ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคบารามอส] "ก็เรื่องมันยุ่ง"

    ลำดับตอนที่ #2 : ((( ไอ้เด็กชั่งลอง )))

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 49




    โคร้ม  ตึกๆๆ  ตุ้บๆๆ  ตู้ม!!

    ตู้ม!!


     

    " โอ๊ย!! นี่มันป้อมอัศวินนะโว้ย  ไม่ใช่สนามรบ"   เสียงโวยจาก



    นักฆ่าที่ตอนนี้กำลังเริ่มหมดอารมณ์กับไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองตัว ที่มัน



    งอนกันมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น  แล้วเกิดอาละวาดบ้านแตก ต่อยกันซะ



    งั้น ทั้งๆที่เค้าไมรู้เรื่องอะไรเล้ยต้องมารับกรรมเอาดื้อๆ



             " คิลจับเฟรินให้ที่ เร็ว!!"  ไอ้เพื่อนมาดมากมันกำลังสั่งเค้า



    ฉอดๆๆทั้งๆ ที่มันก็รู้ว่าเค้าเนี่ยช่วยมันจับไอ้ตัวดีมากี่หนแล้ว ตังก็ไม่



    ได้ เงินก็ไม่มีให้ซักกะแดงเดียว แต่ที่ได้คือ แผลตามตัวเพิ่มขึ้นมา จน



    เค้าหมดแรงข้าวต้มก่อนไอ้คนวิ่งวนๆไปรอบๆห้องซะอีก



              " ไอ้คิลถ้ามึงมายุ่งอีกทีนะ มึงตายแน่!! ไม่ได้ไปพบเรนอน



    ก่อนตายแน่มึง
    "  น่านดูมันขู่  แล้วมันคิดรึว่าร่างบางๆอย่างมันจะมา



    ขัดขวางความรักระหว่างเค้ากับเรนอนได้..................ได้แน่ๆ  เพื่อ



    สันติภาพและความรัก ไอ้เรามันเป็น ก.ข.ค. ก็ควรที่จะจรลีนี่นี้หลีก



    ทางไป




               " งั้นพวกมึง จัดการกันเอาเองนะโว้ย กูจะ...เฮ้ย!! เฮ้ย!! ให้กู



    ออกไปแล้วพวกมึงค่อยขว้างอะไรใส่กันไม่ได้ไงวะ เฮ้ย
    !! ...เฮ้ย!!



     โอ๊ยย พวกมึงไม่ฟังกูเลยใช่มั้ยเนี่ย  กูทนไม่ได้แล้วโฟร้ย
    "  สิ้นความ



    อดทนที่มีอยู่น้อยนิดของผู้เป็นนักฆ่าในสายเลือดบวกกับความดวง



    ซวยของเค้า ก็รีบเปิดประตูกระแทกเท้าเดินออกไป  แต่ด้วยสมองอัน



    ชาญฉลาดและไอเดียบันเจิดเลิศลั่น ที่เขาคิดว่าตัวเองน่าจะคิดได้ตั้ง



    นานแล้วทำไมถึงพึ่งมาคิดได้เอาตอนนี้ นั่นคือ ทำโทษพวกมันซะ
     


    ฮ้าๆๆๆกักบริเวณซักสิบยี่สิบวัน  เผื่อพวกมันจะได้ทำความเข้าใจกัน



    รู้จักระงับอารมณ์กันมากขึ้น




                "// เอ  แล้วจะล็อคประตูไม่ให้พวกมันออกมายังไงหว่า...ถ้า



    ใช้แม่กุญแจมันก็ประเจิดประเจ้อ  เดี๊ยวยังไงก็ต้องมีคนเห็นอยู่ดี
     


    เผลอๆอาจเป็นพี่ลูคัสกับพี่ลอเรนซ์มาเห็นแล้วจะยุ่ง   หรือว่า....//
    "



