ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {exo} 'Hold a Blind Marriage' - hunhan ft.chanbaek

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 56


    :-Daisy 






     

    Title : HOLD A BLIND MARRIAGE

    Author : sosweetcafe

    Chapter : 6

    Pairing : Sehun x Luhan ft. Chanyeol x Baekhyun

    Story : vanilla1127




     

                    เพราะมัวแต่จดจ้องอยู่กับคนอื่น ทำให้ลืมคนข้างกายไปเสียสนิท

     

                    “เซฮุนนา เซฮุนครับ”

     

                    มือแกร่งบีบแก้วไวน์ทรงสูงจนแทบจะแหลกคามือ ดวงตาคมฉายแววกระด้างดุดัน และแม้กระทั่งเสียงของคนรัก โอเซฮุนก็ไม่ได้ยิน จนแบคฮยอนออกแรงเขย่าเรียกอีกแรงถึงได้หันไปให้ความสนใจกับคนข้างกาย ร่างสูงเกลี่ยแก้มขาวเบามือ แววตากระด้างแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนลง เลิกคิ้วแทนการตั้งคำถาม

     

                    “ผมเรียกตั้งนาน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ดื่มก็ไม่เยอะนี่นา”

     

                    “คิดอะไรเพลินๆ นิดหน่อยน่ะ” เซฮุนยิ้มให้คนรักคลายกังวล

     

                    “งั้นเดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำแล้วก็ไปคุยกับพวกจุนมยอนตรงนั้นแป๊บนึงนะครับ”

     

                    พอร่างของคนรักลับสายตาไปแล้ว ขายาวก็รีบสืบเท้าเดินไปยังอีกฝั่งของสระน้ำทันที เซฮุนไม่ลืมหันไปคว้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนโต๊ะวางเสิร์ฟติดไม้ติดมือไปด้วยอีกแก้วหนึ่ง

     

                    เสียงหัวเราะที่เจือมากับสายลมยิ่งพาลทำให้รำคาญใจ เซฮุนเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนถึงที่หมาย ร่างสูงเลือกหยุดยืนอยู่ข้างเก้าอี้ที่ลู่หานนั่งอยู่ ยื่นเครื่องดื่มที่ติดมือมาให้เพื่อนสนิทก่อนจะชักมือกับมาวางพาดไหล่เล็กด้วยท่าทีสบายๆ นัยน์ตากวางตวัดมองไม่พอใจ ซึ่งเซฮุนก็ไม่สะทกสะท้าน มิหนำซ้ำยังกระชับอ้อมแขนให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น

     

                    “ไงมึง เจ้าของวันเกิด ไม่เข้าไปเทคแคร์แขกในงานบ้างเหรอวะ”

     

                    “ไม่ว่ะ ขี้เกียจ อยู่คุยเป็นเพื่อนคุณลู่หานดีกว่า...อ่า จริงสิ ตั้งแต่มาถึงคุณลู่หานยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่นา งั้นเดี๋ยวผมไปตักมาให้นะครับ แป๊บเดียว” พูดทั้งที่สายตายังไม่ละจากใบหน้าหวานใส สายตาวิบวับที่สะท้อนออกมา แค่มองปราดเดียวคนที่คุ้นเคยกันอย่างเซฮุนก็รู้ทะลุปรุโปร่งไปถึงความคิดของเพื่อนสนิท จงอินไม่รอฟังคำคัดค้านใดๆ จากลู่หาน คนผิวเข้มก็เดินจากไปเสียแล้ว

     

                    อันที่จริงแล้วลู่หานเองก็ไม่ได้รู้สึกหิวเลยสักนิด ก่อนออกจากบ้านก็หาอะไรรองท้องมาบ้างแล้ว ร่างบางรู้สึกขอบคุณในความหวังดีของจงอิน แต่ใจจริงแล้วเขาอยากให้จงอินนั่งอยู่เป็นเพื่อนตามเดิมเสียมากกว่า เพราะการที่ต้องอยู่กับโอเซฮุนสองต่อสองแบบนี้มันอันตรายเกินไป ลองเดินมาหาถึงที่พร้อมกับแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมแบบนี้ มันไม่ปกติแน่

