ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰

    ลำดับตอนที่ #13 : กุ๊งกุ๊งที่ 11 : Looking for a Sugar Daddy ♥

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 34.09K
      3.12K
      17 ก.ย. 62

    ตอนที่11

    Looking for a  Sugar Daddy  

     

     

     

     

    เช้าในวันเสาร์ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม

     


    เริ่มจากที่ผมเปิดประตูห้องออกมาเจอโซฟาที่ว่างเปล่า ตั้งแต่เนมาอยู่ด้วย ปกติมันต้องมีซากก้อนน้ำลายแสนวุ่นวายนอนขดอยู่บนนั้น บางทีก็คลอด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังลั่นแต่เจ้าตัวก็ไม่แม้แต่จะลุกขึ้นมาปิด เป็นผมเองเสมอที่มักจะตื่นด้วยความรำคาญแล้วมาปิดให้ 

     


    ผมเหลือบตามองกองกระเป๋าเดินทางที่ตั้งอยู่แถวทางเดินไปประตู สักพักหนึ่งเนก็เดินออกมาจากในครัวพร้อมกับกล่องปริศนาในมือ 


     

    “อ้าวลุง”

    “...” ผมเกาหัวมองเนด้วยความแปลกใจ ตื่นเช้าแหะวันนี้ 

    “ลุง รีบไปอาบน้ำ นี่เนทำอาหารเช้าไว้กินบนรถ เป็นแซนด์วิชแฮมชีส” 

    “ทำ?”

    “อื้อ แกะเปลือกแล้วใส่กล่อง” 

     


    แล้วมันแปลว่าทำได้ยังไง...

    ผมหัวเราะให้กับเนเวอร์ชั่นตื่นเต้น ดุท่าทางจะตื่นเต้นกับการไปทะเลเสียเหลือเกิน ถึงขนาดตื่นเช้ามาทำแซนด์วิช เออ ถึงจะแค่แกะห่อใส่กล่องก็ตาม 

     


    “ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น”

    “ตื่นเต้นดิลุง เร็วๆ รีบอาบน้ำ เดี๋ยวเนอดเล่นน้ำ” 

    “ทะเลไม่ได้มีเวลาเปิดปิดนะ”

    “ลุง!!! เร็ว!!!” 

     

    หึ ตลกดี แค่ทะเลที่อยู่ห่างกรุงเทพไปไม่กี่ชั่วโมง แต่เด็กตรงหน้ากลับตื่นเต้นเหมือนจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ มีความสขุกับอะไรง่ายๆ แบบนี้นี่ดีจังนะ ถึงจะเลยวัยไปหน่อยก็เถอะ จะเข้ามหาลัยแล้วแต่ยังแฮปปี้กับการไปทะเลเหมือนเด็กประถมแบบนี้ 

     


    ทั้งรู้สึกเอ็นดูแล้วก็รู้สึกสงสารไปพร้อมๆ กัน

     


    ผมเอื้อมมือไปยีไอ้หัวทุยนั่นเบาๆ วันนี้มาในชุดที่เพิ่งซื้อมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน เสื้อกล้ามสีขาวสกรีนลายแมว เสื้อฮาวายสีเหลือและกางเกงขาสามส่วนสีแดงรองเท้าแตะสีเขียว อีกนิดก็คงเป็นสัญญาณไฟจราจรได้แล้ว 

     

    “ฝากชงกาแฟให้หน่อย”

    “ได้!!!

     


    ว่าแล้วก็วิ่งดุ๊กๆ กลับเข้าครัวไป เหมือนลูกหมาขึ้นไปทุกวัน ผมถอนหายใจก่อนจะหันหลังเดินไปหยิบเสื้อผ้าเตรียมเข้าไปอาบน้ำก่อนที่ไอ้เจ้าลูกหมาจะกดดันกันไปมากกว่านี้

     


    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกาแฟร้อนแก้วเล็กก็ถูกตั้งไว้บนโต๊ะพร้อมกับหมาอารักขาแก้วนั่งกระดิกหางดิ๊กๆ อยู่ข้างๆ 

     


    “เก็บอาการหน่อย”

    “อะไร เนออกนอกหน้าตรงไหน” 

    “...หึ” มองมาจากนครนายกยังรู้เลยว่าตื่นเต้น ถ้าจะกระดิกนิ้วสั่นขาขนาดนั้น “ขนของไปไว้รถไป เดี๋ยวตามไป” ผมยื่นกุญแจรถส่งให้ เนตาวาวรีบรับกุญแจไปถือ

    “เนขอขับได้ไหม”

    “จะไปอยู่ไหมทะเล”

    “ไปปปปปปปป” 

     



    ดี... 