               " ไม่เอาอ่ะ  ไม่เอาเด็ดขาด  ไม่เข้าไปแล้วโว้ย" นักฆ่าใช้ความคิดอย่างหนักแต่พอ



    มาเห็นช่องทางก็ดั๊นเป็นช่องอันตรายซะอีกเพราะเค้าจำได้ว่า  ไอ้เฟรินตอนที่มัน



    กลับมาจากเดมอส มันได้ของฝากจากโกมุส  มา  รู้สึกว่าจะเป็นถุงผ้าสี



    น้ำตาล  ดูออกจะเก่าๆและขาดมีรูพรุน  ด้ายที่เย็บตามริมขอบผ้าก็ดูจะ



    หลุดรุ่ยไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ที่ดูจะใหม่กว่าทุกส่วนของถุงก็คงเป็น



    ตรายางที่ประทับตราเดมอสเพื่อบ่งบอกว่าเป็นทรัพย์สินของใคร  จะ



    เป็นของใครได้อีกถ้าไม่ใช่ของเจ้าเอวิเดส รายนั้นขี้เหนียวจะตายหวง



    ของหยั่งกะจงอางหวงไข่แต่ที่จริงก็ไม่หน้าที่จะประทับตราไว้ให้เปลือง



    ตรายางเสียเปล่าๆ เพราะยังไงก็รู้อยู่ดีว่าเป็นของเมืองไหน ถุงผ้าลึก



    ลับอย่างนั้นจะมีที่ไหนได้ยกเว้นที่เดียว  ที่เดมอส แต่ดูยังไงๆ มันก็คง



    ผ่านการใช้มาเป็นเวลานานหลายร้อยปีแต่ ไอ้โกมุสมันก็พยายามอธิบายสรรพคุณ



    ของเจ้าถุงนี่เพื่อลบความเก่าบรมของมัน




                 "  เนี่ยๆ คุณคิลรู้รึเปล่า  ข้างในถุงเนี่ยมีสิ่งที่เรียกว่า multi-purpose ด้วยล่ะ



    แล้วไอ้เจ้าสิ่งเนี้ยเนี่ยนะจะขออะไรก็ได้ ขอฝนเรียกฝนได้ ขอน้ำเรียก



    น้ำได้ ขอคู่ครองยังได้เลยนะคุณคิล  แต่ที่ตื่นเต้นไปกว่านั้นคือผู้ที่ใช้



    จะต้องคำสาป จะกลับกลายจากเพศผู้เป็นเพศเมียจากเพศเมียเป็นเพศ
    ผู้
    "  



    แค่คิดก็ขนลุกแล้ว  แล้วยังต้องฝ่าดงสมรภูมิความรัก ที่มันสองตัว 



    ไม่เคยแสดงเหมือนมนุษย์มะนาเค้า




             "//  เฮ้ยแต่มันก็เจ๋งดีนะโว้ย  แถมยังไม่เคยเป็นตัวเมีย เฮ้ย!!



    เป็นผู้หญิงด้วย แหะๆๆน่าลองๆ  //
    "  ไอ้ลูกช่างลองเอ๋ย  สิ้นความคิด 



    นักฆ่าผู้ช่ำชองความเร็วสูงก็โชว์วิชาตีนเบา เปิดประตูห้อง  แล้วรีบ



    ย่องเข้าไปหยิบถุงผ้านั้นอย่างว่องไว พร้อมทั้งหลบหลีกของหนัก ที่



    คอยพุ่งตรงมาทางเค้าไม่มีพลาดให้เสียชื่อนักฆ่าแห่งซาเรส เมื่อ



    ภารกิจเสร็จสิ้น ภาระต่อไปคือการย่องออกมาจากห้องนั้นแล้วปิด



    ประตูให้เนียนที่สุด เนียนที่สุด และเนียนที่สุด และความเนียนนั้นที่



    เคยสั่งสมมาจากการเนียนเพื่อขัดจังหว่ะเข้าด้ายเข้าเข็มของคาโลกับ



    เฟรินเป็นชีวิตจิตใจก็มาใช้ได้อีกครั้ง ประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี 