     

                    “ไปไหนครับ?” ชายหนุ่มออกแรงฉุดให้ลู่หานลุกขึ้น แต่ร่างบางก็ขืนตัวไว้ เสียงหวานสะบัดถามไม่พอใจในการกระทำของอีกฝ่าย ที่นึกจะสั่งหรือลากให้เขาไปไหนก็มักจะทำตามใจตัวเองอยู่เสมอ ไม่เคยถามถึงความสมัครใจสักครั้ง

                   

                    “ไปกับฉัน”

     

                    “ผมไม่ไป จะรอคุณจงอินอยู่ตรงนี้ล่ะ” ลู่หานพยายามดึงมือตัวเองออกมาให้เป็นอิสระ ใบหน้าหวานงอง้ำอย่างขัดใจ

     

                    “ทำไม คุยกับมันแป๊บเดียวก็ติดใจมันแล้วหรือไง”

     

                    อีกแล้ว ดูถูกกันอีกแล้ว...ลู่หานตวัดตามองไม่พอใจ เหนื่อยใจจะหาข้ออธิบายใดๆ มาพูดให้คนหัวรั้นคนนี้ฟัง เท่าที่ผ่านมามันก็ทำให้ลู่หานเข้าใจดีอยู่แล้วว่าพูดไปก็เปลืองน้ำลายเสียเปล่าๆ ในเมื่อเซฮุนไม่เคยเปิดใจยอมรับฟังข้อแก้ต่างใดๆ คนตั้งใจจะหาเรื่อง พูดอะไรไปเท่าไหร่ก็ไม่ช่วยอะไร

     

                    “จะไปไหน” ร่างบางตัดสินใจลุกขึ้น ทำท่าจะเดินหนีไป แต่เซฮุนไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กเดินไปไกลกว่าสามก้าวก็ฉวยดึงแขนเล็กเข้าหาตัว

     

                    “ผมเบื่อจะคุยกับคุณแล้ว คุณไปหาแฟนคุณเถอะครับ”

     

                    “จะไปหาไอ้จงอินมันหรือไง”

     

                    “ครับ คุณจงอินคุยสนุกแล้วก็ไม่งี่เง่าด้วย ผมไปหาคุณจงอินดีกว่า”

     

                    “ถ้าคิดจะอ่อยเพื่อนฉัน นายคิดผิดแล้วล่ะ จงอินมันไม่เหมือนปาร์คชานยอลเพื่อนนายหรอกนะ ที่จะโง่ให้นายปั่นหัวน่ะ”

     

                    “พูดอะไรกรุณาให้เกียรติเพื่อนผมด้วยนะครับ ชานยอลเขาไม่เกี่ยวอะไร” ลู่หานตอกกลับเสียงแข็ง ถ้าเป็นเรื่องอื่นเขาทนได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปาร์คชานยอลล่ะก็ ลู่หานไม่มีวันยอมให้ใครมาว่าร้ายเพื่อนคนนี้แน่ๆ

     

                    เซฮุนยักไหล่ ไม่ยี่หระต่อลูกแมวตัวน้อยที่กำลังขู่ฟ่อตาวาว ร่างสูงกระตุกยิ้มร้ายน่าหมั่นไส้จนลู่หานเองอยากจะลงมือประทุษร้ายสักทีสองที แต่สุดท้ายก็ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทำท่าปึงปังจะเดินหนีไปที่คิมจงอินยืนอยู่แต่ก็มีกำแพงสูงมาดักทางไว้เสียก่อน ลู่หานจิ๊ปากไม่พอใจ ตวัดตามองค้อนใบหน้าเย็นชาของคนตัวสูงกว่า

     

                    “นี่ ชอบไอ้จงอินมันจริงๆ หรือไง”

