คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เจ๋ไม่ได้ชอบ
เห้ย อย่ามาล้อเจ๋นะ
เจ๋ชินเสียเเล้วกับการโดนยูตะล้อว่าครอบครัวจ.จานบ่อยๆ ยอมรับว่าเเรกๆเจ๋ก็โกรธ มาโวยวายกับหม่าม้าว่าทำไมตั้งชื่อเจ๋ว่าเจ๋ ทำไมต้องตั้งชื่อพี่ชายว่าเจตน์ เเล้วตัวเองชื่อเเจ่มทำไม รวมถึงบ่นป๊าที่ชื่อโจเเล้วเปิดร้านขายโจ๊กสูตรต้นตำหรับของอากู๋จากประเทศจีนด้วย
ก็เจ๋ไม่เข้าใจ เจ๋เเค่อยากชื่อเท่ๆเหมือนยูตะ นากาโมโตะ หรือมีชื่อฝรั่งเเบบมาร์คลีบ้าง
ชื่อจ.จานมีตั้งเยอะเเยะ ทำไมหม่าม้าต้องให้เจ๋ชื่อเจ๋ เจย์ จอนห์ จี๊ป เจค เจคอป เจฟเปอร์ เจฟฟรี่ เจนีฟ เจบริค อะไรก็ว่ากันไปสิ ทำไมต้องชื่อนี้
เจ๋ จิรัชยา เเซ่เจิ้ง
มันเป็นชื่อของผู้หญิง พี่เจตน์ชอบล้อเจ๋บ่อยๆ
ซึ่งตอนเเรกเจ๋ก็ไม่เชื่อ เเต่พอพี่เจตน์ย้ำบ่อยเข้า เจ๋ก็ชักจะไม่มั่นใจเเล้วเหมือนกัน ขนาดอาจารย์ประจำชั้นยังชอบจำชื่อเจ๋สลับกับเพื่อนผู้หญิงในห้องเลย
หน้าก็ตี๋ ทำไมเจ๋ต้องมามีชื่อจีนๆเเบบนี้อีก
ตอนเด็กๆเจ๋ชอบเถียงกับหม่าม้าบ่อยๆ ทำไมหม่าม้าถึงให้พี่เจตน์ใช้ชื่อว่าเจตน์ ถึงจะนามสกุลเดียวกัน เเต่ชื่อพี่เจตน์ก็ดูหล่อกว่าเจ๋มากๆอยู่ดี หม่าม้ารักพี่เจตน์เเต่ไม่รักเจ๋เลย
“น้องเจ๋ รีบเก็บชามมาให้พี่เจตน์ล้างเร็วลูก”
“เเปปหม่าม้า เจ๋รับออเดอร์ลูกค้าอยู่”
เจ๋ตะโกนตอบหม่าม้าที่เฝ้าหม้อโจ๊กอยู่ในครัวกับป๊า พี่เจตน์หลังจากเตะบอลเสร็จก็ต้องมาล้างจานช่วยหม่าม้า ส่วนเจ๋มีหน้าที่รับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง คิดเงินค่าโจ๊กเเต่ละชาม รอรับเงินเเล้วก็จ่ายตังทอน
“ตกลงจะกินไม่กิน”
สาบานเลยว่าถ้าหม่าม้ามาได้ยินเข้าเจ๋ต้องโดนดุเเน่ๆ เเต่เจ๋ไม่สนหรอก พูดขนาดนี้ยังเจอหน้าทุกวันเลย
มาทุกวัน เเต่ก็มานั่งเฝ้า ถ้าเจ๋ไม่เดินมาหาก็ไม่สั่งสักที
“พี่เอาเหมือนเดิม”
“เหมือนเดิมอะไร ก็สั่งมาสิ เจ๋จะไปจำได้ยังไง”
“นี่น้องเจ๋จำไม่ได้จริงดิ”
“เออ”
“โจ๊กหมูใส่ไข่ไม่ใส่ต้นหอมขอขิงซอยเยอะๆ”
“รับอะไรดีครับ”
“โจ๊กหมูใส่ไข่ไม่ใส่ต้นหอมขอขิงซอยเยอะๆ”
“เท่าไหร่ครับ”
“โจ๊กเปล่าสี่สิบบาท ใส่ไข่เพิ่มเป็นสี่สิบห้า น้ำอัดลมกระป๋องละสิบสองบาทรวมเป็นห้าสิบเจ็ดบาทครับผม”
“ไม่ พี่หมายถึงน้องเจ๋อะ เท่าไหร่”
เจ๋จะลืมลงได้ยังไง
“เอาเเป๊ปซี่ด้วยไหม เจ๋จะได้เอามาให้ทีเดียว”
“ไม่ต้องมาทำตาเป็นประกาย”
“พี่ตันหยง เจ๋ไม่ตลกนะ”
