คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แบบทดสอบหน่วย Dragon!!
การทดสอบหน่วยดราก้อน เป็นการวิจาณ์นิยายฉากหนึ่งที่ไม่ยาวมากครับ(แน่ใจนะว่าฉากเดียว? 55+) ขอให้ผู้เข้าทดสอบวิจาณ์แยกเป็นหัวข้อตามที่กำหนดให้ดังนี้
1. ด้านการบรรยาย (ภาษา การสรรคำ สละสลวย?)
2. การใช้ภาพพจน์ (เหมาะสมพอจะเห็นภาพตามได้แค่ไหน?)
3. รายละเอียดอื่นๆ…(ใส่มาตามแต่เห็นสมควรเลยครับ)
ทุกหัวข้อที่กล่าวมาควรยกตัวอย่างประกอบครับ
แบบวิจาณ์คงไม่ยาวมากเหมือนการบรรยายของหน่วยเพกาซัส เพราะฉะนั้นทำเสร็จรบกวนส่งมาทางข้อความลับของไอดีสมาพันธ์ครับ
ลิ้งค์ไอดี : http://my.dek-d.com/soulink/
สับให้เต็มที่ครับ สรรค์สร้างโดยทีมงานที่ชุ่ยอย่างมีศิลป์โดยแท้(อาจจะมีโฆษณาแฝง - -)
ลมเย็นๆในยามดึกพัดโถมใส่ระเบียงที่เปิดกว้าง ผืนฟ้ายามราตรีกาลมีดวงจันทร์สีนวลลอยเด่นกำลังส่องแสงโชติช่วงชัชวาล สองร่างยืนเคียงคู่เฝ้าดูความงามของมันจนลืมความหนาวไปสิ้น
“พระจันทร์สวยนะเอดิล” เสียงเจ้าชายหนุ่มแห่งดาร์คเนสทุ้มคลออยู่ข้างหู คนฟังขยับรอยยิ้มก็แสร้งเอ่ยหยอด
“สวยกว่าฉันหรือเปล่า”
“แน่นอนสิ” ร่างสูงตอบแบบไม่ต้องคิด เรียกเอาเอดิลหันขวับ ใบหน้าสวยมุ่ยลง เตรียมโยนคนข้างตัวลงนอกราวระเบียง
“พูดจริงหรือเซทิเรียส...” รอยยิ้มที่แย้มขึ้นเรียกเอาความหนาวเย็นแล่นวาบไปทั่วร่าง เจ้าชายหนุ่มรีบออกตัว
“ฉันล้อเล่นหรอกน่า ต่อให้พระจันทร์สิบดวงก็สู้เธอไม่ได้หรอก”
เอดิลยิ้มกว้าง ก่อนจะแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ
“คนขี้โกหกอย่างนาย ฉันจะเชื่อใจได้หรือ?”
คำกล่าวที่เซทิเรียสเลิกคิ้ว ก่อนหัวเราะเบาๆ
“ฉันเคยไปหลอกเธอเมื่อไหร่กัน” มือใหญ่จับไหล่บางให้หมุนมาเผชิญหน้า แลเห็นนัยน์ตาสีมรกตน้ำงามของเจ้าหล่อนกำลังเต้นระริก คิ้วสีเข้มก็ต้องนิ่วลง
ใครกันแน่ที่โดนหลอก
“เธอต่างหากที่ขยันปั่นหัวฉันเล่นเอดิเรีย” นัยน์ตาสีรัตติกาลฉายแววเคร่งขึ้นมาทันใด ผิดกับน้ำเสียงทุ้มที่เจือไปด้วยกระแสเจ้าเล่ห์ชอบกล มือขาวจัดม้วนเรือนผมสีน้ำตาลราวเปลือกไม้เล่น ก่อนสูดกลิ่นหอมหวนด้วยท่าทีพอใจ “จะต้องลงโทษยังไงดีถึงจะสาสม...?”
