ตอนที่ 5 : 05 นกสองหัว
05 นกสองหัว
แฮร์รี่พึ่งจะถูกยิงไปไม่กี่วันก่อน ...ก็นั่นแหละ เขาขยาดกับมันพอจะรู้ว่าเจ็บขนาดไหนตอนที่กระสุนมันยิงเข้าไปในเนื้อ เพียงแต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอย่างนั้นหรือนึกอะไรออกนอกจากเอาตัวเข้าไปขวางมัลฟอยเอาไว้ เขาก็พบว่าตัวเองไม่ได้โดนยิงอย่างที่คิดหรือมัลฟอยจะจมกองเลือดอยู่ที่พื้นแล้วตายคาที่
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่โดนยิง
“แยก!” มัลฟอยกระโจนเข้ามาหาเขา สีแดงเข้มวงใหญ่ที่ไหล่เริ่มขยายกว้างจนน่ากลัว อีกฝ่ายจับมือเขาเอาไว้แล้วแย่งไม้กายสิทธิ์ของตัวเองไป “แยกกันหนี!”
มันเร็วกว่าที่แฮร์รี่จะคิดซะอีกเพราะเขากำลังวุ่นอยู่กับการจับกุมลอว์เซอร์เรียสเอาไว้...หรือแค่การถ่วงเวลาให้พวกเขาสามคนหนีเท่านั้น
จินนี่มองมาที่เขา เธออยากจะเข้ามาช่วยแต่แฮร์รี่ห้ามปรามทางสายตา หญิงสาวกัดฟันกรอดก่อนจะยอมถอยแต่โดยดี เกิดเสียงดัง ‘ปัง!’ และร่างของควิดดิชสาวก็หายไป เขาหวังว่าลอว์เซอร์เรียสจะไม่ตามหล่อนไป
แน่ล่ะ เพราะเป้าหมายตอนนี้คือมัลฟอย
มือปราบมารรุ่นพี่ของเขาเป็นผู้เสพความตาย ข้อนี้แฮร์รี่นึกไม่ถึงมาก่อนจนกระทั่งตอนนี้ บางทีการที่ฝั่งนู้นทำเหมือนกับรู้เรื่องทางนี้ดีก็คงมาจากสาเหตุนี้ อีกฝ่ายอาจจะคอยใช้มัลฟอยที่หายสาบสูญมาเป็นแพะของตัวเอง เป็นผลพลอยได้สองทางไปในตัว
“ส่งตัวมันมา พอตเตอร์” ลอว์เซอร์เรียสยิงคำสาปพิฆาตใส่เกราะของเขา หมายจะฆ่าจริงๆ แบบไม่ลังเล “แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”
แฮร์รี่ถอยหลัง มัลฟอยบาดเจ็บแล้ว เขาต้องพาอีกฝ่ายไปที่ไหนสักแห่งที่ลอว์เซอร์เรียสจะไม่รู้ แฮร์รี่สู้กับอีกฝ่ายหรือเข้าจับกุมโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้—นี่มันน่ารำคาญที่สุด เขาทำได้แค่หนีเท่านั้น
แต่เป็นที่ไหนล่ะ? เซนมังโกไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้แฮร์รี่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าในพวกมือปราบมารของเขาจะมีหนอนอยู่กี่คน
หรือจะคฤหาสน์มัลฟอย? นั่นคงเป็นที่แรกที่ศัตรูจะไปแน่ๆ ถ้าพวกเขาหนี นาร์ซิสซาจะโดนลูกหลงไปด้วย และแฮร์รี่ไม่มีทางไปหาแอสโทเรียหรือบ้านของเขา หรือแม้แต่บ้านโพรงกระต่ายเด็ดขาด ทุกที่ๆ เขาคิดได้มีแต่คนรู้จักทั้งนั้น
และในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น มัลฟอยกระตุกมือของเขาด้วยใบหน้าซีดเผือด
“เราจับหมอนั่นตอนนี้ไม่ได้--ฉันพาไปเอง”
และกว่าจะรู้ตัว มัลฟอยก็พาเขาหายตัวไปแล้ว
มันยังเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยชอบ แม้จะเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีก่อนที่เขาจะมายืนบนพื้นอีกครั้งก็ตาม มัลฟอยล้มลงทันทีจนเขาเข้าไปประคองแทบไม่ทัน แฮร์รี่พึ่งมารู้ว่าอีกฝ่ายตัวสั่นเทาหนักแค่ไหน มันเป็นเรื่องปกติที่คนธรรมดาจะกลัวกับสถานการณ์แบบนั้น มัลฟอยไม่ใช่มือปราบมารและเขาลืมเรื่องนี้ไปอย่างไม่น่าให้อภัย
เขาสำรวจที่ๆ มัลฟอยพามา แฮร์รี่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นเจ้าของที่อยู่นี้แน่ๆ