    เพราะถ้าให้เนขับ สองชั่วโมงคงเพิ่งถึงรั้วคอนโด

     


    พอได้กุญแจไปถือเนก็รีบวิ่งไปหยิบมวกฟางขึ้นใส่ แขนเล็กหยิบกระเป๋าของผมที่เป็นแค่เป้ขนาดไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไป เนื่องจากชุดที่ผมจะไปเปลี่ยนแขวนอยู่บนรถเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ต่างจากของเนที่ถึงต้องลากกระเป๋าเดินทาง ตอนนั้นที่ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ 

     


    เอ๊ะ ไปแค่วันเดียว ทำไมมีกระเป๋าเดินทางได้ มันขนอะไรไปนักหนา เสื้อผ้าหมดตู้เลยหรือเปล่า อยู่กับเด็กบ้านี่ไม่เคยไม่แปลกใจสักครั้งเลย คิดแล้วก็ยกกาแฟขึ้นจิบ

     

     

    พรู่ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!

     

    ผมกระพริบตามองละอองกาแฟที่เพิ่งพ่นทิ้งไปก่อนจะก้มลงมองแก้ว พอใช้นิ้วจิ้มลงไปก็พบก้อนแข็งๆ หนาๆ ตรงโคนนิ้ว 


     

    นี่ทำน้ำตาลหกหรือตั้งใจให้กาแฟหวาน!!!

     


    สุดท้ายแล้วก็ต้องเดินไปชงกาแฟกินเองเหมือนเดิม ไว้คราวหน้าต้องสอนชงกาแฟหน่อยแล้ว ชงหวานเป็นชาไข่มุกแบบนี้ได้ที่ไหน ไอ้เด็กบื้อ


    ผมชงกาแฟดื่มเสร็จภายในสิบห้านาที แค่สิบห้านาทีแต่พอลงมาที่ลานจอดรถก็เจอก้อนเด็กอมลมโกรธ คิ้วขมวด หน้าตาไม่พอใจอย่างชัดเจนแบบเห็นตั้งแต่เดินออกจากลิฟต์

     


    “อะไรอีกหละ”

    “ลุงช้า” พูดจบก็มุดตัวเข้าไปนั่งรอที่นั่งข้างคนขับ 

    “ช้าเพราะต้องชงกาแฟใหม่ เด็กบ้าที่ไหนไม่รู้ใส่น้ำตาลไปเกือบครึ่งแก้ว”

    “ก็เนชิมแล้วมันขม”

    “กาแฟก็ต้องขมสิ”

    “กินขมมากๆ ระวังแก่เร็ว” เอามาจากไหนของมัน ผมถอนหายใจแล้วสอดตัวลงไปนั่งที่นั่งคนขับ จัดระเบียบพื้นที่เล็กๆ ของตัวเองสองสามนาทีถึงค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์ออกมาจากคอนโด

     


    เนจัดการเสียบยูเอสบีเข้ากับมือถือแล้วก็เปิดเพลงยุคตัวเองฟังซึ่งก็เป็นการบังคับผมไปกลายๆ แต่ผมเองก็ชินแล้ว บางเพลงก็ฮัมตามไปได้ด้วย ตั้งแต่มีเนมาในชีวิต bee geesหรือ queen วงโปรดของผมนั้นก็แทบไม่ได้ฟัง ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงสากลที่ฮิตเปิดทั่วบ้านทั่วเมืองไม่ก็เพลงเกาหลีฟังไม่รู้เรื่องของเนเป็นส่วนใหญ่

     


