ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DAFFODIL ❧ | HUNHAN

    ลำดับตอนที่ #3 : ❧ DAFFODIL : II

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 57











    กลีบปากสองคู่ผละออกจากกันเชื่องช้า ลู่หานเอนร่างพิงพนัก เซฮุนยกแอลกอฮอล์สีอำพันขึ้นจิบก่อนวาดแขนตามความยาวของโซฟา หรืออีกมุมหนึ่งก็คือกักร่างเล็กไว้ในอาณัติตัวเอง ต่างฝ่ายต่างทำคล้ายกับว่าเนิ่นนานนาทีก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุการณ์ที่แทบจะหยุดลมหายใจของคนมองเกิดขึ้น

     

    แล้วเพื่อนร่วมวงทั้งสามจะทำอย่างไรได้นอกจากพร้อมใจกันมองเมิน

     

    ...เอาวะ ไม่มีอะไรก็ไม่มี

     

    อยู่ตรงนี้กันนี่เอง หาตั้งนานแน่ะ

     

    กลุ่มนักร้องชื่อดังเงยหน้ามองเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู ไม่ต้องรอให้เอ่ยปากร้องสั่งทุกคนก็ขยับตัวให้ผู้มาใหม่ได้นั่งด้วยกันบนโซฟาทรงครึ่งวงกลมที่พวกเขาแหกแข้งแหกขากันตามอำเภอใจอยู่

     

    วันนี้ฉันเป็นยังไงบ้าง

     

    ลู่หานนั่งตัวตรงอย่างกระตือรือร้น ดวงตาคู่สวยจ้องเพื่อนสนิท ยิงคำถามแรกทั้งที่ยังไม่ทันพูดทักทายด้วยซ้ำ

     

    น่ารักเหมือนทุกวันนั่นแหละ

     

    พยอนแบคฮยอนหนึ่งในแขกยามวิกาลตอบพร้อมรอยยิ้ม นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มเพื่อนสนิทหยอกเย้าเล่น แบคฮยอนกับลู่หานสนิทกันตั้งแต่พวกเขาเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก เป็นหนึ่งในสองแฟนคลับ DAFFODIL ที่มีโอกาสได้พูดคุยสนิทสนมกับนักร้องที่ผู้คนทั่วทั้งประเทศปลาบปลื้ม

     

    และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ลู่หานอนุญาตให้เรียกว่าเสี่ยวลู่ได้อย่างสนิทใจ

     

    ฉันหมายถึงที่แสดงวันนี้ต่างหาก

     

    พี่ลู่หานกับทุกคนสุดยอดเลยครับ คนข้างๆ ผมกรี๊ดจนผมปวดแก้วหู อ่า...โดยเฉพาะตอนเซฮุนเดินไปหาพี่ลู่หานน่ะ หูแทบแตกเลย

     

    ได้ฟังคำตอบจากโดคยองซูคนถามก็หัวเราะเสียงใส ญาติผู้น้องของแบคฮยอนคนนี้เรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เรียกได้ว่าเป็นเด็กนักศึกษาเพียงคนเดียวในกลุ่ม

     

    แม้ DAFFODIL จะเป็นไอดอลชื่อดังทว่าการดำเนินชีวิตของสมาชิกทั้งห้ากลับแสนจะปกติธรรมดา พวกเขานั่งทานอาหารร้านข้างทางได้ง่ายๆ ไม่ใช่คนติดหรูมากนักยกเว้นลู่หานกับคริสที่ดื่มสาบานตนยอมเป็นทาสเสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์ดังตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และถ้าแฟนคลับกล้าเข้ามาพูดคุยหรือขอถ่ายรูปพวกเขาก็ยินดีตอบรับ แต่ก็นั่นแหละ...น้อยคนนักที่จะกล้า เพราะรู้ขอบเขตของตัวเองเป็นอย่างดี หากขืนล้ำเส้นมากไปโอกาสจะพบเห็นพวกเขาข้างถนนง่ายๆ ก็อาจเป็นศูนย์

     

    แล้วเมื่อไหร่ใครสักคนจะยอมเป็นนักร้องนำเต็มตัวล่ะ

     

