คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ( sf ) The Second Lover - chapter 3 - [HUNHAN ft.KAI]
Title : THE SECOND LOVER
Chapter : 3
Story by : Vanilla1127
ร่วมสามเดือนแล้วที่เซฮุนเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่ม จนกระทั่งเดี๋ยวนี้เรียกได้ว่าสนิทสนมถึงขั้นเล่นหัวกันได้อย่างสบายใจ ก็คงจะมีแต่จงอินที่จะดูไม่ค่อยลงรอยกับเซฮุนเสียเท่าไหร่ เหตุผลก็เรื่องเดิมๆที่ไม่พ้นเรื่องลู่หานอยู่แล้ว ยิ่งระยะหลังมานี้ที่เหมือนคนตัวเล็กจะดูเป็นห่วงเป็นใยเซฮุนออกหน้าออกตาหรือแม้กระทั่งอาการเขินอายที่ลู่หานมักแสดงออกบ่อยๆโดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่ใกล้กับเซฮุน และมันก็ทำให้คิมจงอินไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“ที่จริงน่าจะพักสักวัน”
ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย มือก็ถือสมุดพัดให้คนรักที่นั่งฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะด้วยท่าทางอิดโรยเพราะต้องอดนอนโหมทำรายงานที่ต้องส่งตอนปลายเทอมให้เสร็จ สภาพร่างบางที่เคยน่ารักสดใสก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ขอบตาดำคล้ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ไม่อยากจะลุกไปทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากนอนกับนอน และคาดว่าจงอินก็คงจะอาการเดียวกันเพราะจนป่านนี้ยังไม่เห็นหน้าทั้งที่ปกติหากนัดเจอกันเขามักจะมาก่อนใคร แต่วันนี้กลับยอมให้คนที่มาสายที่สุดเป็นนิจอย่างลู่หานมาก่อนเสียได้
อันที่จริงทั้งแบคฮยอนและจงอินก็สมควรจะว่างงานเหมือนกับคนอื่น เพราะลำพังงานของนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ปีสองกับปีสามไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ทั้งคู่ดันไปลงวิชาเลือกที่เป็นที่ร่ำลือกันว่ามหาโหดของคณะอักษรศาสตร์ ผลก็เลยออกมาเป็นอย่างที่ทุกคนเห็นกัน
“ดูจากสภาพนายแล้ว ฉันว่าถึงเข้าเรียนก็คงไม่รู้เรื่องหรอก โดดกันดีกว่าน้า แบคฮยอนอา~”
“พอเลยครับฮยอง ไม่ต้องมาชวนแฟนผมเสียคนเลย”
ลู่หานที่กำลังเขย่าแขนอ้อนวอนเพื่อนอยู่หันมาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันให้ชานยอลโทษฐานที่มาขัดจังหวะไม่เข้าท่า เรื่องของเรื่องคือวันนี้หนังที่ลู่หานบ่นว่าอยากดูมากถึงมากที่สุดจะเข้าฉายเป็นวันแรก และตอนนี้ใจมันก็ลอยไปถึงโรงหนังเสียแล้ว ก็เขาอยากไปตอนนี้ อยากจะดูเดี๋ยวนี้แล้วนี่นา
“พี่เป็นห่วงแบคฮยอนต่างหาก ไม่ได้จะชวนเสียคนสักหน่อย”
“ไม่ต้องมาเนียนเลย วันนี้หนังที่พี่อยากดูมันเข้าโรงไม่ใช่หรือไง กะจะชวนแบคกี้โดดเรียนไปดูหนังล่ะสิ ผมรู้ทันน่า”
“ไม่ใช่สักหน่อย!”
