ตอนที่ 33 : 32 แขกรับเชิญ
32 แขกรับเชิญ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นหลายชั่วโมง
แผนของเดรโกไม่มีอะไรซับซ้อน ตอนนี้ทุกอย่างพังหมดแล้ว เขาต้องแน่ใจว่าเชนต์กำลังทำอะไรอยู่และไม่ได้แตะต้องตู้อันตธานที่เขาอุตส่าห์สซ่อมเองกับมือ
ตู้นั่นเดรโกตั้งใจจะใช้ล่อผู้เสพความตายเข้ามาที่นี่ อย่างน้อยการที่พอตเตอร์รู้เรื่องทุกอย่างแล้วมันก็ดีขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เขาไม่ต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ คนเดียวอีก
แต่ดูเหมือนตอนนี้จอมมารจะรู้แล้ว พวกเขาต้องคิดแผนใหม่—หรือไม่ก็แผนสำรอง แกล้งทำเป็นว่ายังไม่รู้ว่าตัวเองโป๊ะแตก รอจนกว่าดัมเบิ้ลดอร์จะกลับมา
ซึ่งทุกอย่างมันมาชะงักตรงที่พวกเขาเปิดห้องต้องประสงค์ไม่ได้นี่แหละ
เดรโกมองหน้าอีกคนที่ดื้อดึงจะตามมาด้วย รู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของใคร
เชนต์—มันรู้แล้ว
“ใช้แผนสำรองเถอะ เราต้องล่อหมอนั่นออกมาแล้วจัดการเขาซะ” นี่เป็นข้อเสนอของพอตเตอร์
ในกระเป๋าของหมอนี่มีน้ำยาสรรพรสที่ปรุงเสร็จเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เดรโกไม่แน่ใจว่าพอตเตอร์มันเก่งปรุงยาตั้งแต่เมื่อไร แต่ก็เอาเถอะ ตอนนี้เขาไม่ควรสงสัยแล้วว่าความสามารถมากมายพวกนั้นมาจากไหน ในเมื่ออีกคนมาจากอนาคตจากนี้อีกหลายปี
“นายเป็นฝ่ายรอจับไม่ดีกว่าหรือไง?” เดรโกก้มมองมือที่จับแขนตัวเองไว้ไม่ปล่อย ยังไงก็ตาม พอตเตอร์ชักจะทำเหมือนเขาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่ซะแล้ว
นี่ไม่ปลื้มเอาซะเลย
“กระดูกนายยังไม่เข้าที่” อีกคนว่าดื้อดึง “สภาพฉันเต็มร้อยกว่านายมัลฟอย ให้ฉันทำ”
“...ก็ได้”
แต่ตอนที่หันหลังกลับคิดจะเดินไปห้องพยาบาล เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“พวกนายทำอะไรกัน?”
เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์กับรอน วีสลีย์มองเขาอย่างกับเดรโกไปฉุดคร่าเอาแฮร์รี่มางั้นแหละ
คนที่โดนฉุดน่ะมันเขานะ
“มัลฟอย นายทำอะไร?”
เดรโกล่ะปวดหัวจริงๆ
“แล้วพวกนายก็ร่วมมือกัน” คนถูกจับกล่าวอย่างประชดประชัน แต่ที่แน่ชัดที่สุดคงเป็นความเกลียดชังที่มองเดรโกอย่างไม่ปิดบัง “ประเสริฐดีนี่ ผู้กล้าสามคนร่วมใจกับลูกผู้เสพความตาย!”
“ขอบใจ” เดรโกว่าเสียงเย็น มีความคิดจะลองสาปหมอนี่เล่นๆ สักคาถา “ที่จริงสามคนนี้ก็ควรรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับฉัน”
รอนทำหน้าจะอ้วกใส่ ตอนนี้เส้นผมของอีกฝ่ายกลับมาเป็นสีแดงอย่างเก่าแล้ว จะมีก็แค่โครงหน้าที่ยังอยู่ก่ำกึ่งไม่กลับมาเป็นปกติเสียทีเดียว
ดูทุเรศชะมัด
“เหอะ! ต่อให้แกใช้คาถาอะไรทรมานฉัน ฉันก็ไม่บอกอะไรทั้งนั้น!”