    ร้องเพลงเย้วๆ วิงวิงวิงบูมเมอแรง อิทส์มายเลิฟชอท บูมบูมบูมอะไรไม่รู้ เต้นดุ๊กดิ๊กๆ ทั้งที่มีเบลท์คาดตัวอยู่ได้สี่ห้าเพลง ไอ้ก้อนตื่นเต้นสดใสก็หลับพริ้มกรนคร่อกไปเรียบร้อย คาดว่าเมื่อวานคงเอาแต่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เพราะนอกจากจะหลับสนิทแล้วยังหลับยิงยาวไปตลอดทาง ไม่มีแม้แต่จะตื่นมาขอเข้าห้องน้ำ 

     

    ตื่นอีกทีก็ตอนที่รถจอดสนิทหน้าที่พัก เหมือนติดตั้งสวิตช์เปิดปิดไว้ เพราะเนเล่นเด้งตัวผึงขึ้นมามองหาดทรายตรงหน้า 

     

    “ทะเลลลลลล”

    “เอาของไปเก็บในห้องก่อน”

    “ทะเลลลลลลลลลล”

    “ทากันแดดด้วย”

    “ทะเลลลลลลลลลลลลลลลล”

     


    ฟังที่ไหนหละ วิ่งหัวปลิวไปแล้วเรียบร้อย ผมถอนหายใจแล้วปิดประตูรถเดินตามไป ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมง แดดกำลังเผาได้ที่แต่เหมือนเด็กตรงหน้าจะไม่สนใจอะไรแล้ว เนวิ่งไปสุดแรงเท้าก่อนจะไปหยุดนิ่งตอนเท้าแตะน้ำทะเล หน้าดื้อนั่นค่อยๆ หันมาหาผมพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด 

     


    “ลุงงงง ทะเลลลลลลลล” 

     

    อา... 

    ไม่รู้เลยว่าอะไรมันจ้ากว่ากันระหว่างแดดกับรอยยิ้ม

     


    แดดมันเผาไหม้ผิวหนัง

    แต่อย่างหลังน่าจะเผาจิตสำนึกผม

     


    แค่รอยยิ้มที่ทำให้แก้มไปดันตากลมดื้อจนปิดเป็นสระอิ มันทั้งย้อนแสงจนแทบไม่เห็นอะไร แต่ใจผมกลับเต้นรัวจนต้องหยุดเดิน เหมือนช่วงเวลาหยุดนิ่งไปเสี้ยววินาที เหมือนรอยยิ้มนั่นฝังตัวลงบนความทรงจำของผมอย่างชัดเจน 

     

    ... น่ารักเป็นบ้า

     


    “ลุง หยิบที่ตักทรายให้เนด้วยนะ”

    “ทำไม...” 

    “ฟวู้ววววววววววววววว”

     

    ยังถามไม่ทันจบเนก็ถอดเสื้อฮาวายเขวี้ยงขึ้นฟ้าแล้วพุ่งตัวลงทะเลไปอย่างรวดเร็ว ดำไปได้ไม่ถึงวิก็ดันตัวขึ้นนั่ง มือเล็กปาดปอยผมที่เปียกปิดหน้าขึ้นโชว์หน้าผาก 

     


    “เค็มมมมมมมมมมม”

    “ทะเลก็ต้องเค็มสิ”

    “ลุง เล่นน้ำ”

    “ไม่หละ” ผมรีบถอยหลังเดินออกมา “เดี๋ยวฉันจะไปหยิบของในรถมาให้ แล้วจะกินข้าวตรงร่มนั้นนะ ถ้าหิวก็มากิน” 

    “อื้อ” เนลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงน้อยๆ ของตัวเอง ปรากฏเสื้อกล้ามสีขาวที่ซรีทรูจนเห็นเนื้อหนังแทบทุกสัดส่วน แขนเล็กนั่นยกขึ้นขยี้หัวชื้นน้ำของตัวเองมา 

     

     

    เสื้อกล้ามกับน้ำ

    อะฮึ่ม... 

    บางไปหมด ขาวไปหมด 

     

     

    “ลุงงงง ทะเลมีถุงพลาสติกด้วย”

    “ห๊ะ” 

     

    สติเพิ่งกลับร่าง ผมมองเนที่ก้มจับอะไรบางอย่าง อะไรที่น้องบอกว่าถุงพลาสติก จังหวะที่ตาผมโฟกัสได้เป็นจังหวะเดียวกับที่เนสะดุ้งชักมือออกจนถุงที่ว่าตกน้ำทะเลดังต๋อม หน้าดื้อหันมาหาผมพร้อมเบะปาก 

     

    “ลุง!!!” 

