ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {exo} 'Hold a Blind Marriage' - hunhan ft.chanbaek

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 56


    :-Daisy 







     
    Title : HOLD A BLIND MARRIAGE

    Author : sosweetcafe

    Chapter : 1

    Pairing : Sehun x Luhan ft. Chanyeol x Baekhyun

    Story : vanilla1127





                    ณ เย็นวันหนึ่ง เด็กชายร่างผอมเดินไปมาอยู่หน้าประตูรั้วเหล็กดัด คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ปากเล็กๆนั่นก็คอยแต่จะขมุบขมิบจับใจความไม่ได้ แต่ก็พอจะรู้ได้ว่าเจ้าตัวคงกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่เป็นแน่ จนกระทั่งมีเด็กน้อยอีกคนหนึ่งเดินช้าๆเข้ามาในอาณาบริเวณบ้าน หน้าที่บึ้งตึงอยู่แล้ว ก็ดูจะยิ่งบึ้งตึงเข้าไปอีก   
      

                    “ไปไหนมา! คุณแม่ให้มาตามไปกินข้าว!
     

                    ไม่พูดเปล่า มือที่ว่างอยู่ยื่นไปดึงแขนเด็กน้อยอีกคนเสียเต็มแรง จนคนเป็นน้องต้องร้องประท้วงออกมา
     

                    “ฮึก...พี่เซฮุนเบาๆ เสี่ยวลู่เจ็บ”
     

                    ลู่หานในวัยแปดขวบเบะปากสะอื้น ช้อนดวงตากลมมองหน้าคนที่จับแขนตัวเองอย่างหวาดๆ จนคนโตกว่าเหลือบไปเห็นรอยถลอกที่ข้อศอก ถึงได้ยอมลดระดับเสียงลง แต่ก็ยังคงความไม่พอใจไว้อยู่ในที
     

                    “ไปทำอะไรมา”
     

                    “จื่อเทา ฮึก จื่อเทาแกล้งเสี่ยวลู่”
     

                    “ไอ้จื่อเทาเด็กข้างบ้านน่ะเหรอ! แล้วไปเล่นกับมันทำไม!
     

                    “ก็พี่เซฮุนไม่ยอมเล่นกับเสี่ยวลู่นี่!
     

                    ในเมื่อตะโกนมา เด็กน้อยก็ตะโกนกลับไปทั้งน้ำตา หลังจากถามว่าไปเล่นซนที่ไหนมาจนได้คำตอบ เด็กชายโอเซฮุนในวัยสิบสองขวบกำหมัดแน่นก่อนจะลากน้องกลับไปทางสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน ลู่หานก็ได้แต่จำใจเดินตามพี่ชายต้อยๆ มือเล็กอีกข้างก็คอยเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง
     

                    “หวงจื่อเทา!
     

                    เด็กชายหน้าตายผู้มีเอกลักษณ์คือรอยคล้ำใต้ตาที่กำลังเล่นซนตามประสาหันมองตามเสียงเรียก ก่อนจะยกยิ้มกวนประสาทเมื่อเห็นหน้าเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ จูงมือเด็กน้อยจิ้มลิ้มที่เขาเพิ่งจะรังแกเมื่อกี้นี้กลับมาด้วย
     

                    “ไง กลับไปฟ้องพี่เหรอ ไอ้เด็กขี้แง”
     

                    “เปล่านะ! เราไม่ได้ฟ้อง”
     

                    “ไอ้เด็ก...โอ๊ย!
     

                    ยังไม่ทันจะได้พูดจบ ร่างโปร่งของหวงจื่อเทาก็ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเสียก่อน ฝีมือตัวการก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเสียนอกจากโอเซฮุนที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงนี้ เด็กชายตัวสูงผลักจื่อเทาด้วยแรงที่ไม่เบานัก แถมด้วยการชี้หน้าฝากทิ้งท้ายไว้อย่างนิสัยเด็กๆ  ก่อนจะลากคนเป็นน้องกลับบ้านไป

                    “จำเอาไว้ เด็กคนนี้ ฉันแกล้งได้คนเดียว!

    .

    .

    .
     