เฮอร์ไมโอนีก้าวออกมาด้านหน้า “ไม่ต้องห่วง เรามีตัวช่วย”
หล่อนหยิบขวดยาขวดเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม อิเลียตมองมันด้วยความไม่ไว้วางใจ
เดรโกกระตุกยิ้ม “ขอนำเสนอ สัจจะเซรุ่ม เอามาจากคอลเล็คชั่นของศาสตราจารย์สเนปเมื่อไม่กี่นาทีนี่เอง”
พอตเตอร์เดินเข้ามาใกล้ หักข้อนิ้วดังแกร็บเหมือนคนเตรียมชกต่อย
“ฉันรู้ว่านายไม่เปิดปากง่ายๆ แน่ แต่ไม่เป็นไร ฉันมีวิธี”
“นายไว้ใจเขาได้ขนาดไหนกัน!?” เสียงรอนดังแว๊ดๆ จนแทบจะเรียกคุณนายนอริสกับฟิลล์ให้มาที่ชั้นนี้แล้ว “หมอนี่มันลูกผู้เสพความตาย! แฮร์รี่ นายต้องโดนมัลฟอยสะกดจิตแล้วแน่ๆ!”
แววตามัลฟอยแทบจะกลายเป็นเย็นเยียบ มีหลายอย่างที่เขาเกลียดในตัวของวีสลีย์ หมอนี่มันปากหมา ปากพาซวยแล้วยังปากหาเท้าอีก
พวกวีสลีย์ก็เป็นซะแบบนี้--ติ๊งต๊อง โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กสุดที่ทำตัวเหมือนมีปมด้อย แว้งกัดคนอื่นไปทั่วถ้าไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองชอบ
มัลฟอยอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าเขาก็ไม่ได้อยากมองหน้าหมอนี่สักเท่าไรหรอก รอน วีสลีย์ใช้สายตาที่สื่อว่าเขาเทียบตัวเองไม่ติดมองมาที่เดรโกทุกครั้งนั่นแหละ เขาไม่สนว่าหมอนี่มีความพยายามมากแค่ไหนหรือมีคนเปรียบว่าเขาเป็นคุณชายเหยีบขี้ไก่ไม่ฟ่อหรอกนะ
วีสลีย์ทำตัวเอง หมอนี่แทบติดป้ายไว้ที่หน้าตลอดเวลานั่นแหละว่า‘เชิญมัลฟอยผู้ลาภมากดีเหยียบย่ำฉันให้พอเลย เย้! ฉันมีพอตเตอร์อยู่ข้างตัวโว้ย! ไม่เหมือนแกที่ตัวคนเดียว!’
แล้วรอบนี้ก็อีกรอบหนึ่ง วีสลีย์มองเขาแบบนั้นอีกแล้ว
น่าซัดคาถาใส่หน้าซักสิบคาถา หมั่นไส้จริงๆ อย่าคิดว่ามันเป็นปมด้อยเขานะ เห็นแล้วขัดหูขัดตาชะมัด
พอตเตอร์ดึงเขาไว้ข้างตัว
“รอน ฉันเป็นคนขอมากับมัลฟอยเอง”
สามคนที่ฟังถูกสตั๊นจนแข็งค้าง—อันที่จริงแล้วเฮอร์ไมโอนีแค่ขมวดคิ้วเท่านั้น แม่นี่เขาไม่ห่วงนักหรอก คนที่ฉลาดน่ะมองอะไรนิดเดียวก็เอามาเดาทางเองได้แล้ว แต่วีสลีย์นี่สิ...
“อะไรนะ!”
เดรโกอยากดูนาฬิกา นี่เขาต้องเสียเวลาเถียงกับหมอนี่ไปอีกกี่นาทีไม่ทราบ
แต่ละคนเริ่มมองอิเลียตด้วยความสงสาร ยังไงก็ตามตอนนี้เดรโกไม่กล้าแม้แต่จะถามด้วยซ้ำว่าพอตเตอร์ไปเรียนวิธีการง้างปากแบบโคตรโหดนั่นมาจากไหน
หมอนั่นแค่เดินเข้าไป จับใบหน้าของเชนต์นิดเดียวแล้วก็ได้ยินเสียง‘กึก!’