แต่ที่เขาไม่คิดว่าจะเป็นหมอสาวที่เหมือนจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตเขาถี่จนน่าแปลกต่างหาก
ไดอา มูนส์จ้องมองบาดแผลของมัลฟอยเขม็งก่อนจะพูดว่า “ตามมา” แล้วเดินหายเข้าไปอีกฟากของห้อง
“นายรู้จักเธอ?” เขาถามขณะประคองอีกฝ่ายให้เดินตามไป ตัวของมัลฟอยเบากว่าที่คิดทั้งๆ ที่ส่วนสูงของพวกเขาไล่เลี่ยกัน มันน่าสงสัยว่าอีกฝ่ายไปทำอะไรมาถึงได้ละเลยการดูแลสุขภาพของตัวเองแบบนี้
อีกห้องหนึ่งเป็นแค่ชุดรับแขกเรียบๆ ที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกอย่างถูกจัดวางราวกับหล่อนกำลังย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ อย่างไรอย่างนั้น
“ฉันอยากให้คุณอยู่เฉยๆ จนกว่าจะทำแผลให้เขาเสร็จ อย่าพึ่งคิดจะติดต่อใครทั้งนั้น” หญิงสาวกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับชุดอุปกรณ์ทำแผล ใบหน้าของเธอเรียบเฉยเหมือนชาชินกับเรื่องแบบนี้ไปแล้ว “แล้วก็ออกไปจากห้องนี้จนกว่าฉันจะทำงานของฉันเสร็จค่ะ คุณพอตเตอร์”
แฮร์รี่มองดูเสี้ยวหน้าของเดรโกก่อนที่ประตูจะถูกปิด รอยเลือดในชุดสีดำแม้จะเห็นไม่ชัดแต่ก็รู้ว่ามันทะลุจนถึงด้านหลัง เขาไม่ใช่หมอที่จะรู้วิธีรักษา แค่หวังว่าคุณมูนส์จะเก่งพอที่จะไม่ต้องไปพึ่งเครื่องมือที่ใหญ่กว่าที่เธอเอามา
นาฬิกาธรรมดาที่ติดอยู่บนฝาผนังกำลังเปลี่ยนไปที่เลขสิบสอง ห้องข้างๆ คงหลับไปแล้ว แฮร์รี่นั่งรอยู่ที่โซฟาเล็กๆ ที่ไม่แข็งจนเกินไปด้วยความว้าวุ่นใจ ในหัวของเขากำลังตีกันไปมั่วซั่ว
มัลฟอยเริ่มจะไม่เหมือนกสองหัวเข้าไปทุกที อีกฝ่ายกำลังคล้ายกับใครบางคนที่เขาไม่สามารถพูดด้วยได้อีกคนนั้น...เหมือนมากจนเขารู้สึกกลัว
เหมือนกับสเนป
แฮร์รี่อาจจะเพ้อเจ้อไปเองก็ได้ แต่ถ้าทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่หลักฐานที่เขาได้มาล่ะ? ทั้งไม้เท้าที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งคำบอกเล่าของผู้เสพความตายที่โดนตามล่า ทั้งคำพูดของไมอา ฮัตสันหรือแม้แต่หลักฐานจากกระทรวงเวทมนต์ ถ้าเกิดว่ามีคนอย่างลอว์เซอร์เรียสมากกว่าหนึ่ง...คนที่สามารถปิดบังและบิดเบือนความจริงจากทุกคนได้
ไม่ใช่ว่าทางกระทรวงก็มีหรอกเหรอ?
คิงส์ลีย์ไม่มีทางที่จะไม่รู้ อีกฝ่ายเป็นคนเซ็นต์อนุมัติมือปราบทุกคนให้บรรจุเข้าทำงานหรือแม้แต่มองคนออกและมีฐานข้อมูลที่แน่นหนามากที่สุดในหน่วยปราบปราม ถ้าเขาลองคิดว่าอีกฝ่ายสามารถบิดเบือนข้อมูลความจริงได้อย่างที่ลอว์เซอร์เรียสบังคับให้มัลฟอยทิ้งหลักฐานไว้ในที่เกิดเหตุล่ะ
แล้วถ้ามันเป็นแบบที่แฮร์รี่คิดจริง คิงส์ลีย์มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
“เสร็จแล้วล่ะ แต่ร่างกายของเขาไม่ได้พักผ่อนมานานฉันเลยให้ยานอนหลับเขาไป” หญิงสาวเดินออกมา ในมือกำลังกดบางอย่างลงในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง “เรามาเข้าเรื่องที่ฉันพลาดไปดีกว่า—คุณออกโรงพยาบาลไปได้กี่ชั่วโมงกัน คุณพอตเตอร์?”
แฮร์รี่อยากจะเบือนสายตาหลบดวงตาสีดำของอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่ทางนี้เองก็มีหลายอย่างที่อยากถามฝ่ายตรงข้ามเหมือนกัน “แล้วคุณล่ะ สมรู้ร่วมคิดกับมัลฟอยมานานแค่ไหนแล้ว?”
