ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { 2113SECRET }

    ลำดับตอนที่ #7 : ลำดับตอนที่ 7

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 57







    PROLOGUE

     

    ไม่เอา ประโยคนี้ดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อยกว่าเห็นจะได้ ซึ่งชายหนุ่มในเครื่องแบบนักศึกษาที่นั่งพิงโซฟาอยู่คือเจ้าของคำพูด สีผิวคล้ำและรูปร่างสูงโปร่งเรือนผมสีดำสนิทที่เหมือนจะไม่ได้ผ่านการถูกจัดเซทมา นัยต์ตาเรียวรีเฉกเดียวกับสีผมมองผ่านไปยังบุคคลตรงหน้าด้วยแววตานิ่งงัน

     

    แต่ความหวังฉันอยู่ที่แกลอว์บุคคลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเอ่ยบอก

     

    เจ้าของชื่อ ทราฟาลก้า ลอว์ ถอนหายใจ

     

    ฉันไม่ถูกกับเด็กสารภาพไปตามจริง แต่ถ้าจะให้พูดดีๆก็คือเขาไม่ถูกกับอะไรสักอย่าง

     

    ให้มันได้อย่างนี้สิอีกฝ่ายยกมือขึ้นมากุมขมับ นึกหนักใจกับคำปฏิเสธของชายหนุ่มตรงหน้า แต่ความหวังของเขาก็มีเพียงแค่หมอนี่คนเดียวเท่านั้น

     

    พลันความคิดอะไรบางอย่างก็แวบเข้ามาภายในหัวสมอง ชายมีอายุเหลือบมองลอว์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนาในมือตรงหน้าอย่างไม่สนใจอะไร ก่อนที่เขาจะเผยยิ้มร้ายออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถล่วงรู้ถึงแผนการณ์อันแยบยลที่เขาเพิ่งคิดได้อย่างนึกสนุก

     

    เมื่อคิดได้ดังนั้นชายวัยกลางคนก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยปากบอกลาอีกฝ่าย

     

    งั้นฉันไม่รบกวนแกก็ได้ ไว้จะไปหาคนอื่นแทนก็แล้วกัน

     

    ตามสบายตาแก่

     

    เหอะ งั้นฉันไปล่ะการ์ป เอ่ยบอกเพียงแค่นั้นก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินออกไปจากห้องพักของอีกฝ่ายบนคอนโดหรูที่สูงมากกว่าสิบชั้นอย่างสบายอารมณ์

     

    เหมือนแกรู้จักฉันน้อยไปแล้วเจ้าลอว์ !

     








    1

     

    ชีวิตภายในรั้วมหาลัยของ ทราฟาลการ์ ลอว์ นั้นไม่มีอะไรที่หน้าแปลกใหม่หรือหน้าสนใจเป็นพิเศษ ชายหนุ่มตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อนั่งทบทวนบทเรียนที่จะใช้สอบในวิชาเรียนภาคเช้านี้ และหลังจากทบทวนจนสมองของเขาจดจำได้หมดทุกอย่าง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะออกมาจัดการกับเรื่องของกินในมื้อเช้าเป็นเวลาต่อมา

     

    ขนมปังธัญญาพืชกับนมอุ่นๆหนึ่งแก้วนั้นคงเป็นมื้อเช้าที่คุ้นเคยของใครหลายคน แต่สำหรับเขาแล้วแค่เพียงนมอุ่นแก้วเดียวก็พอ

     

    ชายหนุ่มหยิบแก้วที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัวตรงไปยังห้องรับแขก ทิ้งน้ำหนักตัวนั่งลงไปบนโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะวางแก้วที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะกระจกใสตรงหน้า พลางหยิบเอาตำราการแพทย์ที่ซื้อมาเมื่อไม่นานนี้ขึ้นมาอ่านพร้อมจิบนมอุ่นร้อนนั้นควบคู่ไปด้วยอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน

     

    ชีวิตของเขาในวันนี้เกือบจะสมดุลกลมกลืนไปเหมือนกับวันอื่นๆ

     