    “...” 

    “แมงกะพรุน!!!!

    “...”

    “เนแสบมือออออออออออออออออออ”

     

     

    ให้ตายเถอะ

    ไอ้เด็กบ้านี่นะ...

     

     

    หลังจากพาไปทำแผลที่มือเสร็จ น้ำตาเด็กบ้าหล่นเป็นเม็ดๆ แต่ก็หายอย่างรวดเร็วเมื่อได้กินกุ้งกับปลาหมึกเยียวยา พอเริ่มมีอะไรตกถึงท้องก็เริ่มมีแรง เนก็วิ่งกลับไปเล่นน้ำก่อปราสาทและฝังตัวเองในหลุมทราย เล่นอยู่นานจนพอใจ เนก็เดินกลับเข้าบ้านพักไปอาบน้ำ ส่วนผมก็คอยเก็บซากที่ตักทรายกับห่วงยางตามเข้าไป นั่งรอทีวีอยู่นานจนผิดปกติ ด้วยความที่ห้องนอนแต่ละห้องก็มีห้องน้ำส่วนตัว ยกนาฬิกาบนแขนมาดู


     

    หนึ่งชั่วโมงแล้ว...

    ทำไมยังอาบไม่เสร็จอีก ผิดวิสัยที่ชอบอาบน้ำห้านาที

     

     

    ก๊อกๆ 

     

    “เน” 

    “...” ไม่มีเสียงตอบรับ ผมย่นคิ้วก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเพื่อพบกับ ร่างของเนในชุดคลุมอาบน้ำท่าทางเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ นอนแปะพริ้มอยู่บนเตียง 

     

    อ่า...

    เล่นน้ำจนเพลียสินะ

    นอนหัวเปียกแบบนี้เดี๋ยวคงได้มีเด็กป่วยในไวๆ นี้แน่นอน 

     

    “เน นอนดีๆ “ 

    “อื้อ” น้องตวัดตัวหนีแรงสะกิดผม ทำให้เสื้อคลุมอาบน้ำนั่นเริกขึ้นเห็นต้นขาขาว ผมชะงักตัวทันทีทันใด 

     

    ไม่ปลอดภัยต่อใจ....

     

    “เน“

    “อือ ลุงอย่า...” เนตวัดขาขึ้นหนีบผ้าห่มจนทำให้เห็นก้นกลมขาวที่โผล่พ้นออกมาจากปลายเสื้อคลุมอาบน้ำ ผมรู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้า ความบาปตีหัวอย่างรุนแรงจนต้องรีบหันตัวเดินออกมาจากห้องนอน

     

     

    เวรเอ๊ย 

    ผมเป็นผู้ชายวัยสามสิบหก แต่ดันมาใจเต้นหน้าแดงกับขาอ่อนขาวๆ ของเด็กวัยสิบแปดจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาเรียกสติ 

     

    ไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ

    ไม่ปลอดภัยเลย...

     

     

    .

    .

    .

     

     

      

    ตกเย็น ร่างเพลียน้ำก็ถึงปลุกตัวเองตื่นขึ้นมาด้วยอาการหิวข้าว ซึ่งผมก็เดาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ เพราะตอนบ่ายเอาแต่สนใจจะเล่นน้ำจนไม่ขึ้นมากินอาหารเลย จะหิวเวลานี้ก็คงไม่แปลก 

     

    “ไปหาอะไรกินที่ไนท์มารเก็ตไหม”

    “ไปไหนก็ได้เลยยย เนหิวมาก” ปากก็บ่นหิว มือก็กินทาโร่ที่พกมาไปด้วย 

    “นอนหัวเปียก เดี๋ยวก็ป่วย”

    “เนสลบหรอก ไม่รู้ตัวเลย” 

    “แต่งตัวให้เรียบร้อย”

    “คร้าบบบ” 

     

    จากเสื้อคลุมอาบน้ำกลับเข้าสู่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วผมคอยโล่งใจหน่อย ก้นขาวนั่นยังติดอยู่ในความทรงจำ เพราะความเด็กสินะถึงได้ผิวดูเนียนละเอียดขนาดนั้น 

     


    ฟุ้งซ่านเพราะก้นเด็กนี่มันช่าง....

