ตอนที่ 24 : 23 เรื่องผิดสังเกต
23 เรื่องผิดสังเกต
หลังไวๆ ของมัลฟอยจ้ำเดินหายไปตรงสุดทางเดิน แฮร์รี่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะไปยังห้องใต้ดินตามคำสั่งของไดลานานไม่ผิดแน่ ใบหน้าของมัลฟอยยังคงซีดเผือด แต่ในขณะเดียวกันก็ว้าวุ่นจนหลุดมาดไปไม่น้อยอย่างคนที่คิดบางอย่างยุ่งเหยิงอยู่ในหัว
เขาอยากเดินตามอีกฝ่ายไป แต่ทางนี้เองก็ใช่ว่าจะนิ่งดูดายได้เหมือนกัน แฮร์รี่ฟันธงเลยว่าถ้าเขาทำอะไรขัดใจขึ้นมาแค่อย่างเดียว ทอมคงอาละวาดจนฮอกวอส์ตวอดวายแน่ๆ (นับวันทอม ริดเดิ้ลก็ดูอารมณ์ร้อนขึ้นทุกที แฮร์รี่สงสัยจริงๆ ว่าหมอนี่มันไปหัวร้อนมาจากไหน)
ห้องทำงานของไดลานานดูเรียบง่ายและมีแต่หนังสือมากมายพอๆ กับห้องสมุด แต่ไม่มีใครสนใจใยดีคุณค่าของมันเลยสักนิด ไดลานานนั่งลงที่โซฟาเล็กๆ เธอแทบจะนอนคู้ตัวลงไปเมื่อไม่มีสายตาของคนนอกอยู่ ทอมเป็นคนดึงมือข้างที่โดนคำสาปเอาไว้แล้วกำลังถอนมันออกมาอย่างใจจดใจจ่อ ใบหน้ามึนตึงผสมโกรธเกรี้ยวไม่ต่างจากพายุเลยสักนิด
แฮร์รี่ไม่รู้ว่ามันรู้สึกทรมานขนาดไหน เขาเคยเห็นตอนที่ดัมเบิ้ลดอร์ต้องทรมานเพราะดื่มน้ำจากอ่างที่เก็บล็อกเก็ตนั้นจนแทบจะเป็นบ้าแล้วก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าไดลานานต้องทนเจ็บปวดถึงขั้นไหน เธอไม่ร้องออกมาสักแอะ แต่ใบหน้าแทบจะถูกรีดสีเลือดออกไปจนหมด
“ถอนได้หรือเปล่า?” แฮร์รี่ลองถาม แต่ทอมเงียบ เอาแต่จ้องร่องรอยสีดำตาไม่กระพริบจนเขายอมแพ้
ต้องบอกว่าโชคดีที่ทางนี้มีคนที่เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านนี้อยู่ ครึ่งชั่วโมงต่อมาไดลานานจึงดูดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อคำสาปถูกถอนออกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังคงเหลืออาการอ่อนเพลียเอาไว้อยู่บ้าง
มือปราบมารหนุ่มเก็บไม้กายสิทธิ์ของตัวเองที่รูปร่างคล้ายของเขา เปรยขึ้นมาเสียงเรียบว่า “แจ็กสัน ฮัตสัน”
“แน่ใจว่าเป็นฮัตสัน” แฮร์รี่ว่า “ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่ามัลฟอยเป็นสายให้ภาคี แต่ตั้งแต่วันนั้นที่ห้องพยาบาล—“
“เด็กฮัพเฟิลพัฟคนนั้นโดนสะกด” ไดลานานว่าเสียงแหบแห้ง “ใครบางคนสะกดเด็กคนนั้นให้ไปหาพวกเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง”
“‘มัลฟอยคนทรยศ’” แฮร์รี่กดเสียงต่ำ “คิดว่าใครล่ะที่รู้—แจ็กสัน ฮัตสันนั่นแหละ”
ทอมหรี่ตา “แล้วทำไมเขาถึงมาที่นี่ล่ะ ถ้าเป็นอย่างที่พวกเธอว่ามาจริงๆ เขาควรจะไปฆ่าเธอในเวลาใดเวลาหนึ่งที่มันง่ายกว่านี้—ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไปฆ่าเธอตั้งแต่ยังไม่เกิดจะดีกว่า”
แฮร์รี่มองอีกฝ่ายอย่างเย็นชารอบหนึ่ง สิ่งที่ทอมว่ามานั้นก็ถูก เขาถูกฆ่าได้ง่ายๆ ตอนที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร โวลเดอร์มอล์อาจพลาดเพราะแม่เขาปกป้องเขาไว้ได้ แต่ถ้าย้อนไปตอนที่ก่อนคำทำนายจะออกมาล่ะ ถ้าเป็นตอนที่ทุกคนกำลังหวาดกลัวศาสตร์มืดจนต้องหลบซ่อนล่ะ? ถึงตอนนั้นต่อให้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องมีเสียท่าบ้างล่ะ
แล้วทำไมแจ็กสันถึงมาที่เวลานี้?