หญิงสาวหรี่ตาลง ทำหน้าคล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่ “ไม่กี่เดือนหรอก แต่พึ่งมาร่วมงานกันตอนที่ฉันถูกเสนอรายชื่อเข้าไปรักษาทอมสัน” เธอว่า “คิดว่านานไหมล่ะ?”
“คุณดูไม่เหมือนคนที่จะเสนอตัวช่วยใครไปทั่ว คุณมูนส์” แฮร์รี่ว่า “และผมไม่คิดว่ามัลฟอยจะยอมรับความช่วยเหลือจากใคร นอกจาก...”
“นอกจากว่าเขาจะเข้าตาจน—ว้าว พวกคุณนี่เป็นคู่กัดที่รู้ใจกันกว่าที่คิดนะคะ”
เขาพยายามที่จะไม่สนใจคำล้อเลียนของอีกฝ่าย ไดอาทำเหมือนรู้ทุกอย่างที่เขาเป็นจนน่าหงุดหงิด
ทั้งที่ความจริงคือแฮร์รี่พึ่งจะได้เจอมัลฟอยอีกครั้งในรอบหลายปี และเขาไม่เคยป่าวประกาศให้ใครรู้ว่าเขาไม่ถูกกับมัลฟอย
ไม่มีใครรู้นอกจากคนที่จบจากฮอกส์วอทต์
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าเขาเป็นผู้เสพความตาย”
ไดอาพยักหน้ารับ—และการพยักหน้ารับของเธอมันสื่ออะไรที่มากกว่ารู้ ราวกับหล่อนรับรู้เรื่องราวและประวัติความเป็นมาทั้งหมดของคำที่เขาว่ามา
“ไม่มีมักเกิ้ลทั่วไปหรือหมอธรรมดาๆ ที่พึ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ จะรู้ลึกเกี่ยวกับคำๆ นี้นะ” แฮร์รี่หรี่ตา “คุณเป็นใครกันแน่ คุณมูนส์”
เธอรู้มากเกินไป...อาจจะมากกว่าผู้วิเศษบางคนที่เยินยอหรือเชื่อข่าวตามเดลี่พรอเฟ็ตแล้วเอาไปโม้ด้วยซ้ำ แฮร์รี่ไม่เคยเจอใครที่มีท่าทางมั่นใจแบบนี้มาก่อน หล่อนทำเหมือนกับรู้เรื่องทุกอย่างในโลกนี้แม้จะเป็นแค่เรื่องของสัตว์เซลล์เดียวที่กำลังสูญพันธุ์ก็ตาม
นั่นทำให้เขาไม่แน่ใจ—แต่ในขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าหล่อนไม่ใช่คนร้ายอย่างแน่นอน มีบางอย่างมันขัดกันอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันก็คือฉัน พอตเตอร์” หญิงสาวว่า เริ่มหมุนมือถือในมือเล่นอย่างที่ไม่กลัวจะทำตกพื้น “ฉันมีคำถามง่ายๆ สำหรับคุณ”
เขาเกลียดคำถาม
“มัลฟอยเป็นคนร้ายหรือเปล่า?”
“...หลักฐานกำลังชี้ว่าเขาเป็น”
“นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังยืนกระต่ายขาเดียวเข้าข้างมัลฟอยเหรอ?” ไดอาเลิกคิ้ว กระตุกมุมปากข้างหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ ‘หลักฐานกำลังชี้ว่าเขาเป็นคนร้าย’...ฟังดูเหมือนกำลังพูดถึงคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเองเลยนะ ไม่ใช่ว่าที่มัลฟอยพาคุณมาที่นี่ไม่ใช่เพราะว่าคุณไม่ได้รายงานเรื่องที่คุณสงสัยฉันให้กับทางกระทรวงทราบหรอกเหรอ? การกระทำแบบนั้นมันกำลังบอกให้ฉันคิดนะว่าคุณเข้าข้างเขา”
หล่อนกำลังต้อนเขา—แฮร์รี่ขมวดคิ้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใด หล่อนกำลังจงใจเปิดช่องโหว่ให้เขาเห็น
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้รายงานเรื่องของคุณให้กระทรวงรู้” แฮร์รี่เห็นว่าไดอากำลังทำสีหน้าพอใจ
หล่อนกำลังเปิดทางให้เขา
“หรือไม่ใช่คุณที่รู้ว่ากระทรวงไม่ทราบเรื่องของคุณ แต่เป็นมีคนบอกคุณว่าคุณยังไม่ถูกกระทรวงสงสัย”
และมันลงล็อก—ไดอายิ้มกว้าง หล่อนกำลังทำหน้า ‘อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียวนายก็จะเจอคำตอบแล้ว’
แฮร์รี่รู้โดยทันทีว่าหล่อนกำลังหมายถึงใคร—และเป็นครั้งแรกที่สมองของเขาประเมินผลเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
“มัลฟอยเป็นคนของกระทรวง” แฮร์รี่เบิกตากว้าง “ไม่สิ—หมอนั่นเป็นสปายให้เรา”
“ไม่ใช่ของกระทรวง พอตเตอร์ แต่ก็ใกล้คำตอบมากแล้วล่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง แต่กลับเริ่มทำให้แฮร์รี่ขมวดคิ้วมุ่นและหล่อนไม่คิดที่จะต่อประโยคของตัวเองจนจบ “นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันจะเอาผ้าห่มมาให้”
“แล้วเรื่องของมัลฟอยล่ะ?” เขาท้วง ความสงสัยอัดแน่นจนรู้สึกอึดอัด ในขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นอย่างไร้สาเหตุ “คุณจะบอกว่าหมอนั่นเป็นพวกกระทรวงตั้งแต่ต้นเหรอ?