    พลางชมตัวเองที่ทั้งเก่งทั้งหล่อ (แต่ยังเป็นพระลอง) แถมยังฉลาดหาที่



    เปรียบไม่ได้ ทำให้หลุดก๊ากออกมาซะจนลืมตัว



                " คุณคิลคะ  เป็นอะไรรึเปล่า"  เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลทัก


    อย่างทำสีหน้าเป็นห่วงคนตรงหน้าเป็นที่สุด และก็ทำให้คนตรงหน้า



    ต้องสะดุ้งโหยงกับการปรากฏตัวของเจ้าหล่อน  หยุดหัวเราะ ทำตัวชิด



    ติดผนังห้องแล้วเอาถุงผ้าที่จิ๊กมานั้น ซ่อนไว้ข้างหลังแล้วค่อยยัดเข้า



    ไปในเสื้อที่เลิกออกมาจากกางเกงอย่างรุกรน




            "เอ่อ...ไม่มีอะไร" เสียงของนักฆ่าที่ดูจะไม่น่าเชื่อถือ


            "แต่ว่า...คุณคิล..."


            "แล้วเรนอน มาทำอะไรที่นี่ล่ะ ผมว่าห้องคุณไม่ได้อยู่แถวนี้ไม่


    ใช่หรอครับ
    " คิลรีบตัดบทชิงพูดเสียก่อน



             "เอ่อ...คือฉัน...คือฉันจะมาหา...เอ่อ..มาหา....มาหาคทาน่ะค่ะ"


    เจ้าของนัยตาสีม่วงจับจ้องนัยตาของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูพรางนึกขำในใจ 


             "// โกหกไม่เก่งจริงๆ //"  แล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้เพราะเห็นหน้า


    คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขึ้นสีระเรื่อแดงที่บ่งบอกได้ชัดว่าตอนนี้เธอเขิน
    เป็นที่สุด



             "แต่ผมว่าคุณไม่ได้มาหาคทาของคุณแน่ๆ ไม่งั้นคุณคงไม่ผ่าน



    บทเรียนที่ว่าด้วยการเรียกของคู่ใจ แต่ถ้าคุณมาหาผม เหมือนอย่างที่



    คุณทำอยู่ตอนนี้  มีความเป็นไปได้สูงกว่าไม่ใช่รึไงเรนอน
    " คำพูดของ



    ชายตรงหน้าที่ค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาใกล้ๆเธอนั้น ทำเอาหัวใจของเจ้า



    หญิงคาโนวาลเต้นระสั่มระส่ายไม่เป็นจังหวะผิดวิสัยของผู้ที่เป็นนักรบ



    แห่งป้อมอัศวินและเลือดคาโนวาลในตัวเธอยิ่งนัก แม้รู้ว่านักรบต้อง



    จิตใจมั่นคงแต่พออยู่ต่อหน้าชายผู้นี้อะไรๆก็ไม่สามารถจะควบคุมจิต



    ใจของเธอได้อย่างที่คิด ทั้งยังทำเธอหน้าแดงไปถึงหู ถึงคอหมด



    ผู้ชายอะไรทำเธอได้ถึงขนาดนี้  พลันนึกไปนึกมาชายตรงหน้าก็เข้า



    มาใกล้จนริมฝีปากของเธอจะประกบกับชายผู้นั้นโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว



    ทำให้ต้องรีบผละหนีด้วยความเขินและกลัวว่าคนตรงหน้าจะเห็นเธอ



    ในสภาพที่ดูไม่ได้เอาเสียเลย  แต่จะมีรึที่จะรอดน้ำมือนักฆ่าผู้มีความ



    ไวติดมากับอาชีพของเขา  ดึงแขนร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด
     