“หรือนาฬิกาเรือนนั้นจะมีปัญหา?” “ไดลานานหันมาหาเขา “มัลฟอยได้พูดอะไรหรือเปล่า?”
แฮร์รี่ขมวดคิ้ว “ผมไม่รู้”
“มัลฟอยอาจจะทำอะไรสักอย่างกับมัน เขาเก็บมันมากี่ปีแล้วล่ะ?—เราไม่มีทางรู้ว่ามัลฟอยจะเล่นตุกติกอะไรกับนาฬิกาหรือเปล่า”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมหมอนั่นถึงต้องซ่อนมันไว้ขนาดนั้นกันล่ะ?” แฮร์รี่ค้าน “นาฬิกานั่นใช่ว่าจะไปดัดแปลงได้ง่ายๆ”
“เขาเคยซ่อมตู้อันตธานสำเร็จมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็มีแต่คนบอกว่าไม่มีใครซ่อมมันได้”
แฮร์รี่เงียบ เถียงไม่ออก
หรือจะเป็นแบบนั้นจริงๆ?—แต่ทำไมมัลฟอยต้องคอยหลบหนีและซ่อนมันไว้เหมือนมันเป็นรหัสนิวเคลียร์ด้วย ทำไมถึงยอมเสี่ยงตายเพื่อซ่อนมันจนนาทีสุดท้ายด้วย?
ไดลานานมองมาที่เขา พูดเสียงเบาแต่กระแทกเข้าไปในใจคนฟังจนจุกว่า “ถ้าใครได้ไปก็เท่ากับว่าคนพวกนั้นสามารถทำร้ายเธอได้ไม่ใช่เหรอ แฮร์รี่?”
เด็กหนุ่มอึ้ง รู้สึกเหมือนโดนทุบเข้าที่หัวจนอยากทรุดลงไปกับพื้น
เพราะเขาอีกแล้วเหรอ?
เพราะเขา มัลฟอยถึงต้องหลบหนี
เพราะเขา มัลฟอยถึงต้องรับความผิดทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเอง คอยอยู่เบื้องหลังแล้วจัดการทุกอย่างโดยที่ไม่มีใครเคยรับรู้เหรอ
ทุกอย่างมีสาเหตุมาจากเขา—หรือเป็นเพราะมัลฟอยยึดเขาเป็นศูนย์กลางจนยอมให้ใครมาทำร้ายไม่ได้กันแน่?
