คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : plz tell me that u luv me>>>[2]
เสียงของอาจารย์สาวดังเข้าออกหูของแทมินไปเรื่อยๆในขณะที่เปลือกตาของเขาในตอนนี้ชักจะหมดกำลังในการพยุงตัวเองให้ลืมตาในชั่วโมงนี้ได้ แทมินไม่อยากหลับไปในวิชาคณิตศาสตร์นี้
เหตุผลแรกคงเป็นเพราะเขาขี้เกียจที่จะต้องมานั่งแก้ตัวใหม่ในช่วงเวลาปิดเทอม แทนที่จะได้นอนเล่นเฉยๆอยู่ที่บ้าน
ส่วนเหตุผลที่สองน่ะเหรอ...
คงเป็นเพราะพี่จงฮยอนนั่นแหละ
เมื่อนึกถึงชื่อของพี่จงฮยอนเปลือกตาของแทมินก็แทบจะเบิกกว้างในทันที ความง่วงที่เคยมีเมื่อครู่แปลเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่นแต่ไม่ใช่ความตื่นเต้น แต่เป็นความกังวลใจมากกว่า
ปกติแล้วที่พึ่งที่ดีที่สุดของแทมินคือ จงฮยอน เพราะความสามารถทางด้านการเรียนของจงฮยอนไม่น้อยหน้ากับนักเรียนหัวกะทิคนไหน ที่สำคัญจงฮยอนยังมีความสามารถในการสอนคนให้เข้าใจเนื้อหายากๆให้ง่ายขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งแทมินก็รู้ดี เพราะก็เคยเรียนด้วยกันมาก่อน
แต่สิ่งที่ทำให้แทมินหนักใจและตัดสินใจไม่ขอพึ่งจงฮยอนในการสอนหนังสือให้คงเป็นวิธีการลงโทษของเขาล่ะมั้ง
บทลงโทษของจงฮยอนสำหรับคนอื่นนั้นก็แค่โดนโขกหัวเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับแทมินจงฮยอนจะลงโทษเขาโดยการที่เมื่อเขาทำโจทย์ผิดหนึ่งข้อ เท่ากับเขาต้องยอมนอนเป็นตุ๊กตาให้จงฮยอนกอดหนึ่งคืน โดยไม่โวยวายอะไรทั้งสิ้น
คิดดูละกันว่าการยอมเป็นตุ๊กตาให้พี่จงฮยอนนอนกอดทั้งคืนมันก็มีความสุขอยู่หรอก ถ้าไม่ใช่เขาต้องคอยหวาดระแวงกับสายตากรุ้มกริ่มที่จงฮยอนส่งมาให้ ทุกคืนไม่ว่าจะง่วงหรือไม่เขาต้องรีบชิงหลับก่อนที่จงฮยอนจะทันได้ส่งสายตาที่ทำเอาเขาใจสั่นนั่น
น่ากลัวเสียยิ่งกว่าโดนเขกหัวอีก
แทมินรีบสั่นหัวของเขาไปมาเพื่อไล่ความง่วงพลางสั่งตัวเองว่า หากเขาหลับไปแม้แต่วินาทีเดียว เขาอาจจะพลาดอะไรหลายๆอย่าง จนต้องสอบตก และสุดท้ายก็ต้องพึ่งจงฮยอน
กริ๊งงงงงงงง
เสียงกริ่งสวรรค์ดังขึ้นพร้อมเสียงถอนหายใจของแทมิน ที่โล่งใจที่เขาไม่ต้องทนกับชั่วโมงนี้อีกต่อไป
แทมินหันไปหาเพื่อนรักที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังเขา แน่นอนว่าคีย์ซึ่งเขาก็พอจะเดาๆได้อยู่แล้วว่ากำลังนอนเหยียดยาวกับโต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ที่แปลกเห็นจะเป็นคิ้วเรียวของคีย์ที่ตอนนี้เหมือนโบว์สองอันผูกติดกัน จนทำให้แทมินชักสงสัยว่าเพื่อนรักจะฝันอะไรไม่ดีรึเปล่าถึงได้นอนทำหน้ามุ่ยซะขนาดนั้น
"ลี แทมิน"
เสียงเข้มๆของอาจารย์สาวที่ไม่เข้ากับหุ่นอันผอมบางของเธอเลยซักนิดทำเอาแทมินสะดุ้งเฮือกก่อนหันไปส่งยิ้มให้อาจารย์
"ครับ"
"คิบอมหลับงั้นเหรอ"
คำถามของอาจารย์ทำเอาแทมินกลืนน้ำลายเอื๊อกไม่รู้จะตอบหรือปฏิเสธยังไงเพราะหลักฐานก็เห็นอยู่ตำตา ว่าเจ้าตัวกำลังทำตัวขนานกับโต๊ะพร้อมพึมพำอะไรบางอย่าง
อาจารย์ถอนหายใจเสียงดังอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนพยักหน้าเป็นสัญญาณให้แทมินปลุกคีย์ได้แล้ว แทมินจึงเอื้อมมือไปแตะแขนเพื่อนรัก และทันทีที่มือของแทมินสัมผัสกับแขนของคีย์...
