คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอน--ความลับของดาบฝ่าปฐพี
“ ข้ามองไม่เห็นแววตาแห่งสันติภาพในดวงตาของท่านเลย ” คำกล่าวลอยๆ ผ่านออกมาจากเจ้าบ้าน ก่อนจะเบือนสายตามามองบุรุษผู้ที่บัดนี้มีศักดิ์เทียบเท่ากับเขา แต่ก็ยังถ่อมตัวเหมือนตอนเป็นเจ้าชายอย่างน่าหมั่นไส้นัก
“ นักสันติภาพผู้ยิ่งใหญ่ ” คำพูดกลั้วเสียงหัวเราะ พร้อมกับนัยน์ตาที่ตวัดมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายอย่างเพียรหาความจริงที่ซ่อนเร้น แต่ดวงตาสีน้ำตาลที่ดูอ่อนน้อมนั้นก็ช่างอ่านยากนัก
“แม้ท่านจะพยายามเพียงใด ท่านก็เป็นได้เเค่ผู้ต้อยตามก้าวเดินของพระเชษฐาท่านเท่านั้น” เจ้าของนัยน์ตาสีดำขลับกล่าวด้วยกระเเสเสียงเยาะเย้ย อย่างที่ผู้ถูกเยาะเย้ยเริ่มขยับตัวไม่เป็นสุข กลัวก็แต่การเจรจาครั้งนี้จะล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วแผนการที่เตรียมไว้จะยากขึ้นหลายร้อยเท่า
นี่เขาคิดผิดหรือเปล่าที่เลือกมาเจรจากับคนๆนี้ แทนที่จะเลือกทำเองเพราะกองกำลังของเอเดน หรือเพียงแต่บารามอส การชิงดาบเล่มเดียว จากเด็กคนนึงไม่ใช่เรื่องยาก เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคิดก่อนเบือนไปมองบุรุษเบื้องหน้าที่เริ่มยกถ้วยชาขึ้นจิบ อย่างคงติดมาจากราชบุตรเขยคนก่อนอย่างขำๆ
“ หม่อมฉันมิบังอาจเป็นเช่นคนผู้นั้น ” คำกล่าวรับมาจากบุรุษตรงข้ามแห่งเอเดนพร้อมรอยยิ้มบางที่มุมปาก ก่อนจะขยับเบี้ยเดินไปหนึ่งช่อง
“ แน่นอน ท่านคงไม่บังอาจที่จะคิดเป็นอย่างเค้าที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อม อย่างที่ข้ามองท่านเท่าไหร่ก็มองไม่เห็น ” คำกล่าวเย็นเยียบ ขณะขยับบิชอปก้าวไปข้างหน้าอย่างหวังม้าของคู่เล่น “ เจ้ายัดเยียดสิ่งที่เอเดนไม่เคยต้องการมาตลอด ” น้ำเสียงต่อมาเริ่มห้วนอย่างบ่งบอกอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น
“ แต่เค้าเคยพูดว่าหม่อมฉันจะเรียนรู้ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เอเดนต้องการเอง ” เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเริ่มเหม่อลอยอย่างนึกถึงบุรุษที่เขายกคำพูดมาเอ่ยอ้าง
“ สำหรับเอเดน ไม่ใช่สำหรับเดมอส ” คำโต้มาจากอีกฝ่ายที่เริ่มขยับบิชอปไปกินม้าของอีกฝ่ายเรียบร้อยเเล้ว ก่อนจะเงยหน้าจากกระดานหมากรุกขึ้นมาจ้องกับบุรุษเบื้องหน้าที่เสียม้าเพราะไม่ใส่ใจอีกครั้ง
“ และข้าจะไม่ยอมให้เจ้ายัดเยียดสิ่งที่เจ้าต้องการให้ลูกข้าซึ่งไม่ต้องการ ” คำพูดนั้นเน้นชัด และหนักเเน่นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกจากเจรจาที่ยุติ อย่างที่คนฟังถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ก็หวังจะให้การเจรจาดำเนินต่อไป ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ โดยเพียรจะหาคำพูดหว่านล้อมบุรุษเบื้องหน้าทุกหนทาง