นี่ไงเหตุผลที่เจ๋ไม่อยากมารับออเดอร์ลูกค้า ไม่ใช่ว่างานหนักหนาอะไร หนักกายน่ะไม่ เเต่หนักใจยิ่งกว่า เจ๋ยอมไปล้างจานกับพี่เจตน์ยังจะดีกว่าต้องมารับออเดอร์ของพี่ตันหยง
มาทุกวัน ไม่รู้ติดใจอะไรนักหนา พอมาเเล้วก็ชอบมานั่งทำตาหวานใส่ เจ๋จะมีสมาธิเก็บเงินลูกค้าได้ยังไง
“น้องเจ๋โกหก พี่ใจเเป้วเลยรู้มั้ย มาทุกวันจะจำไม่ได้ได้ไง เนอะ”
“รู้ตัวเเล้วก็ดี คราวหลังก็ไม่ต้องมาอีก กินข้าวที่บ้านพอ”
“น้องเจ๋พูดงี้เป็นพ่อค้าได้ไงวะ”
“อย่ามาวะกับเจ๋นะ เดี๋ยวเจ๋จะฟ้องลุงต้นจริงๆด้วย”
อายุก็มากกว่าเจ๋ตั้งหลายปี เเต่ตัวก็เเค่นี้เเถมยังพูดไม่รู้เรื่องอีก เจ๋สงสารลุงต้นเพราะเเกชอบซื้อเงาะมาฝากหม่าม้าเฉยๆหรอกเลยไม่ไล่พี่ตันหยงออกจากร้านอะ
“น้องเจ๋ไม่ฟ้องหรอก”
“เจ๋ฟ้องเเน่ๆ ถ้าพี่มาพูดจาเเบบนี้กับเจ๋อีก ไม่น่ารัก”
“น้องเจ๋..”
“ไม่ต้องมาทำตาละห้อย”
ดูเอาเถอะ พอโดนดุเข้าหน่อยก็นั่งทำตาละห้อยใส่ ลำบากเจ๋ต้องมานั่งง้ออีก
“เดี๋ยวเจ๋บอกหม่าม้าใส่ขิงให้พี่เยอะๆ”
“อื้อ”
“เอาไข่สองฟองเลยไหมพี่ตันหยง”
“ตังไม่พอ”
“เจ๋เลี้ยง”
“ไม่เอาอะ อิ่ม”
เนี่ย พี่ตันหยงก็ชอบเป็นเเบบนี้ อะไรนิดอะไรหน่อยก็เก็บเอาไปคิดเก็บเอาไปใส่ใจหมด ลุงต้นเลี้ยงลูกยังไงถึงโตมาเเบบนี้วะ เจ๋อยากรู้จริงๆ
“น้องเจ๋ พี่เจตน์บ่นเเล้วนะลูก”
“เเปปนะหม่าม้า”
เจ๋เดินไปเก็บชามจากโต๊ะที่ลุกออกไปเเล้วซ้อนกันเป็นชั้นๆ มือนึงก็ต้องถือเเก้วน้ำ อีกมือก็ต้องถือชามโจ๊ก วันๆนึงเจ๋เดินจนหัวหมุนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
“เดี๋ยวพี่ช่วยเองน้องเจ๋”
“อย่าให้หล่น เข้าใจไหม ถ้าตกเเตกเจ๋คิดใบละร้อย”
เจ๋กำชับพี่ตันหยง เจ้าตัวพยักหน้ารับรัวๆจนผมหน้าม้ากระจาย เจ๋เเบ่งชามให้พี่ตันหยงช่วยถือสี่ใบ เเต่เจ้าตัวไม่พอใจ
“เอามาให้มันเท่าๆกันดิน้องเจ๋”
“พอเเล้วพี่ตันหยง เดี๋ยวเจ๋ถือเอง มันหนัก”
“เพราะมันหนักไงน้องเจ๋เลยต้องให้พี่ถืออะ”
“เจ๋บอกว่าพอคือพอ เข้าใจไหม เดินตามมา อย่าสะดุดนะ หน้าประตูพื้นต่างระดับ”
พี่ตันหยงพยักหน้ารับเเบบหงอยๆ ตัวก็เเค่นี้ เจ๋สูงกว่าตั้งหลายเซนต์ยังอยากจะโชว์พาวอีก เจ๋หันมองพี่ตันหยงเป็นระยะ ไม่ใช่อะไรหรอก เจ๋กลัวพี่ตันหยงทำชามตกเเตกต่างหาก ถ้าร้านเจ๋อยู่รอดเพราะขายโจ๊ก ตัวล้างผลาญกำไรก็คือพี่ตันหยงในเวอร์ชั่นที่ถือชามโจ๊ก พี่ตันหยงทำชามของหม่าม้าเจ๋เเตกมาเเล้วกี่ใบต่อกี่ใบก็ไม่รู้
“พี่!”
