“จานใบที่หนึ่ง จานใบที่สอง จานใบที่สาม......”
สำหรับคอหนัง หรือการ์ตูนญี่ปุ่นโดยเฉพาะที่เป็นหนังผี อาจจะเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ เป็นเสียงที่ลอยมาตอนกลางคืนที่เย็นยะเยือก และเสียงนั้นก็ “เย็น” พอกัน ทำให้ตัวละครในหนังเกิดอาการหวาดผวา กลัวผีจนต้องนอนคลุมโปง
แต่คน ไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะเข้าใจมุขนี้ ไม่รู้ว่าทำไมกะอีแค่เสียงผู้หญิงนับจานถึงได้น่ากลัว นั่นเพราะยังไม่ได้รู้เรื่องอันเป็นที่มาของเสียงนับจาน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็น “เรื่องจริง” ของวิญญาณที่ถูกสังหารโดยไม่มีความผิด เลยต้องส่งเสียงมาเรียกร้องหาความยุติธรรม
(เรื่องอย่างนี้ คงทำนองเดียวกับละครไทย ที่เมื่อมีผู้หญิงร้องเสียงเย็นๆ ว่า “พี่มาก...ก...ก...จ๋า...” ก็เป็นอันเข้าใจว่า วิญญาณแม่นากมา ในขณะที่คนชาติอื่นอาจจะไม่เข้าใจเหมือนเรา)
วิญญาณทรมานของหญิง สาวชาวญี่ปุ่นที่ต้องมาอุทธรณ์ขอความเป็นธรรมด้วยการนับจานนี้ มีชื่อว่า “โอกิกุ” (Okiku) ผู้หญิงในตำนานที่เล่าขานกันมานานว่าเป็นเรื่องจริงแห่งปราสาทชื่อดังที่สุด ของญี่ปุ
่น และได้รับการยกย่องให้มรดกทางวัฒนธรรมของโลกจากยูเนสโก “ปราสาทฮิเมจิ” (Himeji Castle)
ว่า กันว่าโอกิกุเป็นสาวใช้ที่ดูแลบ้านให้ขุนนางชื่อ “อาโอยามา” (Aoyama) วันหนึ่งโอกิกุเกิดไปได้ยินเรื่องอันเป็นความลับสุดยอดของอาโอยามา คือแผนการสังหารผู้ปกครองปราสาทฮิเมจิ สาวเจ้าเลยนำความไปบอกคู่รักที่เป็นซามูไรอยู่ในปราสาทนี้ ทำให้แผนการร้ายของอาโอยามาต้องล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้ปฏิบัติการ
อา โอยามาโกรธสาวใช้ปากโป้งคนนี้มาก เลยคิดที่จะจัดการเสียให้หายแค้น ด้วยการแกล้งทำจานที่มีค่าหายไป ๑๐ ใบ ก่อนจะปรักปรำโอกิกุว่าเป็นหัวขโมย ทำให้สาวใช้ผู้โชคร้ายถูกจับกุม ทรมานด้วยวิธีการต่างๆ และลงท้ายด้วยการโยนเธอลงไปในบ่อน้ำแห่งหนึ่งในปราสาทจนถึงแก่ความตาย
เรื่อง ไม่ได้จบลงตรงแต่ความตายของโอกิกุ เพราะเมื่อเธอหายไป ก็มีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ พร้อมนับ “จานใบที่หนึ่ง จานใบที่สอง...” ลอยมาจากบ่อน้ำ ทำเอาคนขวัญอ่อนกระเจิง แต่คนที่ใจกล้าหน่อยก็ลงไปพิสูจน์ จึงพบศพของเธอ และความจริงของฆาตกรรมโหดก็ถูกเปิดเผยขึ้น
ว่ากันว่า แม้ความจริงจะถูกเปิดเผย คนผิดถูกลงโทษ แต่เสียงสะอื้นไห้นับจานของโอกิกุก็ยังไม่หายไป ซ้ำยังสร้างความสะเทือนขวัญด้วยการ “ตามหาจาน” ต่อเนื่องมาอีกนาน จนมีการทำพิธีอัญเชิญวิญญาณของเธอให้ไปสู่สุคติในเวลาต่อมา
จากวัน นั้นถึงวันนี้ ในปราสาทฮิเมจิ ก็มีบ่อน้ำที่เรียกขานกันต่อมาว่า “บ่อน้ำโอกิกุ” ซึ่งเป็นบ่อน้ำหนึ่งในจำนวนหลายสิบบ่อของปราสาทแห่งนี้ซึ่งสร้างไว้ป้องกัน ปราสาทตาม
หลักยุทธศาสต์
ที่มา : http://www.osc.ac.th
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น