“ แต่ถ้าฝ่าบาทปฏิเสธ คนที่จะเป็นอันตรายมิใช่ใครอื่น ”
“ ลูกข้า ไม่จำเป็นต้องให้อาอย่างเจ้ามากำหนดชีวิต!! และข้าเเน่ใจว่าสิ่งที่เจ้าต้องการคงไม่ใช่พียงโลหะชิ้นนึงเท่านั้น ” คำสวนดังลั่นจากคนเป็นพ่อ อย่างที่เจ้าองครักษ์ประจำตัวของบุคคลที่เป็นหัวข่อสนทนาตกใจจนเกือบหล่นจากโต๊ะถ้าไม่ใช่เขาใหญ่บนหัวเกี่ยวกระเป๋าเสื้อของคนเอเดนที่เขานึกฉุนเพราะมาต่อรองกับจ้าวปีศาจของเขาอยู่นานเเสนนาน อย่างที่มันฟังมาตั้งนานก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยกันเรื่องอะไร ก่อนจะรีบกุลีกุจอปีนขึ้นมาใหม่ แล้วยืนปั้นหน้าทมึงถึงใส่คนๆนั้น อย่างที่ดูยังไงก็น่าขำมากกว่าน่ากลัว
“ ดาบฝ่าปฐพี ” เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกล่าวก่อนหันหน้าผละออกไปจากกระดานหมาก เหม่อมองไปทางหน้าต่างกับแววตาของผู้อมความรู้ ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาที่ทำให้โคมุสข้างๆ งงหนัก “ หม่อมฉันรู้ เช่นเดียวกับที่ฝ่าบาทรู้ ”
นัยน์ตาสองคู่หันมาสบประสานกันอยู่เนิ่นนาน นัยน์ตาสีดำขลับนั้นมีประกายกังวล ก่อนจะแปรเปลี่ยนฉายเเววอยากลองดี ส่วนนัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นสงบนิ่ง แต่ก็แฝงประกายตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด พร้อมจะเล่นทุกเมื่อหากคนตรงหน้าเล่นไปตามเกมของเขา
“ ท่านรู้อะไร ” คำกล่าวเเรกดังมาจากผู้ที่มีอำนาจมากกว่าพร้อมกับสายตาสนุกสนานที่ส่งไปยังบุรุษเบื้องหน้า คนถูกถามหันหน้าไปทางตัวตลกข้างๆ ที่มันปั้นสีหน้าทมึงถึงใส่เขา อย่างให้รู้ว่าสมควรออกไปก่อน แต่เจ้าโคมุสคัวเล็กก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ยืนรินน้ำชาที่กาน้ำชาใหญ่กว่าตัว ให้คนที่มันบูชาเหนือหัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“ โกโดม ” คนถูกเรียกหันตัวกับเขาใหญ่ๆ มาคำนับอย่างนอมน้อม พร้อมส่งสายตาเทิดทูนจากดวงตากลมใหญ่ให้คนเรียก
“ ฝ่าบาทมีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือกระหม่อม ”
“ออกไปก่อน ” คำสั่งที่ทำให้เจ้าโคมุสชะงักไปนิดก่อนจะทำตามอย่างขัดไม่ได้ แต่ก็ไม่วายส่งสายตาระเเวงไปให้บุรุษจากเอเดน ที่มองอย่างขำๆ ก่อนจะขยับเรือเดินไปกินบิชอปตัวที่กินม้าเขาไป อย่างที่คนถูกกินจ้องตาแทบถลนออกมานอกเบ้า อย่างบ่งบอกความตกใจ
“ โถฝ่าบาท อย่าเสียใจไปเลย เดี๋ยวฝ่าบาทก็ล้มคิงของมันได้เเน่นอน หม่อมฉันรับประกัน ” โคมุสตัวเล็กที่ยืนส่งสายตาเป็นห่วงฝ่าบาทของมันเอ่ยอย่างหนักเเน่นก่อนจะกลิ้งหลุนๆออกไปนอกห้องจากการกระทำของคนถูกปลอบ
