คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ใบดำใบแดง
“ เอาเป็นว่าเรามาจับใบแดง ใบดำกันดีกว่า ” เสียงลูคัสดังขึ้นขณะที่นั่งอยู่ใต้ต้นหูกวาง หลังจากเวลาผ่านไป 5 นาที
“ นายเห็นด้วยไหมลอรี่ ” ลูคัสหันมาถามเพื่อนซี้ที่นั่งหน้าขาว ( ด้วยผ้ากอต ) อย่างขอความคิดเห็น
“ เฟี้ยว ” เสียงมีดดังแหวกอากาศมาอีกครั้ง ลูคัสเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด ลิงทะโมนที่นั่งอยู่ข้างหลังลูคัสผู้ที่ไม่ชินกับการซ้อมปามีดของนักบวชผู้นี้ จึงหนีกันแหลกลาน เป็นภาพที่น่าอดสูสิ้นดีสำหรับป้อมนักรบอย่างป้อมอัศวิน
“ เป็นอันว่าเห็นด้วยนะ ” ลูคัสว่าพลางหันมายิ้มกว้างให้เพื่อนข้างๆ ที่นั่งหน้าบูดอย่างไม่เจียมบอดี้ว่าตัวเองเจ็บหนัก ( ด้วยฝีมือเขากับเจ้าหนูเฟลิโอน่านั่น )
‘ ตรัสรู้เอาเองอีกแล้วนะแก ’ ลอเรนซ์คิดอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วเริ่มช่วยลูคัสทำใบแดง ใบดำขึ้นมาให้พวกรุ่นน้องจับเพื่อที่ว่าใครจะได้ไปอยู่เกวียนไหน เพราะก่อนหน้านั้นเกิดความชุลมุนวุ่นวายอย่างหนัก จนลอเรนซ์รำคาญ ลูคัศซึ่งเป็นเพื่อนผู้เเสนดี? ของเขา จึงออกปากที่จะแก้ปัญหาให้
“ เสร็จแล้ว มาจับกันคนละใบ เร็วเข้า ” เสียงเจ้าหน้าที่ผลิตใบแดง ใบดำ ดังมาพร้อมกับหน้าบูดๆ หลังจากเวลาผ่านไปซักพัก แต่ละคนทะยอยเดินไปจับคนละใบ เหลือใบสุดท้ายที่เจ้าตัวยุ่งจับ ด้วยสีหน้าบอกความขบขันอย่างไม่น่าไว้ใจ
“ สีดำ พวกแกสีดำใช่มั้ย รุนพี่ลอเรนซ์สีดำช่ายม้ายฮะ ” เจ้าตัวยุ่งถามขึ้นมาด้วยเสียงกวนประสาท หลังจากเห็นสีหน้าของผู้ที่ได้ใบแดง หรือได้เกวียนของป้อมอัศวินพากันอมทุกข์ไปเป็นแถว
“ ไปกันเถอะ คาโล คิล ขึ้นเกวียนโว้ย ” เฟรินกล่าวอย่างอารมณ์ดีแล้วดันตัวเพื่อนซี้ไปข้างหน้าแต่เจ้าชายน้ำแข็งของเธอนั้น ดันยังไงก็ดันไม่ขึ้น จนเจ้าตัวนึกรำคาญ
“ แกจะยืนทำซากอะไรอยู่เล่า รีบๆขึ้นสิ ได้เกวียนดีๆทั้งทีเดี๋ยวพี่แกเปลี่ยนใจนายจะแย่ ” ว่าเสร็จเจ้าตัวก็กระโดดขึ้นเกวียนไป เเล้วยิ้มให้ลอเรนซ์เชิงผูกมิตรกับเจ้าของเกวียนไว้ก่อน