    คำถามแบคฮยอนทำให้แดฟโฟดิลต้องมองหน้ากันก่อนหลุดเสียงหัวเราะออกมา

     

    เหมือนพวกเขาคือศิลปินกลุ่มเดียวที่ไม่มีนักร้องนำเป็นของตัวเอง ทั้งห้าคนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันตั้งแต่เรียนมัธยมเพราะชอบดนตรีสไตล์เดียวกัน ไม่มีใครยอมทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักง่ายๆ สุดท้ายเลยตัดสินใจพบกันครึ่งทาง ถ้ายังอยากฟอร์มวงดนตรีแนวป๊อปร็อคตามความฝันพวกเขาต้องช่วยกันจับไมค์ร้องเพลงด้วย

     

    ไม่มีวันนั้นหรอกมั้ง เป็นอย่างนี้ก็น่าจะดีที่สุดแล้วคริสยักไหล่ แบคฮยอนพยักหน้ารับคำตอบนั้นง่ายๆ

     

    นั่นสินะ วันไหนพวกนายสักคนยอมเป็นนักร้องนำคงตลกพิลึก

     

    งั้นจะถามขึ้นมาทำไม

     

    ใบหน้าน่ารักหันขวับ แทบไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าประโยคกวนประสาทแบบนี้มาจากใคร สายตาสองคู่สบประสานราวกับจะจิกทึ้งให้อีกฝ่ายเหลือแต่ซาก เซฮุน ลู่หาน จงอินและคริสมองหน้ากันทันที

     

    นึกว่าคืนนี้จะพลาดมวยคู่เอกแล้วแท้ๆ

     

    แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย

     

    ไม่เกี่ยวได้ไง นายถามเรื่องวงฉันนี่

     

    แต่ฉันไม่ได้ถามนาย

     

    แต่คำถามมันเกี่ยวกับฉัน

     

    “ก็บอกว่าไม่ได้ถามนายไงล่ะ จะเสนอหน้าทำไม”

     

    “ก็บอกว่ามันเกี่ยวกับฉันไงล่ะ”

     

    นี่จะยั่วโมโหกันใช่ไหมปาร์คชานยอล!

     

    แบคฮยอนลุกพรวด ชานยอลยังลอยหน้าลอยตาชวนให้กระแทกกำปั้นเข้าหน้าหล่อๆ สักหมัด และก่อนที่จะมีใครได้ชกใครจริงๆ ลู่หานก็ลุกขึ้น

     

    พักยกสักวันเถอะน่า” เอ่ยปรามพลางกดบ่าเพื่อนสนิทให้นั่งลงตามเดิมฉันจะเข้าห้องน้ำ จงอินไปด้วยกันไหม

     

    คิมจงอินวางแก้วว่างเปล่าลงบนโต๊ะ แน่นอนว่าคำตอบของเขาทุกคนตรงนี้ล้วนเดาได้เป็นอย่างดี

     

    อืม

     

    เพียงเสี้ยวนาทีคนสองคนก็ลุกถูกแสงไฟกับเหล่าผู้คนกลืนกินจนมองไม่เห็น

     

    เพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มทั่วทั้งผับ กระนั้นก็ยังแว่วเสียงโดคยองซูเปรยแผ่วเบา

     

     

    จงอิน...ไม่เคยขัดใจพี่ลู่หานเลยสินะครับ

     

     

     

    *

     

     

     

    เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่หลายชั่วโมงแล้ว หากนับจำนวนแก้วที่ดื่มเข้าไปก็เกินสิบ แต่ลู่หานกลับไม่ได้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำดังปากบอก เขาแค่รู้ตัวดีว่ามีบางเรื่องที่ตัวเองต้องรับฟัง

     

    ใช่ รับฟัง

     

    เพราะฝ่ายพูดคือคิมจงอินไงล่ะ

     

    มีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่า

     

    ร่างเล็กยืนพิงอ่างล้างมือ จับจ้องดวงตาที่ไม่เคยซ่อนความรู้สึกตรงหน้านิ่งๆ

     