     


    จึ้กๆ 

     


    “ลุงๆ เหม่อไรอ่ะ”

    “ขาว...” ผมสะดุ้งเฮือกแล้วรีบหันไปหาเนที่ยืนขมวดคิ้วเอนหัว

    “อะไรขาว”

    “เปล่า ฉันบอกว่าข้าว อยากกินข้าว รีบไปกันเถอะ” 

     

    ใช่ อยากกินข้าว อยากกินข้าว!!!!

    ปัดความฟุ้งซ่านทิ้งแล้วรีบขับรถพาเนออกมาที่ไนท์มาร์เกตที่อยู่ไม่ไกลนักจากตัวโรงแรม ซึ่งหากผมมาคนเดียวที่นี่คงไม่ใช่เป้าหมายสำหรับผมแน่นอน เพราะคนเยอะและค่อนข้างวุ่นวาย ถ้าเลือกได้ผมคงเลือกนั่งชิวจิบไวน์อยู่แถวร้านริมหาดหรือเลาจ์ของโรงแรมมากกว่า 

     

    แต่ตามวัยของเนแล้ว เดินแบบนี้คงจะสนุกกว่าเพราะมีของขายเยอะ ไหนจะพวกฟู้ดทรัค ฟู้ดสตรีทต่างๆ อีก 


     

    “ลุง ไข่ปลาหมึกปิ้ง”

    “เอาสิ” ผมเดินตามหลังเล็กเข้าไปที่ร้านรถเข็นขนาดใหญ่

    “เอาไข่ปลาหมึกสามไม้ แล้วก็หมึกนี้อ่ะ เรียกไรนะ มึงกระดอป่ะ”

    “กระดองน้องกระดอง” เล่นเสียคนขายแก้แทบไม่ทัน 

    “นั่นแหละๆ มึงกระดอง” 

    “เอาสามไม้เองหรอ เอาสี่ไม้ไหม ลดให้เหลือสามร้อย แบ่งให้คุณพ่อกินด้วย”

     

    คิ้วผมกระตุกยิกๆ เหมือนจะได้รับบทนี้อีกแล้ว 

    ทำไมต้องพ่อวะ ผมไม่ได้หน้าแก่ขนาดนั้นนะถ้าเทียบกับอายุเน หนวดก็โกนเกลี้ยง   อย่างน้อยก็พี่ชายที่อายุห่างกันมากก็ยังดี 

     

    “คุณพ่อออออออออ” ไอ้เด็กบ้าก็เล่นไปเขา เนหันมาเกาะแขนผมพร้อมกับยิ้มจนตาปิด 

    “หยุดเลย” 

    “แดดดี๊~~~~~~~” 

     

    พอถึงคำนี้คนขายปลาหมึกก็เงยหน้าขึ้นมามองจากเตา จากหน้าเอ็นดูกลายเป็นสงสัยเล็กน้อย แต่พอสบตากับผมก็กลับไปปิ้งปลาหมึกต่อ ผมถอนหายใจให้กับความเน ไม่เคยจะคิดอะไรเลยไอ้หัวน้อยๆ เนี่ย 

     

    “อย่าเรียกแดดดี๊”

    “งั้นเรียกชูการ์แด๊ดดี้ได้มะ---อื้อ” 

     

    ปิดปากแทบไม่ทัน!!!!

     ผมปิดปากเนพร้อมกับจับหันหลัง หนีสายตาตกใจของพ่อค้าขายปลาหมึก  

     

     

    “เน ไปเอาคำนี้มาจากไหน...”