    แล้วกระชับแน่นพร้อมโน้มริมฝีปากเข้าไปใกล้ใบหูของเธอแล้วกระซิบเบาๆ



              "มาหาผมก็บอกมาเถอะ เรนอน" ทำเอาคนข้างๆต้องหน้าแดง



    จัดจนเห็นชัดในระยะร้อยเมตร และด้วยปฏิกิริยาของคนขี้อายจึงออก



    แรงผลักคนตรงหน้า แล้วจึงออกวิ่งสุดแรงเกิดเพื่อหวังจะไปให้ไกล



    จากคนกะล่อน ด้วยท่าทางที่หมดแรงเพราะใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว



    ซะแล้ว  แต่ก็ยังเหลือเรี่ยวแรงไว้บ่นกับคนตรงหน้า ตลอดทางที่เธอออกวิ่ง


             " คุณคิลบ้า บ้าๆๆ บ้าๆๆๆ"


              ทำให้คนฟังหลุดขำน้อยๆออกมา แล้วก็อมยิ้มเป็นนานสองนาน 



    พลันนึกเสียดายที่ไม่ได้วิ่งตามไปหยอกต่อ เพราะมีภารกิจที่ลับสุด
    ยอดรออยู่ 


    ไม่ทันได้คิดเค้ารีบตรงดิ่งไปที่ประตูหัวหน้าชั้นปีอีกครั้ง  แล้วหยิบถุงผ้าออกมา



    จากเสื้อด้วยท่าทีรุกรนแล้วหยิบ
    multi-purpose  ที่มีรูปร่างกลมเป็น
    ลูกแก้วใส


    ขนาดเท่าลูกปิงปอง  แต่รู้สึกว่ามันจะเปลี่ยนเนื้อผิวของมันเองตามสิ่งที่มันติดอยู่



    เพื่ออำพรางตัว เหมือนกับจิ้งจกที่ปรับสีของตัวมันเองตามวัตถุที่มันเกาะ


    คงจะเป็นมนต์ที่แยบยลจากเดมอสเมื่อมาอยู่ที่เอเดนเบิร์กโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้มนุษย์เห็นเป็นแน่ 



    สงสัยจะลำบากถ้าทำหายคงหายากน่าดู 



             "// แล้วนี่มันใช้ยังไงล่ะวะเนี่ย //"   พลางควานหากระดาษหรืออะไรซักอย่างก็ได้


    ในถุงผ้าที่บอกวิธีใช้




              "// เอ๊ะแล้วทำไมไม่มีล่ะเนี่ย  หาใหม่ๆ //"  แต่ก็ควานหาอยู่นานสองนานก็ไม่เจอซักที



               "//  หวังว่าไอ้เฟรินมันคงไม่หยิบมาดูแล้ววางไว้ที่ไหนซักแห่งในห้องนั้นนะ  เวรจริงโว้ย!! //"


    ความอดทนเริ่มหมดแต่ความโทสะเข้ามาแทนที่  พลางเกาหัวแกร็กๆด้วยความหงุดหงิด



                " แล้ววันนี้มันเป็นวันอะไรวะเนี่ย ร้อนอิ๊บอ๊ายวายวอด"


    ก็เข้าใจว่าเป็นหน้าร้อนอ่ะนะ แต่ทำไมวันนี้มันร้อนเป็นพิเศษ  ไอ้เหงื่อนี่มันก็ไหลออกมาจ๊าง



    ไหลได้ไหลดีไม่ทำประโยชน์อะไรเลยรึไง ปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีก



    มันก็ไม่หายไปซักที แต่ก็ได้แค่บ่น ก็ยังต้องควานหาวิธีใช้ในถุงต่อไป
     


    ยิ่งหายิ่งร้อน เลยพลั้งมือเอาถุงผ้ามาซับเหงื่อซะเลย......แต่ความ


    เปลี่ยนแปลงไปของถุงก็ทำให้นักฆ่าแปลกใจ



               "// เอ๊ะ..เมื่อกี๊มันไม่ใหม่ขนาดนี้นี่ //" 


