ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : องค์ราชันย์ จตุคามรามเทพ
ตำนานชาวชวากะ กล่าวถึงตราพญาราหูอมจันทร์ ว่าเป็นศาสตร์ชั้นสูงสุดในวิชามนตราอาถรรพ์ ตามคัมภีร์กาลจักรศาสตร์ และ จตุคามศาสตร์ตลอดจนวิชาวัชระศาสตร์เกี่ยวกับความพากเพียรเพื่อบรรลุ "เจ้าจักรวาล" ซึ่งเรียนรู้กันเฉพาะเหล่ามหาบัณฑิตศรีวิชัยราชวงค์ไศเลนทร์และ จันทรวงค์เพราะเป็นวิทยาการที่อาจก่อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวง ต่อมนุษยชาติหากปราศจากคุณธรรม เมตตาธรรม ไม่ยึดถือความถูกต้องจึงหวงแหนปกปิดไว้ทั้งสาบแช่งผู้ไม่ซื่อตรง เคารพต่อกฏเกณฑ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตรรกวิทยาของชาวชวากะ ซึ่งเรียกว่า "จตุคามศาสตร์" เชื่อกันว่า "พระนางจันทรา" นางพญาพื้นเมืองทะเลใต้ราชินีผู้สูงศักดิ์ขององค์ราชันราตะ หรือพระสุริยเทพ ซึ่งรวบรวมดินแดนในคาบสมุทรทองคำเข้าเป็นจักรวรรดิ์เดียวกัน ในพุทธศตวรรษที่7 พระราชมารดาของ "เจ้าชายรามเทพ" บรรลุธรรมสำเร็จตรรกศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ ทรงฤทธิ์อภินิหาร บังคับคลื่นลมร้ายให้สงบได้ชาวทะเลทั้งหลายกราบไหว้บูชาระลึกถึงเมื่ออกผจญภัยกลางสมุทรเรียกว่า"แม่ย่านาง" ชาวศรีวิชัยเคารพเทิดทูนฉายานามว่า "เจ้าแม่อยู่หัว"
เจ้าชายรามเทพได้ศึกษาเล่าเรียนวิชา จตุคามศาสตร์ จากพระราชมารดาจนเจนจบแล้วทรงเรียนรู้หลักสัจธรรมทางพระพุทธศาสนาเลื่อมใสศรัทธา นิกายมหายานอย่างแก่กล้า มุ่งหน้าสร้างสมบารมีหวังตรัสรู้ธรรมเป็น พระโพธิ์สัตว์ ตั้งปณิธาณอันแน่วแน่ประกาศธรรมให้มั่นคงไปทั่วดินแดนสุวรรณภูมิ เหมือนดั่ง พระเจ้าอโศกมหาราช แห่งราชวงค์โมรียะและ พระเจ้ากนิษกะมหาราช แห่งราชวงค์ กุษาณะ ในชมพูทวีป ทรงอุตสาหบากบั่นสร้างราชนาวีตามหลักตรรกศาสตร์ มหายานที่สามารถวิ่งฝ่าคลื่นลมได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยบรรจุพลและสัมภาระมหาศาล ขบวนราชนาวี อันใหญ่โตมโหฬารเยือนถึงน่านน้ำใด หลักศาสนา ศิลปอารยธรรม ประดิษฐานมั่นคงที่ดินแดนนั้น ตลอดทั้งสองฝั่งมหาสมุทรและ หมู่เกาะทั้งปวง จนล่วงถึงลุ่มแม่น้ำเหลือง ด้วยความเชื่อตามพุทธทำนายว่า ศาสนาพุทธจักเสื่อมสูญไปจากชมพูทวีปแต่จะกลับรุ่งเรืองขึ้นในแผ่นดินทอง เจ้าชายชาวชวากะผู้เจนจบในสรรพศาสตร์ทั้งปวงเหล่าราชครูต่างถวายนามาภิไธยราชฐานันดรว่า"องค์ราชันจตุคามรามเทพ"
เมื่อพระศรีมหาราชชาวชวากะได้ประกาศสัจธรรมไปทั่วสุวรรณทวีป สมดังปณิธานปรารถนาแล้ว จึงได้สร้างมหาสถูปเจดีย์ขึ้นบนฝั่งหาดทรายแก้ว โดยอาศัยคติธรรมจำลองสังเวชนียสถาน คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพานของ พระพุทธเจ้า อุปมาดังพุทธสถานอันมโหฬาร เพื่อเป็นแหล่งปลงธรรมสังเวช เมื่อชาวศรีวิชัยระลึกถึงพระบรมศาสดา ในปลายพุทธศตวรรษที่8 องค์ราชัน จตุคามรามเทพ ทรงมานะพยายามมุ่งปฏิบัติธรรมจนบรรลุโพธิญาณในชั้น "จักรวาลพรหมโพธิสัตว์" ประกอบด้วยบุญฤทธิ์ อิทธิ์ฤทธิ์ อภินิหาร สงบฟ้าสงบดิน ได้ดังใจปรารถนา วาจาจะเป็นประกาศิตเหนือมวลชีวิตทั้งหลาย ตัดกระแสแสงเดือนดาวได้ตามคำภีร์ จึงทรงศักดาอานุภาพเหมือนดัง พระอาทิตย์และ พระจันทร์ สมญานามตามศาสตร์ว่า "จันทรภานุ" เพียงมนตราอาคมอันเกิดจากกระแสญาณสมาธิอันแรงกล้าสาบแช่งศัตรูผู้ใด ก็จะถึงกาลพินาศ เหมือนดังปฏิหาริย์ ยิ่งกว่าท้าวกุเวรราช ในคัมภีร์พระเวท เลื่องลือกล่าวขานกันไปทั่วทวีป ต่างถวายนามยกย่องว่า "พญาพังพระกาฬ"