ทันทีที่พี่ตันหยงเดินตามหลังเจ๋มา ไม่รู้อะไรดลใจให้พี่ตันหยงสะดุดเท้าตัวเอง สะดุดเท้าตัวเองจริงๆ โง่มากๆจนเจ๋เป็นห่วง ห่วงว่าชามจะเเตกจนกลายเป็นเจ๋เองที่ถือชามหนักกว่าเเล้วเสียหลักล้มลงไปกับพื้น
“น้องเจ๋!”
เคร้ง!
“อีตันหยง มึงอีกเเล้วเหรอ”
“เจตน์! อย่าหยาบคายกับน้อง”
“ก็มันทำชามเราเเตกไปกี่ใบเเล้วม้า จะขาดทุนเพราะมั- อ้าว! มึงเองเรอะ!”
“น้องเจ๋! เจ็บมากไหมลูก”
“ไอ้เจ๋ อะไรของมึงวะ อายไหม อีตันหยงถือมาตั้งสี่ใบมันยังไม่ล้ม!”
“เห็นมั้ยน้องเจ๋ พี่บอกเเล้วไงว่าเอาอันหนักๆมาให้พี่ถือ!”
เจ๋อยากจะขำให้ฟันร่วง ก็ไม่ใช่เพราะพี่มันเดินมาชนเจ๋หรือยังไงเจ๋ถึงได้ล้มหน้าทิ่มเเบบนี้!
/
ตันหยง ตรัณ พัฒนาการ
เป็นลูกชายคนเดียวของลุงต้นเจ้าของอู่ซ่อมรถที่อยู่ถัดจากบ้านของเจ๋ไปสองซอย
พี่ตันหยงเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเจ๋เเละพี่เจตน์ พี่ตันหยงอยู่ม.5 พี่เจตน์อยู่ม.6 พี่ตันหยงตัวเล็กมากๆเมื่อเทียบกับเจ๋ ไม่ต้องเทียบกับพี่เจตน์หรอก ขนาดเจ๋เป็นน้องสองปีเจ๋ยังสูงกว่าพี่ตันหยงตั้งเยอะ
หม่าม้าเจ๋เริ่มขายโจ๊กของช่วงเช้าตั้งเเต่ตีห้าถึงเก้าโมง ส่วนเจ๋กับพี่เจตน์ต้องมาช่วยที่ร้านตอนเลิกเรียนเสร็จ คือห้าโมงเย็นจนถึงสามทุ่ม
เจ๋ไม่ได้ช่วยงานหม่าม้าในช่วงเช้าถ้าไม่ใช่วันหยุด พี่เจตน์เองก็เหมือนกัน เเต่ทุกๆวันในช่วงเย็นเจ๋จะเจอลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถอยู่ที่ร้านเป็นประจำ เจอบ่อยจนเจ๋งงว่าบ้านพี่ตันหยงไม่มีข้าวกินหรือไง
เจ๋ดีใจที่หม่าม้าจะได้ขายโจ๊กได้เยอะๆ เเต่เจ๋ไม่ดีใจที่ต้องมาเจอพี่ตันหยงทุกวัน พอเจ๋ขอเปลี่ยนหน้าที่กับพี่เจตน์ให้มารับลูกค้าเเทน วันนั้นพี่เจตน์กลับบอกว่าไม่เจอพี่ตันหยงซะงั้น เจ๋ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจ๋ถึงดวงสมพงษ์กับลูกชายของลุงต้นด้วย
พี่ตันหยงมากินโจ๊กร้านเจ๋บ่อยจริงๆ ถ้าจะให้เจ๋นับ ก็คงจะเป็นหกวันต่อสัปดาห์ หักไปหนึ่งวันเผื่อวันไหนที่พี่เจตน์ขี้เกียจล้างจานเเล้วมาเสิร์ฟเเทน วันนั้นเจ๋จะไม่เจอพี่ตันหยงย่างกรายเข้ามาภายในร้านเเม้เเต่เงา เจ๋อิจฉาพี่เจตน์จริงๆ นอกจากชื่อจะเท่กว่ายังไม่ต้องทนคุยกับพี่ตันหยงเกือบทุกวันเเบบเจ๋
“น้องเจ๋!”
