ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shinee Fic]please tell me that u luv me(Jong x Tae)

    ลำดับตอนที่ #8 : plz tell me that u luv me>>>[8]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 57


    "จงฮยอน"

    เสียงที่คุ้นเคยเมื่อสองปีก่อนเอ่ยขึ้น จงฮยอนไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าใคร เขาเลยได้แต่แสยะยิ้มเบาๆก่อนยกเบียร์กระป๋องขึ้นมาดื่มอีกครั้งแล้วก้าวเดินต่อไป โดยไม่หันไปมองคนพูดเลยสักนิด

    "จงฮยอน หยุดก่อนได้มั้ย"

    จงฮยอนชะงัดฝีเท้าตัวเองลง ก่อนเอ่ยขึ้นเบาๆ

    "จะอะไรกับฉันอีกหรือฮะ ชอนอา สนุกพอหรือยัง"

    เขาหันไปสบตากับคนที่เคยทำให้เขารักหมดใจเมื่อสองปีก่อน เขารักเธอมาก และจากการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมาเขาก็ไม่สามารถตอบได้เลยว่า เขาได้ทำอะไรผิดพลาดเธอถึงได้ทิ้งเขาไปซะเฉยๆแบบนั้น ช่วงนั้นพอเขาโทรหาเธอก็จะกดตัดสายทิ้ง ไม่ก็ปิดเครื่อง สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลย ตอนนั้นสภาพเขาแย่มาก แย่จนไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้เขาด้วยกระแสความเศร้าและหม่นหมองที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ยกเว้นก็แต่เด็กชายผมบ็อบในวันนั้น

    "พี่จงฮยอนฮะ พี่ไหวรึเปล่า"

    เขาเห็นเจ้าเด็กนี่มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆเขาพักนึงแล้ว แต่วันนี้ทำไมเขารู้สึกเหมือนเห็นอะไรที่ชัดเจนมากบนใบหน้าของเจ้าเด็กนี่

    "ให้ผมได้อยู่กับพี่ได้มั้ยครับ ผมไม่เรื่องมาก พี่ยังไม่ต้องรักผมตอนนี้ก็ได้ แต่ให้ผมได้รักพี่และอยู่กับพี่ไปอย่างนี้นะครับ" 

    คำสารภาพรักที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ในสถานการณ์แบบนี้ แต่มันทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

    แต่ว่า...วันหนึ่งคนที่ทิ้งเขาไปก็กลับมา

    "จงฮยอน ฟังฉันหน่อยนะ"

    ชอนอารั้งแขนจงฮยอนไว้อย่างนั้น ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้เดินไปไหน แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนเขากำลังเดินห่างออกไปทุกที

    "เธอจะเอายังไงกับฉันกันแน่ ชอนอา"

    จงฮยอนถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ สายตาที่เย็นชามองหญิงสาวร่างบางจนเธอรู้สึกว่าเขาเหมือนไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จักร

    "ฉันยังยืนยันคำเดิม..."

    จงฮยอนถอนหายใจอย่างหน่ายๆ

    "...เรากลับมาคบกันอีกได้มั้ย"

    ชอนอาพูดพร้อมมองลึกเข้าไปในดวงตาของอดีตคนรัก ไม่สิ ตอนนี้เธอก็ยังรักเขาอยู่แต่เธอไม่รู้ว่าเขายังรักเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า

    "ฉันก็เคยบอกเธอตอนที่เธอกลับมาแล้วนี่ว่าเราจะไม่กลับมาคบกัน ฉันมีคนรักใหม่แล้ว เธอยังไม่เข้าใจอะไรอีก....."

    "งั้นตอบฉันหน่อยว่าเธอไม่มีเยื่อใยให้ฉันเลยใช่ไหมตอนนี้"

    จงฮยอนนิ่งมองใบหน้าสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา และเขาก็หลุบตาลงต่ำเพราะไม่กล้าสบตากับเธอตรงๆ ร่างเล็กจึงเลือกที่จะใช้อีกมือมากุมมือของเขาไว้ก่อนเอาไปแนบแก้มซ้ายของเธอ

    "เธอลืมฉันหมดทั้งใจแล้วจริงๆเหรอ จงฮยอน"

    จงฮยอนนิ่งอยุ่อย่างนั้น ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้คำตอบ แต่เป็นเพราะจริงๆแล้วเขาก็ยังไม่เคยลืมเธอซักวินาที

    ................................................................................................................

