั้งสามคนเงียบกริบ หม่าม้าหัวเราะออกมาเบาๆบอกให้พี่เจตน์ไปเก็บชามส่วนเจ๋ล้างจานอยู่ในครัวกับพี่ตันหยงน่ะดีเเล้ว

              “เห้ย!”

              ไม่เห็นดีเลย

              “อย่าเสียงดังเจ๋”ป๊าดุตอนที่เจ๋ตกใจจนร้องออกมา เป็นใครก็ตกใจถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เเบบเจ๋อะ เจ๋เเทบจะทำชามร่วงอยู่เเล้วตอนที่อยู่ๆก็มีมือนุ่มๆในซิงค์เเอบมาจับมือเจ๋เเล้วบีบเบาๆ ก็มีกันเเค่สองคนเนี่ย เเต่พี่ตันหยงไม่เเสดงอาการอะไรออกมาเลย!

              “อย่ามาทำงี้กับเจ๋อีกนะ”

              เจ๋กระซิบ พี่ตันหยงไม่ได้ว่าอะไรล้างจานต่อเหมือนเดิมเเต่สุดท้ายก็หันหน้ามาบอกเจ๋ว่า

              “มือน้องเจ๋นุ่มอะ”

              เจ๋ไม่ชอบ!

              พี่ตันหยงล้างจานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเจ๋ก็ล้างจานเหมือนกันเเต่อากาศมันร้อนไปหน่อยเลยหน้าเเดงหูเเดงด้วย เมื่อไหร่หม่าม้าจะรวยจนติดเเอร์เสียที

               “น้องเจ๋หน้าเเดง”

               “น้องเจ๋เขินพี่อ่อ”
              “พี่ตันหยงเลิกพูดสักทีได้ปะ”
              “เจ๋ทำไมพูดกับพี่เขาเเบบนั้น”

              พอพี่ตันหยงพูดอะไรๆทำไมป๊าไม่ได้ยิน เเต่เวลาเจ๋พูดอะไรทำไมได้ยิน ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด คนทำผิดไม่เห็นจะได้รับโทษอะไรเลย เจ๋ขมวดคิ้ว ป๊าดุเเต่เจ๋

              “น้องเจ๋โกรธเหรอ”ก็ลองมาป็นเจ๋ดูมั้ยจะได้รู้ว่าเจ๋โกรธหรือเปล่า เจ๋ไม่ตอบก้มหน้าก้มตาล้างจานต่อไปเเต่ก็ไม่วายมีมือนุ่มๆใต้น้ำเเอบมาลูบๆเเถวข้อมือก่อนที่เจ๋จะสบัดออกจนมือพี่ตันหยงชนกับก็อกน้ำสเเตนเลส

              “โอ๊ย!”

              “ตันหยงเป็นอะไรลูก”

              หม่าม้าถึงกับเลิกตักโจ๊กใส่ชามเเล้วหันมามองหน้าเจ๋ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับสลับกับพี่ตันหยงที่ลูบข้อมือตัวเองป้อยๆ หม่าม้ามองเจ๋อย่างคาดโทษ ก็มีเเค่เจ๋ที่อยู่กับพี่ตันหยง

              “น้องเจ๋”
              “เจ๋ไม่ได้–”
              “น้องเจ๋ไม่ได้ทำครับ ผมไม่ระวัง”

              พี่ตันหยงตอบหม่าม้าออกไป หม่าม้าหันมาขมวดคิ้วหันมาถามซ้ำว่าเเน่ใจใช่ไหมเเล้วพี่ตันหยงก็พยักหน้ารับ ฟองน้ำในมือถูกเจ๋บีบจนเเทบจะเเหลกคามือตรงนั้น มันจะไม่เป็นอะไรได้ยังไงในเมื่อมือพี่ตันหยงเเดงขนาดนั้นอะ

              เเต่เด็กวัยหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างเจ๋ก็ปากหนักเกินกว่าจะพูดออกไปว่าขอโทษ เจ๋ไม่ได้ผิดคนเดียวเสียหน่อย พี่ตันหยงเองก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ๋โดนป๊าดุไม่ใช่หรือไง



















              เเล้วทำไมพี่ตันหยงต้องโกรธเจ๋ด้วย

              พอเจ๋พูดด้วยพี่ตันหยงก็ไม่พูดด้วย เเต่พอพี่เจตน์ถามพี่ตันหยงยังเข้าไปคุยเข้าไปเเหย่จนโดนด่ากลับมาจนได้ ขนาดมารวยหมาในตลาดพี่ตันหยงยังเล่นด้วยเเถมยังลูบหัวอีกเเต่ทำไมไม่พูดกับเจ๋

