คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องวุ่นๆ ระหว่างเดินทางกลับเอดินเบิร์ก
ย้อนกลับไปประมาณ 1 เดือนก่อน
“ สวัสดีเฟรี่ ” เสียงทักทายสดใสที่ดังมาจากทางใดทางหนึ่งอย่างไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร ก่อนที่เจ้าตัวจะปรากฎตัวขึ้นจากทางซ้ายและเดินตรงมาทางพวกเขาพร้อมกับอีก 1 ผู้คุมกฎ ผู้ซึ่งหน้าบูดสนิทตลอดกาล ลูคัส ซาโดเลีย กับลอเรนซ์ ลอร์น ซาตานและนักบวชแห่งป้อมอัศวินนั่นเอง
“ นี่ขนมาทั้งชั้นเลยรึไง” เสียงบ่งบอกความรำคาญและประหลาดใจดังมาจากนักบวชแห่งป้อมอัศวิน เฟรินหันไปทางเพื่อน ๆ ที่เริ่มเดินลงมาจากเกวียนและตรงมาหาเขาทีละคน สองคน
“ ก็ที่เยอะเเบบนี้ก็ไอ้พวกนี้มันก็กำลังเดินทางกลับเอดินเบิร์ก พอเจอเกวียนพวกเราก็เลยขออาศัยตามกันมาเป็นขโยง จนเกวียนเก่าๆของป้อมอัศวินเกือบพังเเน่ะฮะ ”
เฟรินหันมาให้คำตอบกับลอเรนซ์ แต่แล้วก็ไปสะดุดกับท่าทีขำขันของบุรุษนัยน์ตาดำ ที่อารมณ์ดีเป็นนิจ พร้อมกับแก้วน้ำชาในมือที่ตอนนี้มีน้ำสีดำๆที่ดูเหมือนน้ำเฉ่าก๊วยเอาไว้ สงสัยคงหาน้ำชาดื่มไม่ได้ ก่อนจะเดินมาจับไหล่เฟริน
“ นี่ลอรี่ เจอหน้าน้องรัก ไม่ทักทายกันหน่อยเหรอ มาถึงก็ดุเลย อย่างนี้ใครเค้าจะ ”
‘ เฟี้ยว ’
เสียงวัตถุดังแหวกอากาศ พร้อมกับที่ถ้วยเฉ่าก๊วยในมือลูคัสแตกลง น้ำเฉ่าก๊วยไหลย้อยลงบนเสื้อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งสอง หน้าเฟรินเต็มไปดวยเศษเฉ่าก๊วยชิ้นเล็กๆ เกาะทั่วเหมือนมันรักเธอมากมาย ส่วนลูคัสก็ไม่แพ้กันแต่ยังดีที่เสื้อเธอไม่เปื้อนมากนัก
รอยยิ้มกระตุกตรงมุมปากพร้อมกับดวงตาขำขันที่หาได้ยากจากลอเรนซ์ ดอร์น ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะอออกมาดังลั่น เสียงหัวเราะที่ทำให้รุ่นน้องปี 3 ป้อมอัศวินที่เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่เห็นผลงานของลอเรนซ์ ต่างตะลึงงัน เพราะแต่ไหนมานักบวชศักดิ์สิทธิ์คนนี้แม้แต่รอยยิ้มยังยาก ง่ายก็แต่การแสยะยิ้มเท่านั้น
“ นี่..หึ..ถ้านายเรียก หึ ฉัน..อึก..แบบนั้นอีก..หึ..นายก็จะเป็นเหมือน ฮ่าๆๆๆเหมือนจริงๆ เหมือนจริงๆ” คนที่ไม่เข้าใจว่าเหมือนอะไรเริ่มเดินมาทางพวกเขา 3 คน เมื่อเห็นผลงานของลอเรนซ์ ที่ลอเรนซ์ตั้งชื่อว่า
เฉ่าก๊วยทั้งสอง เฟรินลูคัสเราพี่น้องกันนะ ก็เริ่มเข้าใจและเห็นด้วยกับชื่อใหม่ที่ลอเรนซ์ตั้งให้
