ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic--หัวขโมยแห่งบารามอส--ภาคดาบฝ่าปฐพี

    ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องวุ่นๆ ระหว่างเดินทางกลับเอดินเบิร์ก

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 49


    ย้อนกลับไปประมาณ 1 เดือนก่อน

    สวัสดีเฟรี่   เสียงทักทายสดใสที่ดังมาจากทางใดทางหนึ่งอย่างไม่ต้องบอกว่าเป็นใคร   ก่อนที่เจ้าตัวจะปรากฎตัวขึ้นจากทางซ้ายและเดินตรงมาทางพวกเขาพร้อมกับอีก 1 ผู้คุมกฎ  ผู้ซึ่งหน้าบูดสนิทตลอดกาล ลูคัส  ซาโดเลีย  กับลอเรนซ์  ลอร์น ซาตานและนักบวชแห่งป้อมอัศวินนั่นเอง  

    นี่ขนมาทั้งชั้นเลยรึไง  เสียงบ่งบอกความรำคาญและประหลาดใจดังมาจากนักบวชแห่งป้อมอัศวิน  เฟรินหันไปทางเพื่อน ๆ  ที่เริ่มเดินลงมาจากเกวียนและตรงมาหาเขาทีละคน  สองคน 

    ก็ที่เยอะเเบบนี้ก็ไอ้พวกนี้มันก็กำลังเดินทางกลับเอดินเบิร์ก  พอเจอเกวียนพวกเราก็เลยขออาศัยตามกันมาเป็นขโยง  จนเกวียนเก่าๆของป้อมอัศวินเกือบพังเเน่ะฮะ

    เฟรินหันมาให้คำตอบกับลอเรนซ์  แต่แล้วก็ไปสะดุดกับท่าทีขำขันของบุรุษนัยน์ตาดำ  ที่อารมณ์ดีเป็นนิจ  พร้อมกับแก้วน้ำชาในมือที่ตอนนี้มีน้ำสีดำๆที่ดูเหมือนน้ำเฉ่าก๊วยเอาไว้  สงสัยคงหาน้ำชาดื่มไม่ได้  ก่อนจะเดินมาจับไหล่เฟริน

    นี่ลอรี่  เจอหน้าน้องรัก  ไม่ทักทายกันหน่อยเหรอ  มาถึงก็ดุเลย  อย่างนี้ใครเค้าจะ… ”

    เฟี้ยว 

    เสียงวัตถุดังแหวกอากาศ พร้อมกับที่ถ้วยเฉ่าก๊วยในมือลูคัสแตกลง  น้ำเฉ่าก๊วยไหลย้อยลงบนเสื้อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งสอง  หน้าเฟรินเต็มไปดวยเศษเฉ่าก๊วยชิ้นเล็กๆ เกาะทั่วเหมือนมันรักเธอมากมาย  ส่วนลูคัสก็ไม่แพ้กันแต่ยังดีที่เสื้อเธอไม่เปื้อนมากนัก 

    รอยยิ้มกระตุกตรงมุมปากพร้อมกับดวงตาขำขันที่หาได้ยากจากลอเรนซ์  ดอร์น  ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะอออกมาดังลั่น  เสียงหัวเราะที่ทำให้รุ่นน้องปี 3 ป้อมอัศวินที่เห็นเหตุการณ์  แต่ไม่เห็นผลงานของลอเรนซ์  ต่างตะลึงงัน  เพราะแต่ไหนมานักบวชศักดิ์สิทธิ์คนนี้แม้แต่รอยยิ้มยังยาก  ง่ายก็แต่การแสยะยิ้มเท่านั้น

    นี่..หึ..ถ้านายเรียกหึฉัน..อึก..แบบนั้นอีก..หึ..นายก็จะเป็นเหมือนฮ่าๆๆๆเหมือนจริงๆ  เหมือนจริงๆ  คนที่ไม่เข้าใจว่าเหมือนอะไรเริ่มเดินมาทางพวกเขา 3 คน เมื่อเห็นผลงานของลอเรนซ์ ที่ลอเรนซ์ตั้งชื่อว่า