    แทมินมองนาฬิกาในโทรศัพท์บอกเวลาสามทั่มเข้าไปแล้ว เขาโทรไปบอกพี่ของเขาก่อนหน้านั้นว่าเขาจะกลับดึกเพราะจะอยู่เที่ยวกับคีย์ต่อซึ่งความจริงมันคือเรื่องโกหกทั้งเพ เพราะเขาเพิ่งวิ่งหนีจากจงฮยอนมา และตอนนี้ก็กำลังเดินอยู่บนถนนคนเดียว

    แต่เขาก็ไม่อยากกลับบ้านอยู่ดี เพราะรู้ว่าตอนนี้เขารู้ว่าถ้าเขากลับบ้านก็มีแต่จะต้องกลับไปนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวจนหลับไปแน่ๆ

    ฟึบ!

    เสียงเหมือนอะไรบางอย่างถูกกางขึ้น และอยู่ๆไหลของเขาก็หนักขึ้นเหมือนมีผ้ามาคลุมอยู่ พอหันไปมองหัวไหล่ก็พบว่ามันคือเสื้อคลุมโรงเรียน และพอหันไปมองข้างๆแทมินก็ถึงกับเผลอเรียกชื่อคนที่เป็นเจ้าของเสื้อที่มายืนข้างเขาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    "มินโฮ"


    คนตัวสูงไม่พูดอะไรแต่ยิ้มให้เขาน้อยๆ วินาทีนั้นไม่รู้อะไรดลใจเขา อยู่ๆแทมินจึงตวาดขึ้นมา

    "นายมาที่นี่ทำไม ไม่ใช่ว่าฉันบอกนายไปแล้วเหรอว่าไม่ว่ายังไงความรู้สึกฉันก็ไม่เปลี่ยน ฉันรักพี่จงฮยอน นายได้ยินมั้ยมินโฮ"

    มินโฮมองหน้าแทมินอึ้งๆ ตอนแรกเขาดูไม่เข้าใจในสิ่งที่แทมินกำลังทำ แต่พอเห็นสายตาที่หวั่นไหวของร่างเล็กนั้น มันก็ทำให้เขาเข้าใจอะไรบางอย่าง

    แทมินเมื่อเห็นมินโฮไม่มีทีท่าว่าจะเดินจากไป จึงรีบเดินออกมาจากจุดนั้นซะเอง เขาไม่ได้โมโหมินโฮขนาดนั้นหรอกเขารู้ แต่เขาเพียงแค่หงุดหงิดที่คนที่ควรจะตามเขามาดันไม่มา

    พอเท้ากำลังจะก้าวเดินออกไปร่างเล็กก็ถูกกระตุกอย่างแรงจากมือใหญ่ ชั่วพริบตาเขาก็กำลังดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของมินโฮ

    "ปล่อยฉันนะ มินโฮ นายก็รู้ความรู้สึกของฉันไปแล้วนี่ แล้วทำไม ทำไม ฮึก...ฮึก..."

    แทมินไมาสามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป น้ำตาที่คิดว่าหยุดไปแล้วกลับมาไหลอีกครั้ง ยิ่งเมื่อมือใหญ่ของคนตรงหน้าค่อยๆลูบหัวเขาเบาๆ เขายิ่งรู้สึกตัวเองอ่อนแอขึ้นทุกที

    "ทำไม ฮึก...ทำไมคนที่ตามฉันมาต้องเป็นนาย ทำไมไม่ใช่..."

    แม้แค่คิดจะเอ่ยชื่อยังเจ็บปวดขนาดนี้ เขาจะทนได้อย่างไรถ้าต้องเห็นหน้าพี่จงฮยอนในอีกวันนึง

    "เหมือนฉันจะเคยบอกนายไปแล้วนี่..."

    มินโฮเอ่ยขึ้นหลังจากเป็นฝ่ายเงียบมานาน แทมินแม้จะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง แต่เขาก็ได้ยินเสียงมินโฮชัดเจน

    "เมื่อไหร่ที่นายเจ็บ ฉันจะเป็นคนแรก และคนสุดท้ายที่อยู่กับนายในวันที่นายเจ็บที่สุด..."

