ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shinee Fic]please tell me that u luv me(Jong x Tae)

    ลำดับตอนที่ #4 : plz tell me that u luv me>>>[4]

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 52


    โอย ทำไมมันถึงได้ปวดหัวอย่างนี้เนี่ยะ 

     คีย์คร่ำครวญในขณะที่ค่อยๆยันกายขึ้นจากเตียง สายตาเริ่มปรับสภาพจึงค่อยเริ่มรู้สึกตัวว่าเช้าแล้วเมื่อเห็นแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามาภายในห้องนอนของเขา

      เอ้ะ? ห้องนอนของเขางั้นเหรอ

      เมื่อคิดได้ดังนั้นคีย์ก็รีบกระโดผึงออกจากเตียงโดยพลัน พลางรีบก้มสำรวจพื้นที่ทุกตารางนิ้ว

       เขาจำได้ว่าเมื่อวานเขากำลังขัดห้องน้ำที่โรงเรียนอยู่นี่หน่า แล้วพอขัดๆไปเขาก็ได้ยินเสียงคราง แล้วก็ยังเจอกับ...

       ความคิดของคีย์หยุดอยู่แค่นั้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้เจอเมื่อวาน

       ไอ้ปีศาจเต้าหู้

       คีย์นึกพร้อมลูบแขนตัวเองขึ้นลงอย่างขนลุก 

       แต่ถ้าเมื่อวานเขากำลังขัดห้องน้ำอยู่แล้วเจอไอ้ปีศาจเต้าหู้นั่น แล้วเขามาอยู่ห้องตัวเองได้ไงต่อจากนั้น

       ยิ่งคิดก็คิดไม่ออก หรือว่าเขาแค่ฝันไปเรื่องไอ้ปีศาจเต้าหู้  หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆเหอะ 

       ก๊อกๆๆ

       เสียงเคาะประตูเรียกสติของคีย์ให้คืนกลับมา

       "คีย์ ตื่นรึยังลูก"

       แม่เองหรอกเหรอ งั้นสงสัยเป็นแม่ล่ะมั้งที่ไปรับเขา แต่ว่าเขาจำได้ลางๆว่าเขานัดกับแทมินไว้นี่

      "ฮะๆ ตื่นแล้วครับแม่ เข้ามาได้เลยครับ"

       แม่ของคีย์ค่อยเปิดประตูออกมาพร้อมส่งยิ้มหวานให้ลูกชายสุดที่รัก

       "อาบน้ำซะสิลูก เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก" 

       คีย์ยิ้มให้แม่ของเขาและตอบรับอย่างว่าง่าย

       "เออ แม่ครับเมื่อวานนี้ผมกลับมากับแทมินใช่มั้ยครัย"

       แม่ของเขามีท่าทีงงงวยเล็กน้อยก่อนตอบยิ้มๆ

      "เปล่านี่จ้ะ เออ แล้วนี่เราไปนัดให้แทมินเค้ารอเราเหรอ เมื่อเช้าเค้าโทรมาถามแม่ว่าเรากลับบ้านรึยัง แม่ก็บอกว่ากลับมาแล้ว เค้าก็บอกว่า อ้าว เค้าอุตส่าห์เป็นห่วงนึกว่าหายไปไหน ที่ไหนได้ลูกดันหนีกลับมาบ้านก่อน ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องงด้วยนะ ดูเหมือนแทมินจะน้อยใจไม่น้อย"

       คีย์ได้ยินว่าตนทิ้งแทมินเอาไว้ก็ตกใจ รีบกุลีกุจออาบน้ำแต่งตัวโดยพลัน

      เขารู้ฤทธิ์เพื่อนของเขาคนนี้ดีว่า บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายก็ร้ายซะจนน่ากลัว ไม่ต้องพูดถึงบทจะงอน แค่คิดก็สยองแล้ว

      คีย์รีบหยิบกางเกงมาสวมพร้อมเสื้อเชิร์ต ตามด้วยเสื้อตัวนอกสีน้ำตาลและตามด้วยเน็คไท แต่ว่า...

