คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอน--ความวุ่นวายในป้อมอัศวิน
“ รุก ” เสียงหนึ่งประกาศอย่างมีอารมณ์
“ ใจเย็นน่า ” อีกเสียงค้านอย่างชักเริ่มน่าเห็นใจ
“ รุก ”
“ ใจเย็นโว้ย!! ” เสียงเดิมตะโกนอย่างเหลืออด
“ รุกฆาต ”
“ ”
คำประกาศรุกฆาตดังคับห้องนั่งเล่นรวมของชาวป้อมอัศวิน เรียกสายตาทุกคู่ให้หันมามองคนประกาศรุกฆาตผู้ซึ่งเป็นเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาล นัยน์ตาที่ทุกครั้งจะมีประกายขำขัน แต่บัดนี้บูดสนิท ทั้งที่เป็นผู้ชนะ กับอีกคนที่ถูกเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลประกาศรุกฆาตดังลั่น หรืออีกนัยคือประกาศความพ่ายแพ้ของเขา บัดนี้นัยน์ตามีประกายวิบวับด้วยความโกรธ กับรังสีทะมึนที่ปกคลุมทั่วห้อง เจ้าของนัยน์ตาสีม่วง คิลมัส ฟีลมัส เดอะ คิลเลอร์ ออฟ ซาเรส
“ ฝีมือนาย..กึก..ตกไปนะ กึก เฟริน” คิลพูดมีเสียงฟันกระทบกันดังมาเป็นจังหวะ บ่งบอกอารมณ์ผู้พูดได้เลยว่าบัดนี้พร้อมจะปฏิบัติการในอาชีพได้เเล้ว คำพูดที่ทำให้ผู้ชมรอบข้างพากันสงสัย
นี่ถ้าเฟรินมันฝีมือตก แล้วไอ้คนแพ้คนฝีมือตก มันไม่ตกยิ่งกว่าเหรอ
“ ฉันก็ว่างั้น แต่แหมอย่างว่านะคิล หึๆ ”
คนที่อารมณ์ดีขึ้นหลังจากชนะ?มา เริ่มกวนประสาทเพื่อนซี้ที่เส้นในสมองใกล้แตก นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตฉายประกายวิบวับน่าสงสัย ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะขยับส่งถ้อยคำกวนประสาทมาอีก
“นักฆ่าอ่อนหัดอย่างนาย จะมาชนะเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์อย่างฉันเหรอ ฮะๆๆๆ ”
“ คุณเฟรินลืมอะไรไปรึเปล่าครับ หัวขโมยเก่าด้วย ”
เสียงของซีบิลดังขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะของเจ้าหญิงที่จิตไม่ปกติ และทำทำตัวไม่สมเป็นหญิง เรียกเสียงหัวเราะของผู้คนในห้องนั่งเล่นรวมได้ดังกระหึ่ม แต่ผู้ที่ถูกประนามว่าเป็นนักฆ่าอ่อนหัดที่ไม่มีอารมณ์ขันไปด้วยกระโดดไปขย้ำคอเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์เรียบร้อยแล้ว
“ ไอ้บ้าคิลแก ปล่อยฉัน แค่กๆ”
เสียงไอของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่บอกอาการว่าใกล้จะหายใจไม่ออกทำให้เพื่อนๆ ช่วยกันจับนักฆ่าอ่อนหัดออกมา ก่อนที่เอดินเบิร์กจะถูกท้ารบทั้งจากบารามอสและเดมอส
“ แพ้แล้วก็แพ้ดิวะ คนอะไรไร้น้ำใจนักกีฬา ” เจ้าหญิงที่บัดนี้รอดพ้นจากเงื้อมมือนักฆ่าได้เริ่มปากเก่งอีกครั้ง ก่อนจะเอามือลูบคออย่างให้มั่นใจว่าคอเธอยังอยู่ และแสยะยิ้มให้เพื่อนซี้ที่บัดนี้ถ้าไม่ถูกเพื่อนช่วยกันยึดไว้ คงได้กระโจนไปถีบคนปากหมาอีกรอบ