                    ภาพโอเซฮุนในวัยสิบสองขวบกับลู่หานในวัยแปดขวบกลายเป็นอดีต ในวันนี้ทั้งสองเติบโตเป็นวัยรุ่นเต็มตัว โอเซฮุนที่เคยเย็นชาอย่างไร ก็ยังคงเย็นชาอยู่เช่นนั้นไม่แปรเปลี่ยน เช่นเดียวกับลู่หานที่เคยอ่อนโยนเพียงใด ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอ ยิ่งเติบโตขึ้น ระยะห่างระหว่างกันก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น จากที่คุยกันบ้างในแต่ละวัน กลับกลายเป็นนับคำได้ หรือบางวันก็ไม่ได้เห็นหน้ากันเสียด้วยซ้ำไป เหตุก็มาจากคนตัวโตทั้งนั้นที่ปฏิเสธการปฏิสัมพันธ์กับคนหน้าหวานเสมอมา เพียงลู่หานเจอหน้า ยังไม่ทันจะอ้าปากทัก คนเจ้าอารมณ์ก็เป็นอันต้องสะบัดหน้าหนีพร้อมกับสีหน้าไม่สบอารมณ์ทุกทีไป

                    ยิ่งในวันที่เซฮุนก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย ต้องย้ายไปอยู่คอนโดเพราะระยะทางไปกลับบ้านไม่ใกล้เลย ในขณะที่ลู่หานเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตนักเรียนมอปลาย ทำให้ทั้งคู่แทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปโดยปริยาย แม้จะบังเอิญเจอกันข้างนอกสถานที่ แม้เพียงหางตาแลหรือคำทักทายสักครึ่งคำก็ไม่เคยมีสำหรับลู่หานเลย
     

                    ลู่หานรู้ดี โอเซฮุนไม่ชอบหน้าเขามาตั้งแต่จำความได้ การทำดีด้วยสักครั้ง หากไม่นับรวมที่ร่างสูงมักจะคอยปกป้องเขาในตอนวัยเด็กนั่นล่ะก็ ในความทรงจำคงมีเพียงศูนย์
     

                    จนกระทั่งถึงวันที่ลู่หานสอบได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยในประเทศจีน ถึงแม้คุณนายโอจะห้ามนักห้ามหนา  ด้วยไม่อยากให้ไปไกลหูไกลตา และพร้อมจะส่งเสียให้ร่างบางได้เรียนต่อมหาวิทยาเอกชนระดับแนวหน้าของประเทศ แต่ลู่หานก็ไม่อยากรบกวนคุณป้าท่านอีกแล้ว ในที่สุดก็ออดอ้อนจนคนเป็นป้าต้องใจอ่อน ในวันที่ต้องเดินทางก็หวังเล็กๆอยู่ในใจว่าจะได้เห็นหน้าใครบางคนมาส่งที่สนามบินบ้างก็ยังดี แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อไม่ได้เห็นแม้กระทั่งเงาของคนที่รอ ลู่หานจำได้ว่าคุณลุงและคุณป้าหัวเสียขนาดไหน ที่ลูกชายตัวดีไม่ยอมมาส่งน้องในวันนั้น
     

                    แต่ทันทีที่ถึงประเทศจีน เมื่อเปิดกระเป๋าเดินทางใบโต ริมฝีปากกระจับน้อยก็มีอันต้องแย้มยิ้มไม่หุบ เมื่อเห็นตุ๊กตากวางน้อยจมูกแดงที่นอนอยู่ไหนกระเป๋า พร้อมกระดาษโน้ตใบเล็กที่มีเพียงลายมือหวัดๆ ที่ลู่หานจำได้ขึ้นใจ
     

                    ‘เดินทางปลอดภัย
     

                    นั่นคือความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับโอเซฮุน เพียงเท่านี้จริงๆ
     

                    แต่ทำไมลู่หานถึงได้รัก...รักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน

    .

    .

    .
     

                    ทันทีที่เครื่องแลนด์ดิ้ง ขาเล็กยังไม่ทันจะก้าวออกจากเกท เจ้าเครื่องมือสื่อสารก็สั่นสะเทือนให้เจ้าของต้องรีบกดรับ ลู่หานหนีบโทรศัพท์ไว้ตรงช่วงไหล่ อีกมือก็เร่งลากกระเป๋าเดินทางใบโต ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักดูเหมือนจะสวยหวานขึ้นอีกหลายเท่าในวันที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่กลับมีใบหน้าที่ผู้หญิงแท้ๆ ยังต้องอิจฉา แม้ในยามนี้ที่มีแว่นกันแดดสีชาอันโตบดบังดวงหน้าอยู่เกือบครึ่ง แต่ก็ยังเรียกให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ต้องเหลียวหันกลับมามองได้อย่างไม่ยากเย็น
     