แล้วเชนต์ก็หุบปากไม่ได้อีกเลย
เกรนเจอร์มองดูด้วยความสยองเล็กน้อย บางทีหล่อนคงกำลังเริ่มกลัวพอตเตอร์ที่เคยบอกว่ารู้จักดีมาตลอดหกปี
“ไม่ต้องห่วง ถ้าหมอนี่กลืนน้ำยาได้แล้วฉันจะจัดกรามกลับให้เข้าที่เอง”
แต่สายตานายดูจะไม่อยากจัดกรามใส่เข้าที่ให้เชนต์เลยนะ พอตเตอร์—เดรโกกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
เกรนเจอร์เปิดจุกขวดยา ก่อนที่จะเทน้ำยาไม่กี่หยดเข้าใส่ปากของเชนต์
เดรโกเงยขึ้นสบตาพอตเตอร์ เขาเหมือนได้ยินหมอนั่นสั่งเขาผ่านทางสายตาเลยว่า‘อย่าคิดแม้แต่จะห้ามฉัน’
จากนั้นกรามของเชนต์ก็ถูกจัดเข้าที่อีกรอบ
กึก!
ถึงตรงนี้เดรโกต้องขอข้ามช่วงที่พวกเขาเถียงกันไปบ้าง นั่นมันไร้สาระสิ้นดีและส่วนใหญ่คนหาเรื่องและคนเถียงก็ยังเป็นคู่หูเพื่อนรักอย่างพอตเตอร์กับวีสลีย์นั่นแหละ
เดรโกไม่ได้อยากญาตดีกับเกรนเจอร์นักหรอก แต่ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้หล่อนยังรู้จักแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร เขามองตาหล่อนก็รู้-ถ้าไม่มีเรื่องของตู้อันตธานเข้ามาเกี่ยว คนที่เดรโกไม่อยากต่อคำด้วยมากที่สุดคือผู้หญิงคนนี้
“แล้วยังไงต่อ ถ้านายปลอมเป็นมัลฟอย จับเชนต์ได้แล้วเราจะง้างปากมันยังไง?” รอนยังคงฮึดฮัด ไม่วายก็ยังหันกลับมาประชดถามเขาอีกว่า “ใช้คาถา?”
“ใช่ สะกดจิตนายให้ไปเต้นเปลื้องผ้าที่โถงพรุ่งนี้เป็นไง?” เดรโกกลอกตา “สัจจะเซรุ่ม”
“แต่นั่นมันน้ำยาขั้นสูงเกินไป และเราไม่มีเวลา” เกรนเจอร์ขมวดคิ้ว ไม่ต้องรอถามต่อ เธอเป็นคนให้ทางเลือกด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์สเนป?”
เธอหันมามองหน้าเขา
เดรโกหยิบขวดยาใบเล็กขึ้นมาโชว์ “เซเวอร์รัสบอกฉันไว้แล้ว ฉันเข้าไปเอาอะไรในห้องเขาก็ได้”
นี่แหละอภิสิทธิ์ของเด็กสลิธีริน
แล้วมันก็เห็นผลทันตาเห็น สักพักอิเลียตก็ลดท่าทีก้าวร้าวลงก่อนจะเหม่อลอยราวกับคนไม่ได้สติ
พอตเตอร์ขอไว้แล้วว่าจะเป็นคนถามเองทั้งหมด “นายส่งข่าวบอกคนอื่นๆ หรือยัง?”