“ฉันก็บอกไปแล้วนะว่าไม่ใช่กระทรวง” หญิงสาวส่ายหัว หัวเราะออกมาแผ่วเบา “คุณน่าจะคิดเรื่องของเขาให้มากอีกนิด...เหมือนกับที่เขาคิดเรื่องของคุณนะ”
หญิงสาวเดินออกไปแล้ว เธอน่าจะไปหาผ้าห่มสักผืนในอพาร์ทเมนต์อันว่างเปล่าแห่งนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้อสงสัยหมดไปได้เลยสักนิด
ไดอา มูนส์เป็นคนลึกลับ—เพียงแต่อะไรที่ทำให้เธอพูดออกมาแบบนั้นอย่างมั่นใจกันล่ะ?
เพราะเรื่องที่เธอพูด แฮร์รี่คิดว่ามันเกินขอบเขตที่มัลฟอยจะรู้ด้วยซ้ำไป
เขาได้ยินเสียงกุกกักตอนตีห้า แฮร์รี่สะดุ้งตื่นพร้อมกำไม้กายสิทธิ์แน่น เขาเฝ้าระแวงมาตลอดทั้งคืนว่าลอว์เซอร์เรียสอาจจะหาที่นี่เจอ แต่เสียงนั้นดังมาจากห้องที่มัลฟอยนอนอยู่ แฮร์รี่ได้ยินไม่มากพอว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร
เขาลุกขึ้นไปดู ต้องขอบคุณที่ไดอาไม่ได้ล็อกห้องเอาไว้ ด้านในนั้นยังเห็นเป็นแสงสลัวๆ จากโคมไฟที่เปิดไว้ตรงหัวเตียง คนเจ็บกำลังลุกขึ้นนั่ง ทำท่าเหมือนจะออกไปจากที่นี่แล้ว
มันทำให้เขาเผลอโพล่งออกไปว่า “นายยังไม่หายดี”
อีกคนหันมามองเขา แฮร์รี่ยืนอยู่ที่หน้าประตู มองอีกฝ่ายด้วยคิ้วที่ขมวดกันมุ่น ชุดตัวนอกของมัลฟอยถูกถอดออกจนหมด หรือบางทีอาจจะรวมถึงเชิ้ตตัวในด้วยก็ได้ เขาไม่แน่ใจว่าไดอาไปหาเสื้อตัวใหม่มาจากไหน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มดูดีขึ้นเกินไปกว่าคนป่วยเลยสักนิด
แฮร์รี่ไม่เคยเห็นมัลฟอยใส่แค่เสื้อเชิ้ตมาก่อน—หรือจะพูดให้ถูก เขาแค่ไม่ชินตาและไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะดูเป็นยังไงถ้าไม่ได้แต่งตัวเนี้ยบ
มัลฟอยก้าวลงมาจากเตียง ผ้าพันแผลซ่อนอยู่ใต้เสื้อที่ใส่อยู่จนเขาไม่เห็น “ฉันไม่ว่าง”
“นายจะว่างจนกว่าฉันจะรู้เรื่องทั้งหมด” เขาปฏิเสธ เมินสายตาอาฆาตที่ส่งมาอย่างไม่พอใจ “แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดที่นายกำลังทำอยู่ด้วย”
อีกฝ่ายหัวเราะขึ้นจมูกดัง ‘หึ!’ “นายจะสอบสวนฉันหรือไง คุณพอตเตอร์”
“ฉันมีสิทธิ์ทำแบบนั้นนะ” แฮร์รี่ขมวดคิ้ว ไม่ชอบใจเท่าไรนักหรอกที่กำลังถูกประชดประชันใส่ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาพอใจทั้งนั้นแหละที่ถูกมัลฟอยประชด มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว “ฉันจะไม่ถามว่าทำไมถึงมีคนตามล่านายหรอกนะ แต่สิ่งที่พวกนั้นตามหาคืออะไรกันแน่?”
