ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic--หัวขโมยแห่งบารามอส--ภาคดาบฝ่าปฐพี

    ลำดับตอนที่ #5 : การกลับมาขององครักษ์ร่างจิ๋ว

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 49


    บรรยากาศอึมครึมตอนฝนตกที่ช่างน่าเบื่อยิ่งนักสำหรับขโมยอย่างเธอ  แถมไอ้ที่ไม่มีใครพูดอะไรเลยนี่สิ? 

    เฟรินหันมองไปรอบๆ เกวียนอย่างอารมณ์เริ่มบูด  เพื่อนซี้กับเดทนอนหลับอุตุอยู่ข้างเธอ เสียงกรนเบาๆ ปล่อยมาให้ได้ยินเป็นระยะ  เป็นสัญญาณบอกว่ามันเข้าญาณไปเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ 

    หันไปมองโร  เซวาเลสที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม  คนนี้ก็ดูเหมือนว่าดาบในมือนั้นน่าสนใจนักหนา  เจ้าตัวเอาผ้าสีน้ำเงินเข้มลูบไล้ไปตามคบดาบอย่างนิ่มนวลเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงแล้ว 

    พอหันไปทางเรนอนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับคิลข้างๆโร  ซึ่งดูน่าสงสารกว่าเพื่อนเพราะเป็นผู้หญิง( ไม่รวมคนที่ทำตัวไม่เหมาะเป็นหญิง ) คนเดียวในเกวียน  นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อๆ

     ส่วนคนสุดท้ายที่นั่งอยู่อยู่โดดเดี่ยวท้ายเกวียน  ท่านผู้คุมกฎ  ลอเรนซ์  ดอร์น  ก็ยังนั่งหน้าบูดอยู่เป็นนิจ  เขียนอะไรอยู่อย่างไม่สนใจใคร  ส่วนเธอเฟริน เดเบอโรว์เบื่ออย่างสุดแสนกับบรรยากาศหดหู่  อึมครึมแบบนี้  หันไปเห็นเพื่อนซี้ข้างตัว  ก็เลยศอกไปที่ท้องมันทีนึงอย่างหมั่นไส้และระบายอารมณ์  หวังจะให้ตื่นขึ้นมาคุยกัน

                โอ้ย!!   ทำบ้าอะไรของแกเนี่ย คนถูกปลุกตื่นท่ามกลางอากาศเย็นตอนฝนกำลังตก ตะโกนอย่างอารมณ์เสีย  และเสียอารมณ์การนอน

    คนจะนอน

    แล้วเจ้าตัวก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง  เฟรินเห็นดังนั้นจึงเริ่มแผนการร้ายในหัว

     อย่างนี้มันต้องปลุกให้ตื่นถาวรซะเเล้วไอ้คิล

    คิดดังนั้นแล้วก็ยันโครมเข้าที่ท้อง  ทำให้คนถูกถีบกระเด็นไปท้ายเกวียน  ก่อนส่งเสียงร้องดังลั่น  คนทำตัวไม่สมกับเป็นผู้หญิงถึงได้หัวเราะคับเกวียนที่ปลุกคนขี้เซาได้สำเร็จ 

    เสียงหัวเราะกวนประสาทกับเสียงร้องโอดครวญน่าสงสารผสมผสารกันกลมกลืนกับเสียงฝน  แต่คนท้ายเกวียนผู้ซึ่งบัดนี้เขียนหนังสือต่อไปไม่ได้เเล้ว  เงยหน้าขึ้นมาดูคนในปกครองอย่างที่อารมณ์โกรธพุ่งฝ่าไปยังคนต้นเรื่อง

     เจ้าหญิงบ้านั่นทำดินสอของเขาหักซะเเล้ว  หลังจากถีบเพื่อนนักฆ่าคนสำคัญกระเด็นโครมมาทับเขาเข้าเต็มๆ