“บอกแล้ว”
“บอกว่ายังไง”
“มัลฟอยทรยศ”
“เล่าอย่างอื่นที่นายทำลงไปต่อสิ และทุกอย่างที่นายรู้”
“หลังจากผลักมัลฟอยตกลงไป ฉันรีบไปที่ห้องต้องประสงค์ หมอนั่นบอกฉันว่าตู้ซ่อมเสร็จแล้ว ฉันคิดว่ามัลฟอยต้องทำลายตู้ทิ้งแน่ๆ และพวกเขาก็จะเข้ามาไม่ได้ พวกเขาติดต่อฉันว่าให้เปิดตู้หากได้สัญญาณ ทางนั้นเองก็จับครอบครัวมัลฟอยเป็นตัวประกันแล้ว มีพรรคพวกใหม่เข้ามา คนๆ นั้นรู้อะไรดีๆ หลายอย่าง ท่านจอมมารกำลังจะเปลี่ยนแผน อาจจะเร่งมันให้เร็วขึ้น”
พ่อกับแม่—เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย
เดรโกพยายามรักษาสีหน้า แต่เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้ายังไงอยู่ เขาไม่สนใจว่าวีสลีย์กับเกรนเจอร์จะมองเขาด้วยสายตาอะไร
เดรโกไม่อยากได้รับความสงสาร—ได้รับแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมากัน พ่อกับแม่เขาก็ไม่ได้รับการปล่อยตัวซะหน่อย แถมไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด
“พรรคพวกคนใหม่คือใคร?”
“แจ็กสัน ฮัตสัน”
ชั่วขณะหนึ่งที่อีกสองคนยังทำหน้าแปลกใจ เดรโกกลับสังเกตเห็นว่าพอตเตอร์เผลอตัวเกร็งขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อนี้
คงไม่ใช่...
“พอตเตอร์”
เขาเอื้อมมือไปแตะไหล่อีกฝ่าย พอตเตอร์สะดุ้งเหมือนคนที่พึ่งตื่นจากฝันร้าย เป็นแบบนี้อีกแล้ว
เดรโกไม่สนใจว่ามือของเขาจะถูกวางทับด้วยมืออีกคนแล้วถูกบีบแน่นขนาดไหน เขาก้าวขึ้นมายืนอยู่ข้างๆ พอตเตอร์ บางทีหมอนี่ก็ควรจะรู้ไว้สักหน่อย เดรโกไม่ใช่คนที่ต้องการใครมายืนบังหน้าแล้วตัวเองหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย
เดรโกถาม “แล้วยังไงต่อ หมอนั่นบอกอะไรนาย”
“...”
เห็นได้ชัดว่าการเหม่อลอยของเชนต์เริ่มสร่างมากขึ้นแล้ว สัจจะเซรุ่มกำลังจะหมดฤทธิ์ พวกเขาหันมามองหน้ากัน
เอายังไงดี?
“ตีหัวให้สลบก่อนไหม?” วีสลีย์เสนอ และนั่นก็โดนเกรนเจอร์มองค้อนไปแล้วรอบหนึ่ง
เดรโกถามซ้ำอีกรอบ “แจ็กสัน ฮัตสันบอกอะไรนาย พูด!”
อิเลียตเหมือนกำลังต่อต้านร่างกายตัวเอง ค่อยๆ หลุดคำออกมาทีละนิด “บอกว่า—มัลฟอยเป็น...ภาคี ตั้งแต่แรก—ไม่ ฉันไม่...เดรโก มัลฟอย...เป็นสาย—ไม่ตายซะมัลฟอย!”
และไม่ต้องรอให้มีใครเสกคาถาทำให้เชนต์สลบ พอตเตอร์ก็จัดการสับสันคออีกฝ่ายในทันที
วีสลีย์ดูเหมือนจะข้องใจมาก “นายไปเรียนวิธีพวกนี้มาจากไหนน่ะเพื่อน?”
“ที่กระทรวงน่ะ—เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ เรา...อึ่ก!”
“แฮร์รี่!”
แฮร์รี่ยกมือขึ้นกุมศีรษะ แผลเป็นร้อนผ่าวราวกับเขากำลังโดนนาบด้วยเหล็กร้อน เขารับรู้ได้ถึงอารมณ์โกรธเกรี้ยวรุนแรง มันยิ่งกว่าตอนที่โวลเดอร์มอร์หงุดหงิดตอนที่ลูกน้องทำงานพลาดซะอีก
เขาวิงเวียน อ่อนแรงจนทรุดลงกับพื้นและคงเป็นแบบนั้นไปแล้วถ้าไม่ไปมัลฟอยช่วยพยุงเอาไว้ แต่แทนที่แฮร์รี่จะได้เห็นหน้าคนที่ประคองเขาไว้กับเฮอร์ไมโอนีและรอน แฮร์รี่มองมองเห็นใครคนหนึ่งแทน
หญิงสาวผมสีดำที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี
ไดลานาน!