เอ่ยพร้อมยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ เอดิเรียหน้าแดงแจ๋ พยายามหันหน้าหลบ เสียก็แต่ถูกมือใหญ่คว้าไว้
นัยน์ตาสองคู่สบกันแน่นิ่ง นัยน์ตาสีรัตติกาลจ้องลึกลงไปในดวงตาสีมรกตคู่งามราวสะกด ก่อนจะค่อยขยับเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว
ไม่ทันที่จะได้สัมผัสถึงเรียวปากบาง ประตูเลื่อนที่กั้นระหว่างระเบียงกับห้องนั่งเล่นชั้นสองก็เปิดผ่างออก พร้อมใบหน้าถมึงถึงของเจ้าชายแห่งคานิออส นัยน์เนตรสีน้ำทะเลมีเปลวเพลิงวิบวับชอบกล
“แก ไอ้เซท...” เสียงพึมพำกดต่ำที่เรียกใบหน้าของหนุ่มผมดำยาวให้บูดสนิท
มาได้จังหวะจริงๆ ไอ้ตัวมาร!!
“มีอะไรของแก ฟาเรนเซียร์…”
รังสีทะมึนของเจ้าชายแดนปีศาจทั้งสอง แล่นแปรี๊ยะๆ
ฟาเรนเซียร์เหลือบมองใบหน้าขึ้นสีของเอดิเรียด้วยอารมณ์หงุดหงิดใจ
“เมื่อวานเราตกลงกันว่าไง ไหนบอกว่าไอ้ระเบียงวิวงามนี่มันต้องเป็นของฉัน แต่แกดันชิงเอามาสวีทกับแฟนหน้าตาเฉย!!” อามรณ์ระเบิดที่นานๆจะเห็นได้ทีจากเจ้าชายอสูรจอมเลือดเย็นถูกเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง
เซทิเรียสเลิกคิ้ว
“แกกับแมทดาเรน่าน่ะหรือ...?” เจ้าของเสียงหัวเราะในลำคอ “เห็นเมื่อตอนเย็นเค้าทำท่าจะฝังเขี้ยวบนคอแกอยู่เลย คิดหวังพึ่งพระจันทร์สวยๆลบความผิดตัวเองถ้าจะเป็นไปได้ยาก”
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” ฟาเรนเซียร์เอ่ยรอดไรฟัน เซทิเรียสไหวไหล่
“ต้องโทษที่ไอ้การเข้ามาขัดจังหวะแบบไม่ดูตาม้าตาเรือของแกทำให้ฉันกะเอดิลเสียบรรยากาศ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” เจ้าชายแห่งดาร์คเนสกล่าวแบบไม่แยแส “แกไปหาที่อื่นล่ะกัน ดาดฟ้าไงล่ะ เห็นพระจันทร์ใกล้ๆไม่ชอบหรือ”
“คือ...ความจริงฉันกำลังจะไปอยู่พอดี ฟาเรนคุงเชิญเถ...” เอดิเรียกล่าวไม่ทันจบประโยค เรียวปากก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของร่างสูงข้างตัว
บุคคลที่สามถึงกับเบิกตากว้าง
ต่อหน้าต่อตา ไอ้เซทิเรียส!!
หลายอึดใจที่ฟาเรนเซียร์มีมารยาทพอจะให้ทั้งคู่ผละออกจากกันเสียก่อน นัยน์ตาสีน้ำทะเลฉายประกายเรืองรอง…
“ดาดฟ้ามีเฟรย์กับไอ้เวริสไล่ฆ่ากันเสียงโครมคราม ส่วนริมทะเลสาบก็มีสไปด์กับเนอาร์ไล่จับผีเสื้อกันอยู่ มันมีที่ไหนว่างจะให้ฉันใช้ง้อแมทบ้าง หา!” เจ้าชายอสูรตะโกนลั่นอย่างชักเดือดดาล
เซทิเรียสมุ่นคิ้วคิด ไปหลายอึดใจ ก่อนริมฝีปากบางเฉียบจะปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ห้องนอนฉันไง วิวสวยนะ ยกให้ซักคืนก็ได้…”
ดวงจันทราส่องแสงสว่างงดงามโชติช่วงชัชวาล ส่งให้ทั่วบริเวณสว่างไสวงดงาม ริมทะเลสาบสงบนิ่ง ผิวน้ำเรียบนิ่งไร้การเคลื่อนไหว ต้นไม้สูงกำลังโบกพลิ้วตามแรงลมโชยอ่อนๆ ผิวน้ำทะเลสาบ เป็นสีน้ำเงินเข้มเกือบดำสะท้อนเงาจากดวงจันทราช่างงดงาม
ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตของร่างชายหน้าหวานที่กำลังหย่อนเท้าลงไปในทะเลสาบเย็นเฉียบทั้งที่เจ้าตัวนั้นแต่งชุดกันหนาวเต็มยศ ...ราวหนาวแทบขาดใจ?