“แต่—“ แฮร์รี่พบว่าเสียงตัวเองแหบแห้งจนน่าขัน “แต่ทำไมต้องเป็นช่วงนี้ด้วย...ทำไมต้องเป็นปีหกที่เรื่องทุกอย่างมันเลวร้ายไปหมด”
ไดลานานส่ายหัว บอกเป็นนัยว่าตัวเองก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ทอมที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ มานานนั้นกลับเปรยขึ้นมาคล้ายจะเย้ยหยันว่า
“คนบางคนจดจำความสุขได้ดีกว่าความทุกข์ แต่กับบางคนที่ต้องทรมานเหมือนตายทั้งเป็นมักจดจำความทุกข์ได้ฝังใจกว่าความสุขทั้งชีวิต”
กับเดรโก มัลฟอยที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมาทั้งชีวิต เกรงว่าสิ่งที่เขาจดจำได้คงไม่ใช่ความสุขที่แทบหาไม่เจอ
+++++++
เดรโกไม่ชอบใจเท่าไรที่ตัวเองเหมือนอยู่ในสายตาของใครบางคนตลอดเวลา เขาไม่รู้ว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นบ้าอะไรถึงได้เอาแต่จ้องหลังเขาแบบนั้นมาตั้งแต่ที่เดรโกเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ บางทีเขาคงรู้สึกดีกว่านี้ถ้าพอตเตอร์จ้องเหมือนจะจับผิดหรือคิดว่าเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่างไว้ในใจ
ไม่ใช่สายตาแปลกๆ ที่แค่ถ้าเขาสะดุดล้มนิดเดียวก็จะเข้ามาประคองแบบนั้น--มันทำให้เดรโกขนลุกและว้าวุ่น
มันไม่ควรเป็นแบบนี้
“ฉันดีใจที่ช่วงนี้นายยอมออกมาจากห้องบ้าๆ นั่นสักที” นั่นเป็นประโยคแสดงความเป็นห่วงจากเบลส “เอาจริงๆ นะ ฉันยอมให้นายถูกเจ้าพอตเตอร์ตามจนสติแตกจนไม่มีเวลาคิดเรื่องเครียดพวกนั้นจะดีกว่า”
เดรโกถลึงตาใส่ไปรอบหนึ่ง
ไม่มีใครในสลิธีรินไม่พูดเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกๆ ในช่วงนี้ของคนดังบ้านกริฟฟินดอร์ เดรโกแทบจะถูกซักจนขาวสะอาดที่หอพักแล้วเมื่อวันที่เกิดอุบัติเหตุวันซ้อมควิดดิช พวกนั้นสงสัย—แน่ล่ะว่าเขาเองก็สงสัยว่าใครกันที่ไปเสกคาถาแปลกๆ ใส่พอตเตอร์หรือเปล่า จนแล้วจนรอดก็ยังหาคำตอบไม่ได้สักทีถึงพฤติกรรมที่แปลกไปตั้งแต่เปิดเทอมของอีกฝ่าย
มันแปลกขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ควรเป็นแบบนี้
มันชัดเจนมากว่าพอตเตอร์รู้ว่าเขากำลังทำอะไร เดรโกเองก็ไม่ได้โง่ถึงขึ้นดูไม่ออกว่าหมอนั่นกำลังใช้ไม้อ่อนให้เขาล้มเลิกมันซะ พอตเตอร์กำลังบอกเขาว่าตัวเองรู้อะไร และรู้มากแค่ไหน—บางทีอาจจะรู้มากไปด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
เดรโกควรจะตื่นตระหนกว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรู้ ดัมเบิ้ลดอร์ไม่มีทางเป็นคนบอกใครต่อใครว่าพวกมัลฟอยเป็นสายลับ เดรโกควรบอกดัมเบิ้ลดอร์ซะ หาทางให้อีกฝ่ายลบความทรงจำพอตเตอร์จนขาวสะอาด จากนั้นหมอนั่นก็จะกลายเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์คนเดิมที่มุ่งหวังจะเอาชนะจ้าวแห่งศาสตร์มืดและรักเพื่อนจนยอมทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง
แต่เดรโกรู้ว่าเขาจะไม่ทำ—เขารู้อยู่แก่ใจว่าในความตระหนกของตัวเองแล้วเขากำลังหวังกับมันอยู่
ความหวังเล็กๆ ที่มีใครสักคนเห็น ความหวังเล็กๆ ที่เขาหวังว่ามันคือผลตอบแทนของตัวเองที่ควรได้รับหลังจากที่เขาเอาคอตัวเองไปวางไว้บนเขียงมาตลอดสิบหกปี