เขาเห็นเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ ห้วงอารมณ์เขาเต็มไปด้วยความโกรธสลับไปมาระหว่างความสนุก ในมือของแฮร์รี่คือไม้กายสิทธิ์ของลูเซียส มันถูกชี้ใส่หญิงสาวที่ยังไม่หยุดหัวเราะสักทีเหมือนเธอกำลังฟังเรื่องตลก
“อ้อ ใช่ ยังมีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกคุณ—สำคัญมากเลยล่ะ”
แฮร์รี่หัวเราะ—ไม่สิ โวลเดอร์มอร์กำลังหัวเราะชอบใจ “พูดมาสิ”
เสียงเรียกชื่อ‘แฮร์รี่’ อยู่ไกลจากที่ไหนสักแห่ง
แต่เขายังคงเห็นไดลานาน แฮร์รี่พึ่งสังเกตเห็นว่าเธอหน้าซีดจนแทบกลายเป็นสีขาว เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ไม่ใช่ว่าไดลานานอยู่ที่ลอนดอนหรอกเหรอ?
แล้วเธอก็ชูนิ้วใส่—ค่อนข้างเป็นสัญลักษณ์ที่น่าเหลือเชื่อมากที่ผู้วิเศษจะรู้จัก--ซึ่งมันแสดงถึงความหยาบคายอย่างถึงที่สุด และชั่ววูบหนึ่งที่เขาเห็นว่าดวงตาสีดำของเธอไม่ได้จ้องมองมายังตัวโวลเดอร์มอร์หรือเขาที่อยู่ในตัวของจอมมาร
เธอมองไปที่ไหนสักแห่ง มองหาอีกคนที่รับรู้ภาพพวกนี้ด้วย
“ฉันชอบคุณนะ ริดเดิ้ล คุณน่าสนใจดี...แล้วก็ต้องขอโทษจริงๆ”
แล้วแฮร์รี่ก็ตวัดมือ
ฉวะ!
ปลายไม้กายสิทธิ์กรีดตัดเนื้อผิวนิ่มบนลำคอขาวของไดลานาน เดอ ราโรส
แฮร์รี่อ้าปากร้องตะโกนสุดเสียง
ไม่!
“พอตเตอร์! พอตเตอร์!--แฮร์รี่ พอตเตอร์ กลับมา!”
แฮร์รี่หอบหายใจหนัก ดวงตาเขาพร่าเลือน ฝ่ามือจิกเข้าเสื้อของมัลฟอยจนเขาเริ่มเจ็บ เขากะพริบตาปริบด้วยความงุนงง ในอกสั่นไหวรุนแรงยังไม่หายจากอาการแพนิคเมื่อครู่ มั
ลฟอยหน้าอยู่ใกล้เขากว่าเคยและพึ่งมารู้ว่าเขากำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายบนพื้น—นี่วูบจนทรุดเลยเหรอ?
“เกิดอะไรขึ้น? นายร้องซะดังเลย” รอนถามด้วยความเป็นห่วง “ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อน”
มัลฟอยขมวดคิ้ว แขนโอบกอดเขายังไม่ปล่อยให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ “นายเห็นอะไร พอตเตอร์?”
เห็นอะไร ใช่!
“คุณเดอ ราโรส...!”
