ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shinee Fic]please tell me that u luv me(Jong x Tae)

    ลำดับตอนที่ #1 : plz tell me that u luv me>>>[1]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 440
      1
      11 ม.ค. 52

            อากาศร้อนเนื่องจากในช่วงนี้ใกล้จะเข้าหน้าร้อนเข้าไปทุกที ทำให้ร่างกายของเด็กนักเรียนหลายคนในโรงเรียนนี้ เต็มไปด้วยเหงื่อและคำพูดติดปากว่าร้อนๆกันขนัด
            แต่สำหรับใครคนหนึ่งในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ เขาเชื่อว่ามีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกร้อนยิ่งกว่าแดดแรงๆในวันนี้เสียอีก
          สัมผัสร้อมเริ่มรุกล้ำเข้ามาจนทำให้เจ้าของริมฝีปากต้องสะดุ้งสุดตัว ครั้นพอจะขัดขืนคนที่กำลังรุกล้ำกลับยิ่งออกแรงมากขึ้นไปอีก ริมฝีปากที่ตอนนี้กำลังถูกฉกฉวยเอาความหวานชักเริ่มหมดหนทางหนี มือใหญ่ของอีกฝ่ายก็พยายามดันร่างบางให้หลังติดกำแพงหนา 

       "อื้ออ..."

        ไม่มีเสียงใดลอดออกมาจากเจ้าของริมฝีปากบาง แม้ในใจเจ้าตัวตอนนี้กำลังตะโกนบอกให้ตัวเองรีบผลักคนตัวใหญ่กว่าข้างหน้าออกห่างก่อนที่ตัวเขาเองจะขาดใจตาย
         แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเรี่ยวแรงที่เคยมีมันถึงได้หายไปหมด รวมถึงร่างกายก็ชักจะเริ่มโอนอ่อนตามการเคลื่อนไหวของคนผู้รุกล้ำ
         
          กริ๊งงงงงงงงงง
     
          เสียงกริ่งบอกเวลาเข้าเรียนทำให้คนผู้กำลังจะเคลิ้มตกใจแล้วจึงพยายามผลักคนที่ตอนนี้กำลังเลื่อนจูบร้อนมาที่ลำคอขาวของเขา

         "พะ...พี่ครับ เข้าเรียนแล้วนะครับ"

          เด็กหนุ่มมั่นใจว่าเขาพูดเสียงดังพอที่คนที่กำลังเคลิบเคลิ้มได้ยิน แต่คนตัวใหญ่กลับไม่มีทีท่าว่าจะผละออกจากเขาซักนิด ซ้ำร้ายริมฝีปากหนาเริ่มเลื่อนมาประกบปากเขาอีกครั้ง และครั้งนี้มันช่างชวนให้เขาเคลิบเคลิ้มจนเผลอเอื้อมมือไปคล้องคอคนตรงหน้าเข้า เปลือกตาของเขาเริ่มปรือลงช้าๆ
         
        กริ๊งงงงงงงงงงงง

         เสียงกริ่งบอกเวลาครั้งที่สองดังขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นฉับพลัน ก่อนออกแรงผลักบุคคลตรงหน้า แต่แรงที่มีน้อยกว่าไม่สามารถทำอะไรคนตรงหน้าที่กำลังดูดกลืนความหวานจากริมฝีปากของเขาได้เลย
          เด็กหนุ่มชักเริ่มกระวนกระวายใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปหากเขาไปไม่ทันเข้าเรียน เค้าไม่อยากโดนทำโทษในวันที่อากาศร้อนอย่างนี้นะ แต่ถ้าหากคนตรงหน้ายังคงดื้อดึงไม่ยอมปล่อยเขาซักทีเขาคงได้โดนทำโทษสมใจอยากแน่ๆ

          เอาว่ะ เอาไงก็เอากัน

          เด็กหนุ่มตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนรอจังหวะที่ริ้นร้อนเริ่มชอนไชเข้ามาในปาก เขาก็หลับตาปี๋ก่อนใช้ฟันขบเข้าที่ลิ้นที่กำลังชอนไชมานั้นจนเจ้าของลิ้นสะดุ้งสุดตัวจนผละออกห่างจากกเขาพร้อมร้องเสียงหลง

          "โอ้ย!"

