ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰

    ลำดับตอนที่ #17 : กุ๊งกุ๊งที่ 15 : ซึมเป็นส้วม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27.21K
      2.53K
      22 ก.พ. 63

    สามหกสิบแปด 15

     



     

    [nay]

     

     อยากเป็นด็อกเตอร์สเตรนจ์ อยากหยุดเวลาได้ ไม่อยากให้วันสุดท้ายมาถึง 

    เพิ่งจะมารู้ว่าตัวเองไม่ได้มีของอะไรติดตัวสักเท่าไหร่ก็ตอนที่หมดหนึ่งเดือนแล้วแต่แทบไม่มีของให้ขนกลับเลย เสื้อผ้าก็ใส่ชุดเดิมๆ อยากเปลี่ยนแบบก็แค่ไปเอาเสื้อยืดลุงมาใส่เป็นเสื้อโอเวอร์ไซซ์ ข้าวของอะไรก็แทบไม่มีติดตัว เรียกได้ว่าเป็นไปแต่ตัวที่แท้จริง 

     

    ซึมเป็นส้วมเลย ฮือ

    หนึ่งเดือนทำไมผ่านไปเร็วขนาดนี้!!!

     

    “อ้าว ไอ้เน มึงเป็นอะไรอีกเนี่ย เดี๋ยวบางวันก็ดีดอารมณ์ดี บางวันก็นั่งหน้าเหมือนปวดขี้แต่ท้องผูก” เปรียบเทียบอะไรของมันวะเนี่ย ผมถ่ายสุขภาพดีเพราะลุงบังคับกินผักเถอะ ผม หันไปทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ไอ้กัน

    “ท้องผูกพ่อง”

    “เล่นพ่อว่ะ” ไม่โกรธแถวหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอีกต่างหาก ไอ้กันใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเผชิญหน้าผม มันกระดกคิ้วกวนตีนก่อนจะเอ่ยถามต่อ “เป็นไรวะหนูเน บอกกูมาหน่อย กูขี้เสือก” 

    “เห้ออออออออ”

    “แหนๆ มีถอนหายใจกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นกู”

    “เซ็งว่ะกัน”

    “ยังไงๆ” ไอ้กันทำหน้าทำหน้าตามีอารมณ์ร่วมอย่างสุดซึ้งแม้ผมจะยังไม่ได้เล่า

    “กูไม่อยากย้ายออกจากห้องลุงเลย”

    “...”

    “ไมมึงเงียบ” อดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อแทนที่ไอ้กันจะรีบแจ๋นชงนู่นชงนี้กลับกลายเป็นนั่งนิ่งพร้อมกับขมวดคิ้วเป็นโบว์

    “เดี๋ยวนะเดี๋ยวก่อนเลยไอ้หนูเน....”

    “...”

    “นี่มึงไปค้างห้องไอ้ลุงนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่” 

     

    อ้าว...

    ไม่เคยบอกหรอ...

     

    “ครบหนึ่งเดือนวันนี้นี่แหละ ไม่ได้กลับบ้านเลย” พอผมพูดจบไอ้กันก็เบิกตากว้าง ตบโต๊ะดังปึ้ง เล่นใหญ่ไม่มีใครเกิน มันทำท่าเหมอนจะตะโกนแต่ก็เปลี่ยนใจเป็นนั่งลงตามเดิมแล้วกระซิบด้วยเอเนอร์จี้ตะโกน

    “ไอ้เชี่ยเนนนนน มึงบ้าเรอะ นี่กูคิดว่ามึงแค่ไปขลุกอยู่ห้องทำงานไอ้ลุงนั่นเล่นๆ เห็นอากูมาเล่าว่าเห็นมึงไปป้วนเปี้ยนแถวห้องทำงานบ่อยแต่กูไม่คิดว่าจะถึงไปค้างเป็นเดือน นี่... นี่...  มึงเป็นเด็กเสี่ยจริงจังหรอเนี่ย นี่มึงอย่าบอกนะว่า มึง มึง มึง..”

    “มึงอะไรวะ”

    “มึงเสร็จลุงไปแล้วหรอ!!!

     

    สะ เสร็จลุง?