    เฮ้ย!! อะไรวะ  พายุพัดเกวียนเหรอ  คนเพิ่งตื่นนอนอีกคนข้างๆเฟริน  เริ่มโวยวาย  ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก มองกวาดไปทีละคนในเกวียนอย่างหาคำตอบที่ชวนให้น่าถีบ  มากกว่าน่าให้คำอธิบาย  หลังจากนึกว่ารายการพังดินสอของลอเรนซ์เป็นพายุใหญ่พัดเกวียน

    นี่นายโดนครอบครัวกดดันจนบ้าไปแล้วเหรอ เสียงขุ่นเคืองดังมาจากคนจากซาเรสเหมือนกัน  ที่บัดนี้นัยน์ตาสีม่วงจ้องวาวๆกลับมา

    เปล๊า  ฉันคงนอนมากไปหน่อยน่ะ  โทษที นักรบจากซาเรสขึ้นเสียงสูงอย่างน่าถีบ

    แล้วตกลงนายโดนทอร์นาโดหรือใต้ฝุ่นพัดไปตกลงในอ้อมแขนรุ่นพี่ลอเรนซ์ล่ะ คนถูกถามที่ทั้งโดนกระเซ้าเย้าแหย่เริ่มสร้างประกายอำมะหิตในดวงตา  ส่วนคนที่มีนักฆ่าหนุ่มน้อยอยู่ในอ้อมแขนก็มีอารมณ์ไม่ต่างกัน  ขณะที่คนที่ไม่สมควรอย่างยิ่งกับการเป็นเจ้าหญิงหัวเราะร่วนไปกับนักรบแห่งซาเรสดังลั่นแล้วที่ไม่ต่างกันคือโรกับเรนอนที่เริ่มควบคุมเสียงหัวเราะที่เพียรจะกลั้นไว้ไม่อยู่

                และก่อนที่เหตุการณ์ร้ายเเรงอะไรจะเกิดขึ้น…..

                หรืออันนี้จะร้ายแรงกว่าก็ไม่ทราบ 

    อ๊ากกกก!!” 

    เสียงร้องดังลั่นดังลอดผ้าผืนหน้าที่ปิดด้านหน้าเกวียนไว้เนื่องจากรถม้าก็หยุดลงกระทันหันด้วยความตกใจ  ก่อนจะยกสองขาหน้าขึ้นทำให้คนข้างหน้าเกวียนกระเด็นมากองกันท้ายเกวียนหมด  แต่ละคนตีลังกากลับหัว  ไม่ก็หัวปักพื้นเกวียนหรือโดนทับรอการช่วยเหลือ  จะดีก็มีแต่ผู้หญิงสองคน?ในเกวียนที่อยู่ติดหน้าต่างแล้วจับยึดไว้ทัน  ทำให้ไม่มากองรวมอยู่ท้ายเกวียนจนเป็นที่อุจาดตามากกว่านี้

                พวกเธอเป็นอะไรมั้ย

    เสียงถามด้วยความเป็นห่วงมาจากลูคัสที่ยื่นหน้าเข้ามาสำรวจความเสียหายของเเกวียนคันหรู  รวมทั้งชาวป้อมอัศวินจากเกวียนสับปะลังเคของป้อมที่เริ่มเดินย่างกรายมา  อย่างที่มันไม่น่ามาเลย

                อ่าวลอรี่นายไปให้เด็กทับอยู่ทำไมล่ะ  ให้ลูคัสคนนี้ช่วยมั้ย 

    ลูคัสถามด้วยความเเปลกใจปนขบขันก่อนจะรีบรุดขึ้นไปช่วยเพื่อนรักที่ปามีดลงทันต์เขาไม่ได้เนื่องจากติดที่ว่าคิลกับเดททับตัวอยู่อย่างน่าใจหายว่าจะเเบนเป็นคางคกติดเกวียนเป็นตำนานคางคกจำศีลไปได้  แล้วทั้งหมดก็เดินเข้าที่พักแถวนั้น  เพราะลูคัสเห็นว่าฝนตกหนัก  เดินทางต่อไม่สะดวก

     

