ตอนที่ 30 : 08 บทพิเศษ : ก่อนเริ่มเวลาสะสาง
08 บทพิเศษ : ก่อนเริ่มเวลาสะสาง
ข่าวลือที่เคยโด่งดัง
ไม่เคยมอดดับหรือเลือนหาย
โรนินนามซากาโต้กำลังหวาดกลัว—น่าแปลกที่ทั้งๆ ที่ตนนั้นกำลังเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าชาวบ้านจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการข่มขวัญ
ความกลัวไม่ควรจะเกิดขึ้นกับคนที่กำลังเรืองอำนาจ
โดยเฉพาะกลุ่มที่ขึ้นตรงต่อท่านชิชิโอะ
“มันไปไหนแล้ว!” เพื่อนร่วมอุดมการณ์ถามพร้อมหันรีหันขวาง อาการหวาดกลัวไม่ต่างกัน “มันหายไปไหน นังปีศาจนั่น!”
ใช่—อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เขาเผชิญหน้าไม่ใช่ชาวบ้าน
แต่เป็นปีศาจมากกว่า
ซากาโต้รับรู้ได้ถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลลงข้างขมับ ค่ำคืนในโตเกียวไม่เคยเย็นเข้ากระดูกแบบนี้มาก่อน หรือแม้แต่ตอนอารักขาเจ้านายคนก่อนซากาโต้ก็ไม่เคยได้รับรู้ความหวาดกลัวเท่านี้
ข่าวลือเมื่อนานมาแล้วเคยกล่าวเอาไว้—เล่าลือถึงยูกิอนนะในยุคสมัยใหม่ที่ตามหาบางอย่าง
หญิงสาวปีศาจที่ออกล่ายามค่ำคืนคอยสาปซามูไรผู้ออกมาเดินยามวิกาลให้กลายเป็นบ้ามานักต่อนัก
ข่าวลือเมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่ที่ยังไม่ก่อตั้งรัฐบาลใหม่
กริ๊ง
“วะ—เหวอ!”
โยทากะร้องเสียงหลง ตวัดดาบมั่วซั่วและเริ่มวิ่ง
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ร้องอย่างเสียขวัญ มองเพื่อนของตนที่ทิ้งให้อยู่คนเดียวด้วยความสิ้นหวัง ซากาโต้กลัวเกินกว่าจะเรียกสติของตัวเองได้อีกต่อไป
เริ่มร้องโวยวาย และฟันดาบอันคมกริบไปทั่ว
แต่ตรงหน้าก็มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
“ออกมาสิ แก! ออกมาเดี๋ยวนี้ นังปีศาจ!” หวังที่จะเรียกกำลังใจของตัวเองกลับมา แต่ก็ไม่สำเร็จ
หากจะปลอบใจตัวเองว่าปีศาจตนนั้นหนีไปแล้วก็คงจะทำได้
แต่ในมโนสำนึกก็ร้องเตือนตลอดเวลาว่ามันไม่ใช่
มันยังอยู่
ภูตสีเงินตนนั้นยังอยู่ที่นี่
กริ๊ง
ไอเย็นยะเยือกเข้าแทรก แช่แข็งให้แม้แต่กำลังจับดาบก็หายไปจากร่างกาย
“มนุษย์”
หน้ากากจิ้งจอกปรากฏขึ้นตรงหน้า กราะชากสติของชายหนุ่มจนสิ้น
“อ้ากกก!”
กริ๊ง
+++++
“ข่าวลือแปลกๆ โผล่มาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่เรื่องของชิชิโอะยังไม่ได้สะสางแท้ๆ นะขอรับ”
คำบ่นของตำรวจนายหนึ่งลอยมาให้ไซโต้ต้องชะงักมือที่กำลังวุ่นอยู่กับเอกสารมากมายระหว่างประเทศได้ชะงัก ทานากะเป็นตำรวจในโตเกียว และพึ่งได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาเขาทันทีที่ชายหนุ่มมาถึงที่นี่
“ข่าวลือ?”