     

    “มึงจะบ้าเรอะะะะ”

    “อ้าว ยังไม่เสร็จไปอีกหรอ”

    “หยุดความคิดมึงเลยกัน กูไม่ใช่เด็กเสี่ยแบบนั้นโว้ย”

    “แล้วเป็นแบบไหนหละโว้ย มึงอธิบายมาสิ ตอนนี้ในหัวกูไปไกลมากแล้วเนี่ย” ไอ้กันผูกคิ้วตัวเองเป็นปมแล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผม

    “คะ แค่ไปนอนเฉยๆ”

    “นอนเฉยๆ คือยังไง คือมึงนอนให้ลุงทำอย่างเดียว หรือ-

    “ไอ้สัดดด มึงไม่ลากเข้าอะไรแบบนั้นได้ไหม ลุงไม่ใช่คนอย่างนั้น แค่นอนอ่ะมึงแค่นอนน นอนคร่อกฟรี้” ผมฟาดหัวมันไปหนึ่งป้าปข้อหาพูดจาลามก ไอ้กันร้องโอ๊ยลั่นพร้อมกับยกมือขึ้นลูบจุดที่โดนประทุษร้าย  

    “เชี่ย โล่งไปนิดหนึ่ง แต่มึงอธิบายเพิ่มหน่อยได้ป่ะ มันเป็นยังไงนอนคร่อกฟรี้”

    “ก็แค่นอน เหมือนค้างบ้านเพื่อนอ่ะ มึงจะเล่นใหญ่อะไรทำไม”

    “แต่ลุงนั่นมันไม่ใช่เพื่อนมึงนะ”

     

    แหง...

    จะเพื่อนได้ยังไง ห่างกันเกือบสองรอบ เป็นพ่อยังง่ายกว่าเลย ไอ้กันนี่ก็พูดอะไรงงๆ  

     

    “ก็... ไม่เห็นแปลก”

    “แปลกสิโว้ยแปลกแล้ว มีที่ไหนที่ประธานบริษัทอย่างไอ้ลุงนั่นจะปล่อยเด็กอย่างมึงไปวุ่นวายในชีวิตขนาดนั้น” ไอ้กันชี้นิ้วมาตรงหน้าผม

    “เด็กอย่างกูมันทำไม”

    “เน เด็กอย่างมึงคือเด็กเปรต”

    “สัดกัน”

    “เห้อ กูหมายถึงจริงๆ ลุงเขาชอบมึงรึเปล่า เพราะถ้าไม่ได้ชอบ เขาจะยอมให้มึงไปวุ่นวายทำไมวะ” พอกันพูดจบผมก็รู้สึกเหมือนหน้าตัวเองมันร้อนขึ้น ถึงจะแค่พูดไปเรื่อยก็เถอะ แต่ลุงเนี่ยนะจะมาชอบเด็กอย่างผม

    “บะ บ้าเรอะ มึงก็พูดไปเรื่อย”

    “เออ กูเดา หน้าตาอย่างไอ้ลุงนั่นดูไม่น่าจะแค่ใจดีเฉยๆ ได้หรอก” เหมือนมันจะเหม็นขี้หน้าลุงมากจริงๆ ถึงได้ทำหน้าบรื๋อพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมาแบบนั้น

    “...” 

    “แล้วมึงหน้าแดงทำไมเนี่ย อย่าบอกนะว่าพล็อตทวิสเป็นมึงที่ชอบไอ้ลุงนั่นแทน”

     

    ห๊ะ...

    ห๊ะ!!!

     

    “บะ บ้าแล้ว!!!!

    “เชี่ยเน มึงหน้าแดงทำไมเนี่ย”

    “ตลกแล้วมึง ไม่เล่น อย่างกูหรอจะชอบผู้ชาย ถะ แถมลุงแก่แล้วด้วย ไม่มีทาง”

    “เออ ก็จริง เป็นลุงกูก็ชอบมึงไม่ลงเหมือนกัน”

    “...” จากที่โวยวายผมกลับเปลี่ยนมาขมวดคิ้วแทน 

     

    ... คนอย่างผมมันทำไมวะ

    ทำไมลุงถึงจะชอบคนอย่างผมไม่ได้

     

    “กูก็พูดเล่นไปงั้น ลุงไม่น่ามาชอบเด็กอย่างมึงหรอก อากูบอกมาว่าสาวของลุงแม่งพรีเมี่ยมทั้งนั้น”