           ชายหนุ่มทำหน้าเหยเกซักพักก่อนขยับลิ้นไปมาเพื่อเช็คว่าไม่มีอะไรหนักหนาแล้วจึงหันไปมองเด็กหนุ่มร่างเล็กผู้ตอนนี้กำลังทำหน้าหวาดกลัว อย่างเคืองๆ

           "แทมิน กัดลิ้นพี่ทำไมน่ะ"

            เด็กหนุ่มนามแทมินอ้ำอึ้งอยู่พัก ก่อนตอบคำถามอย่างตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว

          "คะ คือ ผมเห็นว่ากริ่งออกแล้ว แต่พี่จงฮยอนไม่ยอมปล่อยผมซักที คือ...เอ่อ ผมก็เลย เอ่อ ก็เลย..."

           "กัดลิ้นพี่งั้นสิ"

           จงฮยอนเอ่ยแทน ขณะที่แทมินได้แต่ก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบกับดวงตาคมๆที่เขาก็พอจะรู้ๆว่าหากเจ้าของดวงตานั้นหงุดหงิดขึ้นมาทีไร เป็นต้องทำให้เขาเสียวสันหลังทุกที

           จงฮยอนมองเด็กหนุ่มผมบ๊อบอย่างหงุดหงิดใจอยู่พัก ก่อนถอนหายใจเสียงดังแล้วดึงร่างเล็กเข้ามากอดพร้อมขยี้หัวอย่างเอ็นดูก่อนเอ่ย

           " ถือว่าครั้งนี้แล้วกันไปแล้วกัน แต่ถ้าเป็นครั้งหน้าล่ะก็..."

            จงฮยอนหยุดคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก แล้วก้มลงไปกระซิบเบาๆข้างหูของแทมิน จนเจ้าของหูต้องกลืนน้ำลายด้วยความลำบากว่า

            "พี่จะทบต้นทบดอกที่ค้างไว้ให้คุ้มเลยนะ คอยดู"

             แทมินรู้สึกเลือดในกายของเขาสูบฉีดขึ้นลงอย่างรวดเร็วจนตอนนี้ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด
              จงฮยอนปล่อยแทมินออกจากอ้อมแขนก่อนเดินไปที่ประตู พร้อมบิดลุกบิดแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่อีกคนที่ยืนนิ่งกับคำพูดของคนที่จากไปเมื่อครู่

             ถ้าเป็นครั้งหน้าจริงๆ เขามีหวังโดนทบต้นทบดอกจนหัวฟูแหงๆ 
              
             แทมินตอนนี้ชักนึกหวาดๆกับสวัสดิภาพของตนซะแล้วสิ

            "แทมินๆๆ นี่นายหายไปไหนมาตั้งนานน่ะ บอกฉันมาตามตรงนะ"

           คีย์เด็กหนุ่มหน้าหวานผู้เป็นเหมือนแม่คนที่สองของแทมินเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดปนอยากรู้อยากเห็น แต่แทมินตอนนี้รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าที่จะตอบอะไรใดๆ

            "ไปห้องน้ำมา"

             คำตอบปัดๆไปของแทมิน ที่ตอบไปงั้นๆกันเหนียวไว้ก่อนกลับไม่ทำอะไรให้เจ้าของคำถามรู้สึกดีขึ้นเลย น้องจากหงุดหงิด หงุดหงิด และหงุดหงิด

             "ไม่ต้องมาโกหกนะ ไปห้องน้ำบ้าอะไรไปเป็นครึ่งชั่วโมง นายท้องเสียรึไง"

              คีย์ยังคงซักต่อเรื่อยๆ แทมินก็ยังคงตอบแบบปัดๆไปไม่เปลี่ยนแปลง

             "ใช่ ฉันท้องเสีย"

