คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ลอว์ลูฟี่
PROLOGUE
“ไม่เอา” ประโยคนี้ดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อยกว่าเห็นจะได้ ชายหนุ่มในเครื่องแบบนักศึกษาที่นั่งพิงโซฟาอยู่คือเจ้าของคำพูด สีผิวคล้ำและรูปร่างสูงโปร่งเรือนผมสีดำสนิทที่เหมือนจะไม่ได้ผ่านการถูกจัดเซทมา นัยต์ตาเรียวรีเฉกเดียวกับสีผมมองผ่านไปยังบุคคลตรงหน้าด้วยแววตานิ่งงัน
“แต่ความหวังฉันอยู่ที่แกลอว์” บุคคลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเอ่ยบอก
เจ้าของชื่อ ทราฟาลก้า ลอว์ ถอนหายใจ
“ฉันไม่ถูกกับเด็ก” สารภาพไปตามจริง แต่ถ้าจะให้พูดดีๆก็คือเขาไม่ถูกกับอะไรสักอย่าง
“ให้มันได้อย่างนี้สิ” อีกฝ่ายยกมือขึ้นมากุมขมับ นึกหนักใจกับคำปฏิเสธของชายหนุ่มตรงหน้า แต่ความหวังของเขาก็มีเพียงแค่หมอนี่คนเดียวเท่านั้น
พลันความคิดอะไรบางอย่างก็แวบเข้ามาภายในหัวสมอง ชายมีอายุเหลือบมองลอว์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนาในมือตรงหน้าอย่างไม่สนใจอะไร ก่อนที่เขาจะเผยยิ้มร้ายออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถล่วงรู้ถึงแผนการณ์อันแยบยลที่เขาเพิ่งคิดได้อย่างนึกสนุก
ดังนั้นชายวัยกลางคนก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยปากบอกลาอีกฝ่าย
“งั้นฉันไม่รบกวนแกก็ได้ ไว้จะไปหาคนอื่นแทนก็แล้วกัน”
“ตามสบายตาแก่”
“เหอะ งั้นฉันไปล่ะ” การ์ป เอ่ยบอกเพียงแค่นั้นก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินออกไปจากห้องพักของอีกฝ่ายบนคอนโดหรูที่สูงมากกว่าสิบชั้นอย่างสบายอารมณ์
เดินฮัมเพลงออกมาอย่างสบายใจ
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินยอม ก็ต้องยัดเยียดให้ !
1
ชีวิตภายในรั้วมหาลัยของ ทราฟาลการ์ ลอว์ นั้นไม่มีอะไรที่หน้าแปลกใหม่หรือหน้าสนใจเป็นพิเศษ ชายหนุ่มตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อนั่งทบทวนบทเรียนที่จะใช้สอบในวิชาเรียนภาคเช้าที่จะถึงนี้ และหลังจากทบทวนจนสมองของเขาจดจำได้อย่างแม่นยำ ก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะออกมาจัดการกับเรื่องของกินในมื้อเช้าเป็นเวลาต่อมา
ขนมปังธัญญาพืชกับนมอุ่นๆหนึ่งแก้วนั้นคงเป็นมื้อเช้าที่คุ้นเคยของใครหลายคน แต่สำหรับเขาแล้วเพียงแค่กาแฟร้อนสักแก้วก่อนออกไปทำกิจกรรมอื่นในชีวิตประจำวันก็ถือว่าเพียงพอ
หลังจากที่น้ำร้อนนั้นถูกรินใส่ลงไปในแก้วใบใหญ่ ชายหนุ่มก็ใช้ช้อนคนจนเข้ากันก่อนจะตรงไปยังห้องรับแขก ทิ้งน้ำหนักตัวนั่งลงไปบนโซฟาตัวใหญ่พร้อมกับวางแก้วกาแฟที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะกระจกใสตรงหน้า หยิบเอาตำราการแพทย์ที่ซื้อมาเมื่อไม่นานนี้ขึ้นมาอ่านพร้อมจิบกาแฟควันหอมกรุ่นนั้นควบคู่ไปด้วย
ชีวิตของเขาในวันนี้เกือบจะสมดุลกลมกลืนไปเหมือนกับวันอื่นๆ