                    “ครับคุณป้า ถึงแล้วครับ เดี๋ยวเจอกันครับผม”
     

                    ไม่นานหลังจากวางสาย ร่างบางก็ได้รับอ้อมกอดอบอุ่นของคุณนายโอโอบรัด เบื้องหลังคือท่านประธานโอที่ยิ้มต้อนรับพร้อมกับเข้ามาสวมกอดลู่หานไว้เช่นกัน หลังจากคนเป็นป้าหอมซ้ายหอมขวาจนพอใจแล้วจึงผละออกไป ดวงตาใสแจ๋วไม่วายต้องแอบมองหาใครบางคนที่ไม่เจอหน้ากันร่วมสี่ปี แต่ก็ยังต้องผิดหวังอยู่เหมือนเดิม
     

                    คงลืมกันไปแล้วสินะ

                    “คุณป้าครับ เรื่องที่คุณป้าอยากให้ผมช่วย...”
     

                    หลังจากทักทายต้อนรับกันจนหายคิดถึง ร่างบางก็เกริ่นถึงสาเหตุที่เร่งให้เขาต้องมายืนอยู่ที่โซลในวันนี้ อันที่จริงกำหนดกลับต้องเป็นอีกสามเดือนข้างหน้า แต่เมื่อผู้มีพระคุณโทรศัพท์ทางไกลไปหาที่ประเทศจีน เพราะมีเรื่องด่วนร้อนใจอยากให้เขากลับมาช่วยเหลือ จะให้ตัวเองเดินตะลอนเที่ยวต่างประเทศอย่างสบายใจเฉิบ ลู่หานเองก็คงทำไม่ได้

                     “ไว้คุยกันที่บ้านจ้ะ”

    .

    .

    .
     

                    บรรยากาศในห้องรับแขกภายในบ้านใหญ่ตระกูลโอเป็นไปด้วยความอึดอัด ลู่หานก้มหน้าลงต่ำ ปากบางเม้มเข้าออกอย่างลำบากใจ เขาเองก็อยากรับปากช่วยเหลือ หากแต่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย ยิ่งถ้าเจ้าตัวเขามารู้เข้า ลู่หานไม่คิดว่าพี่ชายคนดีจะยอม
     

                    “ลู่หาน แต่งงานกับตาเซฮุนได้ไหมลูก?”
     

                    “แต่...แต่ว่า...คุณป้าครับ”
     

                    “ถือว่าป้าขอร้องนะจ๊ะ”
     

                    มือนิ่มที่เลื่อนมากุมมือเขาไว้พร้อมกับบีบเบาๆ ยิ่งกดดันทำให้ลู่หานปฏิเสธไม่ลง ยิ่งได้มองสบดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตาของผู้มีพระคุณก็ราวกับหาลิ้นตัวเองไม่เจอ จนไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ คุณนายโอหันไปมองสบตาผู้เป็นสามีคล้ายจะรบเร้าให้ช่วยพูดอีกแรง
     

                    “ลุงกับป้าอยากจะวางมือจากบริษัทแล้ว ลุงอยากให้ตาเซฮุนเข้ามารับช่วงประธานบริษัทต่อเสียที ตระกูลเราถือหุ้นในโอกรุ๊ปไว้ตั้งครึ่งหนึ่ง ลุงไม่อยากให้มีปัญหาภายหลัง ถ้าเกิดลุงเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าลูกชายลุงมันจะได้เป็นงาน”
     

                    “แต่ก็อย่างที่ป้าเล่าให้ฟัง ตอนนี้ตาเซฮุนทำตัวเหลวไหล วันๆ เอาแต่อยู่กับเด็กนั่น ก็ที่ป้าโทรไปเล่าให้ฟังนั่นแหละจ้ะ ป้าก็เลยอยากให้เรามาช่วยดูตาเซฮุนอีกแรง ไม่เห็นใครเหมาะสมไปกว่าเราแล้วจริงๆ”
     

                    “แต่...”
     