เสียงหวานค้านหัวชนฝา ลู่หานแสร้งทำหน้าบึ้งเจ็บใจที่ถูกคนเด็กกว่ารู้ทันจนได้ คนที่นั่งอยู่ตรงกลางอย่างแบคฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพลียจะตายอยู่แล้วยังจะต้องมาทนฟังเพื่อนกับแฟนตะโกนเถียงกันข้ามหัวเขาไปมาอยู่ได้ อยากจะบ้าตาย
“จะเรียนหรือจะดูหนังก็ไม่ไปทั้งนั้นแหละ ฉันอยากนอนจะแย่ นี่อุตส่าห์ลากสังขารมาส่งงานได้ก็บุญโขแล้ว” ตารีหันไปเหวี่ยงใส่ทั้งชานยอลและลู่หานคนละที ต่างฝ่ายได้แต่หงอยไปแต่ไม่วายยังแลบลิ้นใส่กันเป็นการส่งท้าย
“งั้นแบคกี้กลับคอนโดไหม เดี๋ยวผมไปส่ง”
“นายมีเรียนไม่ใช่เหรอ”
“อีกตั้งสองชั่วโมง ไปส่งแบคกี้ก่อนก็ได้ครับ”
ชานยอลบอกพร้อมกับลูบหัวแฟนตัวเล็กเบาๆ แถมยังเอื้อมมือไปหยิกแก้มใสด้วยความมันเขี้ยว แบคฮยอนเองก็ครางหงิงๆเหมือนเจ้าหมาน้อยที่ชอบใจเวลาเจ้าของลูบหัวลูบหางให้ ไออุ่นจากฝ่ามือใหญ่ทำให้สบายจนต้องเบียดแก้มเข้าหา เกือบเคลิ้มหลับเลยทีเดียวถ้าเสียงหวานของคนที่โตแต่อายุไม่ขัดขึ้นเสียก่อน
“เหอะ มดกัดฉันจนคันไปแล้ว”
“อ่า แล้วลู่หานจะเข้าเรียนหรือเปล่า นายคงไม่หนีไปดูหนังคนเดียวหรอกใช่ไหม”
“คงไม่เรียนแล้ว เดี๋ยวโทรหาจงอินให้ไปเป็นเพื่อนก็ได้”
ลู่หานหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแต่ยังไม่ทันได้กดโทรออก ร่างสูงเจ้าของผิวขาวจัดกับใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นตาก็เดินเข้ามายิ้มทักอยู่ตรงหน้าเสียก่อน เซฮุนในไปรเวทเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์สีเข้มสบายๆ ผมสีน้ำตาลเข้มถูกเจ้าตัวเสยขึ้นลวกๆ ดูดีเสียจนลู่หานมองค้างจนโดนชานยอลเอ่ยแซว
“น้ำลายไหลแล้ว”
“ย๊า ไอ้เด็กบ้า”
“เซฮุนมาพอดีเลย ว่างไหม ลู่หานกำลังหาเพื่อนไปดูหนังอยู่น่ะ”
“ว่างครับผม”
“รบกวนหรือเปล่า” ลู่หานถามเสียงเบา หน้าหวานยู่น้อยๆอย่างเกรงใจ แต่พอได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าก็ทำเอายิ้มกว้าง
“งั้นเดี๋ยวฉันกลับก่อนนะลู่หาน วันนี้ไม่ไหวจริงๆ ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก นายกลับไปพักผ่อนดีแล้วล่ะแบคฮยอน หน้านายตอนนี้โทรมมากอ่ะ เดี๋ยวชานยอลไม่รักจะมาโทษฉันไม่ได้นะ”
“ไม่มีวันนั้นแน่นอนครับฮยอง ไปก่อนนะเว้ยเซฮุน ฝากดูแลฮยองด้วยล่ะ”
ชานยอลรีบตอบพร้อมโอบไหล่เล็กโชว์ทันที แขนยาวอีกข้างเอื้อมหยิบกระเป๋าของคนรักขึ้นมาสะพายให้ก่อนจะพากันเดินไป
“งั้นรอเดี๋ยวนะเซฮุน พี่โทรชวนจงอินก่อน”
ทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เซฮุนกลับฉวยเจ้าไอโฟนสีขาวไปไว้ในมือ ตาคมหลุบมองใบหน้าหวานที่กำลังทำหน้าไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก
“ผมอยากไปกับฮยองแค่สองคน”
“อ่า” รู้สึกร้อนๆที่หน้ายังไงไม่รู้สิ (.////.)
“นะครับเสี่ยวลู่”
“อ่ะ...อื้ม” สุดท้ายก็ตกลงจนได้
“ฮยองหน้าแดงหมดแล้วนะครับ”
“อ๊ะ (.////.)”
เซฮุนหัวเราะเบาๆกับอาการเขินอายของคนตรงหน้า ลู่หานก้มหน้างุดยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแนบแก้มไว้ ทำยังไงดี หน้าเขาร้อนไปหมดแล้ว
.
.
.
