ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จตุคามรามเทพ

    ลำดับตอนที่ #6 : ดาว 12 นักษัตร

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 50


     สามารถอ่านความหมายได้ดังนี้

        รูปพญาราหูอมจันทร์ ทั้ง8 เรียงรายเป็นวงกลม
     ประการแรก   สมมุติหมายถึง ทิศสำคัญ 8 ทิศ คือ ทิศใหญ่ 4 ทิศ ทิศน้อย 4 ทิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทิศตะวันออก ซึ่งดวงอาทิตย์เริ่มให้แสงสว่างแก่โลก บังเกิดความอบอุ่น อันเป็นมูลฐานปรุงแต่งธาตุให้เกิดมวล ชีวิต วัน คืน ฤดูกาล กำหนดในดวงตราพญาราหู ตรงกับรูปหนู เป็นทิศตะวันออก พญาราหู ตรงกับรูปกระต่าย เป็นทิศเหนือ ในแต่ละทิศ สมมุติว่ามี จตุโลกเทพ และ จตุโลกบาล เฝ้ารักษา ผู้ตรัสรู้ธรรม ย่อมหยั่งรู้ด้วยญาณทัศนะ ทราบถึงธรรมชาติ สามารถให้ พญาราหูประจำทิศ กำหนด ควบคุม ให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายตนมากที่สุด
    หากเป็นโทษอาจเปลี่ยนแปรแก้ไขตามกาลจักรศาสตร์
      ประการที่สอง  สมมุติแทนสัญลักษณ์ของดาวเคราะห์ สำคัญ ที่มีอิทธิพลต่อโลกมนุษย์ด้วยเป็นขุมพลังแสง อนุภาคแสง ปรุงแต่งกระแสธาตุบนพื้นโลก คือ ดวงอาทิตย์ กำหนดให้ พญาราหู ตรงกันรูปกระต่าย แทนนามวัน คือ วันอาทิตย์ นับเวียนขวา มีพญาราหูแทนนาม  วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ ส่วนพญาราหู ตรงกับรูปเสือ สัตว์ดุร้าย กินสัตว์อื่นเป็น ภักษาหาร ลำดับที่ 8 มิได้นำมาใช้กำหนดเป็นนามวัน เพราะดาวโลกเป็นที่อยู่อาศัย เกิด แก่ เจ็บ ตาย เวียนว่ายตายเกิด ของวัฏจักร โหราจารย์เรียกว่า วันราหู หรือ จุดฆาต
    ทั้งนี้เพราะมวลชีวิตทุกรูปทุกนาม จะต้องเกิด ต้องตาย ลงในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอน  โดยพญาราหูลำดับที่ 8 เป็นผู้กำหนดและเป็นสถานที่รองรับ ความหมายแห่งดาวเคราะห์ มีอยู่มากมาย สุดที่จะอธิบายให้หมดสิ้นได้

        รูปสัตว์ดาว 12 นักษัตร

       ห้วงสุริยจักรวาลอันเวิ้งว้างหาขอบเขตมิได้ ประกอบด้วยกลุ่มดาวฤกษ์ สำคัญมองเห็นเป็นรูป 12 ชนิด เรียงรายกันบรรจบไปเป็นรูปวงกลม
    เมื่อแบ่งรัศมีวงกลมออกเป็นราศี อาณาเขตของกลุ่มดาวฤกษ์โดยเฉลี่ยเกือบเท่ากัน ดาวนักษัตรเหล่านี้ กว่าโลกจะโคจรผ่านพ้นไป ใช้เวลา 1 ปี
    โลกต้องเดินทางนานถึง 12 ปี จึงจะครบรอบ 1 นักษัตร
        ตามความเป็นจริง  กลุ่มดาวนักษัตร อยู่ห่างไกลจากเส้นทางโคจรของโลกเหลือกำหนด โลกไม่มีทางไปถึงดาวนักษัตรเหล่านั้นได้เลย
    แต่เมื่อโลกล่องลอยอยู่ตรงกับอาณาเขตของกลุ่มดาวนักษัตรใด ด้านหลังของโลกจะกลายเป็น เงามหึมา ดำมืด ทอดยาว แผ่รัศมีกว้างไกลออกไป ในห้วงจักรวาลสุดพรรณนา จึงสมมุติเงาของโลก อุปมาดัง พญาราหู อสุรา จอมมารร้าย ด้วยห้วงบรรยากาศอันหนาวเย็น
      บริเวณเงา พญาราหู ปกคลุมไปด้วยมวลธาตุคลื่นพลังรังษี นานาชนิด คราใดต้องอนุภาคแสงดาว บาปเคราะห์เข้า จะเกิดปฏิกิริยาป่วนปั่นพลันร้ายขึ้นทันที ประกอบกับดาวนักษัตรร้ายด้วย อำนาจของดาวนักษัตรจะส่งเสริมความเลวร้าย หลายเท่าทวีคูณ โลกจะพบกับความวิบัติอย่างร้ายแรง ด้วยพญาราหู มีหน้าที่ปฏิบัติตาม คำบัญชาของ จักรวาล โดยไม่บิดพลิ้ว มวลชีวิต วัตถุ  ในโลกก็พบแต่ความทุกข์ยาก เช่น ดาวนักษัตรปีมะแม  รูปแพะ ธรรมชาติของสัตว์ อาศัยหากินตามป่าดอน ไม่ชอบน้ำ  ในช่วงปีนักษัตรนั้น จะบังเกิดความแห้งแล้งขึ้นในโลก หากดาวนักษัตรปีมะโรง  สัญลักษณ์จอมนาคราช สัตว์ผู้เป็นเจ้าแห่งสมุทร  โปรดปรานการเล่นน้ำ มักเกิดน้ำท่วมใหญ่ แผ่นดินถล่มทลาย ผู้คนล้มตายด้วยพิษนาค ดังนี้เป็นต้น
       แม้แต่วิถีชีวิตของบุคคล การถือกำเนิดขึ้นในปีนักษัตรใด บุคลิกภาพ นิสัย ความพอใจมักโน้มเอียงไปตาม อุปนิสัยของรูปสัตว์ ประจำดาวนักษัตร เหตุการณ์บ้านเมืองมักเปลี่ยนแปลง ไปตามอำนาจของดวงดาว การก่อกบฏ การก่อสงคราม ที่เกิดขึ้นในปีนักษัตรรูปเสือ ผู้คนจะฆ่าฟันล้มตายเลือดนองแผ่นดิน   ยิ่งในปีนั้น ดับแสงเดือนพญาราหู  แสงตะวัน จนมืดมิด เรียกว่า จันทรคราส หรือ สุริยคราส ด้วยแล้ว ผลแห่งภัยภิบัติก็จะเพิ่มความเลวร้ายหลายเท่าตัว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×