      นี่เน็คไทเค้าหายไปไหนเนี่ยะ

     คีย์วนหาอยู่ในห้องสองสามรอบก็ยังไม่เจอสุดท้ายเลยตัดสินใจใส่เสื้อนอกทับพร้อมติดกระดุมเสื้อสูทขึ้นมาให้มากที่สุดแม้ปกติเขาจะติดมันแค่เม็ดเดียว พอมองเข้าไปที่กระจกอย่างน้อยๆตรงคอเขาก็มีปกเสื้ออยู่ ยังไงก็พอบังๆไปได้บ้างแหละน่า

     คีย์รีบหยิบกระเป๋าพร้อมวิ่งลงบันไดพลางกล่าวลาแม่ของเขาอย่างรวดเร็ว

     "ไปแล้วนะครับแม่ ผมไม่กินข้าวเช้านะครับ"

      แม่ของคีย์มองตามหลังลูกชายไป จะเรียกตอนนี้ก็คงไม่ทันซะแล้ว

     "เฮ้อ แย่จริง กะจะฝากขนมไปให้พ่อหนุ่มน้อยคนนั้นที่อุ้มเจ้าลูกคนนี้มาส่งซะหน่อย จะรีบไปไหนนะลูกคนนี้"


      คีย์วิ่งกระหืดกระหอบมาถึงโรงเรียนพลางรีบวิ่งขึ้นบันไดด้วยกำลังแรงเฮือกสุดท้าย และไม่กี่ก้าวก็เข้าห้อง คีย์ยืนอยู่หน้าห้องซักพักแล้วจึงตัดสินใจยิ้มหวานก่อนย่างเท้าเข้าไปในห้อง และเป็นอย่างที่คาด สายตาเย็นๆคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เขา

      "หวัดดี แทมิน"

      คีย์เดินไปทักแทมินด้วยใบหน้าที่เด็กสามขวบก็ดูออกว่าตอนนี้ภายในใจของคีย์ไม่ได้ยิ้มเลย 

     "หวัดดี คิมคิบอม"
     
     เฮือก เต็มยศ

     คีย์กลืนน้ำลายตัวเองอย่างเฝื่อนคอก่อนเริ่มเข้าใจว่าเพื่อนตรงหน้าท่าจะโกรธจริงๆ เพราะทุกครั้งที่แทมินโมโหก็มักจะเรียกชื่อเขาด้วยความห่างเหินอย่างนี้เสมอ

     "โถ่ แทมินอย่าโกรธเลยนะ เมื่อวานนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจหนีนายกลับบ้านก่อนจริงๆนะ"

      "แล้วนายจะอธิบายเรื่องที่นายปล่อยฉันให้รอนายเกือบ 2 ชั่วโมง แล้วพอไปหาปรากฏว่าไฟปิดหมดว่าไง"

      คีย์ยิ้มแหยๆก่อนเริ่มอธิบาย

     "ก็...เมื่อวานนี้ตอนที่ฉันกำลังขัดห้องน้ำอยู่ แล้วฉันก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรซักอย่างครางอยู่ในห้องน้ำ แต่แล้วก็ไม่ได้สนใจมันหรอก ฉันพยายามฝืนใจขัดห้องน้ำต่อไปเรื่อยๆ แล้วพอฉันขัดเสร็จ ฉันก็..."

      แทมินเลิกคิ้วบางเป็นเชิงถามว่าอะไรต่อ แต่คีย์เพียงขมวดคิ้วฉัวพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานให้ออก แต่เขาก็ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจก่อนตอบ

       "ฉัน...ฉันจำไม่ได้แล้วล่ะว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น"

      แทมินหัวเราะหึๆ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ

     "ไงล่ะ สุดท้ายนายก็หาเหตุผลมาพูดไม่ได้อยู่ดี"

      คีย์เบะปากก่อนเอ่ยเบาๆ

     "ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ความจริงฉันก็พอจำอะไรได้บ้างแหละ แต่ฉันกลัวว่าถ้าฉันเล่าให้นายฟังแล้ว...แล้วนายจะหาว่าฉันบ้าน่ะสิ"

     แทมินมองคีย์พลางเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิดก่อนเอ่ย

     "งั้นก็ลองเล่ามาสิ เผื่อว่าฉันจะเชื่อ"

      คีย์หวนนึกถึงใบหน้าของบุคคลหนึ่งที่แวบเข้ามาใสมองเขา ทำให้เขาต้องรีบสั่นหัวเพื่อไล่ใบหน้านั่นออกไปก่อนกลั้นใจบอกแทมิน

     "คือ เมื่อคืนฉันจำอะไรไม่ได้เท่าไหร่ ไม่ใช่สิ ฉันแค่แยกไม่ออกเท่านั้นว่าอันไหนคือความฝันและอันไหนคือความจริงน่ะ คือเมื่อคืนนี้พอฉันขัดห้องน้ำเสร็จ ฉันก็กำลังจะเตรียมตัวเก็บของกับบ้าน แต่พอหันหลังกลับฉันก็ เจอกับ...กับ..."