    ก็เผอิญมีราชวงศ์สักคนของคาโนวาลเสด็จผ่านหน้าเราไป  เกวียนนายม้าดีวิ่งเร็วไง  เลยหยุดได้มีประสิทธิภาพมากไปหน่อย คำตอบกวนประสาทดังมาจากครี้ดที่นั่งอยู่บนโซฟาเก่าๆ ใกล้เตาผิง  พร้อมกับคิลที่หัวเราะหึๆ อยู่ข้างๆกัน

    แล้วทำไมพวกนายอยู่รอดปลอดภัยล่ะ  อย่าบอกนะว่าม้านายแก่น่ะ  ไม่งั้นฉันเอานายตายเลย   คนเจ็บที่ยังปากดีอยู่ย้อนสวนเข้าให้  พลางทำท่าจะลุกไปสนทนาวิสาสะกับเพื่อนซี้ร่วมป้อมทั้งสอง แต่ก็โดนคนตัวโต กว่าจับต้นแขนดึงลงมาให้นั่งเหมือนเดิม

    หัวแตกอยู่น่ะรู้ตัวบ้างมั้ย   เสียงเย็นๆที่ซ่อนกระเเสความเป็นห่วงไม่มิดเอ่ยขึ้นก่อนจะเรียกกระเป๋ายาพระราชามาไว้ในมือเเล้วเริ่มเตรียมทำแผลเหมือนทุกครั้ง  แต่เป็นคำทักที่ทำให้คนไม่รู้ตัวว่าหัวเเตกเริ่มหน้าซีด  เอามือคลำหัวป้อยๆ  พอเลือดติดมือมาก็ทำหน้าแหยเกอย่างน่าหมั่นไส้ก่อนจะพาลด่าเพื่อนข้างหน้า

    ฉันหัวแตกเเล้วพวกแกไม่บอกวะ  เลือดออกหมดตัวตายขึ้นมาทำไง? เสือกชวนคุยอยู่ตั้งนาน ด่าเสร็จก็หันหน้าให้แพทย์คนสำคัญทำแผลให้อย่างจำใจ  แต่ก็ไม่วายมือบอนหยิบนู่นหยิบนี่อีกจนได้  จนแพทย์จากคาโนวาลเริ่มหมดความอดทน  ก้มหน้ามองด้วยสายตาดุจัด  อย่างที่คนมองร้อนๆหนาวๆ

    ก็ผมนายมันยาวนี่  นายยังไม่เห็นแล้วจะไปให้ฉันเห็นได้ยังไง คำเถียงที่ดูจะมีสาระการเรียนรู้?  แต่ก็ออกจะไม่มีเหตุผลไปหน่อย  แต่มันก็เป็นความจริงที่คนถูกทักหลีกเลี่ยงไม่ได้  ที่ตอนนี้ผมเธอยาวจนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  คนที่เริ่มรู้ตัวเองถอนหายใจอย่างเหนื่อยก่อนก่อนช้อนสายตาขึ้นไปมองผมที่ยาวปิดหูปิดตาหมดเเล้ว

    นายทักแล้วนึกขึ้นได้ว่ะคิล

    รู้ก็ดีว่าเป็นผู้หญิง  นึกว่าความจำเสื่อมไปแล้วซะอีก คำกล่าวกลั้วหัวเราะดังมาจากเพื่อนซี้  จนทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งโหยง 

    ฉันหมายความว่าฉันกะจะตัดผมซะหน่อยต่างหากล่ะ  ไอ้บ้า

     พูดจบก็คว้ากรรไกรจากข้างตัวเรนอนที่เย็บผ้าอยู่มาตัดผม  ทำเอาเพื่อนซี้  กับคนถูกแย่งกรรไกรตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  ก่อนที่คาโลจะฉวยเอากรรไกรจากมือแม่ตัวดีได้มันก็หายไปก่อนอย่างไร้ร่องรอย  การหายไปของกรรไกรที่ทำเอาคนจะตัดผมรวมทั้งคนดูเหตุการณ์แปลกใจกันไปเป็นเป็นแถว 

