ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic--หัวขโมยแห่งบารามอส--ภาคดาบฝ่าปฐพี

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอน--ความวุ่นวายในป้อมอัศวิน

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 49


    รุก   เสียงหนึ่งประกาศอย่างมีอารมณ์

                ใจเย็นน่า อีกเสียงค้านอย่างชักเริ่มน่าเห็นใจ

                รุก  

                ใจเย็นโว้ย!! ”  เสียงเดิมตะโกนอย่างเหลืออด

                รุกฆาต

                ………”

    คำประกาศรุกฆาตดังคับห้องนั่งเล่นรวมของชาวป้อมอัศวิน  เรียกสายตาทุกคู่ให้หันมามองคนประกาศรุกฆาตผู้ซึ่งเป็นเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาล  นัยน์ตาที่ทุกครั้งจะมีประกายขำขัน  แต่บัดนี้บูดสนิท  ทั้งที่เป็นผู้ชนะ  กับอีกคนที่ถูกเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลประกาศรุกฆาตดังลั่น  หรืออีกนัยคือประกาศความพ่ายแพ้ของเขา  บัดนี้นัยน์ตามีประกายวิบวับด้วยความโกรธ    กับรังสีทะมึนที่ปกคลุมทั่วห้อง  เจ้าของนัยน์ตาสีม่วง    คิลมัส  ฟีลมัส  เดอะ  คิลเลอร์  ออฟ  ซาเรส

    ฝีมือนาย..กึก..ตกไปนะกึกเฟริน  คิลพูดมีเสียงฟันกระทบกันดังมาเป็นจังหวะ  บ่งบอกอารมณ์ผู้พูดได้เลยว่าบัดนี้พร้อมจะปฏิบัติการในอาชีพได้เเล้ว  คำพูดที่ทำให้ผู้ชมรอบข้างพากันสงสัย 

    นี่ถ้าเฟรินมันฝีมือตก  แล้วไอ้คนแพ้คนฝีมือตก  มันไม่ตกยิ่งกว่าเหรอ

    ฉันก็ว่างั้น  แต่แหมอย่างว่านะคิล หึๆ 

     คนที่อารมณ์ดีขึ้นหลังจากชนะ?มา  เริ่มกวนประสาทเพื่อนซี้ที่เส้นในสมองใกล้แตก  นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตฉายประกายวิบวับน่าสงสัย  ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะขยับส่งถ้อยคำกวนประสาทมาอีก

    นักฆ่าอ่อนหัดอย่างนาย  จะมาชนะเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์อย่างฉันเหรอ  ฮะๆๆๆ

                คุณเฟรินลืมอะไรไปรึเปล่าครับ  หัวขโมยเก่าด้วย  

    เสียงของซีบิลดังขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะของเจ้าหญิงที่จิตไม่ปกติ  และทำทำตัวไม่สมเป็นหญิง  เรียกเสียงหัวเราะของผู้คนในห้องนั่งเล่นรวมได้ดังกระหึ่ม  แต่ผู้ที่ถูกประนามว่าเป็นนักฆ่าอ่อนหัดที่ไม่มีอารมณ์ขันไปด้วยกระโดดไปขย้ำคอเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์เรียบร้อยแล้ว

    ไอ้บ้าคิลแก  ปล่อยฉัน  แค่กๆ

                เสียงไอของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่บอกอาการว่าใกล้จะหายใจไม่ออกทำให้เพื่อนๆ  ช่วยกันจับนักฆ่าอ่อนหัดออกมา ก่อนที่เอดินเบิร์กจะถูกท้ารบทั้งจากบารามอสและเดมอส

                แพ้แล้วก็แพ้ดิวะ  คนอะไรไร้น้ำใจนักกีฬา  เจ้าหญิงที่บัดนี้รอดพ้นจากเงื้อมมือนักฆ่าได้เริ่มปากเก่งอีกครั้ง  ก่อนจะเอามือลูบคออย่างให้มั่นใจว่าคอเธอยังอยู่ และแสยะยิ้มให้เพื่อนซี้ที่บัดนี้ถ้าไม่ถูกเพื่อนช่วยกันยึดไว้  คงได้กระโจนไปถีบคนปากหมาอีกรอบ

    แต่เอาวะเห็นแก่ที่แกเป็นเพื่อนซี้ฉัน  ฉันจะเป็นคู่ซ้อมหมากรุกให้แกอีกทีละกัน เผื่อว่าสมองอ๊ากก