โครม!
"โอ้ยยยย!~"
เสียงเก้าอีล้มลงพร้อมกับเสียงเจ้าของเก้าอี้ที่บัดนี้ลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้นห้องพร้อมกับมีเสียงหัวเราะของเหล่าบรรดาเพื่อนในห้องหัวเราะประกอบฉาก
"คิบอม นี่เธอหลับในวิชาฉันอีกแล้วเหรอเนี่ย"
อาจารย์ร่างเล็กเอ่ยเสียงขุ่น ขณะที่คีย์เองก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เลยได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไปให้พลางพยายามค้นหาข้อแก้ตัว
"เปล่านะครับอาจารย์ ผมไม่ได้หลับนะครับ ความจริงแล้วผมก็แค่...เอ่อ จะว่าไงดีล่ะครับ ก็แค่เคลิ้มๆแค่นั้นเองครับ"
อาจารย์สาวมองเจ้าลูกศิษย์ที่ตอนนี้คลึงก้นตัวเองป้อยๆอย่างหน่ายๆก่อนส่งยิ้มเหี้ยมๆมาให้ก่อนสั่งคำสั่งประกาศิต
"งั้นวันนี้เธอก็เคลิ้มๆไปล้างห้องน้ำด้วยละกัน"
คีย์มองหน้าอาจารย์อย่างตกตะลึงก่อนเริ่มโวยวาย
"อาจารย์ครับ ไม่เอานะครับ วันนี้ผมต้องรีบกลับบ้าน วันนี้ผมกับแทมินมีนัดเรียนพิเศษกันนะครับ ถ้าผมไปล้างห้องน้ำมีหวังไปเรียนไม่ทันแน่ๆ"
แทมินมองหน้าเพื่อนรักอย่างอึ้งๆในความสามารถที่สามารถโกหกอาจารย์ได้หน้าตายขนาดนี้
ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาวิชาเดียวที่คีย์ยอมไปเรียนพิเศษกับเขาคงเป็นเรียนเต้นมากกว่า และที่สำคัญหมอนี่ไปได้แค่วันเดียวอีก 3 อาทิตย์ที่เหลือ แทมินจำได้ว่าเค้าไปนั่งหง่าวคนเดียว
"งั้นเหรอ อืม นี่นายคิบอม อย่ามาโกหกฉันซะให้ยาก ฉันโทรเช็คกับป่าป๊ามาม๊าเธอแล้ว พวกท่านว่าต่อให้เข็นให้เธอไปเรียนยังไงเธอก็ต้องไปโดดเรียนอยู่ดี แล้ววันนี้ปกติเป็นวันที่แทมินเค้าเรียนกับฉันแต่ฉันยกเลิก แล้วถามหน่อยเธอจะไปเรียนที่ไหนจ้ะ"
คีย์คอตกลงด้วยความผิดหวังเมื่อไม่สามารถหาข้ออ้างได้สุดท้ายเลยได้แต่พยักหน้ารับกรรมไป
อาจารย์สาวมองคีย์อย่างมีความสุขก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสดงความห่วงใย
"เตือนด้วยความหวังดี ถ้ารีบไปล้างตอนนี้ก็จะเสร็จเร็วขึ้น เธอก็จะได้กลับบ้านเร็วขึ้นนะ"
กล่าวจบอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดจากศิษย์รักที่เดินบ่นหงุงหงิงไปตลอดระหว่างเก็บของ
แทมินมองท่าทางของคีย์ก็อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ คีย์เหลือบมองแทมินอย่างเคืองก่อนเอ่ย
"นายไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะแทมิน นายต้องอยู่รอฉันด้วยอยู่ดีนั่นแหละ"
"อ้าว ได้ไงล่ะ"
"ก็นายนั่นแหละตัวต้นเหตุให้ฉันโดนลงโทษ ถ้านายไม่ปลุกฉันตอนนั้นฉันคงไม่ต้องโดนอาจารย์จับได้หรอก"
แทมินมองหน้าคีย์อย่างหน่ายๆก่อนเอ่ยยิ้มๆ
"ฉันแค่ปลุกนายนะ ส่วนเรื่องที่นายสะดุ้งตื่นแล้วตกเก้าอี้จนโดนอาจารย์จับได้ฉันไม่เกี่ยว อย่ามามั่ว"