    “...” ไม่เห็นจะจริง อยู่ด้วยกันมาหนึ่งเดือน เห็นมีผู้หญิงใกล้ที่สุดก็เลขาหน้าห้องทำงาน ไอ้กันมั่วแล้วแน่ๆ 

    “เห็นลุงนั่นนิ่งๆ แต่อากูบอกว่าลุงแม่งฮอตมากนะเว้ย สาวๆ เขาแย่งกันเป็นบอลในลิงชิงบอลเลย”

    “...”  ไม่เห็นจะฮอตตรงไหนเลย ผู้ชายแก่ขี้บ่น กินแป๊ปซี่เยอะก็บ่น ปรุงเปรี้ยวมากก็ดุ แถมยังทำตัวเป็นลุงแก่ๆ ด้วยการใช้ฟ้อนต์มือถือตัวใหญ่ๆ แต่ยังนิ้วเบียด ไม่เห็นจะฮอตตรงไหนเลย ก็แค่ลุงน่าเบื่อธรรมดา 

    “วัยลุงแม่งควรมีเมียได้แล้วนะกูว่า”

    “...” 

    “เห็นอากูพูดเหมือนกันว่าจะรีบหาเมียให้ลุง จะได้เลิกอารมณ์บูดแล้วมาช่วยตบมุกเสียที” สิ้นคำของกันผมก็เห็นแต่ภาพลุงใส่ชุดสูทในวันแต่งงานขึ้นมาในหัว

     


    ลุงมีเมียงั้นหรอ...

     


    ปั้ง!!!!

     

    “เย้ยย มึงตบโต๊ะทำไมเนี่ยไอ้เน” 

    “ห้ามนะ...” 

    “ห๊ะ ห้ามไรมึง”

    “กะ กู... กูปวดขี้” ผมหาข้ออ้างที่โง่ที่สุดพูดออกไปก่อนจะรีบออกตัววิ่งหนีออกมาจากห้องเรียน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะวิ่งไปไหน รู้แต่ว่าหัวใจมันบีบ มันอึดอัด มันอยากจะร้องไห้ 

     

     

    เหมือนทำของหาย...

    เหมือนอะไรบางอย่างกำลังจะหายไป...

    เหมือนทุกอย่างกำลังจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม...

     

     

    ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะรวบรวมความอึดอัดทั้งหมดเก็บไว้เพื่อรอเลิกเรียนจะได้ไประบายกับลุง แต่ทุกอย่างก็ผิดแผนไปหมดเมื่อเลิกเรียนแล้วออกมาเจอพี่แนนยืนรออยู่ 

     

    “ไง ไอ้แสบ” พี่แนนยิ้มพร้อมกับเดินมาขยี้หัวผม 

    “พี่แนน...”

    “พี่ไม้โทรมาบอกให้พี่มารับกลับบ้าน คืนตรงเวลาเชียว ไปสร้างปัญหาอะไรไว้เปล่าเนี่ย” คำทักทายแรกก็ทักเป็นตัวปัญหาเลย ถึงจะรู้ว่าแค่พูดเล่นๆ ก็เถอะ 

     

    ว่าแต่นะ

    ลุงใจร้ายเป็นบ้าเลย เจอกันเลิกเรียนก็รอไม่ได้ อยากไล่กันขนาดนั้นเลยหรอ  

     

    “พี่แนน กระเป๋าเสื้อผ้าเน...”

    “อยู่บนรถแล้ว พอดีเมื่อกี้พี่ไปเจอพี่ไม้ที่สตาร์บั๊คพอดีก็เลยขนมาหมดแล้ว มีอยู่ใบเดียวเอง”

    “...”