รวมถึงวันนี้ด้วย
ขนาดเเค่มาซื้อต้นหอมให้หม่าม้าที่ตลาดเจ๋ยังต้องเจอพี่ตันหยงที่เรียกชื่อเจ๋อยู่หน้าบ้านจนลุงต้นที่กำลังซ่อมรถอยู่หันมามอง เจ๋สวัสดีลุงต้นก่อนจะหันมามองที่ตันหยงที่วิ่งหน้าตั้งออกมาจากอู่ซ่อมรถ
“น้องเจ๋มาทำอะไรครับ”
“เจ๋มาซื้อต้นหอมกับซีอิ๊วให้หม่าม้า”
“อิจฉาซีอิ๊วที่อยู่ในมือน้องเจ๋”
ก็เนี่ยไง พี่ตันหยงชอบเป็นเเบบนี้ ทำไมต้องมาพูดจาเเปลกๆใส่เจ๋ตั้งเเต่เช้าด้วยก็ไม่รู้
“เจ๋ต้องไปเเล้ว”
“ไปไหน ให้พี่ไปส่งมั้ย พี่อยากกินโจ๊กฝีมือเเม่-”
“เเม่อะไร”
“เเม่น้องเจ๋ๆ พี่ยังพูดไม่ทันจบเลย”
เจ๋พยักหน้ารับเพราะไม่อยากจะคุยอะไรกับพี่ตันหยงต่อ ก่อนที่พี่ตันหยงจะรีบวิ่งไปจูงจักรยานเเม่บ้านคันสีม่วงออกมาหาเจ๋ที่ยืนถือถุงต้นหอมกับขวดซีอิ๊วในมือ เเละหม่าม้าก็กำชับเจ๋นักหนาว่าต้องตราเด็กสมบูรณ์เท่านั้น หม่าม้ามีเด็กสมบูรณ์เป็นสปอนเซอร์หรือไงก็ไม่รู้
คิดอะไรเพลินๆอยู่สักพักพี่ตันหยงก็เดินทำหน้าหงอยๆมาบอกว่าพ่อไม่ให้ไป เจ๋ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีในตอนนั้น ถ้าดีใจจะผิดไหม เเต่จะดีใจก็ดีใจไม่สุดอีกเพราะเจอพี่ตันหยงในเวอร์ชั่นหน้างอคอหักเป็นปลาทูเเม่กลองจูงจักรยานไปเก็บไว้ใต้ต้นตะขบหน้าบ้านเหมือนเดิมเเล้วเจ๋ไม่ชินเลย
“ทำไมไม่ให้ไป”
“พี่โจ้ไม่อยู่ พ่อบอกให้พี่ช่วยเปลี่ยนยางลูกค้าให้เสร็จก่อน”
“เเล้วพี่กินข้าวยัง”
พี่ตันหยงพยักหน้ารับ เอ้า บ้านก็มีข้าวกินนี่หว่า ทำไมต้องไปกินโจ๊กที่บ้านเจ๋ทุกวันด้วยก็ไม่รู้
“เปลี่ยนเสร็จเเล้วค่อยไป”
“พี่อยากไปส่งน้องเจ๋”
ส่งน้องเจ๋อะไรกัน ตัวก็เเค่นี้ คิดว่าที่จูงจักรยานมาเมื่อกี๊เจ๋จะได้ซ้อนหรือไง ยังไงซะพี่ตันหยงก็ปั่นเจ๋ไปส่งถึงบ้านไม่ไหว ลำบากเจ๋ต้องเป็นคนปั่นเเถมยังต้องกลับมาส่งพี่ตันหยงที่บ้านอยู่ดี
“เจ๋จะไปเเล้วนะ หม่าม้าโทรตามเเล้ว”
“น้องเจ๋..”
“ก็ค่อยมาที่ร้านตอนเย็นก็ได้ ยังไงตอนเย็นเจ๋ก็อยู่”
“เตชภณชอบใจร้ายเนาะ ว่ามั้ยน้องเจ๋”
“ทำไมเรียกพ่อเเบบนั้น”
“ก็อยากไปกับน้องเจ๋”
“เจ๋ไม่ให้ไปเเล้ว ไม่น่ารักเลย”
“อีกเเล้วนะน้องเจ๋ อะไรก็ไม่น่ารัก ไม่ไปก็ได้ สวัสดีครับ”
เอ้า อะไรของพี่ตันหยง ยกมือไหว้เจ๋เเล้วก็เดินกลับเข้าบ้านจนลุงต้นหันมามอง เจ๋ทำอะไรผิดอีกวะ เจ๋งง ทำไมพี่ตันหยงต้องเอาเเต่ใจ หม่าม้าก็โทรตามจนเจ๋ต้องกดรับเเล้วพูดตอบกลับไปว่า
“เเปปนึงได้มั้ยหม่าม้า เจ๋ต้องช่วยพี่ตันหยงเปลี่ยนยางรถช่วยลุงต้นก่อน”
ก็ชอบเป็นเเบบเนี้ย จิรัชยา เเซ่เจิ้ง เลยไม่ชอบพี่ตันหยงมากๆ
ความคิดเห็น