     

                    “ไม่รู้สิครับ แต่ผมว่าคุณจงอินเขาก็น่าสนใจดี” ลู่หานปด ใจจริงแล้วก็คิดแค่เพียงว่าจงอินเองก็เป็นคนดีที่น่าคบหาเป็นเพื่อนด้วยคนหนึ่ง

     

                    ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เจ้าของหัวใจของลู่หานก็มีเพียงคนเดียว แม้จะมีผู้คนมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามามากมาย แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำให้หัวใจเต้นแรงได้เหมือนกับคนตรงหน้านี้อีกแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เคยรู้เลยสักนิด ว่าตัวเองนั่นล่ะ ที่เป็นผู้ครอบครองใจดวงน้อยมาตลอด

     

                    “แต่ฉันขอสั่งห้ามให้นายยุ่งกับใคร ตราบใดที่นายยังเป็นเมียฉันอยู่”

     

                    “เผด็จการ!

     

                    “ใช่ นายรู้นิสัยฉันดีนี่ลู่หาน แล้วฉันก็ไม่ชอบให้ใครขัดใจด้วย”

     

                    เซฮุนยกมือขึ้นกอดอก หลุบตาลงต่ำมองเห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลคาราเมลที่หยุกหยิกอยู่ตรงปลายคางพอดิบพอดี เดาได้เลยว่าเจ้าตัวคงกำลังทำตาคว่ำปากเบะอย่างไม่พอใจอยู่เป็นแน่ แต่ใครจะสน ในเมื่อเขาสั่งลู่หานก็ต้องทำ ไม่มีการลดหย่อนผ่อนปรนแม้แต่น้อย

     

                    แต่ไหนแต่ไรเซฮุนก็เป็นคนหวงสิ่งของที่เป็นของตน และเซฮุนรู้ว่าลู่หานรู้ความจริงข้อนี้ดี

     

                    “อย่าให้เห็นว่านายปล่อยให้จงอินมันเข้าใกล้อีกนะ ไอ้ปาร์คชานยอลเพื่อนนายนั่นก็ด้วย เข้าใจหรือเปล่า” คำรามถามเสียงต่ำ เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

     

                    หากจะพูดกันตรงๆ เขาเองก็ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าทำไมถึงไม่ชอบใจยามที่เห็นคนอื่นมาข้องแวะกับคนตัวเล็ก ในเมื่อเขาพร่ำบอกตัวเองอยู่ทุกวันว่าเกลียดเด็กคนนั้นจะเป็นจะตาย แต่ถึงกระนั้นเซฮุนก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย

     

                    “ไม่เข้าใจ! คุณมันบ้าอำนาจ ทำไมต้องห้ามให้ผมคบคนนั้นคนนี้ด้วย ทีคุณยังคบคุณแบคฮยอนได้เลย แล้วทำไมผมจะคบใครไม่ได้”

     

                    หมดคำแก้ตัวเมื่อลู่หานยกเหตุผลขอนี้ขึ้นมาต่อกร เหมือนน้ำท่วมปากเพราะมันคือความจริงทั้งนั้น

     

                    “คุณไปนอนกับเขาผมไม่ว่า แต่ถ้าผมไปกับอื่นบ้าง คุณก็อย่ามาว่าผมก็แล้วกัน คุณเซฮุน”

     

                    “ลู่หาน! ราวกับเส้นสติขาดผึง ความโกรธมันแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกายที่ได้ฟังอีกคนพูดท้าทายกันแบบนั้น

     

                    แขนแกร่งกระชากเอาร่างบอบบางมาประชิด สอดมือรั้งเอวบางให้แนบชิดก่อนจะประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่ม ฟันคมขบกัดลงบนกลีบเนื้ออ่อนนุ่มไม่แรงนักเพื่อเป็นการลงโทษเด็กดื้อ แต่มันก็แรงพอให้ลู่หานเจ็บจนเผลอร้องออกมา เปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนเข้าไปดูดชิมความหวานหอมแต่โดยดี