                ยังไม่ทันที่เจ้าหญิงปากหมาจะพูดจบประโยค  คิลก็เหวี่ยงเจ้าพวกปลิงที่ยึดเขาไว้กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง  ก่อนจะกระโดดไปบีบคอไอ้คนปากไม่ดีตรงหน้า

                นี่มันอะไรกัน!!! ”

    เสียงดังอย่างเต็มไปด้วยอำนาจที่เป็นใครไปไม่ได้นอกจากมาทิลด้า  ซิลเวอร์  เดอะปริ๊นเซส  ออฟ  อเมซอน  หนึ่งในสามสาวแห่งป้อมอัศวิน  ( ที่ตอนนี้อาจจะกลายเป็นสี่สาวไปแล้ว -.-)

                เฟริน  คิล   พวกนายด้วย

    เสียงดังยังตวาดไปเรื่อย  หลังจากมองคู่กรณีสองคน  นักฆ่าจากซาเรสที่หน้าตาเป็นริ้วๆด้วยความโกรธหรืออะไร?  เสื้อผ้าขาดเป็นทางยาว  กำลังดึงคอเสื้อของธิดาแห่งความมืดที่อยู่ในชุดนอนหลุดลุ่ย  มือคนที่นอนอยู่เบื้องล่างก็ดันหน้านักฆ่าสุดเเขน  แต่สงสัยคงทั้งข่วน  ทั้งตบด้วยเพราะหน้าตาดูดีของนักฆ่าเเห่งซาเรสตอนนี้มีแต่รอยแดง  เป็นรูปแมวบ้าข่วน  กับรอยฝ่ามือที่คงไม่ต้องสงสัยว่ามาจากใคร  กับไอ้ลิงทะโมนปี 3 ที่กระจายกันไปคนละทิศคนละทาง  3-4 คนกำลังคลำก้นป้อยๆอย่างหน้าตาเหมือนกำลังถ่ายหนักเเต่หาห้องน้ำไม่เจอ  คงบอกได้ว่ากระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรก  บางคนหัวปูดออกมาเป็นลูกๆ  อย่างน่าหวาดเสียว

    ไอ้บ้าคิลมันอาละวาด

    เสียงฟ้องแรกดังมาจากเฟริน  หัวขโมยแห่งบารามอสที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นเจ้าหญิงเฟลิโอน่าแห่งเดมอสและบารามอส ที่เจ้าตัวยังยืนยันให้เรียกว่าเฟรินเหมือนเดิมเพราะรับไม่ได้กับชื่อลิเกเฟลิโอน่านั่น พร้อมๆกับถีบคนบ้าอาละวาดกระเด็นโครมอย่างไม่สมเป็นเจ้าหญิง 

    ไม่สมแม้กระทั่งเป็นผู้หญิงแถวตะเข็บชายแดนได้เลย….

    ไหนว่ามาซิ  พวกนาย!!!”  เสียงตวาดจากมาทิลด้า เสียงดังอย่างที่รีบผู้รับเคราะห์ทั้งหลายยกมือปิดหูกันเร่งด่วน

     

     

                เป็นอย่างนี้นี่เองเหรอคะ  คุณเฟรินไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะคะไปเล่นหมากรุกโกงเค้า  เรนอนถึงว่าคุณคิลได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนั้น

                เสียงดังมาจากเจ้าหญิงคนงามแห่งป้อมอัศวิน  เรนอน  ธีน็อท  เดอะปรินเซส  ออฟ  คาโนวาล  พร้อมๆกับที่ทุกคนพยักหน้าเห็น รวมทั้งคู่กรณีของเธอที่เห็นว่าได้ทีจึงเริ่มขอความเห็นใจต่อ

                ใช่!!  เดินหมากบ้านแกสิ  คิงบ้าอะไรเดินทีเดียวหกช่อง  ติดเชื้อบ้าองครักษ์ของนายมารึไง

    เพื่อนๆ  ต่างพยักหน้าเห็นด้วยอีกครั้งถึงว่าคิลมันบอกว่าเฟรินฝีมือตก  ก่อนที่ใครคนหนึ่งในจำนวนผู้อภิปรายความผิดของเฟรินทั้ง 16 คน  จะหัวเราะขึ้น