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตรรกวิทยาของชาวชวากะ ซึ่งเรียกว่า "จตุคามศาสตร์" เชื่อกันว่า "พระนางจันทรา" นางพญาพื้นเมืองทะเลใต้ราชินีผู้สูงศักดิ์ขององค์ราชันราตะ หรือพระสุริยเทพ ซึ่งรวบรวมดินแดนในคาบสมุทรทองคำเข้าเป็นจักรวรรดิ์เดียวกัน ในพุทธศตวรรษที่7 พระราชมารดาของ "เจ้าชายรามเทพ" บรรลุธรรมสำเร็จตรรกศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ ทรงฤทธิ์อภินิหาร บังคับคลื่นลมร้ายให้สงบได้ชาวทะเลทั้งหลายกราบไหว้บูชาระลึกถึงเมื่ออกผจญภัยกลางสมุทรเรียกว่า"แม่ย่านาง" ชาวศรีวิชัยเคารพเทิดทูนฉายานามว่า "เจ้าแม่อยู่หัว"
เจ้าชายรามเทพได้ศึกษาเล่าเรียนวิชา จตุคามศาสตร์ จากพระราชมารดาจนเจนจบแล้วทรงเรียนรู้หลักสัจธรรมทางพระพุทธศาสนาเลื่อมใสศรัทธา นิกายมหายานอย่างแก่กล้า มุ่งหน้าสร้างสมบารมีหวังตรัสรู้ธรรมเป็น พระโพธิ์สัตว์ ตั้งปณิธาณอันแน่วแน่ประกาศธรรมให้มั่นคงไปทั่วดินแดนสุวรรณภูมิ เหมือนดั่ง พระเจ้าอโศกมหาราช แห่งราชวงค์โมรียะและ พระเจ้ากนิษกะมหาราช แห่งราชวงค์ กุษาณะ ในชมพูทวีป ทรงอุตสาหบากบั่นสร้างราชนาวีตามหลักตรรกศาสตร์ มหายานที่สามารถวิ่งฝ่าคลื่นลมได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยบรรจุพลและสัมภาระมหาศาล ขบวนราชนาวี อันใหญ่โตมโหฬารเยือนถึงน่านน้ำใด หลักศาสนา ศิลปอารยธรรม ประดิษฐานมั่นคงที่ดินแดนนั้น ตลอดทั้งสองฝั่งมหาสมุทรและ หมู่เกาะทั้งปวง จนล่วงถึงลุ่มแม่น้ำเหลือง ด้วยความเชื่อตามพุทธทำนายว่า ศาสนาพุทธจักเสื่อมสูญไปจากชมพูทวีปแต่จะกลับรุ่งเรืองขึ้นในแผ่นดินทอง เจ้าชายชาวชวากะผู้เจนจบในสรรพศาสตร์ทั้งปวงเหล่าราชครูต่างถวายนามาภิไธยราชฐานันดรว่า"องค์ราชันจตุคามรามเทพ"
เมื่อพระศรีมหาราชชาวชวากะได้ประกาศสัจธรรมไปทั่วสุวรรณทวีป สมดังปณิธานปรารถนาแล้ว จึงได้สร้างมหาสถูปเจดีย์ขึ้นบนฝั่งหาดทรายแก้ว โดยอาศัยคติธรรมจำลองสังเวชนียสถาน คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพานของ พระพุทธเจ้า อุปมาดังพุทธสถานอันมโหฬาร เพื่อเป็นแหล่งปลงธรรมสังเวช เมื่อชาวศรีวิชัยระลึกถึงพระบรมศาสดา ในปลายพุทธศตวรรษที่8 องค์ราชัน จตุคามรามเทพ ทรงมานะพยายามมุ่งปฏิบัติธรรมจนบรรลุโพธิญาณในชั้น "จักรวาลพรหมโพธิสัตว์" ประกอบด้วยบุญฤทธิ์ อิทธิ์ฤทธิ์ อภินิหาร สงบฟ้าสงบดิน ได้ดังใจปรารถนา วาจาจะเป็นประกาศิตเหนือมวลชีวิตทั้งหลาย ตัดกระแสแสงเดือนดาวได้ตามคำภีร์ จึงทรงศักดาอานุภาพเหมือนดัง พระอาทิตย์และ พระจันทร์ สมญานามตามศาสตร์ว่า "จันทรภานุ" เพียงมนตราอาคมอันเกิดจากกระแสญาณสมาธิอันแรงกล้าสาบแช่งศัตรูผู้ใด ก็จะถึงกาลพินาศ เหมือนดังปฏิหาริย์ ยิ่งกว่าท้าวกุเวรราช ในคัมภีร์พระเวท เลื่องลือกล่าวขานกันไปทั่วทวีป ต่างถวายนามยกย่องว่า "พญาพังพระกาฬ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น