    เพราะความใหม่ของถุงที่ดูแปลกไปบวกกับรอยขาดที่ปกติจะมีทั่วถุงผ้าอันนี้



    แต่ตอนนี้มันหายไป  กลับกลายเป็นเนื้อผ้าชั้นดีที่แม้แต่นักฆ่าอย่างเขายังตีเป็นราคาแพง



    และจากตรายางก็กลายเป็นมรกตสีเขียวเข้มอันโตเข้ามาแทนที่  แต่ก็พอมองเห็นตรา



    ที่ดูเหมือนว่าจะพริ้วได้อยู่ภายในมรกตเม็ดนั้น ทั้งด้ายก็จัดเข้ารูปเข้าทรงอย่างดี



    จากถุงไม่มีราคากลายเป็นถุงมีค่าทันตาเห็น




               "//  เพราะเหงื่อของเรางั้นรึ? งั้นแสดงว่าหน้าร้อนก็จงเจริญน่ะสิ YESSSS!! //" 


    แต่ที่หน้าสังเกตที่สุดคือที่ก้นถุงปรากฎเป็นตัวอักษรหนา เหมือนกับเป็นคาถาอะไรซักอย่าง




               "   นี่มันอะไร คาถาเชิญรึไง  มาลาดู มาลาคูรัส เมเลดี จงออกมา เหอะๆ แปลกดีนะ"



                "ผุ้ฟฟฟ!!"  เสียงเหมือนจุดไฟพรุดังออกมาอย่างเบาๆ หลังจากนักฆ่าตัวแสบ


    ได้เผลอท่องคาถาเชิญโดยไม่รู้ตัว




                 "// เฮ้ยๆๆ!! อะไรเนี่ย อะไรเนี่ย ควันไรเนี่ย //" 


    ควันหย่อมเล็กๆเริ่มกระจายหายไป เหลือแต่หน้าฉงนของนักฆ่าที่ตอนนี้ทำหน้าตาตื่น


    กับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างแรง




            "  สวัสดีเจ้านายผู้โง่เขลา คิดถึงจริงๆเล้ยโลกภายนอกเนี่ย  ไม่ได้เห็นมาหลายร้อยปีฮ้าๆๆ"
     


            " เจ้า...เจ้า!! ออกมาจากไหนเนี่ย แล้วเจ้าเป็นใคร" คิลร้องเสียงหลง



             " ใจเย็นๆ นายท่าน ข้าคือผู้พิทะ..."



             "อ้าว!! โกมุสนี่  โกมุสใช่มั้ยเฮ้ยไงไม่เจอกันตั้งนาน"   


    เสียงดีอกดีใจของนักฆ่าที่เหมือนเจอเพื่อนเก่าที่หายไปนานสองนาน กระโจนเข้าไปหาเจ้ากวาง



    ที่ลอยตัวอยู่บนอากาศทันทีที่นึกออก




            " ไม่ใช่นะนายท่าน ข้าไม่ใช่โกมุส"




            " อ้าวจะไม่ใช่ได้ไงก็เนี่ยหน้าตาอย่างงี้ ชุดอย่างงี้ ผมอย่างงี้
     


    แล้วก็...เขา ที่ดูเหมือนมันจะมีโบว์สีแดงเข้ามาแทนที่อ่ะนะ ไม่ใช่โกมุส


    แล้วจะเป็นใคร
    "  คิลยังยืนยันเสียงแข็ง




              " ข้าก็เป็นข้าโกลิมอส ผู้พิทักษ์ถุงมาลาดิสจำไว้ด้วยนายท่าน
     

    เพราะต่อไปท่านจะต้องเป็นนายท่านของข้า แล้วอย่าพูดชื่อไอ้โกมุส


    เพื่อนทรยศคนนั้นให้ข้าได้ยินเป็นอันขาดแล้วอย่าไปเปรียบมันกับข้าด้วย


    เข้าใจมั้ยนายท่าน
    "