“ ฉันได้ใบแดง ” คาโลพูดด้วยเสียงเยียบเย็น แล้วเดินจากไปขึ้นเกวียนไอ้แก่ของป้อมอัศวิน เฟรินที่สมองเริ่มประมวลความได้จึงเริ่มโวยวายอย่างที่เพื่อนข้างตัวอยากบอกว่า มีดบินพร้อมมาทุกเมื่อนะโว้ย
“ ทำไมนายไปอยู่เกวียนสัปลังเคนั่นล่ะ ก็ฉัน ” เฟรินเริ่มตะกุกตะกัก คนถูกถามเริ่มสงสัยหวังเค้นความจริงจากปากแม่จอมยุ่ง
“ นายทำไม? ”
“ มานี่ๆ ” เฟรินควักมือเรียกคาโลอย่างเอาเป็นเอาตาย เจ้าชายน้ำแข็งผู้อยากรู้เรื่องจึงได้เเต่เดินไปตามคำสั่งอย่างอดที่จะส่งสายตาดุๆ ปรามไปก่อนไม่ได้ พร้อมๆกับคิลที่ขยับตัวมาฟังอย่างนึกสนุกไปด้วย
“ ฉันใช้เวทจากหนังสือเวทมนต์ที่โกโดมมันเอามาให้ไงเค้าเรียกว่าเวทเรียกของตามประสงค์น่ะ”
พอคนถูกอธิบายเริ่มทำหน้างง เจ้าตัวยุ่งก็เบ้หน้าก่อนจะเริ่มส่งเสียงจิ๊กจั๊กในลำคออย่างน่ารำคาญเป็นที่สุด ก่อนจะอธิบายต่อ
“ ก็พอลูคัสมันให้พวกนายหยิบใบพวกนั้น ฉันก็ร่ายเวทใส่ใบดำในนั้น แล้วพอพวกนายจะหยิบฉันก็เรียกชื่อของ มันก็จะลอยมาอยู่ในมือพวกนายไง ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
“ งั้นเหรอ เล่าต่อๆ แล้วลูคัศมันไม่รู้เหรอ มันเก่งออกอย่างนั้น” เสียงนุ่มๆ ดังมาจากข้างหลังอย่างที่เฟรินไม่นึกใส่ใจว่าเป็นเสียงใคร เจ้าตัวยุ่งเริ่มถอนหายใจอย่างปลงสังเวช ก่อนจะเล่าด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“ เกิ่งเก่งอะไรก๊านนน ” เจ้าตัวยุ่งลากเสียงยาวอย่างหน้าถีบ ก่อนจะพายมือทำท่ารำคาญไอ้คนถาม “ เวทของเล่นแค่นี้ยังไม่รู้เรื่องเลย ไม่เก่งหรอกลูคัสน่ะ ” แล้วเจ้าตัวยุ่งก็ถอนหายใจ ก่อนจะปั้นสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างรวดเร็วน่าใจหาย
“ แต่ฉันก็ยังสงสัยว่าทำไมคาโลมันได้ใบแดง ” เฟรินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าครุ่นคิดหนัก
“ ฉันก็ได้ใบแดง ” เสียงครี้ดเอ่ยขึ้นบ้าง เฟรินได้ยินดังนั้นจึงหันไปทำตาถลนใส่คนพูดอย่างตกใจ ก่อนจะก้มหัวต่ำลงไปในวงอีก
“ นี่พวกแกว่าเป็นไปได้ไหมที่ฉันจะร่ายเวทผิด แต่มันก็สั้นจุ๊ดจู๋เลยนะเมื่อเทียบกับเวทย้อนกาลเวลาน่ะ”
ว่าแล้วเฟรินก็หันไปยิ้มกว้างให้คาโล ซึ่งเริ่มส่งสายตาดุอีกครั้ง