              คีย์หน้ามุ่ยทันทีกับคำตอบก่อนเอ่ยขึ้นลอยๆอย่างตัดพ้อ

             "เอ่อ นะ ก็ใช่ซี้  ฉันมันคนอื่น นายเดี๋ยวนี้พอมีอะไรถึงไม่ค่อยบอกฉัน ความเป็ฯเพื่อนของเราคงลดน้อยลงทุกวันสินะ ขอโทษนะแทมิน ที่ฉันมันเป็นเพื่อนที่แย่มากๆ จนนายไม่สามารถปรึกษาอะไรฉันได้เลยซักอย่าง"

               คีย์ตัดพ้อก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะของตนด้วยใบหน้าเซ็ง ที่แทมินเห็นแล้วก็อดอมยิ้มกับเพื่อนคนนี้ไม่ได้เลยเดินไปหาที่โต๊ะแล้วนั่งยองๆลงข้างๆกับหนุ่มน้อยหน้าหวาน

               "นายน่ะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันต่างหากล่ะ แหม พออยากรู้อะไรขึ้นมานายก็ใช้มุขนี้ตลอดเลยนะ"

              แทมินว่าพลางส่งสายตาอย่างรู้ทันไปให้คีย์ ซึ่งตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

              "ก็แหงล่ะ ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่นายน่ะสิ รู้ทั้งรู้ก็ยังใจอ่อนจนได้"

              คีย์กับแทมินพูดกันพลางหัวเราะกันไปมา แล้วแทมินก็ถึงเล่าเหตุการณืที่เขาไปหาพี่จงฮยอนเมื่อเที่ยงนี้มาให้คีย์ฟัง

            "โห คราวนี้ก็ถือว่านายรอดมาอย่างหวุดหวิดอีกแล้วน่ะสิ"
     
              คีย์ผู้กำลังนั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจถามขึ้น แทมินก็ได้แค่พยักหน้ารับเบาๆ

              "พี่เค้าขู่ฉันอย่างนี้ตลอด แต่เอาเข้าจริงเค้าก็ไม่ทำมันจริงๆซักที ฉันเลยไม่ค่อยกลัวอะไรน่ะ พี่จงฮยอนของฉันน่ะน่ารักใช่มั้ยล่ะ"

            แทมินเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ ในขณะที่คีย์กลับมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเท่าที่ควร
             
             "เป็นอะไรไปคีย์"

            แทมินเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเห็ฯความกังวลใจฉายชัดบนใบหน้าของเพื่อนรัก คีย์เงยหน้ามองเพื่อนก่อนกลอกตาไปมาคล้ายชั่งใจว่าควรจะพูดหรือไม่ สุดท้ายคีย์ก็จับมือแทมินไว้แล้วเอ่ยถาม

           "แทมิน นายปฏิเสธพี่เค้ามากี่ครั้งแล้ว"

           "หา!" 

            แทมินออกจะงงๆกับคำถามของเพื่อนรักเพราะคิดว่าเป็นคำถามเล่นๆ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังแล้วเขาจึงรู้ว่าที่คีย์ถามมันเป็ฯคำถามที่ต้องการคำตอบจริงๆ

             "เอ่อ ไม่รู้สิ มากกว่า  9 ครั้งได้"

              "9 ครั้ง"

             คีย์ร้องด้วยน้ำเสียงตกใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้แทมินแปลกใจไม่น้อย

            "มีอะไรเหรอคีย์ ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นด้วย"

             คีย์มองหน้าเพื่อนรักอย่างชั่งใจแล้วจึงเอ่ย

            "นายเคยคิดเรื่องที่ว่า พี่จงฮยอนเค้า เอ่อ เค้าจะนอกใจนายมั้ยแทมิน"

            คำถามของคีย์เล่นเอาคนถูกถามชะงักงันแล้วมองหน้าเพื่อนรักอย่างสงสัยว่าคิดอะไรถึงมาถามคำถามนี้

           "คือ  ตามความคิดฉันนะ ไม่รู้สิ นายปฏิเสธเค้าไปก้าวครั้ง จะให้เค้าไม่รู้สึกอะไรเลยมันก็แปลกอยู่ ฉันเลยแค่คิดว่า คืด แค่คิดเฉยๆน่ะนะ ว่าถ้านายปฏิเสธพี่เค้าไปอย่างนี้ ถ้าพี่เค้ารักนายจริงๆเค้าก็น่าจะเข้าใจตั้งแต่การปฏิเสธแรกๆของนาย แต่นี่เล่นเจออีกตั้งก้าวครั้ง คือฉันว่า บางทีพี่เค้าอาจจะ แบบว่า..."