เพราะแบบนั้นนั่นแหละ เดรโกเลยยังไม่หันไปผรุสวาทใส่คนที่เอาแต่จ้องหลังตนเองอยู่จนถึงตอนนี้
เบลสพูดถูก ช่วงนี้เดรโกหายไปที่ห้องต้องประสงค์แทบจะนับเป็นจำนวนชั่วโมงไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็หยุดมันไม่ได้อย่างที่ใครอีกคนอยากให้เป็น
เสียงเฮฮาของบุคคลของบ้านตัวเองเดินผ่านไปด้านหลัง แวะทักทายพวกเขาอย่างสนิทสนมทีหนึ่งก่อนออกไป เดรโกถูกตบไหล่สองสามครั้งจนนิ่วหน้า ผิดสังเกตที่เขาไม่ได้เอ่ยว่าอะไรออกมาใส่คนที่ลงแรงมือมากเกินไป
จดหมายฉบับหนึ่งหล่นลงมาที่ตักอย่างเงียบงัน ไม่มีใครสังเกตเห็นตอนที่เดรโกเปิดอ่านด้วยใบหน้าที่ซีดลง
‘รีบทำให้เสร็จ ถ้าทำไม่สำเร็จคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น’
เดรโกพับกระดาษนั้นอย่างเดิม ในเวลาต่อมามันก็สลายเป็นผุยผงก่อนที่เขาจะต้องผุดลุกออกไปจากโต๊ะท่ามกลางความเป็นห่วงของแพนซี่ เบลสและธีโอดอร์ แครบกับกลอยย์เดินตามมาติดๆ ชั่ววูบหนึ่งที่เดรโกหันไปสบตาเข้ากับเด็กหนุ่มโต๊ะกริฟฟินดอร์พอดี เขารีบหลบตาแล้วรีบจ้ำอ้าวออกไป
พอตเตอร์กำลังอ้าปากพูด ท่าทางร้อนรนและเป็นห่วงจนแทบจะลุกตามเขาออกมา
เดรโกจะให้อีกฝ่ายรู้ไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
++++++++
หลังจากนั้นก็พึ่งจะผ่านกลางเดือนมาไม่กี่วัน แฮร์รี่ไปฮอกมีดส์กับพวกรอนและเฮอร์ไมโอนี แม้บรรยากาศจะตึงไปนิดระหว่างคนทั้งสองที่ยังไม่กลับมาคืนดีกัน แต่อย่างน้อยแฮร์รี่ก็ไม่เห็นเงาของมันดังกัสที่จะแอบเอาของในบ้านซิเรียสมาขายที่นี่
เป็นลางดีว่าวันนี้เขาจะเจอแต่เรื่องดีๆ อะไรหลายๆ อย่างไม่ได้เดินตามอดีตที่เคยเกิดขึ้น
น่าเสียดายที่เขาคิดผิด
กรี๊ดดด!
ยังคงเป็นแคตี้ที่โดนคำสาปจากสร้อยที่หล่อนถือไว้ ซิเรียสพยายามอย่างมากที่จะระงับคำสาปอะไรก็ตามที่กำลังเล่นงานหล่อนอยู่ แต่เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคำสาปหรือศาสตร์มืดจึงทำได้แค่ประคองอาการเท่านั้น
ในหัวแฮร์รี่อื้ออึงไปหมด แฮกริดต้านทานคำสาปได้มากกว่าคนอื่นในนี้ เขาเป็นคนอุ้มเด็กสาวขึ้นก่อนจะถูกซิเรียสพาหายตัวไปยังฮอกวอส์ต รอนกับเฮอร์ไมโอนีกำลังรีบร้อนพาลีแอนด์เดินทางกลับปราสาท ปลายทางคงไม่พ้นไปหามาดามพอมฟีย์และรายงานเรื่องนี้ให้ศาสตราจารย์มักกอนนากัลรู้ หลังจากนั้นสเนปก็จะเข้ามามีเอี่ยวด้วยเพราะวัตถุต้องสาปนี่
แต่ครั้งนี้แฮร์รี่ไม่ได้ตามไปด้วย เขาเงียบและนิ่งจนน่ากลัว แต่เพราะคนอื่นกำลังเป็นห่วงกับอาการของแคตี้ที่ต้องนำส่งเซนต์มังโกโดยด่วนจึงไม่มีใครสังเกตเห็น
ทำไมกัน ทั้งๆ ที่ช่วงนี้ก็เห็นชัดเจนแล้วว่ามัลฟอยกำลังถอยห่างออกมาได้แล้วแท้ๆ หมอนั่นออกมานั่งทานอาหารที่ห้องโถงทุกเช้า ไปนั่งดูการซ้อมคัดเลือกซีกเกอร์เกือบค่อนวันและหมกตัวอยู่กับกองการบ้านที่พกติดตัวจนแทบจะเหมือนกับเฮอร์ไมโอนีอยู่แล้วตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุที่สนามซ้อมวันนั้น
แต่ทำไมมัลฟอยยังทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้อยู่?
