ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1
เมื่อโลกตกอยู่ใต้อำนาจของจอมมารผู้โหดร้ายนาม “เอคิ ดิอาแล็ก” เป็นเหตุให้โลกตกอยู่ในยุคแห่งสงคราม เหล่ามนุษยชาติล้วนล้มตายกันมากมาย ทำให้มวลมนุษย์ต่างขนามนามยุคนี้ว่า “ยุคมืด” แต่เมื่อมนุษย์ถูกกระทำทารุณ ด้วยวิธีต่างๆอย่างโหดเหี้ยมมากขึ้น สร้างความเครียดแค้นใจให้กับชนเผ่ามนุษย์ จนเกิดเป็นมหาสงครามที่ยิ่งใหญ่ โดยมีมหาบุรุษนาม “เซนต์มิกเกล ไลท์” เป็นผู้นำมนุษยชาติเข้าสู่มหาสงคราม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ทำให้สงครามยื้ดเยื้อขึ้น จนกลายมาเป็นตำนานเล่าขาน ถึง จอมมาร และ หมู่มวลมนุษย์
* * * * * *
เมื่อความมืดมิดของราตรีกาลเข้าแทนที่แสงสว่างแห่งดวงตะวันเปลี่ยนสีสันให้ท้องนภา กลายเป็นเวลาแห่งรัตติกาล ในความมืดมิดที่ดูแสนสงบ กลับมีความรู้สึกบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ในจิตใจของมวลมนุษย์ นั่นคือ ความหวาดกลัว หวาดระแวง ความทุกข์ทรมารใจ และความเครียดแค้น ความเครียดแค้นที่ถูกสั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน เมื่อการนองเลือดไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ภาพอันน่าสยดสยองต่างๆก็ได้ปรากฏแก่นัตย์ตาของเหล่าทหารกล้า และ ประชาชนผู้น่าสงสาร ฉับพลันก็เกิดเสียงร้องโหยหวนดังก้อง
“อ๊าก”เสียงกรีดร้องของท่านแม่ทัพผู้มีใบหน้าคมคาย ดวงตาสีดำสนิท จมูกโด่งเป็นสัน ปากบางได้รูป ประกอบกับผมสีดำสนิท กำลังบิดเบียวด้วยความเจ็บปวดจากแผลที่ถูกเล่นงานด้วยเวทย์
“ท่านแม่ทัพ ช่วยท่านแม่ทัพเร็วเข้า ใครก็ได้ “ เสียงของหญิงสาวดังขึ้นแข่งกับเสียงกรีดร้องของแม่ทัพมิกเกล
“เมอแคลลี ข้าฝากด้วยนะ” แม่ทัพมิกเกลพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา และ อ่อนโยน กับหญิงสาวเจ้าของใบหน้ากลมมน ดวงตาสีเงินดุจดวงดาว จมูกเล็กเรียว ริมฝีบากอิ่มได้รูป กับผมสีบอล์น ที่ดูเข้ากันได้ดี นาม เมอแคลลี ก่อนจะล้มตัวลง และหมดสติไป
“ท่านแม่ทัพ ข้าลาก่อน สักวันเราคงพบกันอีก” หญิงสาวนามเมอแคลลีกล่าวเป็นประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่เบาราวกับเธอต้องการรับรู้ทุกสิ่งเพียงแค่เค้า และ เธอ ก่อนจะอุ้มห่อผ้าที่มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ข้างใน แล้ววิ่งหนีหายเข้าไปในความมืด
“ข้าเชื่อว่าท่านต้องไม่เป็นอะไร ท่านเซนต์มิกเกล”หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ในขณะทีอุ้มห่อผ้าอยู่ในมือ พร้อมเดินตรงไปตามทางที่ตัดตรงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า