    “อื้อ ปิดปากเนไมเนี่ย เห็นลายเสื้อร้านนั้นมันเขียนอ่ะ ดูดิ” เนชี้ไปที่ร้านเสื้อร้านข้างๆ 

     

    เสื้อยืดเขียนว่า

    Looking for a  Sugar Daddy 

     

    “เห็นแล้วนึกถึงชูการ์ไรเดอร์เลย กระรอกบินนนน” 

    “นั่นมันชูการ์ไกลเดอร์ ไม่ใช่ไรเดอร์ แล้วความหมายก็ไม่ใกล้กันเลยด้วย”

    “อ้าว หรอ” 

    “ห้ามเรียกด้วยคำนี้อีกนะ”

    “อ้าว มันหยาบหรอ ทำไมอ่ะ พ่อน้ำตาลหวานๆ ไม่ใช่คำชมหรอ” 

     

    พ่อน้ำตาลหวานๆ

    แปลตรงตัวดี ผมไม่ตอบแต่ดีดเหม่งไปแทน พอหันกลับมาก็เจอสายตาฮันแน่มาจากคนขายปลาหมึกอย่างชัดเจน อยากจะตีหน้าผากตัวเองแรงๆ ให้ตายเถอะ เข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว

     

    “ทั้งหมดสามร้อยแปดสิบครับคุณพ่อ เอ้ย คุณพี่” 

     

    เวรเอ๊ย.... 

    ผมยื่นเงินให้ไปสี่ร้อยรีบรับของแล้วรีบจูงเนออกมา

     

    “ลุง ตังค์ทอนๆๆๆ”

    “ไม่ต้องเอา รีบไปเถอะ” 

    “เนจะเอา!!! “ เนสะบัดมือผมแล้ววิ่งกลับเอาไปตังค์ทอน ผมเดินตามกลับไปเมื่อเห็นเหมือนคนขายพูดอะไรสักอย่างกับน้อง แต่พอไปถึงเนก็เดินหันหลังกลับมาแล้ว 

    “มันพูดอะไร”

    “พี่เขาบอกให้เนอ้อนลุงเยอะๆ “

    “...”

    “เขาบอกคนแก่ชอบให้อ้อน” ผมหันไปส่งสายคาดโทษให้กับคนขายปลาหมึกที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง 

    “... เขาก็พูดไปเรื่อย” 

    “ต่อให้พูดจริงเนก็ไม่อ้อนหรอก เนอ้อนคนไม่เก่ง” พูดเสร็จก็ยิ้มปลาหมึกเคี้ยวตุ้ยๆ ส่วนผมก็ได้มองแก้มที่ยกตัวบิดไปบิดมานั่น 

     


    นี่คืออ้อนไม่แล้วงั้นหรอ...

    ถ้าอ้อนเก่งกว่านี้ผมคงตายแน่ๆ อันตรายจริงๆ 

     


    เนที่บ่นหิวแต่กลับเลือกกินแต่พวกฟู้ดสตรีทจุกจิกไม่สนใจอาหารเป็นมื้อแม้แต่น้อย ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เดี๋ยวคงต้องซื้ออาหารกลับไปบ้างเผื่อจะหิวอีกรอบ ผมพาน้องเดินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเนก็มาหยุดอยู่หน้าร้านแทททู

     


    “ลุง เนอยากสัก”

    “อย่าแม้แต่จะคิด” ผมรีบดันหน้าน้องกลับมาจากร้าน  

    “เอาแทททูแปะๆ ก็ได้” น้องสะบัดหน้าหนีแล้วก็วิ่งไปเลือกลายในตะกร้า ตอนแรกเห็นอยากลองสักผมเลยคิดว่าเนอาจจะเลือกลายเท่ๆ สิงโต มังกร ไม่ก็คำหยาบภาษาอังกฤษ คิดไว้แล้วว่าคงบังคับให้น้องถูสบู่ออกให้หมดหลังกลับที่พักแต่ปรากฏว่าลายที่เนเลือกกลับเป็น

     

    โลมาสองตัว...

     

    “ลุงๆ นั่งๆ”

    “ไม่เอา”

    “นะะะะะะ แค่แทททูเอง กลับบ้านไปล้างก็ได้” 

    “...” ผมเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ เน ยื่นแขนตัวเองให้แม่ค้า เทียบไซซ์แขนผมกับเนที่วางข้างกันแล้วคนละขนาดเลย แขนเนแห้งแล้วเล็กมาก แทททูลายโลมาเล็ก ก็แทบจะเต็มแขนแล้ว แถมแทบไม่เห็นเส้นเลือดแบบลูกผู้ชายเทียบผมด้วยความที่ออกกำลังเล่นเวทสม่ำเสมอเลยยิ่งทำให้ดูแตกต่างกันชัดเจน

     

    “เนถ่ายรูปดีกว่า” เนยกมือถือตัวเองขึ้นมา จัดองศาแขนให้ใกล้ผมกับแล้วก็กดถ่าย 

    “ทำไร”

    “อัพไอจี” 

    “ไอจี?”