             "เบื่อแล้วก็ทิ้งฉัน ไปหาคนใหม่ที่ยอมเค้างั้นสิ"

             แทมินต่อประโยคให้เพื่อนรักเสร็จสรรพ แม้คีย์ทำท่าว่าจะแก้คำว่ามันไม่ได้แรงขนาดนั้น แต่เขาเองก็หาคำมาอธิบายไม่ได้เหมือนกันเลยได้แค่พยักหน้าไป

             แทมินหลุบตาต่ำลงก่อนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วจึงเงยหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มขึ้นมา

            "ไม่หรอกคีย์ นายไม่ต้องห่วงพี่เค้าก็ดูรักฉันออก แล้วเค้าก็ยังบอกรักฉันด้วยนะ"

              คีย์มองท่าทางของเพื่อนที่เอ่ยถึงคนรักด้วยความกระปรี้กระเปร่าและภูมิใจก็อดยิ้มไม่ได้

            "อืม ฉันก็เชื่อว่างั้น ถ้านายพูว่างั้นน่ะนะ โทษที ฉันมันคิดมากไปหน่อยน่ะ นายอย่ามาฟังคำพูดฉันเลย ถ้าเค้าบอกรักนายบ่อยๆ แสดงความรักให้นายรู้สึกบ่อยๆนั่นก็โอเคแล้วล่ะ"

             "อะ  อ้อ  อืมๆ ใช่แล้วล่ะ"
      
             แทมินยิ้มให้เพื่อนรักอย่างสดใส ก่อนอาจารย์คิมจะเดินเข้าห้องแทมินจึงเดินมานั่งที่โต๊ะของตนที่อยู่ถัดมาจากด้านหน้าของโต๊ะคีย์หนึ่งโต๊ะ แต่ในใจของเขาตอนนี้กลับเหมือนมีเรื่องต่างๆตีกันให้วุ่นไปหมด

            มีคนใหม่งั้นเหรอ? บอกรัก?

            แทมินไม่ณุ้จะพูดกับคีย์ยังไง ว่าที่เค้าบอกว่าพี่จงฮยอนบอกรักเขานั้นตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ในวันแรกที่เขาขอคบกับแทมิน และคำที่เขาพูด เขาพูดว่า เขาชอบแทมิน ไม่ใช่คำว่ารัก

             แทมินรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจแปลกๆ แต่ก็พยายามคิดว่าคำว่าชอบ กับคำว่ารัก ความหมายมันก็เหมือนกัน ดังนั้นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง

            แทมินสูดลมหายใจลึกๆอย่างพยายามเรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนยิ้มกว้างเรียกขวัญ แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตสีฟ้าที่แปะไว้ใต้โต๊ะของเขา 

             แทมิน รอพบฉันหลังเลิกเรียนที่ห้องนี้ได้มั้ย ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย
                                                                                                      -มินโฮ-

            ข้อความในกระดาษพร้อมชื่อของผู้นัดทำให้คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

             มินโฮงั้นเหรอ เค้าจะพูดกับฉันเรื่องอะไรกัน

    -------------------------------------------------------------------------

    ในที่สุดก็แต่งได้ครบหนึ่งตอนอย่างสมบูรณ์
    ไม่รู้จะโอเครึเปล่า
    คนอ่านๆแล้วอย่าลืมคอมเม้นนะคะ ดีไม่ดียังไงก็บอกมาได้เลย
    คนเขียนจะได้เอาไปปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม
    ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ \^๐^/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×