มันต้องไม่ใช่ความจริง ไดลานานไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง ที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ซะหน่อยว่าเธอเป็นคนที่มาจากอนาคตเหมือนเขา เธอไม่ได้เป็นใครเลยด้วยซ้ำนอกจากไดลานาน มูนส์ที่โดนฆ่าไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนเหมือนกับใบมรณะบัตรครอบครัวมูนส์ที่แฮร์รี่ไปพบในห้องพักของไดอา
แต่ไม่แน่—ถ้าแจ็กสัน ฮัตสันอยู่ฝั่งโวลเดอร์มอร์แล้ว หมอนั่นอาจจะเอาเรื่องนี้ไปบอก แล้วเธอก็ถูกจับตัวไปทรมาน นั่นอาจจะเป็นเหตุผลได้ว่าทำไมตั้งแต่เด็กฮัฟเฟิลพัฟโดนสะกดจิตในวันนั้นแล้วแฮร์รี่จึงไม่เห็นอีกคนลงมือต่อ
แจ็กสันแค่ใช้เรื่องของมัลฟอคนทรยศมาใช้เป็นตัวล่อ เป้าหมายจริงๆ ของหมอนั่นแค่ต้องการสังเกตพฤติกรรมของเขาและยืนยันว่ามีใครรู้เห็นมาจากช่วงเวลาอื่นหรือเปล่า แล้วแจ็กสันก็คงรู้แล้วว่านอกจากเขาที่มายังอดีต ไดลานานก็ตามมาด้วยรวมทั้งทอม
ไดลานานเป็นคนเดียวที่มีความรู้และข้อมูลทุกอย่างในโลกอนาคต เธอจึงโดนเก็บคนแรกหากโวลเดอร์มอร์อยากรู้จุดจบของตัวเอง—บ้าเอ้ย! ทำไมไม่สะกิดใจตั้งแต่แรกนะ!
แฮร์รี่ควรจะคิดได้ตั้งแต่ตอนที่มัลฟอยบอกเขาแล้วว่าเรื่องคำสาปที่สนามซ้อมควิดดิชนั่นเป็นฝีมือเชนต์ เพราะตอนนั้นเขามัวแต่มุ่งเป้าค้นหาไปทั่วว่าแจ็กสันจะปลอมตัวเป็นใครที่นี่ แต่แฮร์รี่ไม่เคยคิดเผื่อเลยว่าหมอนั่นอาจจะออกจากฮอกวอส์ตไปนานแล้วและลงมือจับตามองไดลานานใหม่ เพราะเธอต้องสืบข่าวความเคลื่อนไหวในลอนดอนด้วย!
ตามหล่อนที่ลอนดอนง่ายกว่ามาเสี่ยงตามหล่อนที่ฮอกวอส์ตซะอีก!
“ฉันต้องไปหาดัมเบิ้ลดอร์ เรารอไม่ได้แล้ว”
เขาต้องหาทอม
แฮร์รี่มั่นใจว่าที่เขาปวดแผลเป็นจนวูบขนาดนี้ไม่ใช่เพราะโวลเดอร์มอร์กำลังอารมณ์ดีแน่
แต่มันเป็นความโกรธของอีกคนต่างหาก
“ต้องใช้ฟลู...”
เปรี๊ยะ!
อะไรบางอย่างสว่างวาบ แสงสีขาวจ้าส่องแยงเข้ามาจากภายนอกราวกับกลัวว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่เลวร้ายอย่างถึงที่สุด
“อะไรน่ะ?” เฮอร์ไมโอนีถาม “เสียงเหมือนอะไรแตก”
ใช่—เธอพูดถูก เหมือนมีอะไรแตก
มือของมัลฟอยเกร็งแน่นอยู่ที่ต้นแขนของเขา แฮร์รี่เงยหน้ามองจึงเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังหน้าซีด
พึมพำเสียงเบาแต่ได้ยินกันถ้วนหน้าว่า
“พวกเขามากันแล้ว”
ที่เนินหญ้าใกล้กับเขตอาคมของฮอกวอส์ตมากที่สุด--เหล่าผู้เสพความตายทั้งหมดกำลังทำลายอาคมคุ้มกันอย่างช้าๆ
+++++++++++++++
อย่าตีเรานะ!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่นะ!!!//พยายามยั้งมือไม่ให้ตีไรท์
ค้างงงงง โอ้ย ตัดฉับแบบนี้ไม่ได้!!!
โวลดี้ เอ็งโดนทอมมี้เชือดแน่
ตายแล้ววว ไดลานานแข็งใจลุก ฮืออ อย่าตายนะน้องทอมมมมมรีบไปช่วยน้องเรยยยย
จะตีแน่ค่ะถ้าไดลานานตาย โฮฮฮฮอ//ไม่หรอก ไรท์ไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกเนอะ ;;-;;
พอตเตอร์นี่คือได้โปรดแผ่รังสีความยันให้มากกว่านี้! แผ่ความผัวออกมาอีก ให้ใจเราเหลวเป๋วเลย—//ค่อก!