     เฉ่าก๊วยทั้งสอง  เฟรินลูคัสเราพี่น้องกันนะ  ก็เริ่มเข้าใจและเห็นด้วยกับชื่อใหม่ที่ลอเรนซ์ตั้งให้

     สภาพรุ่นพี่เฉ่าก๊วยปี 7 ยืนโอบไหล่ รุ่นน้องเฉ่าก๊วยปี 3 แห่งป้อมอัศวิน กับรอยแสยะยิ้มบนใบหน้าก่อนจะรวมพลังหมัดใส่หน้านักบวชศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่บังอาจมาตั้งชื่อให้คนที่ยากจะเปลี่ยนชื่อกับคนที่ชอบเปลี่ยนชื่อให้คนอื่นยอมไม่ได้  เฟรินและลูคัสเลยตั้งชื่อหมัดนี้ว่า  

    เราผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง  หมัดนี้สนองไอ้ปากมอม

                ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของลิงทะโมนชาวป้อมอัศวิน  ป้อมอัศวินที่สู้เพื่อความสนุกสนานมิใช่เพื่ออำนาจ

     

     ผมจะอยู่กับคาโลกับคิลมัน เฟรินพูดอย่างเริ่มมีอารมณ์

    แล้วเธอจะให้สามสาวนั่นอยู่กับฉันหรือกับลอรี่เหรอ สามสาว 1 หนุ่ม  แล้วลูคัสก็ทำท่าครุ่นคิดอย่างน่าถวายบาทาให้ ไม่ไหวนาเฟรี่

    งั้นก็ เกวียนนึง 5 หนุ่ม 1 สาว กับอีกเกวียนนึง 3 สาว 4  หนุ่มก็ได้นี่ฮะ เจ้าตัวดีทำหน้าทะเล้นเริ่มอธิบายอย่างหาทางออกให้ตัวเอง  ส่วนลูคัสที่เริ่มสงสัยรายการหนุ่มสาว เลยพยักหน้าให้เฟรินอธิบายต่อ

    ก็เรามีทั้งหมดเออกี่คนเนี่ย แล้วเฟรินก็เริ่มชี้นิ้วไปทีละคน พอไปถึงลอเรนซ์เฟรินก็รีบเอานิ้วลงแทบไม่ทัน  เพราะมีดบินปามาอย่างรวดเร็วหวังจุดหมายปลายทางไว้ที่นิ้วเขา

    ดันไปชี้หน้ารุ่นพี่ลอเรนซ์   อยากตายเมื่ออายุน้อยรึไง  เดี๋ยวอดเป็นชายาคาโลมันหน่า  เสียงกวนประสาทของครี้ดกระซิบข้างหูทำให้  ว่าที่พระชายาแห่งคาโนวาลหน้าแดงก่ำจนเลยถวายศอกใส่สีขางคนพูดอย่างแรงดับความอาย

    โอเค 13  คนพอดี  เกวียนเล่มแรกของรุ่นพี่ลอเรนซ์มี ผม  คาโล คิล โร  เดท  แล้วก็ ครี้ด  เฟรินพูดเเล้วหันหน้าไปตามรายชื่อทีละคน

    เกวียนเล่มแรก 6 หนุ่ม ครบ!!”  เจ้าตัวพยักหน้าเเล้วเริ่มอธิบายต่อ

    เกวียนเล่มที่สองของป้อมเรามีรุ่นพี่ลูคัส  รุ่นพี่ลอเรนซ์  ซีบิล  กัส  มาทิลด้า  เรนอน  แล้วก็แองจี้  แล้วเจ้าตัวก็หันไปยิ้มแฉ่งให้กับแองเจลีนา  โรมานอฟ ผู้ซึ่งโดนเรียกว่าแองจี้เรื่อยมา

      3 สาว  4  หนุ่มครบ!!”   แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มร่าพร้อมกับเดินจะไปขึ้นเกวียนที่อุปโลกมาเป็นของตน 

    ไม่!!  เกวียนของฉัน  ฉันต้องนั่ง  ไหงเธอเอาเกวียนเก่าๆของป้อมมายัดเยียดฉัน  มันไม่แฟร์