    กับคิมจงอินแล้ว แค่สบตาลู่หานก็เห็นทุกความรู้สึกของอีกฝ่ายโดยไม่ต้องรอคำบอกใคร

     

    ถ้าถูกถามว่าเพราะอะไร ลู่หานก็หาคำตอบไม่ได้เช่นกัน

     

    อย่าทำแบบนั้นอีกนะครับ

     

    เสียงขึ้นจมูกทอดอ่อนราวคำวอนขอ ฝ่ามือใหญ่วางบนกลุ่มผมสีเข้มที่เซ็ตให้รับกับกรอบหน้าหวานของคนเป็นพี่ ลู่หานไม่ได้ติติงการกระทำนั้นเพราะความเคยชิน เขาแค่เอียงคอมองอย่างงุนงง

     

    ทำอะไร

     

    “ทำอย่างเมื่อกี้”

     

    “อะไรล่ะ”

     

    จงอินคิดว่าพูดชัดเจนแล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่เพียงพอ

     

    จูบ

     

    “อ้อ...”

     

    สีหน้าคนตัวเล็กทำให้จงอินเดาว่าคำขอของเขาอาจได้รับการปฏิเสธ

     

    ลู่หานถอนหายใจ ขยับตัวชิดใกล้แล้วพิงศีรษะกับแผ่นอกหนา แขนเล็กกอดเอวจงอินออดอ้อน

     

    นั่นเซฮุนนะจงอิน ใช่คนอื่นที่ไหน อย่าห่วงเลยน่า

     

    ไม่ได้ห้ามเรื่องนั้นมือกีต้าร์หน้านิ่งส่ายหัว นี่มันที่สาธารณะ คนไม่หวังดีในมุมมืดมีแค่ไหนก็ไม่รู้ ระวังตัวหน่อยสิ

     

    ปากแดงๆ ยื่นเกือบชิดจมูกเพราะจงอินใช้เสียงดุ ลู่หานขืนตัวให้ร่างสูงรีบเพิ่มแรงรัดแน่นขึ้น

     

    “โกรธเหรอครับ”

     

    “เปล่า”

     

    “เสี่ยวลู่...”

     

    “.............”

     

    ผมเตือนเพราะเป็นห่วงนะ

     

    สุดท้ายก็ทอดเสียงอ่อนอย่างยินยอม ลู่หานถึงได้ยอมพยักหน้ากับอกเสื้อเขา เสียงใสตอบรับคำให้จงอินเบาใจ

     

    ขอบคุณนะจงอิน ทีหลังฉันจะระวังตัว

     

     

    .

    .

     

     

    ทั้งคู่กลับมาอีกครั้งและพบว่าน้ำเมาบนโต๊ะพร่องลงจนแทบไม่มีเหลือ ขวดเปล่าวางระเกะระกะ ลู่หานกับจงอินทรุดตัวลงนั่งตำแหน่งเดิมจังหวะเดียวกับที่คริสปิดฝาพับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าติดจะหงุดหงิด

     

    เป็นอะไรน่ะ

     

    แกเลยไอ้เซฮุน จุนมยอนให้ถามว่าปิดเครื่องทำไมเสียงห้าวเอ่ยชื่อผู้จัดการวงจอมดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโอเซฮุน

     

    ผมไม่รับโทรศัพท์นอกเวลางาน

     

    น้องเล็กของวงตอบเสียงเรียบ ทุกวันนี้หากไม่ติดเรื่องงานเซฮุนคงเลิกใช้โทรศัพท์แล้วด้วยซ้ำ เขาเกลียดความวุ่นวายและกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่โทรมาก็ตัวน่าเวียนหัวชัดๆ นึกไม่ออกเลยว่าเวลาเลือกสาวสักคนติดมือเกณฑ์ในเวลานั้นคือมึนหรือเมากันแน่

     

    แน่ล่ะสิไอ้เพลย์บอย ต่อไปใครพูดว่าแกน่ะคนนิ่ง คนขรึม ฉันจะตะโกนใส่หน้ามันว่าไอ้โกหก

     