                นายติดเชื้อบ้ามาจากองครักษ์นายแน่ๆ ล่ะ นายเคยเล่าให้ฉันฟังตอนอยู่เดมอสว่าโกโดม  โคมุสนั่นเดินคิงทีเดียวหกช่อง

                เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวเอ่ยขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะจากทุกคนดังลั่น  โร  เซวาเรส  เดอะ  เบ็กการ์  ออฟ  ทริสทอร์  ผู้ที่ยังน่าสงสัยเกี่ยวกับสถานะอันแท้จริงว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาท ของเวนอล  หรือทริสทอร์กันแน่

                อย่างว่านะเฟริน  คนแคระน่ะจะไปรู้เรื่องเกี่ยวกับหมากรุกได้ยังไง นายคงติดเชื้อมาจากมันจริงๆ  เจ้านายกับลูกน้องมันก็พอๆกันแหละ  คิลพูดอย่างตอกย้ำ  คนถูกกล่าวหาทำท่าจะพูดเเต่ก็ถูกขัดอีก

                ใช่  เชื้อบ้า  นายมันมีอยู่เต็มตัวยังไปเอาของคนแคระนั่นมาอีก  สงสารมันหน่อยเถอะ  ถูกองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ในสายตาของมันแย่งเอาไป  มันก็ยอมอยู่เเล้ว  แต่เดี๋ยวมันจะไม่มีความบ้าเอาไว้ปกป้องนายนะเฟริน

    เสียงของบุรุษหนุ่มตาเดียวดังขึ้น  อย่างที่ทุกคนก็เห็นด้วยอีก

                นี่มันจะไม่ให้เธอพูดอะไรเลยรึไงไอ้บ้าพวกนี้          

    รังแกคนเเคระ  แองจี้พูดขึ้นบ้างให้คนถูกประนามหันขวับไปมอง

    กวางต่างหาก  ไม่ใช่คนแคระ  เฟรินพูดขึ้นบ้าง

    คนแคระต่างหาก  คู่กรณีตาม่วงไม่ยอมเเพ้  แต่อย่างว่าคนตาโตกว่าย่อมชนะคนตาโตน้อยกว่า  มันเป็นอนิจจัง

    กวางโว้ย!!…  ไอ้กวางนั่นเป็นองครักษ์ฉัน  ฉันให้มันเป็นกวางมันก็คือกวาง  คนแคระบ้านแกสิมีเขา

                แล้วกวางบ้านแกสิตัวเท่าลูกแมว

                เออ!! กวางบ้านฉันสิ  หรือนายจะเถียงว่าไอ้โกโดมมันอยู่ซาเรสบ้านนาย  ไม่ใช่เดมอสบ้านฉัน

                …….. ”  เฟรินที่รู้ว่าเจ้าเพื่อนซี้มันเถียงไม่ออกเลยเริ่มประกาศชัยชนะ

    หึ  หึ  ชั่วโมงบินมันต่างกันไอ้น้อง    เจ้าของนัยน์ตาสีม่วงซึ่งเถียงไม่ออก  มองเจ้าเพื่อนซี้ปากไม่ดีอย่างอาฆาต  แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นขำขันก่อนจะหัวเราะออกมาดังลั่น  เพราะคำพูดของใครคนหนึ่ง

    คนแคระเขากวาง……  ถ้านายไม่ว่าอะไรคิล  ฉันจะบอกว่าบ้านฉันมีอยู่ตัวนึง

    แล้วบทสนทนาเรื่องที่ว่าโกโดมเป็นกวางหรือเป็นคนแคระก็จบลง  เนื่องด้วยว่าเจ้าชายคาโล  วาเนบลี  แห่งคาโนวาลได้สรุปว่ามันเป็นคนแคระเขากวางเพราะว่าบ้านคาโนวาลของเขามีอยู่ตัวหนึ่ง  หรือที่เฟรินเชื่อว่าไอ้ก้อนน้ำเเข็งเดินได้นั่นคงอุปโลกขึ้นมาเอง  แต่ไม่อยากเถียงกับมัน  เพราะเธอตั้งปณิธานไว้ว่าเธอจะไม่คุยกับมัน  นอกเสียจากมันจะเลิกนิสัยงี่เง่าที่ไม่ยอมคุยกับเธอ ถ้าเพียงเพราะว่ามันไม่เป็นพวกหัวสมองปิดตาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×