“ นายลองร่ายเวทให้ฉันฟังหน่อยสิ จะได้รู้ว่านายร่ายผิดรึเปล่าไง ” เสียงนุ่มๆเสียงเดิมดังขึ้นอีกโดยที่เขาเริ่มงสัยว่าในหมู่นักเรียนป้อมอัศวินที่นี่มีใครเสียงพระเอกขนาดนั้น จึงหันไปมองพร้อมๆกับด่าไปด้วย
“ แล้วแกจะรู้ได้ยังไง เวทนี่มันของเล่นสำหรับฉัน แต่มันเป็นเวทชั้นสูงนะ ฉันร่ายไปแกจะรู้เรอะว่าถูกหรือผิด ..แหะๆ” เจ้าตัวยุ่งชะงัก ก่อนที่จะหัวเราะแห้งๆ ให้คนที่ยืนค้ำหัวข้างหน้าอย่างเป็นมิตร
“ รู้สิ ถึงฉันจะไม่เก่งอยากที่เธอว่านะเฟริน ” คนฟังที่ตอนนี้อยากให้ลูคัสเรียกเธอว่าเฟรี่เหมือนเดิมเสียแล้ว เฟรินเริ่มเหงื่อตก
ด่าไปได้ตั้งเยอะ พี่แกก็หรอกถามได้ตั้งนาน แล้วนี่พี่แกขึ้นเกวียนมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ตาย งานนี้ตายแน่’ เฟรินคิดในใจแล้วเริ่มหันไปหาคนช่วย
“ เฮ้ย พวกแก!! กลับมา จะไปไหน .กลับมะ ” ไอ้เพื่อนเลวดันเดินไปขึ้นเกวียนสับปะลังเคที่เธอว่ากันหมดเเล้ว โดยไม่สนใจเกวียนงามๆนี้เลย ตอนนี้ยังไงลงนรกยังดีกว่าสวรรค์ที่มีเทวดาอย่างลูคัสกับลอเรนซ์นี่ล่ะ ลูคัสแสยะยิ้มให้ก่อนที่จะก้มตัวลงเเล้วจับปลายคางเฟรินเชิดขึ้น นัยน์ตาสีดำสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โต ก่อนที่ริมฝีปากคนที่ตัวโตกว่าจะส่งคำพูดที่ทำให้อวัยวะภายในปั่นป่วน
“ แล้วฉันจะทำให้เธอรู้เฟริน ว่าฉัน เก่ง กว่าที่เธอคิดไว้มาก”
เมื่อจบประโยคลูคัสก็เริ่มร่ายเวท งูยักษ์ 2 ตัวปรากฎขึ้นที่มือของลูคัส เฟรินมองด้วยสีหน้าสะพรึงกลัว บุรุษตรงหน้าไม่มีความเอ็นดูฉายอยู่ในดวงตาดำขลับคู่นั้นเลยสักนิด เหลือแต่แววดูแคลนกับความโกรธที่ไหลทะลักอย่างจงใจเปิดเผย
เฟรินหวนระลึกกลับไปครั้งที่นักดาบอันดับหนึ่งของบารามอสบุกป้อมอัศวิน นาทีแห่งความตายกำลังใกล้เข้ามาสำหรับเธอ เฟรินหลับตาปี๋ หวังว่าคาโลจะทำอะไรซักอย่างแต่ไอ้น้ำแข็งบ้านั่นดันยืนเฉยราวกับไม่รับรู้ว่าเธอจะตายอยู่แล้วจากน้ำมือของซาตานข้างหน้า
ไอ้บ้า ยืนเซ่ออะไรอยู่วะ ช่วยฉันที
‘ตายแน่ ตายมั้ย ตายมั้ย
ความคิดที่อยากจะเปลี่ยนเพราะมันนานมากเเล้ว กับเสียงกลั้นหัวเราะของใครบางคนที่คงกำลังพยายามไม่ปล่อยเสียงออกมาอย่างสุดความสามารถ เฟรินรวบรวมความกล้าแล้วค่อยๆ เผยอเปลือกตาอย่างช้าๆ
ภาพที่เห็นเบื้องหน้า?