    มินโฮจับไหล่ร่างบางอย่างแผ่วเบาก่อนค่อยๆดันออกจากอกเพื่อที่จะมองหน้าคนที่กำลังร้องไห้ให้ชัด ไม่สิ เขาอยากให้คนตรงหน้ามองตาเขาและรับฟังถึงประโยคต่อมาที่เขากำลังจะพูดต่างหาก

    "และคราวนี้ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไปให้คนอื่นๆอีกแน่"

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------

    "คีย์ แม่บอกกี่ครั้งแล้วห๊ะ ว่าอย่ามัวดูทีวีพร้อมกับรีดผ้าไปด้วยน่ะ"

    เสียงแม่ของคีย์ที่กำลังก่นด่า พร้อมใบหน้าหงุดหงิดหลังจากมองเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวสวยที่ตอนนี้มีรูโหว่ เป็นรอยไหม้ขนาดใหญ่อยู่กลางหลังเสื้อ

    "ผมขอโทษจริงๆครับแม่ ให้อภัยผมเถอะ ยังไงซะผมก็ลูกแม่นะ"

    ป็อก!
     
    เสียงของขวดน้ำพลาสติกที่กระทบจากหัว ทำเอาคีย์ต้องเอามือกุมหัวตัวเองป้อยๆ พลางหันไปมองคนที่ทำด้วยสายตาเหมือนลูกแมวที่กำลังจะร้องไห้

    "พ่อ ตีผมทำไมเนี่ยะะ"

    คนเป็นพ่อแค่นยิ้มก่อนตีหัวลูกชายตัวดีอีกรอบ

    "ทำไมฉันจะตีแกไม่ได้ ห๊ะ ในเมื่อแกเป็นคนทำให้เสื้อชั้นเป็นรูโหว่ขนาดนี้ ฮึ่ยยย มันน่าจริงๆ"

    พ่อคีย์สบถอย่างขัดใจ ก่อนไปหยิบเสื้อสีขาวที่ไหม้มาดูอย่างนึกเสียดาย

    "นี่ก็เหลืออยู่ตัวเดียวแล้วด้วย พรุ่งนี้ก็ต้องใส่ไปพบลูกค้า ไป ไปเลย แกรีบออกไปซื้อเดี๋ยวนี้เลยนะ ก่อนที่ร้านจะปิด เอาไซส์นี้ สีนี้ ไปให้ไวเลย"

    พูดจบก็โยนเสื้อตัวนั้นใส่หน้าคีย์ที่บึนปากอย่างขัดใจ พลางค่อยๆกระเถิบไปเกาะขาผู้เป็นพ่อ พลางทำทาออดอ้อน

    "ดถ่ พ่อเอาตัวอื่นไปใส่ก่อนก็ได้นี่นา พ่อก็มีเสื้อเชิ้ตตั้งหลายตัวนี่ ผมไม่อยากออกไปข้างนอกตอนนี้นี่หน่า อากาศมันหนาวมากเลยนะพ่อ"

    คนเป็นพ่อใช้ขวดน้ำเคาะหัวลูกชายคนเดียวของตน ก่อนที่คนเป็นแม่จะทำอย่างเดียวกันแล้วจึงชี้แจงแทนผู้เป็นสามีที่ตอนนี้คงเครียดจนไมเกรนจะขึ้นแย่แล้ว

    "ตัวอื่นมันไม่ใช่สีขาว พรุ่งนี้งานทางการต้องใส่เชิ้ตขาวกับสูทร ลุกไม่ต้องพูดมาก รีบออกไปซื้อเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นทั้งพ่อและแม่จะเอาขวดน้ำนี่ตีให้หัวโนไปเจ็ดคืนเลยคอยดู"

    คีย์หน้างอง้ำอย่างขัดใจ แต่เมื่อเจอสายตาพิฆาตของผุ้เป้นพ่อก็เริ่มรู้ว่าตัวเองเลี่ยงไม่ได้เลยต้องจำใจเดินไปหยิบเงินและเสื้อกันหนาวก่อนออกไปจากบ้าน

    -----------------------------------------------------------------------------------------

    "ห๊าาา ปิดอีกแล้วเหรอ"

    นี่เป็นร้านเสื้อร้านที่สามแล้วที่เค้าเดินมาซื้อ และร้านนี้ก็ปิดไปแล้วเช่นกัน แหงล่ะ นี่ก็เกือบจะสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว ร้านไหนจะเปิดบ้างล่ะเนี่ยะ คีย์คิดพลางมองเสื้อในมืออย่างหงุดหงิด นึกโมโหตัวเองที่มัวแต่นั่งมองทีวีเพลินจนเผลอทำเสื้อพ่อไหม้ เค้ารู้จักร้านเสื้อแถวนี้ก็แค่สามร้านนี้เท่านั้นที่ใกล้บริเวณบ้านเขา แล้วสามร้านนี้ก็ดันปิดพร้อมๆกันอีก โหย จะบ้าตาย

    ตึก ตึก ตึก

    "หือ?"