                    “ไม่มีแต่จ้ะ เรื่องตาเซฮุน เราไม่ต้องเป็นกังวลนะ ลุงกับป้าจัดการได้ เหลือแต่เรานั่นแหละ ลู่หาน จะช่วยป้าได้ไหม”
     

                    นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมานอนอยู่บนเตียงหลังเดียวกับโอเซฮุนแบบนี้ ลู่หานสาบานได้ว่าที่เขายอมตกปากรับคำนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกตัวเองแต่อย่างใด แต่เพียงเห็นแววตาเว้าวอนแกมขอร้องของทั้งคุณและคุณนายโอแล้ว ลู่หานก็ปฏิเสธไม่ลงจริงๆ
     

                    เขาก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อกับแม่ไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่หานในวัยห้าขวบไม่มีญาติที่ไหน จะมีก็แต่เพื่อนสนิทของพ่อกับแม่อย่างคุณและคุณนายโอที่ชุบเลี้ยงเขามาเป็นอย่างดีราวกับเป็นลูกแท้ๆ ต่อชีวิตให้กับเด็กผู้ชายที่ไม่เหลือใครในวันนั้น บุญคุณใหญ่หลวงที่ลู่หานไม่คิดว่าจะทดแทนได้หมด

    .

    .

    .
     

                    หยาดน้ำใสกลิ้งตกกระทบหมอนใบโตจนเกิดรอยชื้นเป็นวงกว้าง ริมฝีปากกระจับน้อยเม้มฉับเข้าหากันกลั้นเสียงสะอื้นที่อาจจะรบกวนคนที่นอนหันหลังให้ ร่างบางนอนมองแผ่นหลังกว้างที่ไม่มีท่าทีว่าจะหันกลับมาสักนิด มือน้อยเอื้อมไปหวังจะสัมผัสแผ่นหลังนั้น แต่ท้ายที่สุดก็จิกมันลงกับหมอนข้างแทน
     

                    “เสี่ยวลู่คิดถึงพี่”
     

                    เสียงหวานคล้ายละเมอเสมือนห้วงความคิดสุดท้าย ก่อนดวงตากลมจะค่อยๆ ปิดลงเพราะความเหนื่อยอ่อน พร้อมกับคราบน้ำตาที่ยังไม่จางหาย

    .

    .

    .
     

                    แสงสว่างที่ลอดผ่านสาบผ้าม่านสีเข้มปลุกกวางน้อยให้ตื่นรับอรุณตามอุปนิสัยที่เป็นคนตื่นเช้า ตากลมโตกะพริบถี่ปรับโฟกัสภาพตรงหน้าให้ชัดเจน ปรางแก้มซับสีแดงจางๆ เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตาอยู่ห่างเพียงคืบ ลมหายใจอุ่นกระทบกับผิวแก้มให้ใจเต้นระส่ำ ร่างเล็กแอบมองพิจารณาใบหน้าของ สามีอย่างถือวิสาสะ ไล่ตั้งแต่คิ้ว ดวงตาคม สันจมูกโด่ง มาจนถึงริมฝีปากแดงอย่างคนสุขภาพดี ทุกสิ่งช่างดูเหมาะเจาะราวกับจับวางก็ไม่ปาน
     

                    คนตัวเล็กเผลอย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้ ทั้งช่วงแขนขายาว ไหล่กว้างแข็งแรง และส่วนสูงที่น่าอิจฉา โอเซฮุนมีทุกสิ่งเหนือเขาทุกอย่างจนต้องแอบค่อนขอดในใจว่าพระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ลู่หานทิ้งตัวเองอยู่อย่างนั้นสักพักก็ตวัดขาลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา ไม่ลืมกระชับผ้านวมหนาให้อีกคนก่อนผละออกไป
     

                    หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ขาเล็กก็พาตัวเองลงมาชั้นล่าง ชะเง้อมองเข้าไปส่วนของห้องรับประทานอาหารแล้วไม่พบใครก็แปลกใจ เพราะปกติแปดโมงเช้าเช่นนี้จะเป็นเวลาอาหารเช้าของคนในครอบครัว หากไม่นับคนตื่นสายที่ยังฝังตัวอยู่ในผ้านวมนั่น

                    “คุณลุงคุณป้าล่ะครับ”
     

                    “คุณท่านออกไปข้างนอกกันตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ คุณลู่หานจะรับกาแฟไหมคะ”
     

                    “ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมว่าจะเข้าครัวสักหน่อย”
     

                    “คุณลู่หานอยากทานอะไรคะ ป้าทำให้ไหม”

                    “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากอยู่เฉยๆ น่ะ”
     