    ชานยอลหัวเราะลั่น พยักหน้ารับอย่างสุดแสนจะเห็นด้วยกับมือกลองรูปงาม คนส่วนใหญ่มักมองว่าคิมจงอินกับโอเซฮุนแห่งแดฟโฟดิลจัดอยู่ในประเภทหล่อเหลาเย็นชา คนแรกเขาไม่เถียง จงอินพูดน้อย เคร่งขรึมจริงอย่างทุกคนคิด แต่กับคนที่เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า เจ้าชู้ตัวฉกาจอย่างโอเซฮุนจะเอาตรงไหนมาเรียกว่านิ่งขรึมกัน มันขี้เกียจพูดล่ะสิไม่ว่า

     

    เซฮุนพูดน้อยจริงๆ นี่

     

    ชานยอลร้องเหอะ “พี่น่ะเข้าข้าง”

     

    “อย่างน้อยชานยอลก็พูดมากกว่าเซฮุนแล้วกัน”

     

    ลู่หานเถียง ผลของการออกโรงปกป้องคืออ้อมแขนคนถูกกล่าวหาค่อยๆ สอดรอบเอวบาง

     

    คริสขมวดคิ้ว มองฝ่ามือ คนขรึมยุกยิกกับเอวบางก็หัวเราะหึ

     

    น้ำนิ่งไหลลึกน่ะสิ อย่างมันน่ะ

     

    เถอะน่า ผมจะเป็นยังไงก็เรื่องของผม ตกลงพี่จุนมยอนโทรมาด่าแค่นี้หรือไง

     

    บอสฝากมาบอกให้พวกเราเตรียมตัว อีกสามวันจะประกาศคอนเสิร์ตที่อเมริกาเพิ่ม...ให้ตายสิ ฉันอุตส่าห์วางแผนเที่ยวล่วงหน้าแล้ว!

     

    แดฟโฟดิลพร้อมใจร้องครางสุดจะเซ็ง ยกเว้นมือคีย์บอร์ดตัวเล็กที่นิ่งงัน

     

    เสี่ยวลู่ ต่อไหนรึเปล่า

     

    “...ไม่แล้ว อยากนอน

     

    เสียงที่ฟังยังไงก็ไม่สดใสเหมือนนาทีก่อนไม่ได้มีแค่โอเซฮุนที่สังเกตเห็น

     

    สายตาทุกคู่พร้อมใจกันมองลู่หาน แต่ร่างเล็กแค่แค่นยิ้มกลับไปให้เท่านั้น

     

    เป็นอะไรรึเปล่าฮะ พี่ลู่หาน

     

    ฉัน...แค่ง่วงน่ะคยองซู อยากกลับแล้ว

     

    งั้นกลับกับผม คืนนี้ค้างด้วยกันนะ

     

    คล้ายประโยคบอกเล่ามากกว่าคำถาม คอนโดเซฮุนเป็นที่ที่ลู่หานคุ้นเคยราวกับบ้านตัวเอง ยิ่งเวลาแต่งเพลงเขาจะย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ที่นั่นเป็นอาทิตย์ๆ ด้วยซ้ำ

     

    คืนนี้ไม่หิ้วสาวกลับหรือไง

     

    เป็นที่รู้กันว่าสาวๆ ของเซฮุนไม่กินเส้นกับลู่หานนัก คราวซวยเหี่ยวแห้งของเซฮุนก็ตอนที่ลู่หานอยู่ด้วยเป็นเดือนๆ เนี่ยแหละ

     

    เหนื่อยจะตายหิ้วใครไหวที่ไหนล่ะครับ” ตอบยิ้มๆ เขย่าปลายคางลู่หานเบามือ “ที่สำคัญ มีลู่หานทั้งคน สาวคนไหนก็ชิดซ้ายอยู่แล้ว

     

    ลู่หานย่นจมูกใส่คนที่นานทีจะปากหวานสักหนหนึ่ง ทั้งคู่บอกลาเพื่อนร่วมวง แบคฮยอนและคยองซูสั้นๆ ก่อนพากันเดินออกจากผับไป

     