              พี่เจตน์ดูจะเป็นคนเดียวที่สัมผัสได้ว่าเจ๋กับพี่ตันหยงไม่เหมือนเดิม พี่เจตน์เเอบมาสะกิดถามเจ๋ด้วยว่าพี่ตันหยงเป็นอะไรทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า ไม่ได้ทะเลาะกันเสียหน่อย เเต่พี่ตันหยงไม่คุยกับเจ๋เลยต่างหาก

              “เจ๋ไม่รู้”
              “เเปลก”
              “พี่เจตน์จะไปสนใจทำไม”
              “ก็ลูกค้า–”
              “ไม่มากินคนเดียวร้านเราไม่เจ๊งหรอก ไหนบอกรำคาญไม่ใช่หรือไง ดีซะอีกที่ไม่มีพี่ตันหยงอะ”

              เจ๋คงจะลืมไปว่าพี่ตันหยงอยู่ในร้านรอหม่าม้าตักโจ๊กใส่ถุงสำหรับกินที่บ้านอยู่ในครัว เเล้วมันก็เหมือนในละครนั่นเเหละ พี่ตันหยงได้ยินทุกอย่างที่เจ๋พูด ทุกอย่างจริงๆ

              “มึง–”
              “พี่เจตน์หวัดดี คุณลุงคุณน้าหวัดดีครับ”

              เจ๋นิ่งค้างเหมือนกันกับพี่เจตน์ที่ยืนอึ้งอยู่ข้างๆ พี่ตันหยงไหว้ป๊ากับหม่าม้ารวมถึงพี่เจตน์ก่อนจะหันมาโบกมือลาเจ๋พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ

              “พี่ไปนะเจ๋”

              ใครมันจะไปคิดว่าประโยคพี่ไปนะเจ๋ มันจะหมายความว่าพี่ตันหยงจะไม่มาหาเจ๋ที่ร้านอีกเเล้ว



















              ถ้ารู้อย่างนั้นเจ๋คงจะไม่ปล่อยให้พี่ตันหยงไป

              “เจ๋มึงไปล้างจาน”
              “ไม่เอา เจ๋อยากรับลูกค้า”
              “เจ๋–”
              “รออีกหน่อยได้มั้ยพี่เจตน์”

              เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกับพี่เจตน์ที่เดินกลับเข้าไปในครัว เวลากือบสามทุ่มที่ลูกค้ารอบดึกทยอยกลับไปจนเกือบหมดเจ๋ในชุดนั่งเรียนรัฐบาลยังนั่งรอที่โต๊ะตัวสุดท้ายอย่างใจจดใจจ่อ

               พี่ตันหยงไม่มาที่ร้านอีกเลยหลังจากวันนั้น

              “เจ๋ ป๊าบอกให้ปิดร้านเเล้วนะ”

              “มันไม่มาหรอก”

              เจ๋ไม่ได้รอใครสักหน่อย

              สุดท้ายเจ๋ก็ถอดใจยกโต๊ะเก้าอี้เข้าไปใต้โต๊ะเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนพี่เจตน์ก็ดึงประตูเหล็กม้วนลงมาล็อกประตูให้เรียบร้อยก่อนจะไล่เจ๋ให้ไปอาบน้ำนอน

              “พรุ่งนี้เจ๋–”
              “รู้เเล้ว ปล่อยกูล้างจานคนเดียวมาทั้งอาทิตย์ ไอ้เด้กเวร”

               อยู่ๆก็รู้สึกร้อนหัวตาจนอยากจะร้องไห้ออกมาเพราะคำว่า รู้เเล้ว ของพี่เจตน์เเม่งโคตรอิมเเพ็คเลย เเต่เจ๋โตพอที่จะรู้สึกกระดากอายวินาทีนั้นคือรีบวิ่งขึ้นชั้นสองล็อคประตูห้องนอนทันที

               เเล้วเจ๋เเม่งก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ ร้องมันตรงหลังบานประตูข้างห้องนอนพี่เจตน์กับห้องนอนป๊ากับหม่าม้านั่นเเหละ เสียงสูดน้ำมูกของเด้กม.ต้นปีสุดท้ายไม่ได้ดังพอที่จะทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตื่น ทว่าดังพอที่จะทำให้ายเจตนิพัทธ์ เเซ่เจิ้งที่เเอบเอาหูเเนบประตูอยู่ได้ยินอย่างชัดเจน

               “เจตน์ ทำอะไร”
               “นอนไม่หลับอ่อป๊า มาเช็กดูเฉยๆว่าไอ้เจ๋หลับไปยัง”

               ปากเเข็งทั้งพี่ทั้งน้องนั่นเเหละ
    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×