คีย์เบะปากอย่างขัดใจก่อนค่อยๆเขยิบตัวไปกระแซะแทมินพลางช้อนตามองอย่างออดอ้อน
"โธ่แทมิน นายจะอยู่รอเพื่อนคนนี้ไม่ได้เลยเหรอ นายก็รู้นี่ว่าฉันกลัวผีแล้วโรงเรียนของเราตอนเย็นๆนี่ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก นายอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ น้า~"
แทมินยิ้มน้อยๆให้เพื่อนก่อนหยิกแก้มนุ่มๆของเพื่อนรักเบาๆก่อนเอ่ย
"ก็แค่เนียะ ขอร้องน่ารักๆอย่างนี้ก็เป็นนี่ อย่างนี้ค่อยน่าอยู่เป็นเพื่อนหน่อย"
คีย์ยิ้มแป้นรู้สึกพอใจในคำตอบก่อนรีบลงมือเก็บของลงกระเป๋า
"นี่ ว่าแต่คีย์ ทำไมตอนฉันปลุกนาย ทำไมนายต้องตกใจขนาดนั้นด้วย ฝันร้ายเหรอ"
คีย์หยุดเก็บของโดยฉับพลันก่อนหันไปพูดกับเพื่อนรักด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"ยิ่งกว่าฝันร้ายซะอีก"
"หา?"
แทมินออกจะงงๆกับคำว่ายิ่งกว่าฝันร้ายของคีย์กันนะ คีย์เองก็พอจะเดาๆได้ว่าแทมินคงกำลังสงสัยอยู่จึงเล่าให้ฟัง
"คืองี้ ในฝันน่ะฉันฝันว่าเจอ เอ่อ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ อืม... ปีศาจเต้าหู้น่ะ"
"หา?"
"อืม ในฝันมันเป็นเต้าหู้นิ่มขาวๆอันใหญ่ๆกำลังวิ่งไล่ตามฉันอยู่ มันพยายามจะนั่งทับฉัน ในฝันฉันวิ่งหนีมันใหญ่เลย แล้วตอนที่นายสะกิดฉัน มันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้เต้าหู้บ้านั่นจับแขนฉันพอดี ฉันก็เลยตกใจมากไปหน่อยน่ะ ฮึ่ย พูดแล้วยังขนลุกอยู่เลย"
คีย์เล่าพลางทำท่าขนลุกขนพองอย่างขยะแขยง จนแทมินหัวเราะออกมา
"เต้าหู้นิ่มงั้นเหรอ? ฮ่ะฮ่า ฉันว่ามันน่ารักมากกว่าดูน่ากลัวอีกนะ"
"ฮึ่ย น่ารักงั้นเหรอ นายไม่เป็ฯฉันในฝันนายไม่รู้หรอกว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ไอ้เต้าหู้บ้านั่นยิ้มตาหยี ทุกครั้งเวลาฉันร้อง หรือวิ่งหนีมัน แย่จริง เฮ้ย เอาล่ะฉันรีบไปล้างห้องน้ำดีกว่าเดี๋ยวมันจะยิ่งเย็น"
แทมินพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนคีย์จะโบกมือลาแล้วเดินไปที่ประตูห้องแล้วเอ่ย
"งั้นรอแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวฉันทำแป๊ปเดียวก็เสร็จแล้ว อย่าคิดถึงฉันให้มากนะที่รัก เดี๋ยวจะขาดใจตาย"
คีย์หัวเราะอย่างขำๆ ขณะที่แทมินแลบลิ้นใส่เขาอย่างหมันไส้ และเมื่อคีย์ออกไปจากห้องแทมินก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่าตอนนี้เพื่อนๆของเขาได้กลับกันไปหมดแล้ว แทมินเลยนั่งรออยู่ที่โต๊ะของเขา ก่อนสังเกตุเห็นโน้ตเล็กที่เขาเจอเมื่อกลางวัน
จริงด้วย เขาลืมมันเสียสนิท
ขณะเดียวกันเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งก็เหมือนกำลังเดินใกล้เข้ามาก่อนเขาจะสัมผัสได้ว่าเสียงฝีเท้านั้นมาหยุดยืนที่ตรงประตูเข้าห้องเรียน แทมินจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อมองว่าใครเป็นเจ้าของเสียงฝีเท้านั้น แล้วเขาจึงปรากฏยิ้มน้อยๆออกมาก่อนเอ่ยทักเป็นคนแรก
