คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตราพญาราหู
เกิดมาจากการศึกษาธรรมชาติในระดับอภิธรรมของเหล่าพระอริยสาวกทางพระพุทธศาสนาสมัยต้นพุทธกาล เพื่อแสวงหาวิธีการดับวงจรวัฏจักร
โดยพิเคราะห์ว่าโลกธาตุที่สำคัญยิ่ง อันประกอบด้วย ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ เป็นบ่อเกิดของการปรุงแต่งเหล่า สังขารทั้งหลาย กำหนดเป็น รูปธรรม ส่วนความรู้สึกนึกคิดของมวลชีวิตนั้น สมมุติว่าจิตใจ ซึ่งเป็นพลังธาตุลึกลับ ไม่มีรูปร่าง มองไม่เห็น มองไม่พบ แต่สังเกตุรู้ได้ว่ามีอยู่ เรียกว่า วิญญาณธาตุ อันเป็นนามธรรม
มวลสิ่งมีชีวิต ย่อมมีเหตุมาจากการรวมของตัวธาตุ 5 ประการ จึงก่อกำเนิดขึ้นในวัฏสงสาร ตามหลักสัจธรรมของพระพุทธศาสนา คือ รูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ซึ่งเป็นวงจรชีวิต ที่เผชิญต่อทุกข์สุขในโลก เมื่อร่างกายและวิญญาณดับสูญไปแล้ว จะกลับมาเกิดใหม่หรือไม่อย่างไรนั้น ยากเกินระดับสติปัญญาของคนทั่วไปจะเข้าถึง พระพุทธเจ้ามิได้แสดงธรรมไว้ชัดแจ้ง แต่ทรงเทศนาว่าด้วยการเวียนว่ายตายเกิด ตลอดจนชี้ให้เห็นถึงวิธีการดับวงจรวัฏจักร คือ พระนิพพาน หากพระอริยสาวกใด ปรารถนาจะไปถึงแล้ว อาจจะได้ด้วยญาณทัศนะ ที่เกิดจากความอุตสาหะ บำเพ็ญบารมี สมาธิ ปัญญา จักล่วงรู้ โลกธาตุและโลกธรรม ทั้งปวง
เมื่อพระศาสดาเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว พระอริยสาวก ต่างอาศัยหลักแห่งเหตุผลตามคำสอน มาเป็นแนวทางค้นคว้าหาทางหลุดพ้นจากวัฏสงสารมิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะพระอริยบุคคลเท่านั้น เหล่าคฤหัสถ์ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาต่อหลักสัจธรรม แต่ยังติดตามอยู่กับวัตถุสมบัติตามวิสัยสัตว์โลก ต้องการความสุขสมหวังในการครองเรือน ไม่มุ่งหมายไปถึงนิพพานธรรม หวังเพียงบรรลุพุทธภูมิเพื่อคอยช่วยเหลือปลดเปลื้อง ความทุกข์ยากให้แก่สัตว์อื่นด้วยเมตตา จึงพากเพียรพิจารณาหลักธรรม ค้นหาสาเหตุจากธรรมชาติรอบตัวพบว่าโลกมนุษย์ เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ล่องลอยอยู่ในห้วงจักรวาล
ได้รับแสงพลังความร้อนจากดวงอาทิตย์ ที่ส่องผ่านชั้นบรรยากาศซึ่งห่อหุ้มโลกอยู่อย่างหนาแน่น ทั่วชั้นบรรยากาศอันแสนมหัศจรรย์ ประกอบด้วยปรมณูธาตุนานาชนิด คลื่นพลัง รังษีนานาประการ ฟุ้งกระจายลอยอยู่บนพื้นผิวโลก อากาศธาตุหรือลม ที่สายตามนุษย์มองไม่เห็น มีฝุ่นอณูธาตุ ไฟ ดิน น้ำ ผสมผสานอยู่อย่างครบถ้วน เปรียบได้กับห้วงมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลเวิ้งว้างว่างเปล่าหาขอบเขตมิได้ อากาศธาตุ อันเป็นปฐมเหตุนี้ เมื่อกระทบกับพลังแสงความร้อนจากดวงอาทิตย์ตลอดจนแสงสะท้อนจากดวงดาว จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาปรุงแต่งธาตุ ถ่ายเทเป็นกระแสไหลวนเวียนโลกจะดูดซับขับถ่ายอย่างมีระบบ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง น้ำขึ้น น้ำลง เป็นต้น
หากคราใดการทำปฏิกิริยาของกระแสธาตุมากเกินปรกติ โลกก็บังเกิดภัยพิบัติ เช่น ลมพายุ น้ำท่วมใหญ่ ภูเขาไฟระเบิด ความแห้งแล้ง โรคระบาด
นำความทุกข์มาสู่มวลชีวิตบนพื้นโลก ชีวิตคนและสัตว์ทั้งหลายล้วนตกอยู่ภายใต้อำนาจของธรรมชาติทั้งสิ้น ด้วยโลกเป็นแหล่งรองรับความอุบัติและความวิบัติ
สอดคล้องตามกฏวัฏสงสารของพระพุทธองค์ สัจธรรมกล่าวถึง สิ่งทั้งหลายล้วนเป็น ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา
ความคิดเห็น