ถ้าไม่ติดว่าเสียงออดภายในห้องพักของเขานั้นดังขึ้นมาเสียก่อน
ลอว์ชะงักไปพักหนึ่งเมื่อได้ยิน ก่อนที่เขาจะวางหนังสือและแก้วที่ถืออยู่ในมือนั้นลงบนโต๊ะเช่นเดิม พลางยันตัวลุกขึ้นยืนขยับเนคไทของตนเองให้เข้าที่แล้วสาวเท้าก้าวไปยังบานประตูที่ปิดสนิทอยู่ของตนเอง พร้อมเสียงออดนั่นที่ยังคงดังขึ้นมาไม่ขาดสาย
ในใจก็นึกหงุดหงิดไม่น้อยที่ดูเหมือนฝ่ายที่ยืนอยู่อีกฟากของประตูจะไม่มีความเกรงใจอะไรเลยถึงได้เล่นกดออดห้องคนอื่นเขารัวเป็นว่าเล่นแถมไม่มีหยุดพักแบบนี้
“มาหาใคร?” และทันทีที่ลอว์เปิดประตูออกไป ภาพแรกที่เขาเห็นก็คือร่างของเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนมอปลายของโรงเรียนมัธยมที่เขาจำได้ว่าอยู่ในย่านใกล้เคียงกับมหาลัยของเขา
“ฉันมาหาคนที่ชื่อ…เอ่อ อะไรนะ” เด็กตรงหน้าตอบกลับก่อนจะหยุดชะงักไปพักหนึ่ง พร้อมกับดวงตากลมโตที่กรอกไปมาอย่างครุ่นคิด บวกกับนิ้วเรียวที่ยกขึ้นมาเกาแก้มของตนเองอย่างวางตัวไม่ค่อยถูก
นั่นเป็นข้อยืนยันได้ดีเลยว่าคนตรงหน้านั้นได้ลืมชื่อของบุคคลที่ต้องการจะมาหาเป็นที่เรียบร้อย
“นึกได้หรือยัง ฉันไม่มีเวลาว่างพอที่จะมายืนรอนายนึกชื่อคนอื่นแล้วบอกให้ฟังหรอกนะ” ลอว์ตอบอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ทว่าใบหน้าของเขาก็ยังคงเคล้าความนิ่งเอาไว้ไม่เปลี่ยน
“อ่า … ฉันจำชื่อคนๆนั้นไม่ได้อ่ะ โทษทีนะ” อีกฝ่ายตอบกลับพลางฉีกยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากต่อ “แต่ปู่ของฉันบอกว่าเจ้าของห้องนี้เขาอนุญาตให้ฉันอยู่ด้วยชั่วคราวระหว่างที่ปู่ไปต่างประเทศน่ะ”
แน่นอนว่าหลังจากจบคำพูด ลอว์ถึงกับคิ้วกระตุกทันที
คำว่าปู่ที่อีกฝ่ายพูดมา ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเขาก็พอจะรู้แล้วว่าใคร
แสบไม่เบาเลยนะตาแก่นั่น …
“ฉันว่านายจำเลขห้องผิดแล้วล่ะ ขอโทษนะ แต่ฉันขอตัวก่อน” ลอว์พูดพลางก้าวถอยหลัง ก่อนใช้มือดึงบานประตูไว้เตรียมจะปิดลงตัดบทสนทนากับเด็กตรงหน้าภายในทันที แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไหวตัวทันกว่า รีบใช้ลำตัวของตนเองแทรกผ่านเข้ามาภายในช่องแคบของบานประตูได้อย่างหวุดหวิดแต่ทันการณ์ด้วยความเร็ว
“ดะ … เดี๋ยวก่อนสิ!” เด็กคนนั้นว่าพลางเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่ปั้นหน้าไม่สบอารมณ์ใส่อย่างเห็นได้ชัด
“เข้ามาในห้องฉันทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก เขาเริ่มจะฟิวส์ขาดเข้าไปทุกที
“ฉันว่าเลขห้องนี้ต้องถูกแล้วแน่ๆ ปู่บอกมาแบบนั้น!”
“ไม่ล่ะ ฉันว่านายจำเลขห้องผิด”
“นี่ฉันพูดจริงนะ” เด็กคนนั้นว่าก่อนจะใช้จังหวะที่อีกฝ่ายเผลอแทรกตัวเข้ามาภายในห้องด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับเสียงบานประตูที่ถูกปิดลงสนิทไป
“แก ! ใครอนุญาตให้เข้ามา ?!”
“ทะ…ทราฟาล ทราฟาลก้า ลอว์ นี่แหละชื่อนี้เลย !”