    “แอพลงรูปอ่ะลุง”

    “อินสตราแกรมไม่ใช่หรอ”

    “มันย่อว่าไอจีไง” อ๋อ... 

     

    ผมเลือกที่จะเงียบแล้วมองหน้าจอโทรศัพท์ของเน นิ้วโป้งเล็กๆ จิ้มนู่นจิ้มนี่ พิมพ์แคปชั่นอย่างรวดเร็วแบบแทบไม่ต้องหยุดหาตัวอักษร 

     

    “เขียนว่าอะไร” ไม่ได้ใส่แว่นมา มองไม่ค่อยชัด 

    “ชูการ์แดดดี๊”

    “เห้ย!!!

    “ล้อเล่นนนนนนนนน”

    “...” ตกใจหมด ถ้าเขียนอย่างนั้นจริง คุกคงอยู่ไม่ไกลจากผมนัก 

    “เนเขียนว่าขอบคุณ...”

    “...”

    “ขอบคุณนะลุง เนโคตรมีความสุขเลย” เนหันมามองหน้าผมแล้วยิ้ม ผมไม่ได้ตอบอะไรไป เพียงแต่โยกหัวทุยนั่นเบาๆ 

     

    นั่งนานเกินโดนแม่ค้ามองแรง ผมเลยรีบลุกขึ้นพาเนเดินต่อ หมดเวลาไปเกือบสองชั่วโมง เนได้ของมาเต็มไม้เต็มมือส่วนผมซื้อกลับไปแค่เสื้อยืดเขียนชื่อจังหวัดธรรมดาไปหนึ่งตัว เนบ่นงุบงิบว่าผมลุ๊งลุง เลือกเสื้อสกรีนเฉิ่มแต่สุดท้ายก็ซื้อลายเดียวกับผม 

     

    “ไหนว่าเฉิ่ม”

    “ก็เฉิ่มจริง ลุงมาก มีที่ไหนเลือกเสื้อสกรีนมีแต่ตัวอักษรไม่ลายอื่นเลย สุดจืด”

    “แต่พี่ชอบ มันมินิมอลดี” 

    “มีหัวใจหน่อยก็ไม่ดะ... ห๊ะ เมื่อกี้ลุงแทนตัวว่าอะไรนะ” เนหันมาทำตาโตใส่ผม ส่วนผมก็ได้ปัดจมูกแก้เก้อ

    “...”

    “ลุงแทนตัวว่าพี่หรอ”

    “ช่างมัน กลับที่พักเถอะ” ผมรีบเดินนำกลับรถแก้เขิน พูดเองก็เขินเอง แทนตัวว่าพี่มันแปลกๆ ไหมนะ เนหยุดนิ่งไปสักพักถึงค่อยออกตัววิ่งตามผม

     

     

    “ลุงงงงงง แทนตัวว่าพี่ก็ไม่ได้เด็กลงหรอกนะะะะะะะ”

     

    ไอ้เด็กเวร!!!

    รู้ทัน!!!!  

     

    “...”

    “แต่เนก็จะเรียกลุงเหมือนเดิม”

    “...”

    “หรือชูการ์แดดดี๊แทนดี”

     

    ผมหันไปตีเหม่งนั่นดังป้าปแล้วรีบเดินหนีไปขึ้นรถ ปล่อยให้เนขำคิกคักวิ่งตามมา เนสนุกอยู่แค่เพียงก่อนขึ้นรถ เพราะพอขึ้นรถมาผมก็สั่งให้เปิดกูเกิ้ลเสิร์ชคำว่าชูการ์แดดดี๊ แค่นี้ไอ้ตัวดื้อก็หน้าแดงหูแดงหันหน้าออกกระจกไม่พูดจากับผมสักคำ 

     


    หึ....

     

    ไม่ชูการ์แดดดี๊แล้วหรอไอ้เด็กปากเก่ง 

     

     

     

     


    -----  つづく

     





    ภาพแขนลุงกับแขนเน 






     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×