"ไง มินโฮ"
ชายหนุ่มร่างสูงผู้มาพร้อมกับมาดนิ่งๆนั่นยิ้มให้เขาน้อยๆ ในตาคมจ้องมาที่แทมินแบที่ทำให้เด็กหนุ่มบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันหมายถึงอะไร
"ขอบใจนะที่อยู่รอพบฉัน"
มินโฮเอ่ยสั้นๆก่อนสายตาจะหลุบมองไปทางอื่นคล้ายไม่กล้าสบตาแทมิน
"อืม ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่นายมีอะไรงั้นเหรอถึงให้ฉันอยู่รอพบตอนเย็น"
มินโฮเงยหน้ามองแทมินก่อนนิ่งไปคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนร่างสูงจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างที่เล็กกว่า พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"นายยัง...นายยังคบกับพีจงฮยอนอยู่ใช่มั้ย"
คำถามที่ไม่นึกว่าจะถูกถามจากคนตรงหน้าเล่นเอาแทมินสะดุ้งเหมือนกัน เขารู้จักคนตรงหน้ามาก็พอสมควร เขาเป็นคนพูดน้อยและการที่เขาจะพูดแต่ละครั้งนั่นหมายความว่าเขากลั่นกรองคำพูดมาเรียยบร้อยแล้ว แต่ไม่ใช่กับคำถามนี้ แทมินไม่เข้าใจว่าเขาจะถามไปเพื่ออะไรกัน
"อืม ก็ใช่ ฉันยังคบกับพี่เค้าอยู่"
มินโฮยังคงไม่ละสายตาจากแทมิน ร่างสูงเขยิบเข้าไปใกล้ร่างเล็กอีกนิด ก่อนเอ่ย
"ความนรู้สึกที่นายมีต่อเค้ายังไม่เปลี่ยนใช่มั้ย"
แทมินมองหน้ามินโฮอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนๆนี้จะเป็นผู้ถามคำถามนี้ ในใจลึกของแทมินตอนนี้ชักจะเริ่มไม่พอใจบวกกับงงงวยในพฤติกรรมของคนตรงหน้ามากขึ้นทุกที
"ใช่ ไม่เคยเปลี่ยน ฉันยังสามารถยืนยันได้ว่าฉันยังรักพี่เค้าเหมือนเดิม"
สายตาของมินโฮดูหม่นหมองลงฉับพลันก่อนร่างสูงจะเขยิบเข้าไปใกล้ร่างบางอีกนิดจนตอนนี้เงาของมินโฮทอดทับลงมาบนร่างของแทมินจนเกือบมิด
"แล้วความรู้สึกของพี่จงฮยอนของนายยังเหมือนเดิมรึเปล่า"
ไม่รู้ทำไมแต่คำถามนี้ทำเอาแทมินอารมณ์เสียได้ไม่น้อยจนร่างบางลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ ก่อนจ้องมองมินโฮด้วยสายตาขุ่นเคือง
"ถ้านายจะนัดฉันมาเพื่อถามอะไรไร้สาระอย่างนี้ ฉันว่าฉันไม่น่าอยู่รอนายเลย"
แทมินกล่าวจบก่อนเดินเลี่ยงร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ท่อนแขนกลับถูกคนตัวใหญ่กว่าจับไว้ แล้วดึงร่างบางเข้าไปใกล้พลางยังคงดื้อดึงถามคำถามต่อไป
"นายมั่นใจแค่ไหนว่าเขามีคนอื่นรึเปล่า"
"ปล่อยฉัน มินโฮ"
แทมินพูดเสียงแข็ง เขาไม่เข้าใจว่ามินโฮเป็นอะไรถึงมาทำอะไรแบบนี้กับเขา แถมถามคำถามบ้าๆพวกนี้
"เขามาหานายทุกวันหรือแค่โทรมาบอกว่าคิดถึง"
"หยุดนะ มินโฮ"
"เขาไปดูนายตอนนายป่วยมั้ย"
"มินโฮ!"