“แอ้”เสียงเด็กทารกดังมาจากในห่อผ้าเรียกความสนใจของหญิงสาว
“อดทนอีกนิดนะลูกแม่” เมอแคลลีพูดกับเด็กน้อยในห่อผ้า แล้วเดินตามทางเข้าสู่หมู่บ้านต่อไปจนถึงป้ายชื่อของหมู่บ้าน
‘หมู่บ้านมังกร’
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เมอแคลลีเดินไปเคาะประตูกระท่อมหลังสุดท้าย ก่อนที่จะมีหญิงชราปรากฏกายอยู่หน้าประตู
“ข้านึกแล้วว่าเจ้าต้องมา เมอแคลลี”หญิงชราพูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อเจอหน้าของหญิงสาว
“ข้ายินดีที่ได้เจอท่าน แต่ในครั้งนี้ ข้ามีเรื่องที่จะขอให้ท่านช่วย”หญิงสาวกล่าวกับหญิงชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เจ้าหมายถึงเจ้านั่นรึเปล่าละ”หญิงชราถาม
“ท่านรู้ใจข้าเสมอ”หญิงสาวพูดขึ้นก่อนจะส่งเด็กน้อยให้หญิงชรา
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีธุระต่อ ไปเถอะข้าจะดูแลเจ้าหนูนี่ให้ และเก็บทุกอย่างเป็นความลับ เจ้าสบายใจเถิด”หญิงชราพูด
“ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก ลาก่อนลูกแม่”เมอแคลลีพูดเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะหายไปในความมืด
หญิงชรามองดูหน้าเด็กน้อย และสะดุดตากับสิ่งที่ติดตัวเด็กน้อยมา ‘สร้อยแบบนี้ หรือว่าจะเป็นเจ้า’ หญิงชราคิดในใจ เมื่อพลิกดูอีกด้านของสร้อยก็พบกับอักษรโบราณสลักไว้ว่า “เรนิน ไลท์” ‘ใช่แล้วเจ้าคือผู้ถูกเลือก’ หญิงชราคิด
“เฮะ”เสียงเด็กน้อยนามเรนินดังขึ้นเรียกร้องความสนใจ
“จ้า ข้ารู้แล้ว เจ้าคงไม่สบายตัวสินะ”หญิงชราพูดกับเด็กน้อย แล้วอุ้มเด็กน้อยเข้าไปในกระท่อมของนาง
* * * * *
7 ปีผ่านไป
“ช่างรวดเร็วหรือเกิน 7 ปีที่ข้าเห็นเจ้ามาตลอด ต่อแต่นี้ไป ข้าคงไม่ได้เห็นเจ้าแล้ว เรนิน”หญิงชราคิดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ก่อนจะสลัดความคิดนั้นออกไป เมื่อได้ยินเสียงอันสดใสของเด็กหญิงนามเรนิน
“เรนิน ข้ามีบางอย่างต้องบอกกับเจ้า จงตามข้ามา”หญิงชราพูดกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงเงียบสงบ
“ค่ะ แม่เฒ่า”เด็กหญิงตอบแล้วเดินตามหลังหญิงชราไป
ณ กระท่อมท้ายหมู่บ้าน ที่อยู่ของหญิงชรา ผู้ถูกขนานนามว่า “แม่เฒ่า”
“เรนิน นี่คือสิ่งที่ติดตัวเจ้ามา ตอนที่ข้าเจอเจ้า”หญิงชราพูดแล้วยื่นสิ่งบางอย่าให้เด็กหญิง
“สร้อย มีชื่อข้าด้วย หมายความว่าอย่างไรกัน แม่เฒ่าคะ ข้าไม่เข้าใจ”เด็กน้อยพูดพึมพำกับตัวเองและถามหญิงชราด้วยเสียงที่ฉงนสงสัยเป็นอย่างมาก
“เจ้าจะรู้ทุกอย่างด้วยตัวของเจ้าเอง”หญิงชราตอบคำถามของเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม หากแต่แววตาช่างอ่อนโยน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกความสนใจของเด็กหญิงไปจากหญิงชรา