นอกจากจะไม่ฟังสิ่งที่ชายหนุ่มพูดแล้ว เด็กคนนั้นยังเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียงดังลั่นด้วยความดีใจก่อนจิ้มนิ้วลงไปบนหน้าอกของอีกฝ่ายที่มีป้ายชื่อปักติดอยู่บนเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดตา
“ชิ !” ลอว์สบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะปัดมือของอีกคนออกไปอย่างไม่พอใจ “ยังไงซะที่นี่ไม่ต้อนรับแกหรอก ออกไปอยู่ที่อื่นเถอะ”
“เฮ้ ได้ไงล่ะ! นอกจากที่นี่ฉันก็ไม่มีที่ไหนจะให้ไปแล้วนะ”
“หมายความว่าไง?” ร่างสูงกว่าเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ก็เพิ่งย้ายมาจากโกเบ”
จบประโยค ลอว์ถอนหายใจลั่น
“ให้ฉันอยู่ด้วยเถอะนะ จะให้กลับไปอยู่ที่ที่อยู่กับปู่ในตอนแรกก็ไม่ได้แล้วด้วย”
“ทำไม?”
“ไม่มีกุญแจไขเข้าไป”
“พังเข้าไปก็จบเรื่อง”
“ทำแบบนั้นฉันก็โดนปู่ฆ่าตายเอาน่ะสิ!” เด็กตรงหน้าโวยวายออกมา ลอว์หลุดขำออกมาเล็กน้อยกับสีหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะรีบเก๊กขรึมตามเดิม
แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่อยากจะให้อีกคนอยู่ที่นี่ด้วยอยู่ดี
“นะ ให้อยู่ด้วยเถอะนะ … นะๆๆ” ว่าพลางยกมือขึ้นมาประกบกัน ยื่นปากออกมาเล็กน้อยพร้อมทำตาปริบๆใส่อีกฝ่ายอย่างออดอ้อน
คิดว่าเขาจะใจอ่อนหรือไง? เหอะ
“บอกว่าไม่ก็ไม่ ออกไปซะ”
“อย่ามาใจดำหน่อยเลย นายจะไล่เด็กอย่างฉันให้ไปนอนข้างถนนหรือไง”
“ก็ถ้าคิดว่านอนได้ก็เชิญเลย”
“ไม่เอานะเฮ้ย! พูดเล่นเฉยๆเอง ยังไงฉันก็จะอยู่ที่นี่ให้ได้” บอกออกมาอย่างไม่ยอมแพ้
และก็เป็นอีกครั้งที่ลอว์ถอนหายใจออกมา
นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้เซลล์สมองของเขาตายไปกี่ล้านตัวแล้ว …
“ให้แค่สามวัน” ร่างสูงตัดสินใจพูดขึ้นพลางชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วยื่นไปตรงหน้าอีกฝ่าย
“หือ? สามวันแล้วจะทำไมเหรอ” ร่างเล็กเองก็ว่าออกมาอย่างไม่เข้าใจ และด้วยความหมั่นไส้กับท่าทางของอีกฝ่ายร่างสูงกว่าเลยยื่นนิ้วทั้งสามของตนเองนั้นจิ้มไปบนหน้าผากที่ปรกไปด้วยเส้นผมสีดำสนิทนั่นอย่างแรง
“ทำอะไรเนี่ย! เจ็บนะ!” โวยวายลั่น พลางยกมือขึ้นมาปิดหน้าผากของตนเองเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว
“สามวันที่นายจะได้อยู่ที่นี่ หลังจากนั้นไปหาที่อยู่เอาเอง”
“สี่วันไม่ได้เหรอ” เด็กตรงหน้าทำเสียงจ๋อย
“งั้นสี่วัน” ลอว์เพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นมาอีกหนึ่งนิ้ว
“ห้าวันนะ”
“งั้นสามวันเหมือนเดิม”
“เฮ้ย! สี่วันก็ได้!” แทบจะวิ่งไปตะครุบนิ้วของอีกฝ่ายที่กำลังจะลดลงเหลือสามเพียงเหมือนเดิมเอาไว้ในทันที
“โอเค งั้นสี่วันจำไว้ด้วยล่ะ”
“ได้เลย! งั้นฉันขอไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับพนักงานข้างล่างก่อนล่ะ!” ว่าขึ้นมาด้วยความดีใจ ลอว์เองที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารับเล็กน้อยเตรียมจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องรับแขกของตนเอง ถ้าไม่ติดว่าถูกอีกฝ่ายดึงข้อมือเอาไว้เสียก่อน
หมับ !
“อะไร?” หันกลับไปถามแทบจะทันที เด็กตรงหน้ายิ้มก่อนจะปล่อยข้อมือของร่างสูงให้เป็นอิสระ ถอยห่างออกไปสองสามก้าวก่อนจะโน้มตัวโค้งลงไปอย่างนอบน้อม เพียงไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มกว้างให้เหมือนเดิม
“ผม มังกี้ ดี ลูฟี่ ฝากตัวด้วยนะคร้าบ~”
ความคิดเห็น