เซฮุนให้ลู่หานเป็นคนเลือกสถานที่ ซึ่งเขาก็เลือกเป็นห้างใกล้ๆมหาวิทยาลัยเพราะไม่อยากรบกวนให้เซฮุนต้องขับรถไปไกล ทั้งคู่แวะกินมื้อกลางวันต่อด้วยแวะซื้อชาไข่มุกของโปรดของหนุ่มรุ่นน้อง แล้วก็โดนลู่หานแซวให้ว่าหน้าเขาไม่เหมาะกับการเดินดูดชาไข่มุกเอาเสียเลย
“ได้แล้วครับ ไปกันเลยไหมครับฮยอง” ร่างสูงเดินกลับมาหาลู่หานที่กำลังนั่งกินป๊อปคอร์นรออยู่พร้อมตั๋วหนังเรื่องที่คนน่ารักอยากดูที่นั่งโซนวีไอพีสองใบในมือ
“อื้อ”
มือเล็กข้างที่ว่างจากกล่องป๊อปคอร์นถูกเซฮุนฉวยไปกุมไว้จนกระทั่งอยู่ในโรงจนหนังเริ่มฉายร่างสูงก็ยังไม่ยอมปล่อยให้มือน้อยเป็นอิสระเลย ลู่หานเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจแต่อย่างใด ซ้ำไออุ่นจากคนตัวสูงทำเอาต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เหมือนว่าจะมีแต่ลู่หานคนเดียวที่ใจจดใจจ่ออยู่กับภาพเคลื่อนไหวบนจอยักษ์ข้างหน้า เพราะภาพที่โอเซฮุนให้ความสนใจไม่ใช่หนังนั่นเลยสักนิดแต่เป็นใบหน้าน่ารักของรุ่นพี่ตัวเล็กที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นต่างหาก คิ้วสวยขมวดและคลายออกตามฟีลอารมณ์ของเรื่องเรียกเสียงหัวเราะเพราะความเอ็นดูจากเซฮุนได้ไม่ยากเย็น
ลู่หานเองพอรู้สึกตัวว่าถูกมองก็หันไปตามทิศทางก่อนจะสบกับดวงตาคมสวยที่กำลังมองมาทางเขาอยู่ ท่าทางจะมองมานานแล้วเสียด้วย
“มะ...มองอะไรน่ะเซฮุนนา ไม่ดูหนังเหรอ”
“ก็หน้าฮยองน่ามองกว่านี่ครับ”
“พูดอะไรน่ะ เซฮุนนา บ้าจัง (.////.)”
ทำตัวไม่ถูกเลย...มือข้างที่ว่างจากการถูกกอบกุมยกขึ้นหมายจะทุบเบาๆที่ไหล่กว้างคลายอาการประหม่า แต่กลายเป็นว่าลู่หานส่งมือไปให้เซฮุนกุมไว้อีกข้างแทน ร่างสูงเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่มองสบตากับเขาไม่กะพริบราวกับถูกสะกด ปลายจมูกชนกันด้วยความตั้งใจของร่างสูง
ลู่หานหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วเพราะถูกมือใหญ่รั้งท้ายทอยไว้ ดวงตากลมโตปรือลงเล็กน้อยยามที่เซฮุนใกล้เข้ามาจนริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกันอย่างนุ่มนวล ร่างบางมองสบตาสวยของเซฮุนอีกครั้งก่อนจะปิดเปลือกตาลงพร้อมกับที่เผลอเผยอริมฝีปากให้เขาได้ครอบครอง มือเล็กข้างที่ว่างจากการถูกกอบกุมยกขึ้นกำปกเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายแน่น
เขาควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
“ผมรักเสี่ยวลู่นะครับ”
เงียบไปพักใหญ่จนร่างสูงใจหาย
“แต่จงอิน...”
“ตอนนี้มีแค่เรานะครับ”
“อะ อืม...พี่ก็รัก...รักเซฮุนนา”
เขารู้ตัวว่าผิดที่คิดแย่งของรักของคนอื่น แต่ตอนนี้เขาเองก็รักลู่หานมากเหลือเกิน มากจนอยากครอบครองให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว ทั้งตัวและหัวใจ
.
.
.
“ฮยองครับ ฮยอง”
“. . .”