“เข้ามา”หญิงชราพูดตอบรับเสียงเคาะประตู
“ท่านแม่เฒ่าครับ เรียกข้ามามีอะไรให้รับใช้ครับ”เสียงเด็กหนุ่มถามหญิงชราเมื่อเปิดประตูเข้ามาในตัวกระท่อม
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าอายุ 14 ใช่ไหม แปปซิน”หญิงชรากล่าวถามคนมาใหม่
“ใช่ครับ”เด็กหนุ่มมาใหม่เป็นเจ้าของใบหน้าอ่อนหวามราวกับใบหน้าของอิสตรี ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม จมูกและปากประกอบกันได้อย่างเข้ารูป ผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่า เสริมกับใบหน้าทำให้ดูหวานขึ้นจากเดิม
“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”หญิงชราพูดเข้าเรื่องทันที
“ข้ายินดีเสมอครับ ท่านแม่เฒ่า”เด็กหนุ่มตอบอย่างไม่ต้องคิด
“เจ้าจำ เรนินได้หรือไม่ แปปซิน”หญิงชราถามเด็กหนุ่มต่อ
“ข้าย่อมจำนางได้ครับ นางเปรียบดั่งน้องสาวของข้า”เด็กหนุ่มตอบหญิงชรา
“แปปซิน เรนิน ฟังข้าให้ดี ต่อไปนี้ เจ้าทั้งสองต้องไปจากที่นี่ “หญิงชราพูดด้วยเสียงอันเรียบสนิทดังเดิม หากแววตาของนางช่างเศร้าสร้อยนัก
“ท่านแม่เฒ่า ข้าไม่เข้าใจ”เด็กหญิงพูดแทรกทันทีเมื่อมีจังหวะ
“สักวันเจ้าจะรู้เอง ไปเถอะ พวกเจ้าต้องไปกันพรุ่งนี้แล้ว ไปเก็บของให้เสร็จซะ”หญิงชรากล่าวไล่ให้ทั้งคู่ไปเตรียมตัว
ในความคิดของเด็กหญิง เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เธอเข้าใจแต่เพียงว่าเธอต้องไปจากที่นี่ ที่ๆเธออยู่มากับหญิงชราคนหนึ่งถึง 7 ปี
* * * * *
“เรนิน ข้าคิดว่าเจ้าคงพร้อมนะ”เสียงของเด็กหนุ่มถามเด็กหญิงอย่างต้องการความแน่ใจ
“ข้าพร้อมแล้วล่ะ”เด็กหญิงตอบ
“งั้น ท่านแม่เฒ่าครับ ข้าลาก่อน ข้าขอสัญญาว่าข้าจะดูแลเรนินด้วยชีวิตครับ”เด็กหนุ่มหันไปพูดกับหญิงชรา ก่อนจะโค้งทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ข้าก็เช่นกัน ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันนะ ท่านแม่เฒ่า”เด็กหญิงพูด ในขณะที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“พวกเจ้าไปได้แล้ว ข้าขออวยพรให้เจ้าโชคดี ลาก่อน”หญิงชราพูดก่อนจะหันหลังเดินจากไป
“เจ้าจะยืนเอ๋ออีกนานไหม เรนิน ขึ้นม้าสิ”แปปซินเด็กหนุ่มผู้เรียบร้อยเริ่มออกลายเมื่อหญิงชราเดินจากไป
“อืม ข้าว่าข้าพร้อม งั้น เราไปกันเลย”เด็กหญิงพูดตอบแล้วกระโดดขึ้นหลังม้า
“ว่าแต่เราต้องไปที่ไหน”เด็กหญิงถามขึ้นทำลายความเงียบ
“เดียวเจ้าก็รู้เองนั่นแหละ ว่าแต่เจ้านกน้อยของเจ้ามันหายไปไหนกัน”เด็กหนุ่มตอบ
“แต่ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ เราจะไปเอิร์ธกัน”เด็กหนุ่มพูดต่อ