แผนที่ตัวกวนถูกกางออก อีกไม่นานหากศาสตร์จารย์ทั้งสองหมดความอดทนกับคำถามของเฮอร์ไมโอนีเมื่อไรพวกเขาจะถูกไล่ออกมาทันที แฮร์รี่อาศัยจังหวะนั้นปลีกตัวออกมาก่อน สายตากวาดมองคนที่ตัวเองกำลังหาตัวอยู่ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ทะเลสาบที่ตอนนี้ไม่มีใครเดินไปแถวนั้น
แฮร์รี่อยากจะหายตัวไปเดี๋ยวนั้น ใบหน้าของเขาถมึงทึงจนคนรอบข้างไม่กล้าสบตา ใช้เวลาไม่นานก็เห็นหลังเหยียดตรงที่ถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศหม่นหมองของมัลฟอยที่ยืนอยู่ริมทะเลสาบไกลลิบ ใบหน้าด้านข้างนั้นนิ่งเรียบ ไม่แสดงอะไรออกมาเลยแม้แต่เศษเสี้ยวความรู้สึกผิด
แฮร์รี่ตรงเข้าไป เป็นครั้งแรกที่มัลฟอยเหม่อจนไม่รู้ตัวว่าเขาจับข้อมือของตัวเองให้หันมาเผชิญหน้ากัน
“นายทำแบบนี้ทำไม?”
“ฉันทำอะไร?”
“แคตี้—สร้อยเส้นนั้น นายทำ” แฮร์รี่กดเสียงต่ำ มัลฟอยหรี่ตาลงก่อนจะคลายปมคิ้วออกในเวลาต่อมา
“ใช่ ฉันทำ”
มือเขาถูกปัดออก แฮร์รี่ใบหน้าดำไปครึ่งแถบ บอกไม่ถูกว่าตอนนี้โกรธจนอยู่ในระดับไหน มันเลยกว่าการที่เขาจะอยากทำลายข้าวของไปไกลมากโข
มัลฟอยไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ เหรอ?—มัลฟอยทำไปโดยไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ เหรอ?
“ฉันบอกให้นายเลิก” เขาว่า เสียงพยายามอดกลั้นสุดฤทธิ์ “ให้นายถอยออกมาแต่นายก็ยังรนเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวเอง!—ฉันขอให้นายทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน!?”
มัลฟอยเบิกตากว้าง ใบหน้าบิดเบี้ยวทันที “ก็แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉันพอตเตอร์!”
อีกฝ่ายกระชากคอเสื้อเขา “ฉันไม่รู้ว่าแกไปรู้อะไรมามากน้อยแค่ไหน แต่คิดจริงๆ เหรอว่าแค่คำพูดไม่กี่คำมันเปลี่ยนอะไรได้? ฉันลงทุนไปเท่าไรแล้วกว่าจะเดินมาจุดนี้ได้ พวกฉันพยายามไปเท่าไรแล้วกว่าเดินมาถึงขั้นนี้ได้ แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันทำอะไรให้แกบ้าง!”