สภาพรุ่นพี่เฉ่าก๊วยปี 7 ยืนโอบไหล่ รุ่นน้องเฉ่าก๊วยปี 3 แห่งป้อมอัศวิน กับรอยแสยะยิ้มบนใบหน้าก่อนจะรวมพลังหมัดใส่หน้านักบวชศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่บังอาจมาตั้งชื่อให้คนที่ยากจะเปลี่ยนชื่อกับคนที่ชอบเปลี่ยนชื่อให้คนอื่นยอมไม่ได้ เฟรินและลูคัสเลยตั้งชื่อหมัดนี้ว่า
เราผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง หมัดนี้สนองไอ้ปากมอม
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของลิงทะโมนชาวป้อมอัศวิน ป้อมอัศวินที่สู้เพื่อความสนุกสนานมิใช่เพื่ออำนาจ
“ ผมจะอยู่กับคาโลกับคิลมัน ” เฟรินพูดอย่างเริ่มมีอารมณ์
“ แล้วเธอจะให้สามสาวนั่นอยู่กับฉันหรือกับลอรี่เหรอ สามสาว 1 หนุ่ม” แล้วลูคัสก็ทำท่าครุ่นคิดอย่างน่าถวายบาทาให้ “ ไม่ไหวนาเฟรี่ ”
“ งั้นก็ เกวียนนึง 5 หนุ่ม 1 สาว กับอีกเกวียนนึง 3 สาว 4 หนุ่มก็ได้นี่ฮะ ” เจ้าตัวดีทำหน้าทะเล้นเริ่มอธิบายอย่างหาทางออกให้ตัวเอง ส่วนลูคัสที่เริ่มสงสัยรายการหนุ่มสาว เลยพยักหน้าให้เฟรินอธิบายต่อ
“ ก็เรามีทั้งหมด เออกี่คนเนี่ย ” แล้วเฟรินก็เริ่มชี้นิ้วไปทีละคน พอไปถึงลอเรนซ์เฟรินก็รีบเอานิ้วลงแทบไม่ทัน เพราะมีดบินปามาอย่างรวดเร็วหวังจุดหมายปลายทางไว้ที่นิ้วเขา
“ ดันไปชี้หน้ารุ่นพี่ลอเรนซ์ อยากตายเมื่ออายุน้อยรึไง เดี๋ยวอดเป็นชายาคาโลมันหน่า” เสียงกวนประสาทของครี้ดกระซิบข้างหูทำให้ ว่าที่พระชายาแห่งคาโนวาลหน้าแดงก่ำจนเลยถวายศอกใส่สีขางคนพูดอย่างแรงดับความอาย
“ โอเค 13 คนพอดี เกวียนเล่มแรกของรุ่นพี่ลอเรนซ์มี ผม คาโล คิล โร เดท แล้วก็ ครี้ด” เฟรินพูดเเล้วหันหน้าไปตามรายชื่อทีละคน
“ เกวียนเล่มแรก 6 หนุ่ม ครบ!!” เจ้าตัวพยักหน้าเเล้วเริ่มอธิบายต่อ
“ เกวียนเล่มที่สองของป้อมเรามีรุ่นพี่ลูคัส รุ่นพี่ลอเรนซ์ ซีบิล กัส มาทิลด้า เรนอน แล้วก็แองจี้” แล้วเจ้าตัวก็หันไปยิ้มแฉ่งให้กับแองเจลีนา โรมานอฟ ผู้ซึ่งโดนเรียกว่าแองจี้เรื่อยมา
“ 3 สาว 4 หนุ่ม ครบ!!” แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มร่าพร้อมกับเดินจะไปขึ้นเกวียนที่อุปโลกมาเป็นของตน
“ ไม่!! เกวียนของฉัน ฉันต้องนั่ง ไหงเธอเอาเกวียนเก่าๆของป้อมมายัดเยียดฉัน มันไม่แฟร์ ”
แล้วลอเรนซ์ก็เดินไปนั่งบนเกวียนของตัวเอง ที่ทำเอาหัวขโมยเก่าแก่ทำหน้าบุ้ย