    อู๋อี้ฟานกับปาร์คชานยอลเหลือบมองจงอิน เมื่อพบใบหน้าเฉยเมยไร้ความผิดปกติใดก็ถอนหายใจอย่างคลายกังวล

     

    เรากลับกันบ้างเถอะครับ พี่คริสไม่ได้เอารถมาก็กลับกับผม คยองซูด้วยนะ...พี่ชานยอล ฝากส่งพี่แบคฮยอนสักคนได้ไหม

     

    ไม่เป็นไรหรอกจงอิน ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้พยอนแบคฮยอนสวนทันควัน ตรงข้ามกับชานยอลที่คว้ากุญแจรถขึ้นมาเดาะเล่นอย่างสบายอารมณ์

     

    นี่มันตีสองแล้ว อย่าทะเลาะกันตอนนี้น่า” จงอินบอกกลั้วหัวเราะ ดวงตาคมพราวระยับ “อีกอย่าง คยองซูเคยบอกผม...ในบรรดาพวกเรา ห้องพี่มีโปสเตอร์พี่ชานยอลคนเดียวไม่ใช่หรือไง

     

    วางระเบิดลูกใหญ่ก่อนคว้ามือผู้โดยสารทั้งสองจากไปทันควัน ทิ้งให้แบคฮยอนนิ่งอึ้ง ตั้งสติได้ก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตามหลัง

     

    ใครบอกว่าคิมจงอินนิ่งขรึม เขาก็จะตะโกนใส่หน้ามันว่าไอ้โกหกเหมือนกัน คอยดู!

     

     

     

    *

     

     

     

    ปาร์คชานยอลผิวปากเป็นทำนองเพลงรักขัดหูแบคฮยอนนัก ร่างเล็ฏขมุบขมิบปากด้วยขี้เกียจเปลืองน้ำลายพูดคุย นึกสงสัยว่าทำไมหมอนี่เวลาอยู่บนเวทีกับตัวจริงถึงได้แปรเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างนี้ ยอมรับหรอกว่านิ้วยาวๆ นั่นกับเบสเหมาะกันมาก ท่าทาง หน้าตาก็ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่

     

    สำหรับแบคฮยอน หากถามว่าแดฟโฟดิลคนไหนเท่ที่สุด...ถ้าตัดอคติทิ้งก็คงเป็นมือเบสจอมกวนคนนี้เนี่ยแหละ

     

    เสียอยู่อย่างเดียว

     

    เอ้า! ถึงแล้ว รอให้ฉันเปิดประตูรถด้วยหรือไง

     

    “เออ รู้แล้ว”

     

    “เหม่ออะไรนักหนา หรืออยากอยู่ด้วยกันนานๆ”

     

    แบคฮยอนทำหน้าหยี “แหวะ ขนลุก ที่พูดน่ะเอาสมองหรือเล็บขบคิด”

     

    “งั้นก็ลงไปสักที ดึกๆ กรึ่มๆ แบบนี้...ขนไม่ลุก อย่างอื่นอาจจะลุกแทน”

     

    “ไอ้ทุเรศเอ๊ย ฉันไปล่ะ...ขอบคุณ!!

     

    เน้นย้ำคำขอบคุณใส่หน้า คราวก่อนเขาเอ่ยปากขอบคุณช้านิดเดียวหมอนี่ด่าเขาไร้มารยาทไปสามวัน

     

    ไม่เป็นไร แต่คราวหน้าคิดตังค์นะ

     

    ขี้งก

     

    ทิ้งท้ายถ้อยคำหวานหูก่อนปิดประตูรถ ทว่า ยังไม่ทันก้าวถึงรั้วบ้านสารถีหน้าหล่อก็ตะโกนไล่หลังให้ได้ยิน

     

    เฮ้! ราตรีสวัสดิ์นะ จอมเหวี่ยง

     

    “…..ขับรถดีๆ แล้วกัน ไอ้โย่ง

     

    ปาร์คชานยอลหัวเราะแผ่ว หนังตาเริ่มหย่อนเกินกว่าจะฝืนยืนต่อล้อต่อเถียง มือเบสรูปงามกระชากรถคันหรูจากไปทิ้งให้แบคฮยอนยืนมองไฟท้ายจนลับสายตา