                    ลู่หานยิ้มตอบ ก็แค่อยากเริ่มต้นทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีตามที่คุณลุงคุณป้าไว้วางใจให้เขาทำ ขาเล็กปลีกตัวเดินไปทางปีกซ้ายของบ้านในส่วนที่เป็นห้องครัว เปิดตู้เย็นมองหาวัตถุดิบที่พอจะทำเป็นมื้อเช้าง่ายๆ ก่อนจะออกมาเป็นข้าวต้มกุ้งหน้าตาน่าทาน ร่างบางสั่งให้สาวใช้ที่อยู่เป็นลูกมือรับหน้าที่จัดโต๊ะอาหารต่อ เมื่อเห็นว่าถึงเวลาสมควรปลุกให้คนขี้เซาตื่นมาทานมื้อเช้าก่อนจะสาย ทว่าร่างสมส่วนที่ลู่หานจำได้ว่าได้พบที่งานแต่งเมื่อคืนทำให้ต้องหยุดชะงัก
     

                    บยอนแบคฮยอนกำลังเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ลู่หานชั่งใจสักพักก่อนจะก้าวยาวๆ เข้าไปหา เสียงหวานกระแอมเบาๆ ให้อีกคนต้องหันกลับมา ดวงตาเรียวภายใต้อายไลน์เนอร์ปรายตามองพร้อมกระตุกยิ้มเล็กน้อย ในที่สุดก็เปลี่ยนทิศทางเดินกลับมาหยุดตรงหน้าลู่หาน
     

                    แอบโล่งใจไปเปราะหนึ่ง ที่ลู่หานอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ขลุกอยู่บนเตียงกับคนรักของเขา อย่างที่นึกกลัว

                    “คุณลู่หานสินะครับ เมื่อคืนเราเจอกันที่งาน แต่ไม่มีโอกาสได้ทักทาย ผมบยอนแบคฮยอนครับ...คนรักของเซฮุน คิดว่าคุณน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง
     

                    เน้นเสียงหนักในท้ายประโยค กระตุกยิ้มมุมปากคล้ายจะเย้ยหยัน
     

                    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมลู่หาน ภรรยาของคุณเซฮุน ต้องขอโทษที่เมื่อคืนไม่ได้เข้าไปทักทายนะครับ พอดีว่ายุ่งมากจริงๆ”
     

                    ตอกกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แบคฮยอนคิ้วกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบางวาดรอยยิ้มหวานให้ ยักไหล่คล้ายไม่ใส่ใจในคำพูดของอีกคน
     

                    “ขอตัวนะครับ จะขึ้นไปหาเซฮุน”
     

                    “คุณเซฮุนยังไม่ตื่น”
     

                    “ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ จะหลับหรือจะตื่นทุกทีผมก็ขึ้นไปหาเขาได้”
     

                    “แต่นี่เป็นห้องนอนของเรา ผมไม่อนุญาตให้คุณเข้าไป!
     

                    “ทำไมผมจะเข้าไม่ได้ อย่าว่าแต่ห้องนอนเลย บนเตียงผมก็ขึ้นมาแล้ว! ขอเวลาเป็นส่วนตัวนะครับ คุณลู่หาน”

                    ร่างบางเดินตามมาจนถึงหน้าประตูห้องนอน คำพูดสุดท้ายของแบคฮยอนเหมือนยาพิษชั้นดีที่ทำให้ชาไปทั้งตัว ภาพสุดท้ายที่เห็นคือรอยยิ้มหยันสะใจ ก่อนบานประตูไม้เนื้อดีปิดจะกระแทกใส่หน้า ลู่หานชะงักค้างอยู่ตรงที่เดิมสักพักกว่าจะขยับตัวได้ มือน้อยฉวยลูกบิดที่ไม่ได้ล็อก เผยให้เห็นภาพตรงหน้าที่ชวนให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
     

                    แบคฮยอนในอ้อมแขนแกร่งของคนที่ยังไม่ตื่นดี ริมฝีปากกระจับน้อยประทับจูบที่คางเบาๆ อย่างเอาใจ ในยามที่ดวงตาคมยอมเปิดเปลือกเป็นจังหวะที่ทำให้ดวงตาของทั้งคู่สบกันพอดิบพอดี ลู่หานมั่นใจว่าเซฮุนจงใจจูบที่ซอกคอขาวนั่นทั้งที่สายตายังไม่ละจากเขาสักนิด
     

                    ในเวลานั้นลู่หานคิดออกเพียงว่าควรจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด




    To be continue.



    อ่านให้สนุกนะคะ :)
    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×