             " อ้อๆ คร๊าบๆ ผมจะจำไว้ครับนายท่าน เฮ้ยไม่ใช่!! ฉันต้องเป็นนายของแกสิวะฮ๊า" 



    คิลเริ่มงงกับตัวเองเล็กน้อย




              "  แล้วนอกจากเป็นผู้พิทักษ์ พิแท็ก อะไรของแกแล้ว แล้วแกทำไรได้อีกเนี่ย"



    เด็กชั่งลองเริ่มสอบสวนตามวิสัยของนักฆ่า




               "  อ่านใจได้ แปลงร่างได้ แค่นั้นหล่ะนายท่านแล้วก็ใช้เวทของเดมอสได้บ้าง



    ตามวิสัยของผู้ใช้เวทย์ในเดมอส
    "




               " แล้วโบว์บนหัวแกหล่ะ มีไว้ทำไมกัน" คิลจ้องนัยตาของโกลิมมอส


    เพื่อควักและเค้นเอาความลับในตัวมันซักอย่างสองอย่างเผื่อแบล็คเมย์มันได้ถ้ามันจะทรยศ




            " ความลับ"



            "แล้วบอกข้าไม่ได้รึ  ข้าเป็นนายเจ้านะ"



             " ข้ามีพรจะให้ท่านเพียงหนึ่งเดียวและจะนับว่านั่นเป็นคำขอพรจากท่าน


    ถ้าท่านต้องการแต่ ท่านคงไม่อยากได้ความลับของข้าเพื่อหวังจะแบล็คเมย์มากกว่า



    ภารกิจของท่านหลอกนะ
    "




               "เออ มันก็จริงของเจ้า"  ความฉลาดของไอ้กวางมัน  ทำให้เค้ารู้ว่ามันไม่ใช่โง่ๆ



    เหมือนไอ้โกมุสแถมความสามารถในการอ่านใจของมันก็ประมาทไม่ได้เสียทีเดียว




                " และข้าบอกเสียก่อนนายท่านว่าข้าไม่มีวันทรยศนายผู้เรียกข้าออกมาสู่


    โลกภายนอกหลอกนะ
    " 



    โกลิมอสยืดอกได้สมกับเป็นชายชาตรีแห่งเดมอส เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี



    ต่อนายผู้เป็นที่รักและน้ำเสียงนั้นก็ทำให้นักฆ่าแห่งซาเรสของเราเชื่อมั่นมันไม่น้อยทีเดียว




            "  โอเคๆ เดี๊ยวไว้ค่อยเคลียล์กันทีหลัง ตอนนี้แกต้องรีบบอกวิธีใช้ไอ้นี่มาก่อน
     


    ก่อนที่จะมีคนมาเห็นแกกับฉัน เร็วๆ
    "  คนชั่งลองเริ่มเซ้าซี้ให้โกลิมอสรีบบอกเคล็ดลับออกมาเร็วๆ



    เพราะไม่งั้นถ้าถึงเวลาเปลี่ยนกะเวรเมื่อไหร่เค้าได้เจอพี่ลูคัสกับพี่ลอเรนซ์



    แบบไม่ได้นัดหมายแน่ๆ




             "  ใจเย็นๆ เจ้านาย มันง่ายนิดเดียว  ก็แค่นายท่านหยิบ multi-purpose ขึ้นมา


    แล้วกล่าวว่า ข้าแต่ผู้เป็นเจ้านายผู้โง่เขลาขอทำสัญญาแก่ทาสผู้ซื่อสัตย์ มาลาดู มาลาคูรัส เมเลดี 