“ก็แล้วจะให้ฉันทำยังไง!?” แฮร์รี่ตะคอกกลับอย่างหมดความอดทน ผ้าพันคอที่ถูกมัลฟอยกระชากรัดแน่นจนอึดอัด แต่นั่นไม่เท่ากับความอัดอั้นในใจเขาที่ทะลักออกมาตอนนี้เลยสักนิด
“จะให้ฉันทำยังไง! ฉันตามนายตลอด ฉันพยายามกันนายออกมาตลอดแล้วนายจะให้ฉันทนมองนายอยู่เฉยๆ แบบนี้ต่อไปงั้นเหรอมัลฟอย!” ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไม่ต่างจากมัลฟอยเลยสักนิด
ภาพของมัลฟอยที่ร่างกายซีดเซียวไปแล้วเป็นเหมือนมีดที่คอยทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา ภาพของมัลฟอยที่หลับไปแล้วไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกตามหลอกหลอนเขาทุกครั้งที่นอนหลับ แล้วตอนนี้มัลฟอยก็กำลังบอกให้เขาถอยฉากออกไป ยืนมองตัวเองทำเรื่องร้ายๆ แบบนี้เหมือนเดิมงั้นเหรอ?
จะให้เขายืนมองทั้งๆ ที่รู้ว่ามันจะนำผลลัพธ์อะไรมาให้น่ะเหรอ?
“ฉันไม่อยากให้ใครมาเปื้อนโคลนเพื่อให้ฉันเดิน ฉันไม่ต้องการให้ใครมาเสียสละเพื่อให้ฉันรอด!—ฉันไม่ได้ขอให้นายเป็นแบบนี้มัลฟอย...ฉันไม่ได้ขอให้นายทำเพื่อฉันแบบนี้ นายเข้าใจฉันบ้างไหม?”
กระแสเวลาช่างโหดร้าย แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่เขาปรารถนาเรื่องเดียวยังไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น
แม้แต่จินนี่ที่เขาปกป้องเธอออกจากตัวเองยังทำได้ แม้แต่ช่วยซิเรียสที่ตายไปแล้วเขายังทำได้ หรือแม้แต่ทอมที่พามายังกาลเวลาอื่นแฮร์รี่ยังทำได้--ทำไมต้องเป็นมัลฟอยที่ยังต้องเดินเข้าผลลัพธ์เดิมๆ ด้วย?
เขาต้องทำยังไงมัลฟอยถึงจะยอมเชื่อเขาสักที
“ฉันไม่อยากให้นายเป็นแบบนี้”
ดวงตาสีเทาหม่นเบิกกว้าง วูบหนึ่งที่ฉายแววหวั่นไหวขึ้นมา ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกความรวดร้าวเข้ากลืนกิน มือซีดขาวปล่อยผละออกแล้วละลงข้างลำตัว มัลฟอยหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่เสียดแทงเข้าไปในความรู้สึก
มัลฟอยไม่เคยให้ความรู้สึกสดใสของชีวิต ครั้งนี้แฮร์รี่รู้สึกเหมือนเขาถูกอีกฝ่ายสูบพลังออกไปจนหมดเรี่ยวแรง เขายอมให้อีกฝ่ายกราดด่าเขามากกว่าทำท่าเย็นชาแบบนี้ใส่ แต่สิ่งที่มัลฟอยทำคือการหันหลังให้
“งั้นนายก็คงต้องฝันเอาแล้วพอตเตอร์”
แฮร์รี่ยืนนิ่งอยู่กับที่
“ฉันไม่เคยเป็นในสิ่งที่นายต้องการ—และไม่อยากเป็นด้วย” แล้วมัลฟอยก็เดินจากไป
บางอย่างกระแทกเข้าอย่างจังจนจุก ไม่ใช่เพราะน้ำเสียงเย็นชาที่มัลฟอยใช้พูด แต่เป็นความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อต่างหาก มันทำให้แฮร์รี่ฉุดคิดขึ้นมาได้
เดรโก มัลฟอยเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ถูกตีกรอบและไร้ทางเลือกหลายเรื่อง สิ่งที่แฮร์รี่ทำไปเมื่อครู่มันจะต่างอะไรจากการตีกรอบอีกชั้นให้มัลฟอยกันล่ะ
นี่ไม่ต่างจากสถานการณ์แตกหักเหมือนในอดีตเลยสักนิด ต่อให้เขาไม่จับผิดมัลฟอย แต่ตอนนี้แฮร์รี่ก็กดดันจนอีกฝ่ายหนีไปแล้ว ไม่ต้องรอให้เขาไปปะทะกันที่ห้องน้ำเหมือนวันนั้นตอนนี้ทุกอย่างก็ยากที่จะกู้กลับคืนมา
แฮร์รี่ชะงัก—ปะทะกันน้ำที่ห้องน้ำ?