    “ป่ะ กลับบ้านกัน”

    “อื้อ” 

     

    ใจหล่นลงไปอยู่ที่เท้า

    ผมอยากร้องไห้สุดๆ แต่ก็ทำได้แค่เพียงฮึบก้อนน้ำตาลงคอแล้วก็เดินตามพี่แนนไปที่รถ ตลอดระหว่างทางกลับบ้านพี่แนนก็ถามคำถามมาหลายข้อแต่พอเห็นว่าผมตอบสั้นๆ ก็เลิกถามไป ทางกลับบ้านเส้นเดิมที่นั่งมองถนนมาตั้งแต่เด็กยิ่งทำให้ผมคิดถึงทางกลับไปคอนโดลุง

     

     ทุกครั้งที่นั่งรถลุงกลับห้องไม่เคยเลยที่จะรู้สึกอึดอัดไม่อยากให้ถึงแบบนี้ 

     

    เพียงไม่นานก็ถึงรั้วบ้านที่คุ้นเคย และแน่นอนว่าผมเป็นคนรับหน้าที่ลงไปเปิดตามเคย แค่เห็นตัวบ้านจิตใจก็ห่อเหี่ยว ไม่อยากจะเข้าบ้านเลย

     

    “เน มาขนของตัวเองลง”

    “ค้าบบ” ผมรีบวิ่งไปเปิดหลังรถขนกระเป๋าเสื้อผ้ากับกระเป๋านักเรียนลง ตอนนั้นเองที่เห็นที่ห้อยเป็นเครื่องรางสีชมพูกำลังแกว่งอยู่

     

    จะว่าไป...

    ตอนไปซื้อกับพี่แนนเหมือนจะเป็นสีขาวแต่พอกลับถึงไทยก็กลายเป็นสีชมพู อาจจะเป็นเทคโนโลยีไหมเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิประเทศที่ญี่ปุ่นผลิตก็เป็นได้ 

     

    “เน ทำไร รีบเข้าบ้าน”

    “ค้าบบบบ” 

     

    ผมโยนความคิดไร้สาระเกี่ยวกับเครื่องรางทิ้งไปแล้วรีบเดินเข้าตัวบ้าน ภายในบ้านยังคงมีกลิ่นอายที่เหมือนจะอบอุ่น 

     

    แต่ก็ไม่...  

    เพียงแค่เห็นหน้าพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นก็รู้สึกเหมือนจะต้องโดนดุอะไรสักอย่างแล้ว

     

    “พ่อ แม่ สวัสดีครับ เนกลับมาแล้ว” 

    “ไปทำอะไรที่ต้องขายขี้หน้ามาหรือเปล่า” สายตาดุใต้กรอบแว่นจ้องนิ่งมาเหมือนตำหนิ ตัวผมเองก็รู้สึกเหมือนตัวเองทำอะไรผิดขึ้นมาทันที

    “เปล่าครับ” 

    “ก็ดี”

    “...” ผมรู้สึกได้ถึงมือที่ชื้นเหงื่อจนต้องกุมชายเสื้อนักเรียนไว้แน่นจนยู่ 

    “เห็นแนนบอกว่าไปรบกวนให้เขาสอนหนังสือ หวังว่าเกรดเทอมนี้จะดีขึ้นบ้างนะ”

    “เนจะพยายาม”

    “ไม่ได้ต้องการความพยายาม”

    “...”

    “ต้องการให้ทำให้ได้”

    “คือเน...”

    “ไอ้พยายามบอกมาเป็นปีแล้วก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรดีขึ้น ทำให้ได้หน่อยเถอะ ดูพี่เขาหรือพี่แนนเป็นตัวอย่างบ้าง ไปอยู่มาหนึ่งเดือนนอกเหนือจากรบกวนเขาก็เอาด้านดีๆ ของเขามาด้วย”

     

    ช่างเป็นการกล่าวต้อนรับกลับบ้านหลังหายไปหนึ่งเดือนที่อบอุ่นดี ผมได้แต่แค่นยิ้มในใจ ไม่น่าคาดหวังเลยว่ากลับมาจะถูกถามว่าวันนี้เป็นไงบ้างหรือตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง สุดท้ายก็ต้องมาผิดหวังที่โดนตำหนิตั้งแต่ก้าวแรกที่สัมผัสตัวบ้าน 

     

    “ครับ” รับคำง่ายๆ ให้บทสนทนารีบๆ ตามปกติที่เคยทำ “งั้นเนเอาของไปเก็บในห้องก่อนนะ”

    “อืม เก็บเสร็จแล้วก็ลงไปช่วยแม่เขาทำอาหาร”

    “ครับ” 

     