“ นายจัดการลูคัส ยังไงก็ได้เเต่ฉันจะนั่งเกวียนฉัน ” เสียงเครียดที่มีกระแสของความโกรธมาจากบุรุษที่ตอนนี้เหมือนมีกองไฟเล็กๆลุกโชนอยู่ในดวงตา ส่งมาให้เฟรินและคนอื่นๆ ทำให้บางคนเผลอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ว่าแล้วลอเรนซ์ก็ผลุบหายเข้าไปในเกวียนอย่างนักบวชจำศีลในฤดูหนาว ( นักบวชหรือคางคกวะเนี่ย ) ลูคัสหันมายิ้มให้เฟรินอย่างเห็นใจ
“ เธอต้องเข้าใจนะเฟรี่ ยังไงถ้าเกวียนนั้นลอรี่ยึดเเล้ว ฉันก็คงต้องประจำอีกเกวียน ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจก็เถอะ อย่างว่าป้อมอัศวินมันบ่จี๊นี่ ยังไงเราก็ต้องดูแลพวกเธอ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเธอจะได้อยู่กันครบก๊วนหน่ะ ” ลูคัสว่าแล้วก็เดินตามลอเรนซ์เข้าไปในเกวียน ต่อมาเฟรินก็ได้ยินเสียงโลหะแหวกอากาศดังอยู่ใกล้ๆ แล้วมีดของลอเรนซ์ก็ยื่นหน้าออกมาจากผนังเกวียน ตามมาด้วยเสียงของลูคัส
“ โธ่ ลอรี่เกวียนเป็นรูหมด ฝนตกแล้วจะเเย่นะ แต่ไม่เป็นไรเกวียนนายไม่ใช่เกวียนฉัน เอิ๊กๆๆ ”
“ เฟี้ยว ๆๆ” เสียงมีดของลอเรนซ์ปามาอีกเป็นชุดอย่างน่าสงสัยว่าลูคัสคงพรุนเป็นฟองน้ำไปแล้ว ถ้าไม่ฝึกอยู่บ่อยๆ อย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เจ้าตัวยุ่งหัวเราะก๊ากๆอย่างน่าหมั่นไส้ พลางเดินสำรวจเกวียน
เกวียนของลอเรนซ์เป็นเกวียนสีเปลือกไม้สวยงาม เเข็งแกร่ง และใหญ่โต อาชาสีดำสนิทอ้วนพี 4 ตัวก็ดูสง่างาม กับเกวียนของป้อมอัศวินซึ่งไม่ต่างจากเกวียนของเขากับพ่อเมื่อก่อนมาเอดินเบิร์กไม่ผิดเพี้ยนดีแค่ว่าใหญ่กว่าหน่อย กับม้าที่ยังแก่น้อยกว่าเจ้าโรซี่ 4 ตัวเหมือนกัน เป็นใครก็อยากได้ของรุ่นพี่ลอเรนซ์ นี่ถ้าขโมยไปขายจะได้เท่าไหร่เนี่ย
เฟรินคิดในใจขณะเดินสำรวจสภาพเกวียนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงราวนรก กับสวรรค์ ถ้าเราเปรียบให้เกวียนป้อมอัศวินเป็นนรก ซึ่งสมควรได้รับตำแหน่งอย่างไม่มีใครไม่เห็นด้วย กับเกวียนที่เปรียบเสมือนสวรรค์ของรุ่นพี่ลอเรนซ์ ยังไงคงไม่มีใครบ้าไปเกวียนนรกนั่นหรอก และเขาก็ไม่ใช่คนบ้า?
งั้นก็ขอไปสู่เอดินเบิร์กด้วยความสบายกับทางอันทอดยาวไปสู่สรวงสวรรค์ดีกว่า
เพราะฉะนั้นจุดหมายเดิมก็ยังเป็นจุดหมายเดิม เกวียนของลอเรนซ์นั่นเอง’
เฟรินคิดเเล้วแสยะยิ้มขึ้นมาอย่างหวังกำชัยในศึกแย่งเกวียนครั้งนี้
ความคิดเห็น