     

    พร้อมรอยยิ้มเบาบาง...ซึ่งเจ้าของมันก็ไม่ทันรู้สึกตัว

     

     

     

    *

     

     

     

    Audi R8 จอดส่งอู๋อี้ฟานเมื่อยี่สิบนาทีก่อนและหยุดลงอีกครั้งหน้ารั้วบ้านขนาดกลาง จงอินเอ่ยถามเด็กช่างพูดที่ชวนคุยสัพเพเหระตลอดทางจนเขาเกือบลืมถามเรื่องคาใจ

     

    “วันนี้สนุกมั้ย”

     

    มากฮะ ผมชอบเพลง last heaven ที่สุด!” คยองซูยิ้มจนตาปิด “ว่าจะถามตั้งนานแล้ว ช่วงกลางเพลงที่มีเสียงผู้หญิงกระซิบขึ้นมาน่ะ ใครเหรอครับ

     

    ลองเดาดูสิ

     

    คุณโซยู? คุณฮโยริน? คุณฮายอง?

     

    จงอินหัวเราะกับการเดาที่ผิดจากความจริงสุดโต่ง ชายหนุ่มส่ายหน้า

     

    เราไม่ทำงานกับผู้หญิงหรอก กลัวมีเรื่องวุ่นวายตามมาน่ะ

     

    โธ่...เด็กหนุ่มครวญเสียงอ่อน ใครจะเดาถูกล่ะครับ จงอินเฉลยเถอะ

     

    วงฉันเนี่ยแหละ ภายในห้าคนนี้คิดว่าใคร

     

    คนถูกถามทำตาโต เสียงใครกันที่หลอกคนทั้งประเทศว่าเป็นผู้หญิงได้อย่างเหลือเชื่อ

     

    “ไม่ใช่พี่ลู่หานแน่ เพราะถ้าเป็นพี่ลู่หานจงอินคงไม่ถามหรอกใช่ไหมล่ะ งั้น...พี่คริส?”

     

    จงอินหัวเราะอีก โบกมือแทนคำปฏิเสธให้คยองซูทำปากบู้

     

    ฉันเอง

     

    ฮะ!!?

     

    แปลกใจอะไรขนาดนั้น เข้าบ้านได้แล้วคยองซู จะตีสามแล้ววางฝ่ามือบนศีรษะเล็ก จับโยกไปมาก่อนเอ่ยราตรีสวัสดิ์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ฝันดีนะ

     

    โดคยองซูยิ้มรับ รู้ดีว่าทุกการกระทำล้วนเปี่ยมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีความรักมอบให้เหมือนที่ลู่หานอาจได้รับ แต่คยองซูก็พอใจ...และมีเหตุผลมากพอจะอิจฉาหรือเรียกร้อง

     

    ฝันดีเหมือนกันนะครับ จงอิน

     

    แค่ได้เฝ้ามองอย่างที่ทำมาตลอด...คยองซูก็พอใจแล้ว

     

     

     

    *

     

     

     

    ร่างเล็กในชุดนอนสีน้ำตาลลายทางกรอมมือกรอมเท้าใช้ผ้าขนหนูซับน้ำจากปลายผม คอนโดแห่งนี้มีแค่เซฮุนเท่านั้นที่พักอยู่ คุณพ่อกับคุณแม่เซฮุนทำธุรกิจต่างประเทศนานทีจะกลับมาสักหนหนึ่ง น้องชายเซฮุนก็เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่นั่นเช่นกัน ลู่หานจำได้...เซฮุนเคยเล่าให้ฟังว่าเคยเกือบถูกตัดออกจากกองมรดกเพราะมัวแต่สนใจดนตรีจนลืมการเรียน กระทั่งเรียนจบและสัญญาว่าอิ่มตัวกับทางนี้เมื่อไหร่จะยอมสืบทอดกิจการให้ ครอบครัวโอถึงยุติปัญหาเกี่ยวกับอนาคตลูกชายคนโตลง

     