    ในที่สุดบทสนทนาก็จบ ผมรีบก้าวขาฉับๆ เข้าห้องนอน พอประตูปิดกลับเข้าพื้นที่ตัวเองก็ถอนหายใจออกมา ไปอยู่กับลุงมานานจนเผลอลืมไปเลยว่าบรรยากาศที่บ้านมันอึดอัดแบบนี้

     

    แย่จัง

    อยากกลับห้องลุง อยากไปอยู่กับลุง 

     

    ครืดดดดดด

    อ๊ะ... ใครส่งอะไรมา 

     

     

    Seemai : ถึงบ้ายรึยัง 

    Seemai : *สติ๊กเกอร์หมีงง*

    Seemai : *บ้าบ

    Seemai : *บ้าน

     

    โอ้โห ดูใช้สติ๊กเกอร์ แบ๊วมากมั้งลุง เห็นแล้วก็ได้แต่พ่นหัวเราะออกมา ให้คะแนนความพยายามเต็มสิบ

     

    Naynayy : ถึงแล้ววววววว

    Naynayy : ติ๊กเก้อแบ๊วไปป่ะ

    Naynayy : ลุงอยู่ไหน กลับห้องยังงงงง 

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวงง*

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวงง*

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวงง*

     

    ตอบช้าจัง ไมแต่พอนึกไปถึงว่าปกติลุงก็ชอบพิมพ์ช้าแบบนี้อยู่แล้ว กว่าจะหานแว่นเจอ กว่าจะหาตัวอักษรเจอ กว่าจะลบที่พิมพ์ผิดแล้วพิมพ์ใหม่ เค รอหน่อยก็ได้ 

     

    Seemai : เพิ่งถึง

     

    ผ่านไปหนึ่งนาที ได้คำตอบมาแค่สั้นๆ แต่แค่นั้นผมก็รู้สึกใจมันฟองฟูขึ้นมาแล้ว 

     

    Naynayy : พรุ่งนี้จะไปโรงเรียนแต่เช้า

    Naynayy : เช้าแบบไม่เข้าสายชัวๆๆ

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวชูนิ้วโป้ง*

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวยิ้ม*

     

    คุยไลน์กับลุงทีไร หนักขวาตลอดเลย แต่ผมก็ชินแล้ว ลุงไม่ใช่คนพิมพ์ไว บางครั้งก็เลือกไม่พิมพ์ตอบแต่โทรหาแทน 

     

    Seemai : เช้า?

    Seemai : เชื่อได้แค่ไหน

    Seemai : เด็กขี้เชา

    Seemai : *เซา

     

    ชะๆๆๆๆ 

    มีการดูถูกอ่ะ 

     

    Naynayy : ไม่เชื่อก็มารอดูก่อนเข้าแถวเลย

    Naynayy : เนทำได้

    Naynayy : ไปก่อนลุงทำงานอีก!!! 

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวกอดอกทำหน้าโกรธ*

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวกอดอกทำหน้าโกรธ*

    Naynayy : *สติ๊กเกอร์แมวกอดอกทำหน้าโกรธ*

     

    ผมเป็นคนชอบส่งสติ๊กเกอร์หลายๆ อัน เป็นการย้ำว่ารู้สึกตามสติ๊กเกอร์มากแค่ไหน บางครั้งถ้าผมโกรธเพื่อนมากๆ ก็จะจัดไปเลยแมวโกรธสิบตัว ส่วนลุงส่งเยอะไม่ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะล่กแล้วพิมพ์ผิดๆ ถูกๆ เลยส่งไปกวนประสาทสามตัวพอ ฮี่ๆ 

     

    “น้องเน ลงมาช่วยแม่หั่นผักหน่อยลูก” เสียงแม่ตะโกนลั่นทำให้ผมรีบโยนมือถือลงบนเตียงแล้ววิ่งลงไปช่วยแม่ในครัว จังหวะที่เดินผ่านห้องนักเล่นเลยถูกสายตาตำหนิจากพ่อมาหนึ่งครั้งที่ต้องรอให้แม่สั่งถึงจะยอมลงมาทำ

     

    เห้อ...