“สไปด์” ร่างเพรียวในชุดหนาเอ่ยกระซิบ เรียกคนที่ยืนห่างออกไปราวสามเมตรให้หันมอง
ร่างโปร่งของเจ้าของชื่อปัดผีเสื้อราตรีบนหัวเชิงไล่แล้วสาวเท้าเข้าใกล้ร่างที่นั่งเล่นอยู่ริมทะเลสาบ จุ่มเท้าลงไปในน้ำแล้วชักกลับมาด้วยอาการหนาวสั่น
“ประสาทหรือเปล่า ...เย็นอย่างกับน้ำแข็ง” ดวงตาสีน้ำตาลของชายหน้าหวานฉายรอยยิ้มคล้ายชอบใจ
“เป็นห่วงข้าหรอ”
“กินยาผิดหรือไงเนอาร์ ...ข้าจะห่วงเจ้าไปทำไม” ดวงหน้าหวานเง้าไปถนัดเล่นเอาคนเอ่ยถึงกับเกาหัวแกรก
ดวงตาสีดำสนิทของเจ้าของนามสไปด์ฉายรอยเจ้าเล่ห์เด่นชัด
“ถ้าเป็นเจ้าหญิงรีเนียก็ว่าไปเรื่อง ...ทำไมข้าต้องไปห่วงผู้ชายสุขภาพดีเลิศประเสริฐศรีอย่างเจ้าล่ะ จริงไหม”
“พูดอย่างกับรีเนียเป็นไข้” ดวงตาสีน้ำตาลแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ “สไปด์...ตั้งแต่คาลไม่อยู่ ท่านดูซึมไปเยอะเลยนะ ...ข้าไม่อยากจะคิดเลย ...แต่รูปการมันทำให้ข้าคิด”
“อะไรล่ะ” สไปด์ส่งเสียงหงุดหงิด
“ก็ท่านน่ะ...” เนอาร์ค้างคำไปนิด
“ข้าถามว่าอะไร เจ้าก็ตอบมาสิ” สไปด์ขมวดคิ้วมุ่น
“ก็ข้า...ข้า...” เนอาร์เริ่มอึกอักเมื่อถูกจ้อง
“เนอาร์...เจ้าจะพูดไม่พูด” สไปด์ว่า
“ก็ข้าแค่คิดว่าท่าน...” เนอาร์กลืนน้ำลายยากเย็นแล้วลุกหนี
“เดี๋ยวสิ” สไปด์เอื้อมมือไปฉุดไว้
“ปล่อยนะ” เนอาร์สะบัดสะบิ้ง
“เนอาร์...” สไปด์ว่า
“ก็บอกให้ปล่อยไง” เนอาร์โต้
มือสีซีดของเจ้าชายสไปด์จับต้นแขนของคนตรงหน้าไว้ทั้งสองข้างแล้วยึดไว้อย่างแน่นหนาจนคนโดนจับไม่มีปัญญาจะดิ้น
“พูด... เจ้ามีปัญหาอะไร”
“ก็...ข้าน่ะ คิดถึงแต่คาล ตั้งแต่คาลระเบิดตัวเอง ท่านก็คิดถึงแต่คาล ...จนข้าชักจะคิดว่าท่านน่ะ ...ท่านน่ะ ก็ท่านน่ะ อาจจะไม่ได้ชอบเจ้าหญิงรีเนียอย่างปากว่าก็ได้”
บรม!