นายตำรวจหน้าอ่อนพยักหน้ารับ “ปีศาจสาวออกอาละวาดน่ะขอรับ ตอนเช้าเราจับสมุนของชิชิโอะได้สองคน เจ้านั่นเอาแต่พูดไม่หยุดว่าถูกปีศาจเล่นงาน แถมเป็นหญิงสาวสวมหน้ากากจิ้งจอกเสียด้วย”
ช่างคุ้นหูจนต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบ—ไซโต้หันไปสนใจงานของตนเองต่อโดยไม่พูดถึงมันอีก
แต่ดูเหมือนคนเริ่มบทสนทนาจะไม่คิดแบบนั้น อีกฝ่ายพยายามคะยั้นคะยอพูดต่อว่า
“ท่านไม่คิดว่ามันอันตรายหรือขอรับ มีใครบางคนแอบอ้างมาหลอกทุกคนเชียวนะขอรับ ตอนนี้ไม่ใช่แค่พวกโรนินพวกนั้นที่โดน แม้แต่ชาวบ้านก็ระส่ำระส่ายกันไปหมด”
“แต่ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนตกเป็นเหยื่อนี่?” ชายหนุ่มว่าเสียงโทนเดิม “เมื่อนานมาแล้วเกียวโตก็เกิดข่าวลือแบบนี้ขึ้นเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครตาย เจ้าไม่ต้องไปคิดมากหรอก”
ทานากะเบิกตากว้าง นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่เขาได้ยินชายผู้เก่งกาจคนนี้พูดถึงอดีตตนเอง “หมายถึงตอนที่ท่านยังอยู่ในกลุ่มชินเซ็นกุมิน่ะหรือขอรับ? ท่านได้พบกับตัวการหรือเปล่า?”
ไซโต้ไม่ตอบคำถามนั้น
“แต่ว่านางกลับมาทำไมกันล่ะขอรับ?”
มือหยิบเจอเข้ากับเอกสารที่ต้องการได้แล้ว
“เป็นสัญญาณ” เขาตอบ เดินนำออกไปจากห้องทำงานพร้อมด้วยเอกสารในมือ ในหัวกำลังวางแผนการเพื่อช่วยอดีตมือสังหารหนุ่มที่กำลังจะถูกประหารในไม่ช้านี้
หวังว่าจะเตรียมการทันนะ—ชายหนุ่มคิด
“สัญญาณ?”
ประตูถูกเปิดออก มาพร้อมกับร่างของคนคุ้นเคยที่ไปหาเครื่องแบบราชการมาสวมใส่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจทราบ
ไซโต้ขมวดคิ้ว มองใบหน้ายิ้มแย้มของสหายทั้งคู่แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง
“ท่านฟูจิตะ นายกอนุมัติแผนการของท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ” รอยยิ้มบนใบหน้าช่างขัดกับประโยคล้อเลียนเหลือเกิน
จะมีก็เพียงทานากะเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไม่ใช่ตำรวจจริงๆ
ไซโต้เหลือบมองนายตำรวจหน้าใหม่ ก่อนจะตอบตัดบทออกไปว่า “สัญญาณบอกใครบางคนว่านางก็อยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน”
เพียงแต่เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญเท่า ครั้งนี้ไม่ใช่งานรวมญาติหรือต้อนรับการกลับมาของสหายเก่า
ศัตรูอยู่ตรงหน้าแล้ว ไซโต้ไม่ชอบทำอะไรยืดเยื้อ
“เอาล่ะ ไปทำงานของเรากันได้แล้ว”
ได้เวลาไปกู้สิทธิ์การปกครองประเทศจากกบฏแล้ว
+++++