    ช่วยหม่อมฉันด้วยองค์หญิง  ทรงช่วยหม่อมฉันด้วย!!” เสียงร้องอย่างตกใจและเจ็บปวดดังมาจากที่ไหนซักแห่งในบ้านพักมอซอริมชายแดนคาโนวาลกับบารามอส  ทำเอาเฟรินขนลุกชัน  ก่อนจะขยับไปเบียดคนตัวโตข้างๆ  ที่มีสีหน้าเเปลกใจไม่แพ้กัน  แต่ยังรักษาสีหน้าได้ดีกว่า

    เสียงอะไรคาโล?  ฉันว่าเสียงมันอยู่แถวๆนี้นะ

    เฟรินพูดเสียงแผ่วพลางจับต้นแขนคนข้างๆไว้แน่น  กลัวว่ามันจะลุกไปไหนทิ้งให้เธอเผชิญกับบ้านผีสิงคนเดียวตรงนี้  คนถูกถามไม่ตอบอะไรแต่ดันตัวขยับออกห่างจนทำให้แม่ตัวดีเบียดร่างบางใกล้เข้ามาอีก  ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาต้นเสียงในบ้านมืดๆ ที่มีเพียงเตาผิงที่ส่องแสงสว่างในคืนเดือนพระจันทร์เต็มดวงที่ทำให้บรรยากาศดูแย่หนักกว่าเก่า

    หม่อมฉันอยู่ตรงนี้ฝ่าบาท  ช่วยหม่อมฉันด้วย!! ” 

    เสียงโหยหวนดังแว่วเข้ามาอีกจากที่ไหนซักแห่งแถวๆ โซฟาที่เฟริน  คาโล กับซีบิลนั่งอยู่  เจ้าคนสติแตกกลัวผีเริ่มโวยวายอย่างน่ารำคาญพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือประหลาดนั่น จนทำให้คนที่อารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลาอารมณ์เสียหนักกับภาพแม่ตัวดีเบื้องหน้า  ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้ามาหาด้วยหวังจะปิดปากให้มันเงียบได้ซักที

    อ๊ากกก!!  ไอ้มนุษย์เอเดนบ้า  แกอย่าเหยียบฉ้านนน!!” เสียงร้องดังอย่างตกอกตกใจข้างๆ  ที่ทำให้    เฟรินเริ่มคุ้นๆกับสำนวนและนิสัยโวยวายแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก

    โกโดม!!”

    เฟรินร้องเรียกอย่างตกใจทันทีที่มองเห็นตัวโคมุสร่างเล็กข้างๆเท้าเธอ  ที่มีกรรไกรตัดผ้าอันยักษ์ทับขาอยู่  ก่อนจะรีบยกกรรไกรออกมาอย่างระมัดระวัง  และช้อนตัวโกโดมขึ้นมาไว้ในมือ

    ขอบพระทัยฝ่าบาท  เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงช่วยหม่อมฉัน โกโดมส่งสายตาจงรักภักดีกับรอยเทิดทูนส่งไปยังเจ้าหญิงคนสำคัญของเขาที่มองยังไงก็สวย? ก่อนจะพยายามลุกขึ้นแต่ก็โดนคาโลหิ้วปีกมันโยนลงบนหมอนนิ่มๆข้ างตัวเเล้วเริ่มสวมบทแพทย์ทำแผลให้โคมุสขาหักจากเดมอส

    ฉันว่านายไปเป็นแพทย์หลวงที่เดมอสก็น่าจะดีนะ  วันๆคงได้หลายตังค์ คำกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะดังมาจากเพื่อนนักฆ่าที่ควรจับสั่งฆ่าเพราะบังอาจมาลดฐานะเขาจากเจ้าชายแห่งคาโนวาลลดลงไปเป็นแพทย์หลวงเดมอส  แพทย์คนสำคัญที่เริ่มส่งสายตาดุจัดไปให้ที่เจ้าตัวยุ่งอีกคนของป้อมเดินหัวเราะหนีไปแล้ว  กับแม่ตัวยุ่งที่นั่งหัวเราะ อ๊ากๆอยู่อย่างที่เขาปลงได้แล้ว  ว่าคงดีไปกว่านี้ไม่ได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×