สไปด์ขมวดคิ้วมองมัน ดวงหน้าติดจะหวานฉายรอยเง้าทั้งที่กำลังขึ้นสีเรื่อ รอยยิ้มของเจ้าชายแวมไพร์เริ่มแสยะออก
“ข้าพิสูจน์ให้เอาไหม”
“ท่านอาจจะได้ทั้งชายทั้งหญิงนี่”
“ปัดโธ่!” ดวงหน้าซีดๆเริ่มร้อนผ่าวเมื่อมันว่าออกมาลุ่นๆ “เจ้าเอาส่วนไหนคิด ...ข้าคิดถึงคาลเพราะมันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของข้า”
“จะเป็นคนรักก็เริ่มจากเพื่อนทั้งนั้น”
“เจ้าจะพูดหรือจะให้ข้าพูด”
ดวงตาสีน้ำตาลฉายรอยใคร่รู้เมื่อยอมสงบปากสงบคำ
“ข้า...เป็นผู้ชาย ข้าชอบดูดเลือดผู้หญิง โดยเฉพาะเลือดหวานๆของเจ้าหญิงแม่มด” ดวงตาสีดำสนิทฉายรอยล้อ “อยากให้พิสูจน์ ...ก็พารีเนียมา ข้าไม่พิสูจน์กับเจ้าหรอกนะเนอาร์”
แก้มนั้นป่องขึ้นนิดเมื่อหลุดขำ อาการอมยิ้มนั้นชวนให้นึกเขม่นนัก
“อะไรอีก ...อย่าบอกนะว่าเจ้าหลอกข้า”
“เปล่าซะหน่อย” เสียงที่เริ่มหวานนั้นว่าแล้วผละตัวไป “ท่านจะพิสูจน์ไหมล่ะ ...ข้าเจอถ้ำอยู่ตรงนั้น ...ทั้งมืดทั้งเงียบทั้งมิดชิด พ้นหูพ้นตาผู้คนเป็นที่สุด” รอยเย้าในดวงตานั้นเล่นเอาใจเต้นตึกตัก “เจ้าหญิงรีเนียรอแค่สิบห้านาทีนะ ถ้าท่านไม่มาพิสูจน์ ...ข้าว่าความสัมพันธ์หลังจากนี้ ...คงยาก”
เชิญชวนกันขนาดนี้ ...ใครมันจะโง่ไม่เอาเล่า!
ถ้ำ?!
ฟาเรนเซียร์ขมวดคิ้ว ตะกี้เพิ่งเห็นเนอาร์กับสไปด์ชี้โบ้เบ้มาทางนี้ ไม่นึกว่าแมทดาเรน่าจะนึกบ้าเดินตามมาด้วย ชายหนุ่มมองไปตามผนังถ้ำมืดๆก่อนหันไปแฟนสาว
ดีล่ะ..
หาโอกาสง้อเจ้ามานานแล้ว ได้สบโอกาสดีเอาก็คราวนี้ล่ะ ครึๆ
“นึกอะไรชวนข้ามาเข้าถ้ำ”
พูดไม่พูดเปล่ามือใหญ่เริ่มเลื้อยมาโอบทันทีทันใด แต่เจ้าหญิงถลึงตาก่อนศอกโครมเข้าให้
“ข้าอยากกินค้างคาว เอ๊ย! จะมาหาภูติรับใช้น่ะ”
“อยู่ในนี้แน่เรอะ?”
“ก็โรเว่นบอกมางั้น”
“จริง..ฉันบอกแมทไปว่างั้น” เสียงหวานใสของท่านเค้านท์หนุ่มหน้าหวานดังขึ้นข้างหูฟาเรนเซียร์ ชายหนุ่มขนลุกซู่ก่อนกระโดดหนี ดวงตาสีน้ำทะเลถลึงมองตาโต
อุวะ!
มีมารมาขัดจังหวะอีกแล้วว้อย!