      แทมินก็พลอยลุ้นไปกับสิ่งที่คีย์จะพูดไปด้วยเจ้าตัวเลยยิ่งเร่งเร้า

     "ฉันเห็นไอ้ปีศาจเต้าหู้"

      .........................

      ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของคนทั้งคู่ คีย์ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาซะเลย

      "แทมิน พูดอะไรหน่อยสิ"

      แทมินกะพริบตาปริบๆก่อน ริมฝีปากจะค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม

      "ฮ่าๆๆๆ"
      คีย์มองหน้าเพื่อนรักที่บัดนี้หัวเราะปริ่มใจจะขาดอยู่มะรัมมะร่ออย่างอึ้งๆ

      "นาย..."

      แทมินปาดน้ำตาที่ไหลเนื่องจากอากรหัวเราะของเขา พร้อมพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลั้มเสียงหัวเราะให้ได้มากที่สุด

      "นายเจอไอ้ปีศาจเต้าหู้นั่นจริงๆเหรอ ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย"

      คีย์มองเพื่อนรักที่กำลังพยายามกลั้นเสียงหัวเราะสุดฤทธิ์อย่างเคืองๆก่อนตอบอย่างขัดใจ

     "ก็ใช่น่ะสิ นายนึกว่าฉันโกหกรึไง ฮึ่ย ว่าแล้วเชียวว่าถ้าเล่าให้นายฟังมันต้องเป็นอย่างนี้ ฉันไม่น่าเชื่อใจนายเลย"

      แทมินเม้มปากก่อนค่อยยกแขนไปคล้องคอเพื่อนรักอย่างขำๆก่อนเอ่ย

     "โอ๋ๆ อย่างอนสิ เป็นนายถ้าฉันเล่าให้ฟังอย่างนี้นายก็คงไม่อยากเชื่อเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ เอาล่ะๆ ฉันไม่โกรธนายแล้ว ถือว่านายได้เล่าเรื่องขำขันให้ฉันหายเครียดได้ตั้งแต่เช้า ดังนั้นเรื่องเมื่อวาน ฉันยกโทษให้"

      "แทมิน!"

      คีย์เบะปากอย่างขัดใจจากคำพูดของเพื่อนรัก จนแทมินต้องรีบกอดเอวบางของคีย์ พลางพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

      "น่าๆๆ อย่าโกรธเลยนะ ไปกันเหอะ ไปหาอะไรกินกัน ฉันชักหิวแล้วสิ อุตส่าห์ออกบ้านแต่เช้าเพื่อที่จะมารอให้นายมาง้อเชียวนะ หิวเป็นบ้า"

      คีย์มองเพื่อนรักที่กำลังเกาะเอวเขาอย่างทึ่งๆ นี่ขนาดยอมอดข้าวมารอให้เขามาง้อเลยหรือเนี่ย เชื่อเค้าเลย

     