     

                    “ไอ้เซฮุน” เป็นเสียงของจงอินที่ดังขึ้น จานอาหารแทบจะหล่นจากมือ ทั้งสองคนตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งงานไปโดยปริยาย แต่ ณ วินาทีนี้ดูเหมือนว่าเซฮุนจะไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น

     

                    กำปั้นน้อยทุบลงบนแผงอกแกร่งอย่างอ่อนแรง กวางน้อยตกใจจนเสียขวัญที่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันระวังตัว เซฮุนยอมละจูบออกมาเมื่อร่างบอบบางในอ้อมกอดทำท่าจะขาดอากาศหายใจ

     

                    ลู่หานยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองที่บวมเจ่อขึ้นมาเล็กน้อย ตากลมโตฉายแววตัดพ้อต่อว่าที่อีกคนทำเหมือนไม่ให้เกียรติกัน เซฮุนไม่มีแม้แต่ท่าทีสำนึกผิด ใบหน้าเฉยชายังคงติดแววฉุนเฉียวอยู่ด้วยซ้ำ

     

                    สรรพเสียงรอบกายเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง เรียกให้ลู่หานต้องกวาดสายตามองไปรอบๆ สายตาตื่นตระหนกระคนติเตียนหลายสิบคู่ที่จ้องมองมา ตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทาของคนทั้งงาน มันทำให้ลู่หานทำตัวไม่ถูก ในเมื่อเขาเป็นแค่คนที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือภรรยาของโอเซฮุน ผิดกับแบคฮยอนที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนมากหน้าหลายตาตรงนั้น ใครต่อใครต่างก็รู้จักว่าเป็นคนรักของโอเซฮุน ฉะนั้นที่ตรงนี้จึงไม่มีที่ให้ลู่หานยืนอีกต่อไป

     

                    ยิ่งแบคฮยอนมีทีท่าว่าจะยืนต่อไปไม่ไหว เสียงก่นด่าและสายตาตำหนิดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

     

                    ลู่หานปล่อยให้น้ำตาทะลักออกมาโดยไม่คิดจะเสียเวลาเช็ดมันทิ้ง สองขาเล็กรีบพาตัวเองออกไปจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด แม้ยามที่วิ่งผ่านคิมจงอินไปในระยะใกล้เพียงแค่เอื้อมมือถึง แต่ก็ไม่สามารถรั้งไว้ได้ทัน

     

                    กว่าเซฮุนจะรู้สึกตัวมีสติอีกครั้ง คนตัวเล็กก็วิ่งหนีไปไกลแสนไกล ร่างสูงตัดสินใจวิ่งตามไปโดยไม่เสียเวลาคิดสักนิด เสียงทุ้มตะโกนเรียกไล่หลังอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่สนใจเสียงร้องเรียกของคนรักที่ปะปนมากับเสียงสะอื้น เซฮุนไล่ตามไปจนถึงหน้าบ้าน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเมื่อเห็นรถแท็กซี่วิ่งผ่านรั้วบ้านหลังใหญ่ไป

     

                    “โธ่เว้ย!” ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ในที่สุดก็ตัดสินใจเคลื่อนรถยนต์คันหรูทะยานออกไป

     

                    ส่วนแบคฮยอนก็ได้แต่ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดท่า ถึงแม้ในใจอยากจะตามคนรักไปแค่ไหน แต่สองขาก็ไม่มีแม้แต่แรงจะพยุงตัวยืน ในเมื่อภาพที่เซฮุนดึงคนอื่นเข้ามาจูบต่อหน้าต่อตามันช่างชัดเจนในความรู้สึกเหลือเกิน

     

    .

    .

    .

     

                    “ฮึก...”