“ลู่หานฮยอง”
“อ๊ะ จงอินมีอะไรเหรอ”
ถึงจะถูกเรียกถึงสามครั้งแต่เหมือนว่าเสียงทุ้มนั้นจะไม่เข้าโสตประสาทของลู่หานเลย จนอีกฝ่ายต้องสะกิดเรียกสติไปด้วยถึงได้รู้สึกตัว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เห็นนั่งเหม่อมาตั้งนานแล้ว ไม่สบายหรือเปล่า”
คิมจงอินถามอย่างห่วงใย เอื้อมมือไปแตะหน้าผากเล็กของคนที่เขารักสุดหัวใจ ลู่หานส่ายหน้าเบาๆ ตากลมรื้นไปด้วยน้ำตาจนจงอินนึกเป็นห่วงมากกว่าเดิม
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”
ร่างเล็กนั่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะถามเสียงเบา
“ถ้าเกิดว่าพี่ทำผิด ผิดมากๆเลย จงอินจะโกรธพี่ไหม”
“ถามอะไรอย่างนั้นล่ะ พี่ก็รู้ว่าผมไม่เคยโกรธพี่”
รอยยิ้มอบอุ่นของจงอินทำให้ลู่หานอยากจะร้องไห้ออกมาเดี๋ยวนั้น ความรู้สึกผิดกำลังก่อตัวขึ้นอยู่ในใจจนร่างบางรู้สึกแย่ หากวันนั้นเขาไม่ขี้ขลาดตอบตกลงรับคำสารภาพรักของจงอินเพราะแค่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจเสียความรู้สึก ก็คงจะไม่ต้องมานั่งรู้สึกผิดและเสียใจอย่างตอนนี้
ลู่หานเกลียดที่ตัวเองขี้ขลาด เกลียดที่ตัวเองใจอ่อนเกินไป
ความรู้สึกที่เคยคิดว่าไม่อยากให้รุ่นน้องที่แสนดีอย่างจงอินต้องเสียใจเพราะถูกปฏิเสธในวันนั้น ตอนนี้ลู่หานรู้แล้วว่าคิดผิดเพราะจงอินคงเจ็บกว่าหลายร้อยเท่า ถ้าหากรู้ว่าความรักบริสุทธิ์ที่เขามีให้ลู่หานอย่างจริงใจ
กำลังถูกหักหลังอย่างเลือดเย็น
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างลู่หานกับเซฮุนมันมาไกลเกินกว่าจะถอนตัว
“เหม่ออีกแล้ว แน่ใจนะครับว่าไม่เป็นอะไร” มืออุ่นแตะเข้าที่แขน บีบเบาๆจนลู่หานรู้สึกตัว
“อย่าห่วงไปเลย พี่ออกจะแข็งแรง จงอินก็รู้”
“ก็ผมรักของผมนี่ครับ ไม่ให้ห่วงฮยองแล้วจะให้ผมไปห่วงใครล่ะ” พูดพร้อมกับจิ้มเบาๆที่แก้มของคนตรงหน้า
“อ่า นั่นสินะ ว่าแต่วันนี้เงียบเนอะ”
“ก็ไม่มีใครอยู่สักคน ฮยองง่วงไหมครับ”
จงอินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เวลาบ่ายโมงเศษๆ เหลือเวลาอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเข้าเรียนวิชาต่อไปของลู่หาน ส่วนเขาไม่มีเรียนแล้วในวันนี้ แบคฮยอนต้องไปหาข้อมูลสำหรับทำรายงานข้างนอกมหาวิทยาลัย ชานยอลมีพรีเซ้นต์รายงาน ส่วนเซฮุนก็มีธุระด่วนกับทางบ้าน ทำให้เหลือจงอินกับลู่หานที่นั่งแก่วกันอยู่สองคน
“ถามแบบนี้นั่งเฝ้าพี่หลับอีกแล้วหรือไง”
“ก็ใช่”
“ไม่เบื่อบ้างเหรอ พี่เห็นนายนั่งเฝ้าพี่หลับทุกครั้งเลย เป็นพี่คงทนไม่ได้แน่ๆ”
“ไม่เบื่อครับ มัวแต่พูดมาก นอนได้แล้ว”
จงอินจัดการกดศีรษะเล็กให้หนุนที่ตัก อากาศในช่วงนี้กำลังสบายมีลมพัดอ่อนๆชวนให้ลู่หานเผลอหลับสนิทอย่างง่ายดายชนิดที่ว่าหัวถึงหมอนเมื่อไหร่ก็หลับเมื่อนั้น
ร่างสูงทอดสายตามองไปเรื่อยเปื่อยพลางคิดไปถึงเรื่องที่ค้างคาใจ ลู่หานมีอาการแบบนี้มาได้สักพักแล้ว ทั้งที่ชอบนั่งเหม่อ ถอนใจทิ้งเป็นว่าเล่นแบบที่คนตัวเล็กไม่เคยทำ พักหลังมานี้ก็มีได้เห็นบ่อยๆ และอีกเรื่องที่ทำให้เขาไม่สบายใจเลยก็เรื่องที่คนตัวเล็กชอบหลบตาเขาเสมอเวลาที่มองสบตาด้วย เหมือนกำลังมีความลับอะไรอยู่
มีอะไรปิดบังผมอยู่หรือเปล่าครับ ฮยอง?
To be continue.
ตอนที่สามมาแล้วค่า สงสารจงอินเนอะ ;___;
น้องฮุนมาช้าไปนิดเดียวจริงๆ
จะรีบเอาตอนต่อไปมาเสิร์ฟนะคะ
เหมือนเดิมค่ะ ชอบไม่ชอบยังไงติชมกันหน่อยน้า เรายินดีน้อมรับทุกความเห็นค่ะ
คอมเม้นท์ของรีดเดอร์เท่ากับกำลังใจของเรานะคะ จุ๊บ :3
ความคิดเห็น