    คิดถึงลุงจัง 

     

    หลังจากกินข้าวเย็นแล้วก็ช่วยแม่ล้างจานเสร็จผมก็รีบวิ่งขึ้นมาเพื่อคุยไลน์กับลุง ตอบช้าบ้างไร้สาระบ้างแต่ก็ถือเป็นโมเมนต์ที่ทำให้มีความสุข ผมนอนกลิ้งอยู่บนเตียงหลังจากที่ลุงไลน์มาบอกฝันดี ตั้งใจไว้แล้วว่าพรุ่งนี้จะต้องรีบตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนให้ทันก่อนเวลาเข้าแถวแล้วจะไลน์ไปบอกลุงด้วยว่าทำได้ ไม่มีลุงมาปลุกก็ทำได้ ทำได้อยู่แล้วแหละ

     

    .

    .

    .

     

     

    นาฬิกาปลุกเคยเป็นเสียงที่น่ารำคาญสำหรับผม

    แต่วันนี้เพียงแต่มันขยับตัวสั่นผมก็เด้งตัวจากเตียงอย่างรวดเร็วก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำพร้อมกับอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเตรียมลงไปกินข้าวเช้า ทำทั้งหมดนั่นเสร็จภายในสามสิบวินาที 

     

     

    “เน... ทำไมตื่นเช้าจังลูก” แม่ที่กำลังทอดไข่ดาวหันหน้ามาทักผม ดูเหมือนแม่จะแปลกใจเอาเสียมากๆ 

    “แหะๆ ”

    “ตื่นเองโดยที่แม่ไม่ต้องขึ้นไปปลุกด้วย เก่งนะเรา”

    “แม่ เนอยากกินไส้กรอกปลาหมึก”

    “ไม่มีหนะสิ แม่ลืมซื้อไส้กรอก เป็นเบค่อนไข่ดาวแทนนะ”

    “อ่ะ อือ ก็ได้ครับ” 

    “แล้วนี่จะรอพี่แนนไปส่งไหม แนนน่าจะอีกสักพักกว่าจะตื่น ไปใกล้ๆ เข้าแถวแล้วกันนะ”

    “มะ ไม่ๆ งั้นเนไปเองก็ได้ อยากรีบไปอ่ะแม่” พอผมพูดว่าอยากรีบไปแม่ก็ยิ่งขมวดคิ้วงง

    “อะไรกัน เราเนี่ยนะจะอยากรีบไปโรงเรียน นัดทำอะไรไม่ดีกับเพื่อนไว้รึเปล่าเนี่ย” เอาอีกแล้ว ทำไมพอเป็นผมจะต้องโดนหาว่าทำอะไรไม่ดีตลอดเลย คนอุตส่าห์อยากรีบไป ไม่ดีหรือไงนะ

    “เปล่า” ผมใจเสียนิดหน่อยแต่ก็รีบปรับอารมณ์ “เนแค่อยากไปเร็วๆ ”

    “เอาเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไป เดี๋ยวแม่บอกแนนให้เอง แนนจะได้ไม่ต้องรีบตื่น อย่าให้รู้ว่าไปดื้อที่ไหนนะเน”  

    “ครับ...” ผมรับคำแล้วก็นั่งลงจิ้มขนมปังชุบไข่ทอดเข้าปากเงียบๆ 

     

    เสียใจนิดหน่อยที่โดนหาว่าจะไปทำไม่ดี แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวก็ได้เจอลุงแล้ว พอคิดได้อย่างงั้นผมก็ใจชื้นขึ้นมา พอแม่ทอดเบค่อนกับไข่ดาวเสร็จผมก็รีบยัดเข้าปากด้วยความเร็วแสงก่อนจะคว้ากระเป๋าวิ่งออกมาจากบ้าน ปกติแล้วผมไม่ค่อยได้ขึ้นรถเมล์ไปเองเท่าไหร่เพราะคนเยอะ แถมพี่แนนก็ขับไปส่งอยู่ตลอดด้วยความที่เป็นทางผ่านไปมหาลัยพี่แนนอยู่แล้ว 

    รถเมล์ในตอนเช้าคนก็จะแน่นเป็นพิเศษ เบียดจนพุงแทบยุบ เสื้อนักเรียนก็มายับมันตอนนี้แหละครับ แถม... ออหอ กลิ่นเต่ายามเช้า ขมคอเลย ฮือออออ นึกถึงกลิ่นน้ำหอมของลุงเลย อยากฟุดฟิดเป็นบ้า 

    ใช้เวลาเดินทางอยู่ครึ่งชั่วโมงรถเมล์ก็มาจอดลงแถวหน้าโรงเรียนผม เพียงแค่ก้าวขาลงมา ตาผมก็เห็นสิ่งไม่เข้าพวกที่ตั้งอยู่หน้าโรงเรียนทันที

     

    อืม...