"เขาบอกรักนายรึเปล่า ตั้งแต่เดือนสิงหา ปีที่แล้ว"
"ไม่!"
คำตอบที่แทมินไม่นึกว่ามันจะหลุดออกมาจากปากของเขา ทำเอาแทมินต้องยกมือขึ้นตะครุบปากตัวเองโดยพลัน ดวงตาโตส่งสายตาที่ขุ่นเคืองไปยังคนที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนเขา
แทมินเริ่มรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาที่ไม่คิดว่าจะไหลอยู่ก็เอ่อออกมาซะอย่างนั้น เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาโมโหอะไร ระหว่างมินโฮ และ ตัวเขาเอง
มันคงไม่ให้ความรู้สึกแย่ขนาดนี้ ถ้าสิ่งที่มินโฮถามมันจะแตกต่างออกไป
ทั้งๆที่เคยบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่อย่างนี้ พยายามที่จะลืมๆไปว่าพี่เขาทำอย่างนั้นจริงๆ แต่สุดท้ายก็แอบที่จะคิด
ทั้งๆที่บอกว่าจะไม่ร้องไห้เพราะเรื่องแบบนี้แท้ๆ
ร่างบางเริ่มสั่นน้อยๆ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันคล้ายจะอัดอั้นสิ่งที่อึดอัดไว้ไม่ให้ออกมา ร่างสูงมองร่าบางอย่างรู้สึกผิด
นี่เขากำลังให้เธอร้องไห้งั้นหรือ?
"พอใจรึยัง"
น้ำเสียงสั่นเครือถามไปยังคงตัวสูงที่ยังคงจับแขนเขาแน่น แทมินพยายามบิดแขนตัวเองให้หลุดแต่กลับไม่เป็นผลซ้ำร้ายร่างสูงกลับฉกฉวยโอกาสดึงเขาไปกอดจากทางด้านหลัง จนแทมินต้องเบิ่งตากว้างกับการกระทำอันอุกอาจ
"ฉัน..."
คำพูดของมินโฮ ดังข้างหูของแทมินขณะที่ริมฝีปากอุ่นๆของเขาสัมผัสกับหลังใบหูของร่างบาง จนร่างบางสะดุ้งหันไปมองคนที่กำลังกอดเขาด้วยดวงตาที่เอ่อด้วยน้ำตาที่งงงวย
อะไรกัน มินโฮ
"ฉัน...ฉันชอบนาย"
มินโฮเอ่ยประโยคนั้นพร้อมกับดวงตาคมที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของอีกฝ่าย
อะไรนะ นายชอบฉันงั้นเหรอ
--------------------------------------------------------------------
ได้มาอีกบทด้วยความยากลำบากว่าจะเอายังไงดี
สุดท้ายคิดไปคิดมา แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว
ทรมาณใจดีค่ะ คนเขียนชอบ
อัพได้ไม่เท่าไหร่ก็มีคนมาเม้นแล้ว ต้องขอบคุณจริงๆนะคะ ^ ^
ส่วนจะมีใครโผล่มาอีกก็ขอให้ติดตามต่อไปนะคะ เรื่องนี้มีสองคู่ แหะๆ คีย์กับใครตอนนี้ก็คงพอเดาๆได้นะคะ
ยังไงก็ต้อง ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ติดตาม
ป.ล. เพิ่งเห้นค่ะว่าตัวเองลงในหมวดผิด อยากบ้า แก้ไม่ได้ด้วยสิ เอาเป็นว่าอ่านไปทั้งหมวดผิดๆนี่แหละนะคะ
ความคิดเห็น