    แล้วบอกจุดประสงค์ของนายท่าน แล้วกล่าวคาถาซ้ำอีกรอบ ก็แค่นั้น
    "




               "โอเคๆ  เอาล่ะนะ"




                "เดี๊ยวๆเจ้านายเดี๊ยวก่อนใจเย็นๆ"  โกลิมมอสทึ่งในความใจเร็วของเจ้านาย



    ผู้โง่เขลาของมัน เพราะไม่เคยมีใครเรียกใช้เค้าขึ้นมาแล้วถามแค่คาถาอัญเชิญเลย




                   "  เจ้านายข้าพูดว่า ก็แค่นั้น นั่นหมายถึงแค่คาถานะเจ้านาย



    ไม่ได้รวมถึงผลกระทบที่มันจะตามมาด้วยนะ  ท่านจะไม่ถามข้าหน่อยหรอ



    เพื่อความไตร่ตรองที่ดีกว่าเดิมนะนายท่าน ข้าว่ามันก็ไม่คุ้มอะไรนักที่ท่านจะต้องเสี่ยง...
    "




              "  เสี่ยงอะไร!! มีอะไรต้องเสี่ยง   ข้าเป็นเดอะคิลเลอล์ออฟซาเรสเชียวนะ 



    เจ้าหน่ะดูถูกข้าเกินไปแล้ว  ขืนพูดมากอีกที  หัวเจ้ากับตัวเจ้ามันจะไม่สามัคคี



    แยกชิ้นส่วนกลับเข้าไปในถุงผ้าทีละท่อน เข้าใจ๊ แล้วอีกอย่างเจ้าคิดว่า



    ข้าจะไม่ศึกษามาก่อนที่จะใช้งานมันรึไง อีโถ่ มันจิ๊บจ๊อยโว้ยไอ้น้อง
    " 




    ศึกษาบ้าอะไรของมัน ถ้าเค้าจะศึกษาก็คงศึกษามาไม่พอ  แต่หมั่นไส้ไอ้กวางแคระ



    ที่มั๊นดันมาพูดดูถูกเค้าได้  ถ้ามันจะเกิดอะไรก็ขอใหเกิดแค่เค้าเป็นหญิงล่ะวะ 



    อย่าให้เป็นอย่างอื่นเล้ย สาธุ
    !!




            " แต่นายท่าน....มันยังมี..." 




             "เอาล่ะนะ"  ดูท่าความอวดดีของนักฆ่าจะทำให้เขาไม่รู้เลยว่ากำลังมีความยากลำบาก



    คลืบคลานมาหาตัว  จนไม่ทันได้ฟังคำเตือนสุดท้ายและท้ายสุดของเจ้ากวาง



    ทาสผู้ซื่อสัตย์ซะแล้ว




               "  ข้าแต่ผู้เป็นเจ้านายผู้โง่เขลา  ขอทำสัญญาแก่ทาสผู้ซื่อสัตย์ มาลาดู มาลาคูรัส เมเลดี 



    ขอให้เจ้าเป็นดั่งแม่กุญแจ  ปิดสัมผัสทั้งห้าคนเดินผ่าน ปิดประตูบานตามคำสั่งของข้า



    ซ่อนตัวในที่ที่ดีกว่า ลึกลับ แต่ไม่น่าฉงน ขอเจ้าจงบรรลุเป้าหมายตามแต่ใจ



    และกาลที่ข้าจะต้องการ มาลาดู มาลาคูรัส เมเลดี...
    "







    ----------------------------




    LIONคุง ::::       ตอนแรกเนี่ยไม่รู้วาจะถูกใจรึเปล่าขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคร๊าบ จุ๊บๆๆ


    จารีบไปไหนๆ พักเดี๊ยวหนึ่งสิคร๊าบ  จามาอัพให้ สำหรับผู้ติดตามอ่านนะคร๊าบ


    THanks you หลายๆ เด้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×