    คีย์หันไปมองด้านหลังของเขา เมื่อได้ยินเหมือนเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้แต่ปรากฎว่าเขาก็ไม่เจอกับอะไร

    "น่ะ...นั่นใครน่ะ?" 

    คีย์ตะโกนถามออกไปตรงทางมือด้านหน้า แต่ก็ไม่มีใครตอบอกมาก ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนขนที่แขนมันเริ่มตั้งขึ้น พร้อมมือที่เย็นเฉียบ

    "ฮึ่ยย โนด่าก็โนด่าวะ ดีกว่าต้องโดนผีหลอก"

    พูดออกมาดังนั้นคีย์ก็รีบหันหลังกับไปในทางเดิมและเตรียมก้าวเท้าออกไปทันที แต่ทว่าอยู่ๆก็มีมือคู่หนึ่งมาปิดตาเขาไว้ ไม่ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป

    "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    คีย์กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง เขาพยายามสลัดมือของเจ้าผี (ที่เขาคิดว่าใช่) ออกไปด้วนการดิ้นสุดแรงเกิด แต่มันก็ไม่ออกไปซักที เขารู้สึกถึงมือที่ปัดไปโดนอะไรบางอย่างนุ่มๆเหมือนผิดคน แต่ตอนนี้สติสตางค์เขาแทบไม่ประติดประต่อ เมื่อสำนึกว่าเหมือนกำลังของเขาจะสู้เจ้าผีนี่ไม่ได้

    ทำไงดี ทำไงดี

    คำถามซ้ำๆย้ำไปย้ำมาในหัวก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ แต่ก็ยังชั่งใว่ามันจะได้ผลหรือไม่

    เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

    คิดได้ดังนั้น คีย์ก็กระทุ้งศอกไปด้านหลังอย่างแรง ซึ่งมันก็โดนเข้าอย่างจังกับท้องของเจ้า "ผี" ตัวแสบ

    "โอ๊ยย!"

    เสียงร้องดังอย่างเจ็บปวดในขณะเดียวกันกับที่ตาของคีย์ก็เป็นอิสระจากมือของ "ผี" ตัวนั้น แม้จะดีใจที่สามารถหลุดพ้อนมาได้ แต่คีย์ก็รู้สึกตะหงิดๆกับเสียงของผีที่ได้ยินเมื่อกี้ว่ามันคุ้นๆแบบแปลกๆ เลยตัดสินใจหันไปดูหน้าเจ้า "ผี" นั่นก่อน

    และทันทีที่หันไป คียืก็ถึงกับต้องร้องสบถออกมาอย่างไม่น่าฟังที่สุด คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างพยายามใช้ความคิดหาคำมาด่าคนตรงหน้าที่ลงไปนอนตัวงอเหมือนกุ้งอยู่บนพื้น

    เขาตระหนักแล้วว่า "ผี" ที่เค้าคิดไม่ไม่ได้มีส่วนของความเป็นผีอยู่เลยซักนิด ถ้าสังเกตเห้นจากรอยเลือกที่่มุมปาก แต่ในใจก็นึกอย่างทำให้คนตรงหน้าเป็นผีซะให้รู้แล้วรู้รอด

    "ไง มือนายนี่หนักเหมือนกันนะเนี่ยะ"

    นาย "ผี" นั่นยังคงปากดีไม่เลิกในสายตาคีย์ ทั้งๆที่ตอนนี้สภาพย่ำแย่ที่สุด คีย์พ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนเดินไปแสยะยิ้มให้คนที่นอนอยู่บนพื้นแล้วเอ่ย

    "ดูเหมือนนายอยากจะเป็นผีซะจริงๆเลยนะ ฉันสงเคราะห์ให้เป็นไง"

    ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวก็เตะอัดเข้าที่ท้องของคนที่นอนอยู่บนพื้นเข้าเต็มแรง ให้สมกับความแค้นที่สั่งสมมา

    --------------------------------------------------------------------------------------------


    ขอโทษทีนะคะ ที่กลับมาแต่งให้ช้า งานมันรุมเร้าจริงๆ แต่ก็กลับมาแต่งตอนนี้ให้จบแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ติดตาม และติชมนะคะ

    สัญญาว่าจะพยายามมาแต่งให้บ่อยขึ้น ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^ ^




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×