    แทมินและคีย์เกินคู่กันไปยังโรงอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงของเหล่านักเรียนที่ดังจ้อกแจ้กจอแจไปทั่ว ทั้งสองเดินไปด้วยกันพร้อมกับคุยเล่นกันไปตลอดทาง
                กึก!
                อยู่คีย์ก็รู้สึกเหมือนมีใครมารั้งแขนเขาไว้ เมื่อหันไปมอง บุคคลที่กำลังจับแขนของเขาก็กำลังแสยะยิ้มเขา
               มะ...ไม่จริงใช่มั้ย
                “อ๊ากกกกกกกกกกกก แทมินช่วยด้วย”
                คีย์ร้องเสียงหลงออกมาพร้อมกันนั้นก็พยายามสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากมือที่กำลังเกาะกุมแขนของเขาอยู่ แต่เหมือนเจ้าของมือจะแรงเยอะกว่าเขามาก เพราะไม่ว่าเขาจะสะบัดเท่าไหร่ ก็ไม่มีทีท่าว่าไอ้มือบ้านี่มันจะหลุดไปซักที
                คีย์เลยทั้งร้อง ทั้งดิ้น ทั้งตะโกนโหวกเหวกที่สุดเพื่อให้เขาปล่อยมือ
                “ไอ้บ้าปีศาจเต้าหู้ ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันก็มีพ่อแม่นะเฟ้ย แกจะให้ฉันอกตัญญูทิ้งพ่อ ทิ้งแม่ ตายไปเพราะแกงั้นเหรอ ฮือๆ เห็นแก่บุญเก่าที่ฉันเคยทำมา ปล่อยฉันไปเหอะนะ อย่ามาหลอกหลอนฉันเลยนะ ฮือๆๆ”
                จากเสียงตะโกนโหวเหวก ตอนนี้กลับกลายเป็นน้ำเสียงขอร้องปนสะอื้น เกิดมาตั้งหลายปี เขาไม่เคยจะมาร้องไห้ในที่สาธารณะสักครั้ง แต่วันนี้ดันซวยจับจิตที่ดันเจอไอ้ปีศาจที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา
                “อ่ะ...เอ่อ สวัสดีครับพี่ อนยู เอ่อ คือพี่ครับ ทำไมคีย์ถึงเป็นแบบนี้เมื่อเจอพี่ล่ะครับ”
                เอ๋ พี่งั้นเหรอ...
                จากตอนแรกที่กำลังน้ำตาไหล และร้องไห้ฟูมฟาย คีย์ก็รีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาโดยพลันแล้วจ้องหน้า คนที่เขาเรียกว่า “ปีศาจเต้าหู้”ผู้ตอนนี้กำลังพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่
                “นะ...นาย นายเป็นคนเหรอ”
                คีย์ถามออกไปด้วยท่าทางตะกุกตะกัก
                ชายหนุ่มที่ชื่ออนยูยิ้มน้อยก่อนพยักหน้าเบาๆพร้อมปล่อยมือที่จับแขนของเขา แล้วเอ่ยอย่างทะเล้น
                “ใช่ ว่าไง เมื่อคืนหลับสบายมั้ย ตัวนายนี่หนักใช่เล่นนะ แต่ก็นุ่มนิ่มน่ารักดี”
                “หา!”
                เสียงร้องหาไม่ใช่ของทั้งคีย์และอนยูแต่เป็นแทมินที่ตอนนี้อ้าปากค้างพร้อมมองเพื่อนรัก และผู้เป็นรุ่นพี่ของตนไปมา
                “ไม่ใช่อย่างนั้นนะแทมิน นายอย่าคิดบ้าๆนะ”
                คีย์พยายามปฏิเสธอย่างสุกฤทธิ์สุกเดช แต่ความพยายามของเขาก็ต้องดับวูบเมื่อเจอประโยคต่อมาของอนยู
                “อืม ไม่มีอะไรหรอกแทมิน เอ้า นายน่ะชื่อคีย์ใช่มั้ย นี่เน็คไทนายฉันซักให้แล้วนะ รับรองถ้านายคิดถึงฉันก็เอาขึ้นมาดม นายก็จะได้กลิ่นฉันแน่นอน”
                “หา!”
                ให้ตายเหอะ ไอ้บ้าเต้าหู้นี่มันจะไม่รู้จักสงบปากสงบคำเลยรึไงเนียะ
                แทมินที่ตอนนี้อ้าปากค้างกว้างกว่าเก่ากำลังโดนคีย์เขย่าตัวแรงๆเพื่อเรียกสติที่หลุดลอยให้กลับคืนมา
                “นี่ แทมิน ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าคิดอะไรทุเรศๆแบบนั้น”
                “กะ...ก็ ที่พี่อนยูพูดมันก็น่าคิดใช่มั้ยล่ะ ว่าแต่ นะ...นายเป็นอะไรกับพี่อนยูน่ะ”