    ถ้าไม่ติดว่าเสียงออดภายในห้องพักของเขานั้นดังขึ้นมาเสียก่อน

     

    ลอว์ชะงักไปพักหนึ่งเมื่อได้ยิน ก่อนที่เขาจะวางหนังสือและแก้วที่ถืออยู่ในมือนั้นลงบนโต๊ะเช่นเดิม พลางยันตัวลุกขึ้นขยับเนคไทของตนเองให้เข้าที่แล้วสาวเท้าก้าวไปยังบานประตูที่ปิดสนิทอยู่ของตนเอง พร้อมกับเสียงออดนั่นที่ยังคงดังขึ้นมาไม่ขาดสาย

     

    ในใจก็นึกหงุดหงิดไม่น้อยที่ดูเหมือนฝ่ายที่ยืนอยู่อีกฟากของประตูจะไม่มีความเกรงใจอะไรเลยถึงได้เล่นกดออดห้องคนอื่นเขารัวแถมไม่มีหยุดพักแบบนี้

     

    มาหาใคร ?” และทันทีที่ลอว์เปิดประตูออกไป ภาพแรกที่เขาเห็นก็คือร่างของเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนมอปลายของโรงเรียนมัธยมที่เขาจำได้ว่าอยู่ในย่านใกล้เคียงกับมหาลัยของเขา

     

    ฉันมาหาคนที่ชื่อ เอ่อ อะไรนะเด็กตรงหน้าตอบกลับก่อนจะหยุดชะงักไปพักหนึ่ง พร้อมกับดวงตากลมโตที่กรอกไปมาอย่างครุ่นคิด บวกกับนิ้วเรียวที่ยกขึ้นมาเกาแก้มของตนเองอย่างวางตัวไม่ค่อยถูก

     

    นั่นเป็นข้อยืนยันได้ดีเลยว่าคนตรงหน้านั้นได้ลืมชื่อของบุคคลที่ต้องการจะมาหาเป็นที่เรียบร้อย

     

    นึกได้หรือยัง ฉันไม่มีเวลาว่างพอที่จะมายืนรอนายนึกชื่อคนอื่นแล้วบอกให้ฟังหรอกนะลอว์ตอบอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ทว่าใบหน้าของเขาก็ยังคงเคล้าความนิ่งเอาไว้ไม่เปลี่ยน

     

    อ่า ฉันจำชื่อคนๆนั้นไม่ได้อ่ะ โทษทีนะอีกฝ่ายตอบกลับพลางฉีกยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากต่อ แต่ปู่ของฉันบอกว่าเจ้าของห้องนี้เขาอนุญาตให้ฉันอยู่ด้วยชั่วคราวช่วงที่ปู่จะไปอยู่ต่างประเทศ

     

    และแน่นอนว่าจบคำพูดลอว์ถึงกับคิ้วกระตุกทันที

     

    คำว่าปู่ที่อีกฝ่ายพูดมา ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเขาก็พอจะรู้แล้วว่าใคร

     

    แสบไม่เบาเลยนะตาแก่นั่น

     

    ฉันว่านายจำเลขห้องผิดแล้วล่ะ ขอโทษนะ แต่ฉันขอตัวก่อนชายหนุ่มร่างสูงพูดพลางก้าวถอยหลัง ก่อนใช้มือดึงบานประตูไว้เตรียมจะปิดลงตัดบทสนทนากับเด็กข้างหน้าภายในทันที แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไวกว่ารีบใช้ลำตัวของตนเองแทรกผ่านเข้ามาภายในช่องแคบของบานประตูได้อย่างหวุดหวิดแต่ทันการณ์

     

    ดะ เดี๋ยวก่อนสิ !” เด็กคนนั้นว่าพลางเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่ปั้นหน้าไม่สบอารมณ์ใส่อย่างเห็นได้ชัด

     

    เข้ามาในห้องฉันทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก เขาเริ่มจะฟิวส์ขาดเข้าไปทุกที

     

    “”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×