เดมอสนี่ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เสนาอำมาตย์บ๊องๆพวกนี้ กับจ้าวปีศาจวัยกระเตาะที่ยังทำตัวเป็นเด็ก แต่ทำไมอำนาจถึงมากมายขนาดนี้ อำนาจมากมายอย่างน่าขยะแขยง ความคิดหยุดลงเพราะคำประกาศรุกจากอีกฝ่าย เพื่อกินเรืออีกตัวทางฝั่งนู้นของเขา อย่างที่ทำให้คนถูกกินหรี่ตาเล็กลงและเริ่มพินิจกระดานหมากอย่างจริงจัง
การกำจัดอย่างง่ายดายเพียงเพราะเขาเผลอไปนิดเดียว
“ ฝ่าบาทฝีมือดีไม่แพ้พระธิดา ” คำกล่าวชมที่คนถูกชมพยักหน้าช้าๆ พร้อมกับกวาดตามองไปทั่วกระดานอย่างบ่งบอกความพอใจ ก่อนจะกล่าวประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ เเล้วอีกเดี๋ยวท่านจะรู้ว่าเราฝีมือดีกว่านี้มาก ควีนเอฟหก ” เสียงประกาศรุกควีนดังจากคนที่บัดนี้นัยน์ตาฉายประกายระริกสนุกสนาน จนทำให้บุรุษอีกคนมองอย่างพอใจว่าการเดินหมากครั้งนี้ได้เล่นจริงจังสักที อย่างที่เคยเห็นเมื่อ 26 ปีก่อนที่คนๆนี้เดินไปเรื่อยโดยอาศัยฝีมือของตัวหมากมากกว่า ก่อนจะมาฮึดเอาตอนหลัง คิดแล้วก็หันกลับมามองกระดานหมากกับคำประกาศรุกอีกครั้ง
“ บิชอปขวาบีสี่ ”
“ เบี้ยสอง กินม้า ”
“ เรือซ้ายจีห้า”
“ ควีนดีแปด รุกฆาต”
“ ของเดมอสทุกชิ้นล้วนแต่อาถรรพ์ ไม่เว้นแม้แต่ดาบฝ่าปฐพี” เสียงนุ่มดังมาจากคนจากเอเดน ก่อนอธิบายต่ออย่างที่เขารู้ว่าถูกลองเชิง ของๆเดมอส ทำไมเจ้าของจะไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง เพียงแต่คนๆนี้ อยากจะรู้ว่าเขารู้มากเพียงใดเท่านั้นเอง
“ ฝ่าบาทคงไม่ได้ทิ้งดาบดีเพียงแค่เพราะมันบิ่น ใช่มั้ยกระหม่อม ” คำถามที่บ่งบอกความรู้ทันที่ทำให้คนถูกถามยิ้มรับ
“ ท่านก็รู้ เศรษฐกิจเดมอสไม่ดี ดาบแพงๆนั่นคงไม่เหมาะกับเราก็เท่านั้น ”
“ แต่หม่อมฉันเกรงว่าจะไม่ใช่ ” คำพูดที่เรียกนัยน์ตาดำขลับหันกลับมามองอย่างอยากรู้ว่าคนตรงหน้ามันรู้มากเพียงใด ก่อนที่คนเกริ่นลุกจากที่นั่งเล่นหมากรุกที่เขาแพ้จ้าวปีศาจไปเพียงฉิวเฉียดอย่างน่าเสียดาย กับชัยชนะแค่เอื้อม แค่เพียงถ้าตานั้นเป็นตาเดินของเขา
“ การลงดาบฝ่าปฐพีแต่ละครั้งต้องใช้พลังมาก จะมีก็แต่ผู้ที่มีพลังภายในและจิตใจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ใช้ได้ ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียพลังจนความตายใกล้แค่เอื้อม ” นัยน์ตาของคนฟังหรี่ลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแต่นั่งขยับหมากบนกระดานที่ทำให้เห็นเหมือนไม่ใส่ใจ คนพูดจึงกล่าวต่อหวังจะทำให้มาดมากๆ นั่นหลุดให้ได้