    แล้วลอเรนซ์ก็เดินไปนั่งบนเกวียนของตัวเอง  ที่ทำเอาหัวขโมยเก่าแก่ทำหน้าบุ้ย

    นายจัดการลูคัส  ยังไงก็ได้เเต่ฉันจะนั่งเกวียนฉัน   เสียงเครียดที่มีกระแสของความโกรธมาจากบุรุษที่ตอนนี้เหมือนมีกองไฟเล็กๆลุกโชนอยู่ในดวงตา ส่งมาให้เฟรินและคนอื่นๆ ทำให้บางคนเผลอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ว่าแล้วลอเรนซ์ก็ผลุบหายเข้าไปในเกวียนอย่างนักบวชจำศีลในฤดูหนาว ( นักบวชหรือคางคกวะเนี่ย )  ลูคัสหันมายิ้มให้เฟรินอย่างเห็นใจ

    เธอต้องเข้าใจนะเฟรี่ ยังไงถ้าเกวียนนั้นลอรี่ยึดเเล้ว  ฉันก็คงต้องประจำอีกเกวียน ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจก็เถอะ  อย่างว่าป้อมอัศวินมันบ่จี๊นี่  ยังไงเราก็ต้องดูแลพวกเธอ  เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเธอจะได้อยู่กันครบก๊วนหน่ะ   ลูคัสว่าแล้วก็เดินตามลอเรนซ์เข้าไปในเกวียน  ต่อมาเฟรินก็ได้ยินเสียงโลหะแหวกอากาศดังอยู่ใกล้ๆ  แล้วมีดของลอเรนซ์ก็ยื่นหน้าออกมาจากผนังเกวียน  ตามมาด้วยเสียงของลูคัส

    โธ่  ลอรี่เกวียนเป็นรูหมด ฝนตกแล้วจะเเย่นะ  แต่ไม่เป็นไรเกวียนนายไม่ใช่เกวียนฉัน เอิ๊กๆๆ

    เฟี้ยว ๆๆ  เสียงมีดของลอเรนซ์ปามาอีกเป็นชุดอย่างน่าสงสัยว่าลูคัสคงพรุนเป็นฟองน้ำไปแล้ว  ถ้าไม่ฝึกอยู่บ่อยๆ  อย่างไม่ตั้งใจ  ทำให้เจ้าตัวยุ่งหัวเราะก๊ากๆอย่างน่าหมั่นไส้  พลางเดินสำรวจเกวียน

     เกวียนของลอเรนซ์เป็นเกวียนสีเปลือกไม้สวยงาม  เเข็งแกร่ง  และใหญ่โต  อาชาสีดำสนิทอ้วนพี 4 ตัวก็ดูสง่างาม  กับเกวียนของป้อมอัศวินซึ่งไม่ต่างจากเกวียนของเขากับพ่อเมื่อก่อนมาเอดินเบิร์กไม่ผิดเพี้ยนดีแค่ว่าใหญ่กว่าหน่อย  กับม้าที่ยังแก่น้อยกว่าเจ้าโรซี่ 4 ตัวเหมือนกัน  เป็นใครก็อยากได้ของรุ่นพี่ลอเรนซ์  นี่ถ้าขโมยไปขายจะได้เท่าไหร่เนี่ย  

    เฟรินคิดในใจขณะเดินสำรวจสภาพเกวียนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงราวนรก  กับสวรรค์   ถ้าเราเปรียบให้เกวียนป้อมอัศวินเป็นนรก  ซึ่งสมควรได้รับตำแหน่งอย่างไม่มีใครไม่เห็นด้วย  กับเกวียนที่เปรียบเสมือนสวรรค์ของรุ่นพี่ลอเรนซ์ ยังไงคงไม่มีใครบ้าไปเกวียนนรกนั่นหรอก  และเขาก็ไม่ใช่คนบ้า?

    งั้นก็ขอไปสู่เอดินเบิร์กด้วยความสบายกับทางอันทอดยาวไปสู่สรวงสวรรค์ดีกว่า 

    เพราะฉะนั้นจุดหมายเดิมก็ยังเป็นจุดหมายเดิมเกวียนของลอเรนซ์นั่นเอง  

    เฟรินคิดเเล้วแสยะยิ้มขึ้นมาอย่างหวังกำชัยในศึกแย่งเกวียนครั้งนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×