(นักเขียนพวกนี้คงชอบทรมานคนหล่อสินะ หึๆ)
“เจ้ามาได้ไง” ฟาเรนเซียร์ตะโกนลั่นด้วยความปรี๊ดแตก
“แมทอุ้มฉันมา” โรเว่นเดินมาคล้องแขนหญิงสาวด้วยท่าทีสนิทสนม
“จริงเรอะ!”
“อืม แล้วไง” แมทดาเรน่าตอบหน้าตายทำเอาเจ้าชายอสูรหน้ามืดไปในทันที
“นี่เจ้าให้ชายอื่นเกาะไหล่มาทั้งๆที่เดินอยู่กับข้าเนี่ยนะ”
“คิดมากไปน่า ฟาเรนเซียร์” แมทดาเรน่าชักอารมณ์กรุ่นเอ่ยลอดไรฟัน เจ้าหล่อนนึกอยากจะฝังเขี้ยวลงคอเจ้าชายจอมหึงงี่เง่าคนนี้เต็มแก่ ถ้าไม่ติดว่ามีคนนอกอยู่ล่ะก็นะ
โรเว่นซึ่งกลายเป็นคนนอกแต่อยู่ในประเด็นมองตามคนทั้งสองที่เขม่นตาใส่กันอย่างอึดอัด แวมไพร์หนุ่มกระแอมเบาๆหนึ่งทีก่อนจะแปลงร่างเป็นค้างคาวน้อยขนปุย
หมดสนุกแล้วก็จรลีจะดีกว่า~
“เอ่อ..ขอตัวก่อนนะ อย่ากัดกันตายไปซะก่อนล่ะ”
“อืม..” แมทดาเรน่าหันมาโบกมือลาค้างคาวน้อยหย็อยๆด้วยท่าทีเป็นมิตรร่าเริง ฟาเรนเซยร์มองท่าทีนั้นตาค้าง...ทีกับข้าไม่เห็นเจ้าทำแบบนั้นเลยนะ!
เมื่ออยู่กันตามลำพังในถ้ำอย่างแท้จริง เจ้าชายหนุ่มดวงตาสีฟ้าทะเลก็สูดหายใจลึกๆราวเก็บกลั้นอารมณ์ก่อนยิ้มบางให้แฟนสาว ขณะที่เดินจูงมือบางให้ตามมาในถ้ำมืดสลัว เมื่อคืนก่อนก็ผิดนัดที่ริมห้องวิวสุดหรูไปทีแล้วตอนนี้เขาตั้งใจไว้ว่าต้องง้อเจ้าหล่อนให้ได้
“แมท..”
“บ้าอะไรอีกล่ะ..”
………..เงียบกันไปชั่วอึดใจ
น้ำเสียงทุ้มนุ่มไม่คุ้นหูดังขึ้นในความมืด แมทดาเรน่าหันมามองหน้าฟาเรนเซียร์ก่อนเลิกคิ้ว
ฟาเรนเซียร์....?
“มาปากหวานอะไรตอนนี้ เด้วปั๊ดเหวี่ยงตกน้ำเลยนี่”
เสียงหวานของหญิงสาวที่ไม่คุ้นหูแสดงออกว่าเขินจัด ฟาเรนเซียร์ทอดมองแมทดาเรน่านิ่ง
แมทดาเรน่า....?
“ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ!”
เจ้าชายปีศาจตัวสั่นเทิ้มอย่างโกรธเกรี้ยว ดวงตาวาววับก่อนเอ็ดตะโรลั่นโถงถ้ำจนทำให้ชายหนุ่มผมดำยาวและหญิงสาวผมสีน้ำตาลเข้มที่นัวเนียกันอยู่ถึงกับหันมามองพร้อมกันด้วยสายตางุนงง
เซทิเรียสขยับยิ้มเหี้ยมให้ฟาเรนเซียร์ เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตอนที่กำลังจะมีความสุขจึงต้องโดนฟาเรนเซียร์มาขวางอยู่เรื่อยไป
“เซทิเรียส นี่เอ็งมาพลอดรักอะไรกันในถ้ำนี้อีกเนี่ย!!!!”
****กำหนดส่ง 30 เม.ย. 52
****ประกาศผล 2 พ.ค. 52
ความคิดเห็น