“ เท่าที่หม่อมฉันรู้มา ครั้งนั้นเมื่อ 5000 ปีที่ฝ่าบาทใช้ดาบฝ่าปฐพี แบ่งแยกดินแดนเอเดน เดมอส ฝ่าบาทสูญเสียพลังไปมาก .มากเหลือเกิน ” นัยน์ตาคนพูดที่จับสังเกตพฤติกรรมของคนฟังอยู่ฉายแววสนุกสนาน แต่คนฟังเจ้าบ้านก็ยังนั่งเฉยไม่แสดงอาการอะไรอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง
“ เป็นเพราะเหตุนี้รึเปล่า ที่ฝ่าบาททรงทิ้งดาบเล่มนี้ กับเหตุผลข้ออ้างเพียงแค่ว่าดาบบิ่น” คำกล่าวเนิบๆ แต่เเฝงความจริงจังในน้ำเสียงมาจากบุรุษที่ดูเหมือนจะคุมเกมเรียบร้อยแล้ว
“ ดาบบิ่นเองหรือเพราะฝ่าบาททรงตั้งใจทำให้บิ่นเพื่อกลบเกลื่อนเหตุผลจริงที่ว่าทรงไม่กล้าใช้มันอีก ” คนพูดหันกลับมาเผชิญกับคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนจะเรียกดาบของตัวเองออกมา การกระทำที่ทำให้คนฟังเงยหน้าขึ้นจากกระดานหมาก แล้วมองตรงมายังกษัตริย์ประหลาดจากเอเดน กับสีหน้าเคร่งเครียดที่แฝงความโกรธที่โดนดูถูกกลายๆ
“ และที่หม่อมฉันรู้มาอีกอย่างดาบฝ่าปฐพีผ่านเจ้าของมา 918 คน ที่แต่ละคนไม่กลายเป็นทรราชย์ ก็เป็นพ่อมดดำ ไม่งั้นก็เป็นนักฆ่า เชื่อกันว่าถูกอำนาจดาบครอบงำ ซึ่งสุดท้ายถึงได้มีจุดจบไม่ต่างกันคือ ตายด้วยดาบตัวเอง”
“ แต่ถึงกระนั้นท่านก็ยังยัดเยียดดาบเล่มนั้นให้กับลูกข้า!! ” คำสวนดังมาจากบุรุษที่โต๊ะกลางห้อง ทำให้ผู้พูดหันหลังให้พร้อมกับแกว่งดาบในมือไปมา
“ แต่นั่นพระธิดาของฝ่าบาททรงต้องการมันเอง หม่อมฉันกล่าวเตือนเเล้ว แต่ยังทรงดื้อดึง เมื่อทรงมีพระประสงค์ดาบฝ่าปฐพี หม่อมฉันที่เป็นเพียงเจ้าชายธรรมดาจึงขัดไม่ได้ ” คำกล่าวแย้งดื้อๆ อย่างที่สุมไฟในใจผู้เป็นพ่อให้ลุกโชน
“ แต่ครั้งนี้พอเจ้าเป็นกษัตริย์แล้ว เลยผลักไสสิ่งที่ลูกข้าเคยต้องการได้งั้นรึ!! ” เสียงดังกร้าวที่ทำเอาแจกันข้างตัวคนพูดแตกกระจาย ส่วนคมของเศษเเจกันพุ่งเฉียดหน้าและเเขนของผู้พูดที่เอาดาบวาบปัดให้พ้นทิศทาง เรียกเลือดให้ไหลส่งกลิ่นคาวไปทั่วบริเวณห้อง
“ หม่อมฉันทำเพียงเพราะความปลอดภัยของตัวพระธิดาของฝ่าบาทเอง” คนถูกทำร้ายซึ่งกำลังนำผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดที่หน้า และพันเเขนที่มีแผลกว้างหันกลับมาอีกครั้ง กับสีหน้าปวดร้าวเพราะคำพูดของคนผู้นั้น คนที่เขายังนึกแค้นนัก เมื่อครั้งที่มันแย่งคนรักของเขาไปจากบารามอส
“ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่ทั้งหมดเพื่อตัวเจ้าเอง ไฮคิงคงผลั้งเผลอที่สละบัลลังค์ให้เจ้า รวมทั้งความเทิดทูนที่อลิเซียมีให้เจ้า เจ้าก็เป็นเพียงมนุษย์ต่ำต้อยทั้งจิตใจและการกระทำ ” คนฟังที่บัดนี้เส้นเลือดปูดขึ้นมาที่ข้างแก้มอย่างบอกว่าควบคุมไม่อยู่ กับคำปรามาสที่บุรุษเบื้องหน้าส่งมาให้ แต่สุดท้ายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา ความรู้สึกที่เพียรจะสะกดไว้ก็พังทลาย นัยน์ตาเริ่มรื้นด้วยน้ำตา ก่อนจะปล่อยตัวเองไปกับความฝันอันแสนหวานที่เคยมีในครั้งอดีตเมื่อนานมาแล้ว