ไมอา ฮัตสันต้องการบางอย่าง—มันอาจจะเป็นของที่หายาก แต่แฮร์รี่แน่ใจว่าต้องไม่ใช่พวกฮอครัทช์เหมือนที่วอลเดอร์มอร์เคยทำแน่ๆ แต่มันต้องเป็นบางอย่างที่สามารถพาคนๆ หนึ่งกลับมาได้
แต่มัลฟอยไม่ตอบ “ทำไมนายไม่ลองไปถามคนในกระทรวงดูเองล่ะ?” อีกฝ่ายว่ามาแบบนั้น “ดูจะมีประโยชน์กว่ามาถามอะไรจากผู้ต้องสงสัยแบบฉันนะ”
“นายพูดเหมือนมั่นใจว่ามีใครในกระทรวงรู้เรื่องนี้ดี” แฮร์รี่ทำเป็นเลิกคิ้ว เขาเห็นว่าอีกฝ่ายเหมือนจะชะงักไปชั่วครู่เหมือนรู้ตัวว่าหลุดอะไรออกมา ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ ก้าวเข้าไปใกล้จนกระทั่งยืนอยู่ที่ขอบเตียง “หรือคนๆ นั้นคือคนที่ส่งนายเข้าไปเป็นสปายในพวกผู้เสพความตายกันนะ?”
“...สมองนายน่าจะเพ้อเจ้อหนักกว่าตอนปราบจอมมารนะ พอตเตอร์”
เขามั่นใจได้แล้ว—แฮร์รี่คิดกับตัวเอง มัลฟอยกำลังแสดงท่าทีพิรุธออกมา แสดงว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นถูกต้อง ทุกอย่างลงล็อกตั้งแต่ที่มีหมายจับมัลฟอยออกมาแล้วยังไม่มีใครตามจับอีกฝ่ายได้แล้ว เป็นเหตุผลว่าทำไมฝั่งเขาที่เป็นฝ่ายสืบสวนถึงได้รับข้อมูลช้าเหมือนโดนปิดบัง หรือแม้แต่เป็นเหตุผลว่าทำไมหมอนี่ถึงหนีได้ทันตลอดตอนที่เขากำลังจะจับได้
มีคนในกระทรวงช่วย—และใครคนนั้นต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอ
แฮร์รี่คิดได้อยู่แค่คนเดียว
“ตั้งแต่เมื่อไรที่นายทำงานให้คิงส์ลีย์?”
คำตอบคือ คิงส์ลีย์ ชักเคิ้ลโบลต์คือคนที่มีอำนาจและใสสะอาดมากที่สุด—แฮร์รี่เดาถูกต้องเลยทีเดียวเมื่อมัลฟอยไม่สามารถโต้เถียงเขาได้
และเขาไม่ได้คำตอบหลังจากนั้น
เสียงเดินกุกกักจากด้านนอกดังลอดเข้ามาเบาๆ นั่นคงเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ที่กำลังจะเตรียมตัวออกไปด้านนอกในเวลานี้ แต่แฮร์รี่ไม่ได้สนใจมากไปกว่าคนตรงหน้าที่เหมือนจะหาทางไปจากตรงนี้ให้ได้ ไดอาโผล่หน้าเข้ามาในห้องด้วยชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มตามเคยและสวมทับด้วยโอเวอร์โค้ทสีขาว “ฉันจะออกไปข้างนอก”
มันเป็นโอกาสดีทีเดียวที่มัลฟอยจะแทรกขึ้นมาทันทีว่า “ผมไปด้วย”
หมอนี่คิดจะหนีเขาตามคาด แต่ครั้งนี้คนที่ปฏิเสธเห็นจะเป็นไดอาเสียแล้ว “ฉันว่ามันไม่เหมาะที่คุณจะออกไปตอนนี้นะ คุณมัลฟอย” ก่อนที่หล่อนจะย้ายสายตามาที่เขา “แต่คุณพอตเตอร์ ฉันคิดว่าคุณคงอยากไปที่บ้านโพรงกระต่ายไม่ใช่น้อย”
โทรศัพท์ของเขาอยู่ในมืออีกฝ่าย แฮร์รี่มองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างก่อนจะรีบตะปบเข้าที่กระเป๋าของตัวเอง พบว่ามันไม่มีอยู่แล้ว ไดอายิ้มพรายเมื่อเขาใช้ดวงตาที่แสดงความไม่พอใจมองไปที่หล่อน
“คุณรู้ใช่ไหมว่ามันเสียมารยาท”
“ฉันไม่สนเรื่องนั้นหรอก” ก่อนที่ใบหน้าจะกลับมาเป็นนิ่งเรียบตามเคย “วันนี้ฉันต้องเซ็นต์อนุมัติให้ลูน่า ทอมสันออกจากเซนมังโกแล้ว”
มัลฟอยโพล่งขึ้นมาว่า “ยังไม่ได้!”