“ แต่เอาวะเห็นแก่ที่แกเป็นเพื่อนซี้ฉัน ฉันจะเป็นคู่ซ้อมหมากรุกให้แกอีกทีละกัน เผื่อว่าสมอง อ๊ากก ”
ยังไม่ทันที่เจ้าหญิงปากหมาจะพูดจบประโยค คิลก็เหวี่ยงเจ้าพวกปลิงที่ยึดเขาไว้กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ก่อนจะกระโดดไปบีบคอไอ้คนปากไม่ดีตรงหน้า
“ นี่มันอะไรกัน!!! ”
เสียงดังอย่างเต็มไปด้วยอำนาจที่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากมาทิลด้า ซิลเวอร์ เดอะปริ๊นเซส ออฟ อเมซอน หนึ่งในสามสาวแห่งป้อมอัศวิน ( ที่ตอนนี้อาจจะกลายเป็นสี่สาวไปแล้ว ‘-.-)
“ เฟริน คิล พวกนายด้วย”
เสียงดังยังตวาดไปเรื่อย หลังจากมองคู่กรณีสองคน นักฆ่าจากซาเรสที่หน้าตาเป็นริ้วๆด้วยความโกรธหรืออะไร? เสื้อผ้าขาดเป็นทางยาว กำลังดึงคอเสื้อของธิดาแห่งความมืดที่อยู่ในชุดนอนหลุดลุ่ย มือคนที่นอนอยู่เบื้องล่างก็ดันหน้านักฆ่าสุดเเขน แต่สงสัยคงทั้งข่วน ทั้งตบด้วยเพราะหน้าตาดูดีของนักฆ่าเเห่งซาเรสตอนนี้มีแต่รอยแดง เป็นรูปแมวบ้าข่วน กับรอยฝ่ามือที่คงไม่ต้องสงสัยว่ามาจากใคร กับไอ้ลิงทะโมนปี 3 ที่กระจายกันไปคนละทิศคนละทาง 3-4 คนกำลังคลำก้นป้อยๆอย่างหน้าตาเหมือนกำลังถ่ายหนักเเต่หาห้องน้ำไม่เจอ คงบอกได้ว่ากระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรก บางคนหัวปูดออกมาเป็นลูกๆ อย่างน่าหวาดเสียว
“ ไอ้บ้าคิลมันอาละวาด”
เสียงฟ้องแรกดังมาจากเฟริน หัวขโมยแห่งบารามอสที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นเจ้าหญิงเฟลิโอน่าแห่งเดมอสและบารามอส ที่เจ้าตัวยังยืนยันให้เรียกว่าเฟรินเหมือนเดิมเพราะรับไม่ได้กับชื่อลิเกเฟลิโอน่านั่น พร้อมๆกับถีบคนบ้าอาละวาดกระเด็นโครมอย่างไม่สมเป็นเจ้าหญิง
ไม่สมแม้กระทั่งเป็นผู้หญิงแถวตะเข็บชายแดนได้เลย .
“ ไหนว่ามาซิ พวกนาย!!!” เสียงตวาดจากมาทิลด้า เสียงดังอย่างที่รีบผู้รับเคราะห์ทั้งหลายยกมือปิดหูกันเร่งด่วน
“ เป็นอย่างนี้นี่เองเหรอคะ คุณเฟรินไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะคะไปเล่นหมากรุกโกงเค้า เรนอนถึงว่าคุณคิลได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนั้น”
เสียงดังมาจากเจ้าหญิงคนงามแห่งป้อมอัศวิน เรนอน ธีน็อท เดอะปรินเซส ออฟ คาโนวาล พร้อมๆกับที่ทุกคนพยักหน้าเห็น รวมทั้งคู่กรณีของเธอที่เห็นว่าได้ทีจึงเริ่มขอความเห็นใจต่อ
“ ใช่!! เดินหมากบ้านแกสิ คิงบ้าอะไรเดินทีเดียวหกช่อง ติดเชื้อบ้าองครักษ์ของนายมารึไง”
เพื่อนๆ ต่างพยักหน้าเห็นด้วยอีกครั้งถึงว่าคิลมันบอกว่าเฟรินฝีมือตก ก่อนที่ใครคนหนึ่งในจำนวนผู้อภิปรายความผิดของเฟรินทั้ง 16 คน จะหัวเราะขึ้น