* * * * *
“ไซมิตท์ ทำแบบนี้ ข้าจะถือว่าเจ้าทำไม่ผ่าน และข้าจะไม่สอนเจ้าต่อจนกว่าเจ้าจะทำได้ เข้าใจหรือเปล่า”เสียงดุดันของชายวัยกลางคนพูด
“โถ่ ท่านอาจารย์ ข้าก็แค่“เด็กน้อยนามไซมิตท์ผู้มีผมสีแดงเพลิง กับดวงตาสีดำสนิท จมูกโด่ง ปากเรียวบางสีชมพูธรรมชาติ เอ่ยปากจะเถียง หากแต่มีเสียงเข้ามาขั้น
“ไซมิตท์ ถ้าเจ้าเป็นแบบนี้ เจ้าจะคุมพลังในตัวของเจ้าได้หรือ”
“ครับ ท่านพ่อ”เด็กน้อยไซมิตท์กล่าวรับ
“ข้าคิดว่า ข้าจะปล่อยให้ไซมิตท์ไปพักก่อน ท่านจะว่าข้าหรือไม่”เสียงผู้เป็นอาจารย์แย้งขึ้น
“ข้าไม่ขัดศรัทราท่าน ไซมิตท์พักก่อนก็ได้ลูก”เสียงผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นบ้าง
“ขอบคุณท่านอาจารย์ ขอบคุณท่านพ่อครับ”เสียงเด็กน้อยเอ่ย ก่อนจะวิ่งออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หาดทรงจำ เมืองเอิร์ธ
“ว้าว แปปซิน เจ้าดูนั่นสิ เค้าเรียกกันว่าอะไรหรือ”เด็กหญิงบนหลังม้านามว่าเรนิน
ถามขึ้น
“อ้อ นั่นนะ เค้าเรียกว่าทะเล เจ้าสนใจลงไปเล่นไหม เรนิน”แปปซินถามขึ้นหลังจากตอบคำถามให้เด็กหญิง
“อยากสิ แต่ว่า ข้าว่ายน้ำไม่เป็น”เด็กหญิงตอบสีหน้าเศร้าสร้อย
“ทำไมล่ะ เจ้ากลัวจมน้ำหรือ”เด็กหญิงพยักหน้าหลังจากจบคำพูดของแปปซิน ผู้เป็นพี่จึงพูดต่อว่า
“จำไว้นะว่าเด็กโง่ ข้าจะอยู่ข้างๆเจ้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะปกป้องเจ้า ด้วยชีวิตของข้า ข้าสัญญา”
“ข้าจะจำไว้นะ แต่ข้าไม่ได้โง่ จำไว้ด้วย”เด็กหญิงตอบหลังจากได้ยินถ้อยคำสัญญาของผู้เป็นพี่
“ข้าไม่จำ เอาล่ะ ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว ไปเล่นทะเลกันนะ เรนิน”แปปซินกล่าวกับน้องไม่แท้ของตน
“อืม เล่นทะเลกัน “เด็กหญิงตอบก่อนจะเอาม้าไปผูกแล้ววิ่งลงทะเลกับผู้ที่เปรียบเสมือนพี่ชายของตน
* * * * *
“เรนิน เจ้าหิวหรือยัง”เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“อืม ข้าก็หิวแล้วล่ะ”เด็กหญิงตอบตามความรู้สึก
“งั้นเจ้าเอาของข้าไปกินก่อนนะ เสบียงหมดแล้ว”เด็กหนุ่มยื่นขนมปังก้อนสุดท้ายในมือให้เด็กหญิง
“แล้วเจ้าไม่หิวหรอ เจ้าไม่ได้กินมาตั้งแต่เช้านะ แล้วตอนนี้เจ้ากลับเอามันมาให้ข้าอีก”เด็กหญิงถามอย่างเป็นห่วง
“เจ้ารีบกินเถอะ เราจะต้องไปให้ถึงป่าแสงดาวกันนะวันนี้”เด็กหนุ่มบอกเด็กหญิง
“อีกไกลไหม” เด็กหญิงถามกลับ
“สุดหาดนี่ก็ถึงแล้ว”เด็กหนุ่มพูดพร้อมเอามือชี้ไปสุดหาด
วี้ดดด~
“อีเอโก้ “เด็หญิงเรียกชื่อนกอินทรีของตน ฉับพลันร่างของนกอินทรีได้ปรากฏแก่สายตาของเด็กหญิง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น