คำพูดของคนต้นเรื่องที่ทำเอาเธอกลัวหัวหด
“ เฟรี่ เข้าไปนั่งในเกวียนสิ ถ้าโดนงูกัด ลอรี่จะฆ่าฉันที่ทำน้องรักเจ็บ ” ลูคัสพูดอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับพยายามกลั้นหัวเราะกับสีหน้าเหยเกจากความงงงวยและตกใจของเธอ งูที่มือของลูคัสหายไปแล้ว แววตาอ่อนโยนและสีหน้าใจดีหลังแว่นตากรอบทองกลับมาเหมือนเดิม ลูคัสรีบพยุงเฟรินขึ้นมาจากพื้นเกวียนก่อนจะหันไปมองลอเรนซ์ด้วยความสงสัยว่าทำไมครั้งนี้มันไม่ฝึกใช้เขาเป็นที่ปามีด
“ นักบวชนี่ขี้เซาทุกคนรึเปล่าเนี่ย” ลูคัสพูดอย่างรำคาญใจที่อุตส่าห์แสดงละครจำอวดเเต่เพื่อนซี้กลับไม่ได้ดูซะนี่ ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลที่กำลังอาละวาดใส่เพื่อนนักฆ่ากับเจ้าชายคนสำคัญอย่างออกรส น่าดูทีเดียว
“ ส่วนขโมยก็มักจะโวยวายเป็นธรรมดา ” แองจี้พูดอย่างพยายามกลั้นหัวเราะ ขณะที่มองคนที่อาละวาด จนเพื่อนผู้น่าสงสารเดินหนีหายกันไปเป็นแถว สุดท้ายเจ้าของผมทรงหางม้ากับนัยน์ตาโตสีฟ้าสวยที่กำลังหัวเราะร่วนทำให้เพื่อน ๆ พากันหัวเราะตามกับภาพตรงหน้าของสามสหายคนสำคัญของป้อมอัศวินปี 3
“ พวกนายน่ะ ทำผิดแล้วคิดหนีเรอะ กลับมานะโว้ย ไอ้บ้า!!”
เฟรินพูดพร้อมวิ่งกระโดดถีบตามคิล กับคาโลที่หลบได้ทุกครั้งจนเจ้าตัวเส้นสมองเริ่มแตก คิลนักฆ่าหนุ่มน้อยที่อารมณ์ดีเป็นนิจ หลบซ้าย ปาดขวา อ้อมหน้า อ้อมหลัง ท้าให้ถีบอย่างยั่วอารมณ์ได้ดีนัก กับเจ้าชายคาโล น้ำแข็งก้อนสำคัญของหอคอยงาช้างแห่งคาโนวาลที่เริ่มหมดความสำคัญ จนเริ่มเลี่ยงออกมายืนดูกับเพื่อนร่วมป้อมคนอื่น เพราะแม่จอมยุ่ง กับไอ้คนดีเเต่เล่นมันเริ่มยั้วทั้งคู่ หลังจากที่คิลถูกบาทาเฟรินเข้าอย่างจังที่บั้นท้าย มันเลยตั้งใจจะเอาคืนบ้าง
“เฟริน หยุด!!! ” คิลตะโกนด่าอย่างเริ่มหมดความอดทน ทั้งจุก ทั้งอาย จากคนถูกล่ากลายเป็นผู้ล่า ผู้ถูกล่าคนใหม่ก็วิ่งหลบอย่างคล่องแคล่ว ลีลาสวยงาม แถมยังแลบลิ้นใส่อย่างไม่สมเป็นผู้หญิง อาศัยวิชาตีนเบา ประจำก้นหีบตระกูลเดอร์บอโรหวังกะจะยั่วคนอารมณ์บูดตรงหน้าคืนบ้าง
“ หี้ๆ กุบกับๆ” เสียงประหลาดดังมาจากข้างหลังที่ทำเอานักแสดงโชว์ผาดโผนตรงหน้าชะงัก ก่อนทุกคนจะหันหน้ากลับมา ภาพที่ทำให้หัวใจหล่นวูบ
“ เกวียนฉ้าานนนน!! ” คนอุปโลกเอาเกวียนเล่มงามเป็นของตัวเอง ร้องขึ้นก่อนจะแถมลูกถีบให้คิลหนึ่งที แล้ววิ่งตามเกวียนที่ถูกลอเรนซ์สั่งให้เดินไปข้างหน้าอย่างกะจะทิ้งพวกตัวถ่วงตัวยุ่งทั้งหลายเอาไว้ให้กลับกันเอง
ความคิดเห็น