                คีย์นี่แทบจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตายไปซะเดี๋ยวนั้น
                เขาสูดหายใจเข้าปอดแรงๆหนึ่งครั้ง เพื่อสงบจิตสงบใจ แล้วค่อยๆเอ่ยกับแทมินอย่างพยายามสะกดอารมณ์
                “ฟังนะแทมิน ฉันกับไอ้คนที่นายเรียกว่าพี่อนยู ไม่ ได้ มีอะไรกัน ทั้งนั้น โอเคมั้ย มันแค่...”
                คีย์ลากเสียงยาว พลางส่งสายตาอำมหิตไปยังอีกหนึ่งหนุ่มเจ้าปัญหาที่กำลังยืนยิ้มแป้นอย่างไม่รู้สึกผิดเลยซักนิด ก่อนผ่อนลมหายใจยาวแล้วไปพูดกับแทมินพร้อมผลักเพื่อนรักให้เดินกลับไปทางเดิน
                “นายกลับห้องไปก่อน ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์นิดหน่อย ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินก่อน หรือจะไปหาพี่จงฮยอนของนายก็ได้ เดี๋ยวฉันตามไป”
                คีย์พูดอย่างรวดเร็วพร้อมกับดันแทมินให้เดินไปข้างหน้า
                “เดี๋ยวคีย์ นายกลัวปีศาจเต้าหู้ เอ้ย หมายถึง พี่อนยูไม่ใช่เหรอ แล้วจะเคลียร์ได้เหรอ”
                แทมินถามด้วยท่าทางเป็นห่วง เพราะเขาเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ที่มีคนสามมารถทำให้คีย์ร้องไห้เสียงหลงได้ขนาดนี้
                คีย์เบะปากอย่างหงุดหงิด ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมๆ
                “ที่ฉันกลัวก็เพราะฉันนึกว่าไอ้หมอนี่มันเป็นปีศาจเต้าหู้จริงๆ และตอนนี้ในเมื่อมันไม่ใช่...”
                คีย์หยุดคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนปล่อยมือที่กำลังผลักแทมินแล้วเดินไปหาอนยูที่เหมือนกำลังรอการมาหาของเขาอยู่เหมือนกัน
                “นาย”
                อนยูยิ้มน้อยๆก่อนเอ่ยเบาๆ
                “ความจริงฉันอายุมากกว่านายนะ ไม่คิดจะเรียกฉันว่าพี่หน่อยเหรอไง”
                คีย์ถอนหายใจอย่างปลงๆก่อนมือเรียวจะยื่นไปดึงเน็คไทของคนที่อยู่ตรงหน้า ให้โน้มหน้าลงมาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
                “เราต้องคุยกัน นายเต้าหู้”
                ถ้าเป็นคนอื่นอาจตกใจร้องเสียงหลงกับการกระทำห่ามๆของคีย์ แต่ไม่ใช่คนตรงหน้า ที่ตอนนี้กำลังยิ้มด้วยความสนุก ก่อนโคลงหัวน้อยๆอย่างใช้ความคิด ก่อนขยับหน้าเข้าไปใกล้จนคีย์แอบเผลอถอยหลังโดยไม่รู้ตัว แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
                “ it would be pleasure to talk with you ,my boy”
                คีย์แทบจะสะกดอารมณ์โกรธเอาไว้ไม่อยู่ เขาจึงผลักคนที่ยืนตรงหน้าออกห่างแล้วเดินนำไปตรงบันไดทางขึ้นดาดฟ้า อนยูหัวเราะเบาๆก่อนหันไปขยิบตาให้แทมินที่ยืนมองด้วยความกังวลให้สบายใจได้ แล้วเดินตามคีย์ไป
                “คีย์ นายคงไม่ฆ่าพี่อนยูหรอกนะ”
                แทมินเอ่ยขึ้นเบาๆอย่างไม่มั่นใจนัก ขณะมองแผ่นหลังของสองคนด้สนหน้าค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆ
     
     
    ต้องขอโทษคนอ่านหลายคนจริงๆค่ะ
    ช่วงนี้งานเข้าอย่างแรง เลยไม่ได้อัพเลย
    แล้วก็ต้องขอโทษอีก ที่งานยังเข้าไม่จบไม่สิ้น
    ยังไงจะพยายามมาอัพให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ
    เอ้า สู้ๆ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×