นานจนเกือบจะไม่เหลือไว้ในความทรงจำ
“ ท่านอาชามัลเพคะ หม่อมฉันอยากไปขี่ม้าทางนู้น ทรงพาหม่อมฉันไปได้ไหมเพคะ ” เสียงเด็กหญิงเอ่ยขึ้นพลางกระตุกเเขนเสื้อของคนมีศักดิ์เป็นอา แต่อายุห่างกันไม่กี่ปี เด็กชายหันไปมองเด็กผู้หญิงข้างๆ ที่กวนใจเขาตลอดเวลา ดวงตากลมโตใสแจ๋วสีน้ำตาล เส้นผมสีน้ำตาลแกมทองยาวระบ่า จมูกรั้น ดวงหน้ารูปไข่น่ารัก กับรอยยิ้มอ่อนหวานออดอ้อนที่ส่งมาให้
“ อลิเซียต้องหัดขี่ม้าให้เป็นก่อน แล้วอาจะพาไปนะ ”
“ สัญญานะเพคะ ” เด็กสาวเอ่ยเสียงใสพลางช้อนสายตาจับมองเสี้ยวหน้าเสด็จอาของเธอ ที่หันกลับมายิ้มให้พร้อมคำตอบที่เจ้าตัวถูกใจเป็นนักหนา
“ แน่นอน อาสัญญา ”
“ แต่หญิงก็ต้องหัดเรียนขี่ม้าให้เป็นนะ ได้มั้ย ”
“ ได้สิเพคะ หญิงก็สัญญาเหมือนกัน ” เจ้าหญิงพระองค์น้อยเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ก่อนจะกระโดดกอดอาของเธอผู้เป็นที่รักและเคารพ
คำมั่นสัญญาแปลกๆ ที่เขาและเธอเคยมีให้กันบัดนี้กลับไม่เป็นเธอที่รักษา เพียงเพราะเขาทำให้เธอรอนานไปหรือ เพียงเพราะเขาเหนื่อยยาก เหตุผลคือต้องการชีวิตที่ดีที่สุด
ไม่ใช่เพราะใครเเต่เพราะเธอคนนั้น
“ อลิเซียขี่ม้าเป็นรึยัง เดี๋ยวอาพาไปมั้ยวันนี้อาไม่มีเรียน ไม่มีงานด้วย ” เด็กหนุ่มพูดชักชวนเด็กสาวที่เพิ่งเดินอกจากห้องบรรทม หลังจากกลับจากไปดูราชการณ์กับพระเชษฐาที่สกอร์ปิโอ และหัวเมืองชายทะเลต่างๆ เป็นเวลา 6 เดือนเศษ เจ้าหญิงคนสวยหันมามองต้นเสียงก่อนวิ่งไปกระโดดกอดคอคนตรงหน้าอย่างคิดถึงเสด็จอาของเธอ
“ ท่านอากลับมาแล้วหรือเพคะ ทรงเสวยพระกระยาหารหรือยังเพคะ ทรงหิวมั้ยเพคะ ” เด็กสาวกุลีกุจอกึ่งดึงกึ่งลากเขาไปยังห้องอาหาร พร้อมกับคำถามที่ส่งมาเป็นชุด สภาพเด็กตื่นนอนที่ชวนให้ดูเอ็นดูไม่น้อยไม่ความคิดเขา
“ ตกลงไปขี่ม้ามั้ย แล้วเวลาอาไม่อยู่หญิงทรงเล่นกับใครล่ะ ” ชามัลเอ่ยพร้อมส่งสายตาอ่อนโยนไปมองหลานสาวที่เขาไม่อยากให้เธออยู่ในฐานะนั้นแม้แต่นิดเดียว
“ เจ้าชายบาโรเพคะ เจ้าชายบาโรใจดี ทรงพาหม่อมฉันขี่ม้าแล้วก็พาไปคาโนวาลบ่อยๆ ” หญิงสาวเอ่ยอย่างอารมณ์ดี น้ำเสียงที่กล่าวถึงบุรุษหนุ่มจากคาโนวาลช่างอ่อนโยนนัก
“ หม่อมฉันชอบเจ้าชายบาโรมากเพคะ แล้วท่านอาจะชอบเขาเหมือนกัน หม่อมฉันแน่ใจ”
เสียงนั้นก้องอยู่ในหัวอย่างทำให้คนได้ยินปวดร้าวลึกๆ แต่จนถึงบัดนี้เขาไม่แน่ใจว่าชอบคนๆนั้นรึยัง
ความคิดจริงคือความคิดที่เขาปฏิเสธ
เขารู้ ว่าเขาปฏิเสธมันได้ไม่นาน .