“ นายติดเชื้อบ้ามาจากองครักษ์นายแน่ๆ ล่ะ นายเคยเล่าให้ฉันฟังตอนอยู่เดมอสว่าโกโดม โคมุสนั่นเดินคิงทีเดียวหกช่อง”
เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวเอ่ยขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะจากทุกคนดังลั่น โร เซวาเรส เดอะ เบ็กการ์ ออฟ ทริสทอร์ ผู้ที่ยังน่าสงสัยเกี่ยวกับสถานะอันแท้จริงว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาท ของเวนอล หรือทริสทอร์กันแน่
“ อย่างว่านะเฟริน คนแคระน่ะจะไปรู้เรื่องเกี่ยวกับหมากรุกได้ยังไง นายคงติดเชื้อมาจากมันจริงๆ เจ้านายกับลูกน้องมันก็พอๆกันแหละ” คิลพูดอย่างตอกย้ำ คนถูกกล่าวหาทำท่าจะพูดเเต่ก็ถูกขัดอีก
“ ใช่ เชื้อบ้า นายมันมีอยู่เต็มตัวยังไปเอาของคนแคระนั่นมาอีก สงสารมันหน่อยเถอะ ถูกองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ในสายตาของมันแย่งเอาไป มันก็ยอมอยู่เเล้ว แต่เดี๋ยวมันจะไม่มีความบ้าเอาไว้ปกป้องนายนะเฟริน”
เสียงของบุรุษหนุ่มตาเดียวดังขึ้น อย่างที่ทุกคนก็เห็นด้วยอีก
นี่มันจะไม่ให้เธอพูดอะไรเลยรึไง ไอ้บ้าพวกนี้
“ รังแกคนเเคระ” แองจี้พูดขึ้นบ้างให้คนถูกประนามหันขวับไปมอง
“ กวางต่างหาก ไม่ใช่คนแคระ” เฟรินพูดขึ้นบ้าง
“ คนแคระต่างหาก” คู่กรณีตาม่วงไม่ยอมเเพ้ แต่อย่างว่าคนตาโตกว่าย่อมชนะคนตาโตน้อยกว่า มันเป็นอนิจจัง
“ กวางโว้ย!! ไอ้กวางนั่นเป็นองครักษ์ฉัน ฉันให้มันเป็นกวางมันก็คือกวาง คนแคระบ้านแกสิมีเขา ”
“ แล้วกวางบ้านแกสิตัวเท่าลูกแมว”
“ เออ!! กวางบ้านฉันสิ หรือนายจะเถียงว่าไอ้โกโดมมันอยู่ซาเรสบ้านนาย ไม่ใช่เดมอสบ้านฉัน”
“ .. ” เฟรินที่รู้ว่าเจ้าเพื่อนซี้มันเถียงไม่ออกเลยเริ่มประกาศชัยชนะ
“ หึ หึ ชั่วโมงบินมันต่างกันไอ้น้อง ” เจ้าของนัยน์ตาสีม่วงซึ่งเถียงไม่ออก มองเจ้าเพื่อนซี้ปากไม่ดีอย่างอาฆาต แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นขำขันก่อนจะหัวเราะออกมาดังลั่น เพราะคำพูดของใครคนหนึ่ง
“ คนแคระเขากวาง ถ้านายไม่ว่าอะไรคิล ฉันจะบอกว่าบ้านฉันมีอยู่ตัวนึง ”
แล้วบทสนทนาเรื่องที่ว่าโกโดมเป็นกวางหรือเป็นคนแคระก็จบลง เนื่องด้วยว่าเจ้าชายคาโล วาเนบลี แห่งคาโนวาลได้สรุปว่ามันเป็นคนแคระเขากวางเพราะว่าบ้านคาโนวาลของเขามีอยู่ตัวหนึ่ง หรือที่เฟรินเชื่อว่าไอ้ก้อนน้ำเเข็งเดินได้นั่นคงอุปโลกขึ้นมาเอง แต่ไม่อยากเถียงกับมัน เพราะเธอตั้งปณิธานไว้ว่าเธอจะไม่คุยกับมัน นอกเสียจากมันจะเลิกนิสัยงี่เง่าที่ไม่ยอมคุยกับเธอ ถ้าเพียงเพราะว่ามันไม่เป็นพวกหัวสมองปิดตาย
ความคิดเห็น