แฮร์รี่หันไปมอง เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด มันน่าแปลกใจตั้งแต่ที่ว่าทำไมหล่อนถึงออกจากเซนมังโกไม่ได้สักทีทั้งๆ ที่อาการของหล่อนก็หายเป็นปกติทั้งหมดแล้ว มัลฟอยเหลือบตามองมาที่เขา ไล่กลายๆ ทางสายตาว่าให้ออกไป
แต่ขอโทษ เรื่องนี้เขาควรรู้ด้วยเหมือนกัน “นายรู้ใช่ไหมว่ามันมีความผิด?” เขาหมายถึงทอมสัน “การวางยาคนไข้จนมีอาการเลอะเลือนถือเป็นการผิดจรรยาบรรณผู้บำบัด”
“มันไม่ร้ายแรงถึงขั้นทำให้หล่อนเลอะเลือนจริงๆ หรอก นั่นก็แค่คาถาที่มีผลชั่วคราว” มัลฟอยตอกกลับด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ยังไงก็ตาม ฉันยังไม่ได้ข้อมูลมากพอจากหล่อน”
“เกรงว่าคุณก็ต้องเข้าไปเซ็นต์อนุมัติให้เธอออกพร้อมฉันนะ” ไดอาเลิกคิ้ว “เรื่องนั้นวานให้พอตเตอร์จัดการก็ได้ จริงไหม?”
“ผมจะทำก็ต่อเมื่อรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น” ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอก เลิกคิ้วอย่างเป็นต่อไปให้มัลฟอยที่ไม่ได้พอใจกับข้อเสนอนี้เลยสักนิด “ยังไงซะ คนที่ทำงานในที่แจ้งอย่างฉันก็ทำอะไรๆ ได้ง่ายกว่าจริงไหม?”
บางทีแฮร์รี่อาจจะโดนอีกฝ่ายตอกกลับด้วยคำเจ็บแสบสักประโยคสองประโยค เขาคิดแบบนั้นตอนที่เห็นว่ามัลฟอยกำลังขมวดคิ้วอย่างคิดหนัก อีกฝ่ายดูงุ่นง่านและขัดใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูโอนอ่อนและลังเลจนน่าสงสัย
ไดอาถอนหายใจ “งั้นฉันจะไปที่แลมเบอร์ตันก่อน พวกคุณหาทางตามออกมาทีหลังก็แล้วกัน ของใช้สำรองอยู่ที่ชั้นลอยในห้องน้ำ ล็อกบ้านให้ด้วย” แล้วเดินออกไปทันทีโดยไม่รอคำตอบ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาควรจะออกไปจากที่นี่เช่นกัน อีกสองชั่วโมงต่อมาแฮร์รี่กลับไปที่เซนมังโกอีกครั้งเพื่อมองหามัลฟอยและทอมสันที่จะออกจาเซนมังโกในวันนี้ เทเรียส ลอสลางานด้วยสาเหตุบางอย่าง วันนี้เขาจึงต้องมาทำงานคนเดียว
แฮร์รี่ไม่ได้ไปหาจินนี่โดยทันที เขาใช้ไปรษณีย์นกฮูกส่งไปแทนเพราะเกรงว่าอาจจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายตามไปด้วย เป็นอย่างที่คาดที่หญิงสาวจะอยู่ที่บ้านโพรงกระต่าย รอนนัดเขามาพบตอนสายของวันซึ่งก็คือหลังจากที่ทอมสันออกจากเซนมังโกเรียบร้อยแล้ว
แฮร์รี่ลองไปดูรายชื่อของผู้บำบัดที่เข้าทำงานในวันนี้...และใช่ มัลฟอยมาทำงานแล้ว เขาได้เจออีกฝ่ายอีกทีที่ห้องของลูน่า ทอมสันเลย หมอนั่นสวมชุดสีขาวของผู้บำบัด แฮร์รี่คิดว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมัลฟอยใส่อย่างอื่นนอกจากสีดำ(ถึงเสื้อตัวในจะเป็นสีดำอยู่ก็ตามเถอะ)
เขามองไปที่ไหล่ของอีกฝ่าย หมอนั่นกำลังเซ็นต์เอกสารอนุมัติพร้อมตรวจร่างกายของทอมสันโดยคร่าวๆ พร้อมกับไดอา อดีตผู้เสพความตายสาวจ้องอีกฝ่ายเขม็ง แฮร์รี่ไม่แปลกใจนักเพราะหล่อนถูกหักหลังและเกือบเอาตัวไม่รอด เขาคิดว่าหล่อนคงจะสาปมัลฟอยแน่ๆ ถ้าไม่ใช่เฉพาะมีผู้บำบัดหญิงใช้คาถาล็อกตัวหล่อนและปิดเสียงหล่อนชั่วขณะ
มัลฟอยไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าการขานรับกับคุณหมอมูนส์ มือขวาของหมอนั่นตวัดเซ็นต์ไปเรื่อยๆ และแฮร์รี่สังเกตว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะไม่ออกแรงที่ไหล่จนกระเทือนถึงบาดแผล
ยังไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน—เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ว่าลอว์เซอร์เรียสยังไม่อยากสูญเสียตำแหน่งนี้ไปเพราะความผิดพลาดครั้งนี้ของตัวเอง เจ้านั่นคงจะหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วค่อยเคลื่อนไหว เขาควรอาศัยจังหวะนั้นแจ้งคิงส์ลีย์ซะ อย่างน้อยเรื่องนี้ยิ่งที่คนรู้มากเท่าไรก็ยิ่งดี พวกเขาน่าจะเริ่มพิจารณาความผิดของมัลฟอยใหม่
“ออกได้แล้ว” ในที่สุดมัลฟอยก็พูดคำนี้ออกมาพร้อมยื่นเอกสารอนุมัติในมือให้กับผู้บำบัดหญิง “งานวันนี้ผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอตัว”
รู้ได้เลยว่าหมอนี่พยายามหนี “เดี๋ยว มัลฟอย!” แฮร์รี่ตรงเข้าไปดึงแขนอีกฝ่ายเอาไว้ มัลฟอยหันมามองด้วยคิ้วที่ขมวดกันมุ่น
“ตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก นายจะกลัวอะไร?”