เขาเคยทำร้ายมัลฟอยด้วยคาถาด้วยเหรอ?
กล้ามเนื้อขากำลังประท้วงว่ามันกำลังเมื่อยล้าจากการออกวิ่งอย่างไม่ดูสังขารตัวเอง แต่ตอนนี้แฮร์รี่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากพุ่งไปหาคนๆ เดียวที่สามารถอ่านใจคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง คนๆ เดียวในที่นี้ที่เล่นกับจิตใจมนุษย์จนถึงขั้นเชี่ยวชาญ เขาไม่สนด้วยว่าตัวเองจะตั้งแง่กับอีกฝ่ายไว้มากขนาดไหน ในหัวของแฮร์รี่ตอนนี้หมุนคว้างไปหมดพอๆ กับที่เหมือนมีมือมาฉุดรั้งให้ตกเหว
ปัง!
สองคนในห้องนั้นหันมามองด้วยความไม่ชอบใจ พวกเขากำลังปรึกษาอะไรบางอย่างที่ตอนนี้แฮร์รี่ไม่ใส่ใจจะถามออกไป เด็กหนุ่มตรงเข้าไปหาทอมที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไดลานาน ด้วยวิญญาณที่ฝังอยู่เสี้ยวหนึ่งกำลังบอกเขาได้เป็นอย่างดีว่าชายหนุ่มก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีเช่นกัน
“อ่านใจฉัน” เขาโพล่งขึ้น
ทอมเลิกคิ้ว
ไดลานานถามเสียงสูง “อะไรนะ?”
“อ่านใจฉัน” แฮร์รี่รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองหน้าซีดขนาดไหน อาการของเขามันชัดเจนจนสามารถดึงความสนใจจากทอม ริดเดิ้ลได้จนอยู่หมัด
รู้โดยไม่ต้องพูดว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ
“ฉันลืม—“ แฮร์รี่พูดเสียงสั่น “ฉันลืม—เรื่อง—หลายๆ เรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้”
มีบางอย่างกำลังเล่นตลกร้ายกับความทรงจำที่แฮร์รี่หวงแหน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าเราเดาถูก ไรต์คือใส่รายละเอียดมาละเอียดค๊ตตตตเลย สุดยอด
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นแง่งงงงงงง
โอ๊ยยยย ยิ่งอ่านยิ่งเครียด แต่ก็อยากอ่านต่อ แงๆๆๆ ทำไงดี. ไรท์อย่าทรมานรีดตัวน้อยๆเลย อยากเห็นมุมหวานๆของพวกเขามาเยียวยาหัวใจที่ตึงเครียดนี้เหลือเกิน
หนักหนาสาหัสจริงๆ เรื่องนี้
ปล. ทางนั้นเองก็ระวังเรื่องสุขภาพด้วยนะคะ ฝนตกเเทบทุกวันเลย
โอยยยย มันค่ะ หลายเรื่องเหลือเกิ๊นนนนที่ต้องเผชิญ
ที่แฮรรี่ใช้คาถาของเจ้าชายเลือดผสมแล้วเดรกเลือดอาบง่ะ แอบหวังว่าจะไม่มี5555 ไม่อยากให้แฮรรี่ทำร้ายเดรก ยังไงก้ขอให้ช่วยเดรกให้ได้นะแฮรรี่ คนนู้นคนนี้นายยังช่วยได้ ถ้าช่วยเดรกไม่ได้นี่บอกเลยว่าโกรธ !!!
ปล. เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ สู้ๆค่ะ
โอ๊ยยยยยย ชีวิตพวกเอ็งนี่มันวุ่นวายจริงโว้ยยยยย//ล้มโต๊ะ
เหนื่อยแทน Y_Y