“นั่นสินะที่เป็นปัญหา” ชิรานุอิ เคียวยกมือป้องหน้าผากทำท่ามองเรือสีดำที่อยู่กลางทะเลด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ดูเหมือนครั้งนี้เจ้าบ้านคาซามะจะได้ประโยชน์ซ้อนกันซะแล้วสิ”
“เพราะการก่อความไม่สงบของพวกมนุษย์พลอยทำให้เราเดือดร้อนไปด้วย ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างกับคนที่อยู่บนเรือลำนั้น ฝ่ายที่มาตกลงกับเราก็คงเข้ามาที่นี่ไม่ได้” ผู้คุ้มกันร่างยักษ์ว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “คาซามะ จะเริ่มจากตรงไหนดีขอรับ”
ดวงตาคมกริบสีแดงจดจ้องไปยังเงาสีดำกลางทะเล ก่อนจะย้ายไปยังเนินเล็กๆ ที่ตนเดินผ่าน เสียงโหวกเหวกมากมายของชาวบ้านช่างน่ารำคาญ ทิวทัศน์ของคนที่กำลังจะโดนประหารก็ช่างทำลายความสวยงามจนเขาไม่อยากแลตามอง
ชาวบ้านธรรมดาที่โหวกเหวกโวยวาย บ้างเข้าข้างคนที่คุกเข่าอยู่กับพื้น บ้างตะโกนด่าทอว่าทำให้พวกตนเดือดร้อน
พวกตำรวจที่กำลังถือคาตานะหรือแม้แต่ชายผู้กำลังยิ้มกว้างมองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความสะใจ
“ได้ข่าวว่านั่นเป็นแพะเพื่อยอมให้หัวหน้ากบฏไม่ทำลายที่นี่” ชิรานุอิกล่าว ดวงตาเป็นประกายสนุกเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามีใครปะปนเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย “น่าสนุกที่เจ้าพวกนั้นคิดทำอะไรแพลงๆ ผิดกับเมื่อก่อนลิบลับ”
เจ้าบ้านหนุ่มส่งเสียงหัวเราะ “เสียงดังน่ารำคาญ” ก่อนจะเดินออกมาตรงนั้นแล้วรั้งรอดูการแสดงละครบทใหญ่
จากตรงนี้การจะไปที่กลางทะเลก็คงใช้เวลาสักชั่วโมง “จัดการซะ”
เขาไม่จำเป็นต้องลงมือ ด้วยฝีมือของคนที่ติดตามมาด้วยนั้นเหนือกว่าหลายเท่า
และเจ้าพวกน่ารำคาญที่คงขึ้นไปป่วนที่เรือลำนั้นก็คงควบคุมได้อยู่หมัดอยู่แล้ว
สายตาเหลือบมองออกไปไกล หน้าผาชันที่ยื่นเข้าไปในเวิ้งทะเลสูงชันไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา
กลิ่นไอที่ตามหาอยู่ที่นั่น—รั้งรออยู่นานเพื่อที่จะสะสางทุกอย่าง
นั่นต่างหากคือที่ๆ เขาควรจะไป
เพราะนางก็คงไปที่นั่นเช่นกัน
“ส่วนเจ้าพวกโยเซนอกคอกข้าจะจัดการเอง”
ใช่ ได้เวลาสะสางสิ่งที่มันทำกับนางได้แล้ว
++++
Talk :
นางเอกเป็นนินจา โผล่มานิดเดียวเเล้วก็จากไป
ใกล้ได้เวลาที่เขาจะได้เจอกันเเล้วค่ะ!
ปล.ปีใหม่นี้เราอยากเขียนให้จบจัง นี่มันก็นานเกินไปเเล้ว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

42 ความคิดเห็น
-
#35 faza205317 (จากตอนที่ 30)วันที่ 31 ธันวาคม 2561 / 15:54คาโนะ เสียใจอ่าากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้สินะ#351
-
#35-1 Tiaros(จากตอนที่ 30)1 มกราคม 2562 / 19:02คงจะไม่ได้ค่ะ#35-1
-