ทำให้มันหลงไหลในอำนาจโดยมอบของศักดิ์สิทธิ์แห่งเอเดนให้มันและส่งมันไปตายในสนามรบ ส่งโรเวน ฮาเวิร์ดไป กำจัดคนที่มันรัก เขาเกลียดคนจากราชวงศ์คาโนวาลทุกคน ทั้งหมดกับเหตุผลที่ว่าเพื่อเอเดน กับตามจับตัวธิดาแห่งความมืด แต่เจตนาที่แอบแฝงพวกนี้ทำไมรึตัวเขาจะไม่รู้
ถึงแม้มันจะซ่อนเร้นอยู่ลึกเพียงไรในจิตใจ
แต่ยังเหลืออะไรอีก?
สมควรหรือไม่กับผู้ที่ทรยศในรักที่เขาเคยมีให้ คนที่ทำลายมันอย่างเลือดเย็น ..
“ หม่อมฉันก็เห็นเช่นเดียวกับฝ่าบาท ท่านพี่อาจทรงผลั้งเผลอ แต่คงเป็นสายเลือดดื้อที่หม่อมฉันเตือนแล้วแต่ไม่ทรงรับฟัง คนเช่นหม่อมฉันคงไม่มีวันมอบสิ่งที่เอเดนต้องการได้ รวมทั้งสิ่งที่หม่อมฉันต้องการก็คงไม่มีวันเป็นจริงได้เช่นกัน ”
ความปวดร้าวลึกที่เริ่มหายไป สีหน้าสงบกลับมาอีกครั้งก่อนเงยหน้าขึ้นมาเผชิญกับบุรุษตรงหน้าอีกครั้ง คนที่เด็กกว่าเขามากนัก ถ้านับตามอายุมนุษย์ อีกคนที่เขาเกลียด แต่ดูความอาฆาตจะลดลง คงเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่มีมากขึ้น กับภาระอันหนักหน่วงที่ทำให้เขาไม่มีเวลาไปทำอะไรบ้าๆอีก คงต้องขอบคุณท่านพี่ที่ช่วยสอนคนเลวเกวอย่างเขาให้ดีขึ้นมาได้มาก
แล้วเจ้าจะเรียนรู้ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เอเดนต้องการเองชามัล ข้ามั่นใจ
คำกล่าวของพระเชษฐาที่วาระสุดท้ายได้คืบคลานเข้ามาทีละน้อยดังแผ่วเบาจากที่ไหนซักเเห่งให้เขาต้องหันมองไปมา พลางร้องเรียกพระเชษฐาอยู่ในใจอย่างแผ่วเบา
ท่านพี่ ทรงอยู่ใช่มั้ย ทรงอยู่กับหม่อมฉันใช่มั้ย
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบจากที่ไหนภายในปราสาทแห่งเมืองหลวงเดมอส มีแต่ความเงียบสงัดกับสายตาดูแคลนของอีกบุรุษที่ก้าวออกจากห้องไป พร้อมกับทิ้งถ้อยคำที่กระทบโสตประสาทภายในความเงียบงัน
“ ความปรารถนาอันไม่สิ้นสุดของเจ้า จะทำลายตัวเจ้าเอง ”
บางทีท่านพี่คงมั่นใจในตัวหม่อมฉันมากเกินไป สิ่งเหล่านั้นมีเพียงเจ้าพี่เท่านั้นที่ให้ได้
มิใช่หม่อมฉัน..................................................................................................
ความคิดเห็น