กลัว?—เขาไม่ได้กลัวหรอกหน่อย หมอนี่สำคัญตัวเองผิดแล้ว
“ฉันต้องรายงานเรื่องนี้ให้หัวหน้า แต่นายยังไม่ได้ให้ปากคำอะไรสักอย่าง” ที่เขาจะสื่อก็คือ มัลฟอยต้องมาอยู่ในการควบคุมของเขาจนกว่าทุกอย่างจะปลอดภัย “นายกลายเป็นพยานแล้วนะ”
“แต่นายไม่มีสิทธิ์มาจำกัดพื้นที่ฉัน พอตเตอร์ ฉันหมดธุระที่นี่แล้วและมีธุระที่อื่นต่อ”
ไดอาเลิกคิ้วก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ สก็อตเป็นคนรับหน้าที่ไปส่งเธออีกครั้งที่โรงพยาบาลแลมเบอร์ตัน
แฮร์รี่ขมวดคิ้วไม่พอใจ อีกเดี๋ยวรอนจะมาพบเขาที่นี่ แต่มัลฟอยเองก็ปล่อยไปไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้มีใครเป็นหนอนบ้างเขาก็ไม่รู้ ทางที่ดีคือไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ
อีกอย่างคือ ถ้าเขาปล่อยหมอนี่ไปตอนนี้ ก็คงไม่รู้จะหาเจออีกเมื่อไร
แฮร์รี่ยังไม่รู้อะไรเลย—ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ทำอยู่นี่เพื่ออะไร หรือแม้แต่การกระทำของมัลฟอยที่ทุกอย่างยังเป็นปริศนา
มัลฟอยจ้องมองเขา นิ่งอยู่นานก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ “ฉันจะกลับคฤหาสน์ตอนนี้ นายไปทำธุระให้เสร็จแล้วตอนเย็นมาเจอกันที่นี่”
เขากระพริบตาปริบ กำลังตามอารมณ์ของคนตรงหน้าให้ทันจนกระทั่งโดนย้ำมาอีกว่า “ฉันเข้าเวรที่นี่ตอนสองทุ่ม เข้าใจใช่ไหมพอตเตอร์ ฉนไม่ชอบคนมาสาย”
เยี่ยมเลยที่ยอมตกลงกันโดยง่าย เขาปล่อยมือออกจากอีกฝ่าย มัลฟอยหันหลังเดินจากไปโดยไม่มีแม้แต่คำบอกลา ชายเสื้อของผู้บำบัดปลิวตามการเคลื่อนไหว แฮร์รี่ใช้เวลาเหม่อมองอยู่นานจนกระทั่งอีกฝ่ายหายลับไป อดพูดกับตัวเองไม่ได้ว่ามันเข้ากับมัลฟอยกว่าที่คิด
รอนมาพบเขาหลังจากนั้นอีกสิบห้านาที เพื่อนหนุ่มคนนี้มาเพียงลำพังด้วยใบหน้าที่แสดงชัดถึงความเครียด “จินนี่ไม่เป็นอะไร” เจ้าตัวบอก “แต่เธอเป็นห่วงนายแทบแย่ กังวลแทบตายกลัวว่ามัลฟอยจะทำอะไรนาย”
“หมอนั่นไม่ใช่คนร้าย” แฮร์รี่อธิบาย “ถึงจะไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ แต่ลอว์เซอร์เรียสเป็นพวกผู้เสพความตายไม่ผิดแน่”
“แล้วมัลฟอยโดนตามล่าเพราะอะไรกันล่ะ?” รอนตั้งข้อสงสัย “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหมอนั่นไปทำอะไรไว้ก็คงไม่โดนตามล่าหรอกใช่ไหม แถมยังทรยศเอารายชื่อของอดีตผู้เสพความตายไปบอกทางนั้นด้วย เรื่องนี้นายจะอธิบายยังไงล่ะ แฮร์รี่?”