    ใช้ไดร์สิครับ

     

    ร่างสูงโผล่มากระซิบข้างหู มือใหญ่ถือไดร์เป่าผมข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างสางผมให้เบามือ ลู่หานนั่งหลับตาพริ้มอย่างผ่อนคลาย จวบจนผมแห้งสนิทและเซฮุนก้มลงพับขากางเกงนอนให้ด้วยนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าเขามันเอาเปรียบเซฮุนชะมัด

     

    เซฮุนง่วงหรือยัง

     

    ครับ

     

    งั้นนอนกันนะ

     

    ร่างสูงเอนกายบนเตียง ตบที่ว่างข้างตัวพร้อมรอยยิ้มแทนคำพูดให้ลู่หานปิดไฟแล้วมานอนข้างๆ กัน

     

    หลังจากแผ่นหลังสัมผัสความนุ่มของผืนเตียง ลู่หานก็ซุกตัวเข้าหาไออุ่นจากอกกว้างอย่างคุ้นเคย

     

    อย่าคิดมากนะ

     

    “...เรื่องอะไร

     

    เรื่องคอนเสิร์ต ผมรู้ว่าเสี่ยวลู่ทำได้ ลืมเรื่องเก่าๆ เถอะ

     

    ลู่หานปัดจมูกกับอกเสื้อเพื่อนร่วมวง ความผิดพลาดเมื่อสามปีก่อนที่อเมริกาเขายังจำได้ดี ลู่หานลืมเนื้อร้องซ้ำยังเล่นผิดจังหวะในเพลงหนึ่ง แม้จะไม่ถึงกับล่มแต่มันก็ฟ้องว่าเขายังยังฝึกซ้อมไม่เพียงพอ ยังไม่เป็นมืออาชีพมากพอ

     

    ฉันแย่มากนะเซฮุน...วันนั้น...

     

    ผมเองก็เคยพลาด งานโรงเรียนสมัยมอปลายผมเล่นผิดตั้งหลายเพลง จำได้ไหม คิดดูสิเสี่ยวลู่ พี่เล่นดนตรีมาตั้งนานเพิ่งจะพลาด แต่ผมพลาดกับงานเล็กๆ แถมยังพลาดก่อนหน้าพี่ตั้งหลายปี ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ดีก็เท่ากับพี่กำลังว่าผม

     

    น่าแปลกที่คำพูดธรรมดากลับคลายความกังวลใจออกไปได้ราวกับเรื่องโกหก ทั้งที่เซฮุนไม่ได้ใช้น้ำเสียงปลอบโยนเลย ออกจะดุเขาด้วยซ้ำไป

     

    นอนซะ

     

    ริมฝีปากได้รูปกดแนบเหนือหน้าผากมน กระชับอ้อมแขนให้ใบหน้าสวยซุกไหล่

     

    ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรีที่มีเพียงแค่แสงสว่างจากดวงจันทร์สาดส่อง ลู่หานเงยหน้ามองเซฮุนผ่านแสงสลัวแค่นั้น...

     

    โอเซฮุนเพลย์บอย โอเซฮุนมือกีต้าร์ชื่อดัง โอเซฮุนเพื่อนร่วมวง เซฮุนที่เงียบขรึม เซฮุนที่เจ้าชู้ และเซฮุนที่อ่อนโยน

     

    คนไหนกันนะที่เป็นตัวจริง

     

    เลิกกังวลอะไรไร้สาระสักที นอนได้แล้วเสี่ยวลู่

     

    เมื่อไหร่ล่ะลู่หาน เมื่อไหร่กันที่นายจะเข้าใจเซฮุนเหมือนที่เซฮุนเข้าใจนาย

     

     

     

    “พี่ก็รู้...ผมอยู่ตรงนี้”

     

     

     

    เปลือกตาบางหลับพริ้มในที่สุด

     

    ขอบคุณนะเซฮุน ขอบคุณที่เข้าใจฉันเสมอมา

     

     

     

     

    To be continued.


     

     

    มีคนอ่านก็จะมาต่อเรื่อยๆ อิอิ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ^ - ^

    #ดฟด

     

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×