    ผู้ชายมีอายุใส่สูทยืนล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคเนี่ย 

    ม่ได้เข้ากับประตูโรงเรียนมัธยมเลยสักนิด


     

    ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นลุงยืนกอดอกดึงหน้า มองนักเรียนเดินไปเดินมา โคตรจะน่าสงสัยทำไมลุงยามไม่มาไล่ก็ไม่รู้ 

     

    “ลุงงง” ผมตะโกนเรียกก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหา แน่นอนว่าหน้าดุนั่นตวัดมองผมอย่างแปลกใจ

    “โอ้ ตื่นจริงแหะ”

    “โห่ ดูถูกอ่ะ เนทำได้อยู่แล้ว” 

    “ตั้งปลุกสิบครั้งหละสิ”

    “ครั้งเดียวเหอะ!!! “ ไม่ได้กดเลื่อนเลยด้วย!!! 

    “หึ งั้นค่อยน่าให้หน่อย” ลุงยื่นถุงผ้าในมือมาให้ผม พอรับมาเปิดดูก็เห็นว่าเป็นกล่องข้าวที่มีไส้กรอกปลาหมึกกับเบค่อนทอดแบบกรอบของโปรดผม ข้างๆ กล่องข้าวก็มีขวดน้ำส้มเล็กๆ กลิ้งอยู่ 

    “อารมณ์ไหนอ่ะลุง”

    “พี่คิดว่าเราไม่น่าตื่นมาทันกินอาหารเช้าเลยทำมาให้ แต่ดูทรงคงกินมาแล้ว” 

    “กินอีก เนกินอีกได้” 

    “กินแล้วก็ตั้งใจเรียนด้วย”

    “อื้อ เรียนเสร็จเดี๋ยวเนไปรอพี่แนนที่ห้องทำงานลุงนะ”

    “ตั้งใจเรียน” ลุงพูดพร้อมกับยกมือขึ้นยีหัวผม ผมยิ้มตอบแล้วยกมือขึ้นตะเบ๊ะ

    “รับทราบบบบบบบ”

    “เข้าไปได้แล้ว”

    “อื้อ ลุงก็ตั้งใจทำงานนะ อย่าเครียด เดี๋ยวตีนกาขึ้น เต็มหน้าแล้วตอนนี้”

    “เด็กเวร” โดนดีดเหม่งไปหนึ่งป๊อก ลุงหัวเราะพร้อมกับเดินหันหลังออกไป ผมยืนมองแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆ ห่างออกไปด้วยหลายความรู้สึก

     

     


    อยากเจอหน้าทุกวัน

    อยากอยู่กับลุงทุกวัน

     


    อยากร้องไห้จัง....




    ----

     

     

     TALK


    มันก็จะน้ำเกลือหน่อยเวลาไม่ได้อยู่ด้วยกันนนน

    ยัยน้องคิดถึงลุงจะแย่แล้วนะ คุณลุงว่าไงคะ

    อ่อ อยู่ในคุก เคๆ 




    ทุกคนคะ มีแผนว่าจะลงนิยายทุกวันเสาร์ค่ะ ทุกคนว่าไงคะ

    ลังเลระหว่างวันเสาร์กับวันศุกร์ 55555 ซึ่งแบบ มันก็ห่างกันแค่วันเดียวป่ะนะะะะ



     ส่วนเรื่องเล่มก็เก็บเงินกันไว้ได้เลยค่ะ เพราะน้องเนกับลุงได้คลอดแน่นอนนน มีแม่อุ้มบุญแล้วค้าบบบ

    กำหนดคลอดอาจจะใกล้ๆ นี้แล้ว ยังไงก็ฝากน้องเนกับลุงไว้ในอ้อมอกอ้อมใจอ้อมกบด้วยนะคะ


     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×