เขาเงียบ “ฉันก็ไม่รู้” ใช่—ไม่รู้อะไรสักอย่าง “แต่คิดว่าคงต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อให้มัลฟอยยอมคายความจริงออกมา”
รอนจ้องเขาเขม็งเหมือนพยายามจับผิด เขาไม่ชอบเอาเสียเลยกับสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดแบบนั้น ครั้งนี้มัลฟอยเดือดร้อนจริงๆ แต่แฮร์รี่คงบอกรอนไม่ได้ว่าหมอนี่เป็นสายให้กับทางกระทรวง ไม่ใช่สปายจากฝั่งศัตรู อีกนานกว่าที่คิงส์ลัย์จะกลับมาที่กระทรวง เขาต้องหาเวลาไปหาความจริงจากอีกฝ่ายให้ได้
“จินนี่เป็นห่วงนายมากนะ”
นั่นทำให้เขาพึ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้โทรหาหญิงสาวจริงๆ จังๆ สักที
“ฉันควรโทรหาจินนี่สักหน่อย” ชายหนุ่มว่าแบบนั้นก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบมือถือของตัวเอง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า
นึกขึ้นมาได้ว่าครั้งล่าสุดไดอา มูนส์แอบเอามือถือเขาไปแกว่งเล่นอย่างเสียมารยาท ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาหนักๆ ต้องบอกลาเพื่อนตรงนั้นแล้วหายตัวไปที่อพาร์ทเมนต์ของหญิงสาวทันที มองหาอยู่ไม่นานก็พบสิ่งที่ตามหา
มันวางอยู่ที่โต๊ะข้างผนัง โชคดีที่หล่อนไม่ได้วางมันไว้ในที่ลับสายตาเกินไปจนต้องใช้คาถาเรียกของ เพียงแต่ตรงนั้นกลับเต็มไปด้วยกล่องกระดาษมากมายที่ใส่ข้าวของที่ไม่จำเป็นเพื่อเตรียมเอาไปทิ้ง แฮร์รี่ไม่ได้อยากจะสังเกตมากขนาดนั้น แต่เขาคิดว่าข้าวของพวกนี้มันมากเกินไปจนเหมือนหญิงสาวจงใจลื้อเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดไปทิ้ง
มีกล่องหนึ่งที่ยังไม่ปิดดี มันเป็นกล่องบรรจุเอกสารไว้จนล้นร่วงลงมาข้างๆ เขาก้มลงเก็บขึ้นไปรวมกับกองหลัก
ก่อนจะชะงักกับเอกสารสองแผ่นสุดท้ายที่ตัวเองหยิบขึ้นมา เบิกตากว้างไล่อ่านทีละอักษรด้วยหัวใจที่เริ่มกระหน่ำเต้นอีกครั้ง
มันเป็นรูปสีของหญิงสาวผมสีทองสวยคนหนึ่งกับชายหนุ่มอีกคนที่มีโครงหน้าคล้ายคลึงกัน แฮร์รี่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่านอกจากสีตาและสีผมแล้ว พวกเขาคือไดอากับวลอฟไม่ผิดแน่
หากมันไม่ใช่ใบมรณะบัตรล่ะก็นะ
มันเป็นใบมรณะบัตรของไดอา มูนส์กับวลอฟ มูนส์—เสียชีวิตเมื่อสามเดือนที่แล้ว
++++
Talk : ตอนนี้ฟิคฮาคุจบไปเเล้ว เรื่องนี้เราจะเลื่อนมาอัพเป็นสองอาทิตย์หนึ่งตอนเเล้วนะคะ เเต่ว่าช่วงนี้ไม่เเน่ใจว่าจะเลทหรือเปล่าเพราะใกล้สอบมิดเทอมกับส่งโปรเจ็คค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ลุ้นเวอร์
ก็เอะใจตั้งแต่ชื่อไดอาแล้ว แล้วก็มีวลอฟอีก ไหนจะไมอา ฮัตสัน555555 ตัวละครจาก boy&girl มาครบเลยมั้ยเนี่ย555555 นี่ขนาดเรื่องนี้มันHPDMนะเนี่ย ยังรู้สึกอยากชิปไดอากับเดรโกเลย55555
ก็ยังชอบภาษาการบรรยายเสมอมา รู้สึกบรรยายดีขึ้นด้วย เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ!
#รอตอนต่อไปนะคะ
ปล. อยากเห็นรูปเดรโกใส่เสื้อเชิ้ตอย่างเดียวบ้างจังค่ะ (สงสัยเหมือนกันว่าถ้าเดรกไม่แต่งตัวเนี้ยบจะเป็นยังไง5555)
ปล2. ใส่ชุดนักบำบัดที่ทำแฮร์รี่ชอบก็ได้ค่---
ขอบคุณมากค่ะที่บอกว่าเราบรรยายดีขึ้น //ดีใจจัง
เห็นเขาสองคนคุยกันแล้วชุ่มช่ำหัวใจ//กุมอก
ปริศนาอะไรอีกแล้วววว คิดว่าไม่ใช่ผีหรอก แต่จริงๆพวกผู้วิเศษมันก็มองผีเห็นนีี่นะ...