     

                    ทันทีที่ถึงห้องสองขาก็อ่อนแรงทันที ลู่หานทรุดตัวลงพิงกับประตูห้องนอน มือน้อยถูกยกขึ้นมาปิดกั้นเสียงสะอื้นแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยเลย

     

                    ลู่หานเสียใจที่เซฮุนทำราวกับเขาเป็นตุ๊กตาที่ไม่มีความรู้สึกและไร้จิตใจ คิดจะทำอย่างไรกับเขาก็ทำได้โดยไม่เคยคิดถึงความรู้สึกกันสักนิด

     

                    ภาพสายตาหลายสิบคู่ที่จ้องมาอย่างตำหนิติเตียน บ้างก็มองมาคล้ายกับดูถูกดูแคลนยังสะท้อนอยู่ในหัว เสียงกระซิบกระซาบที่มีแต่คำครหายังดังก้องอยู่ไม่จางหาย มันทำให้ลู่หานทั้งเจ็บทั้งอาย ทุกคนที่นั่นมองเหมือนเขาเป็นคนผิดที่คิดไปยุ่งกับคนมีเจ้าของอย่างโอเซฮุน ที่สำคัญคงเป็นสายตาที่ฉายความเจ็บปวดของแบคฮยอนที่มองมาราวกับไม่เชื่อสายตา เรียกให้น้ำตายิ่งไหลรินไม่มีทีท่าว่าจะเหือดหายไป

     

                    “ลู่หาน! เปิดประตู! ฉันสั่งให้เปิดประตู!

     

                    อีกฟากหนึ่งของประตูบานเดียวกัน เซฮุนระดมทุบประตูห้องนอนอย่างบ้าคลั่ง ชายหนุ่มเสยผมด้วยความหงุดหงิด เมื่อไร้ปฏิกิริยาตอบโต้จากคนที่อยู่ด้านใน  รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาขัดใจก็ยังจะทำ อยากลองดีหรือยังไงนะ ลู่หาน

     

                    “หูหนวกรึไงลู่หาน!” ร่างบางสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงที่ทวีความดังขึ้นเรื่อยๆ กอปรกับแรงอารมณ์ที่ทำเอาประตูที่แข็งแรงยังสะเทือน

     

                    มือเล็กพยายามเช็ดน้ำตาออกไป เก็บกลั้นเสียงสะอื้นอย่างสุดความสามารถและพยุงตัวขึ้นอย่างทุลักทุเล แม้ในใจยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด แต่เพราะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว ลู่หานเกรงใจหากคุณพ่อคุณแม่ท่านต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อรับรู้เรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้

     

                    เซฮุนชะงักมือที่กำลังจะกระแทกลงบนประตูอีกครั้ง แต่มันก็เปิดออกเสียก่อน ขายาวเดินเข้าไปประชิดร่างบอบบางที่ยืนอยู่หลังประตู ดวงตากลมโตแดงช้ำช้อนมองอย่างหวาดๆ สองมือน้อยยกขึ้นดันแผ่นอกแข็งแรงแต่ดูจะไม่เป็นผล เมื่ออีกฝ่ายยังขยับเข้ามาประชิดตัวจนแทบไม่เหลือช่องว่าง

     

                    ใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงจนปลายจมูกคลอเคลียชิดแก้มใส ลู่หานเบือนหน้าหนีแต่ไม่พ้นคนฉวยโอกาส คีมเหล็กยกขึ้นเชยคางบังคับให้หันมาสบตา มืออีกข้างก็สอดรั้งเอวบางให้เข้าใกล้มากยิ่งขึ้น

     

                    “ทำไม รังเกียจฉันนักหรือไง”

     

                    “คุณมาจูบผมทำไม ในเมื่อคุณ...ไม่ได้รักผม” ลู่หานไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับเป็นฝ่ายตั้งคำถามเสียเอง เสียงหวานยังเจือด้วยแววสะอื้น พยายามเบือนสายตาหลบแต่ก็ไม่เคยหนีคนใจร้ายนี่พ้นสักที

     

                    “ก็แล้วผัวจะจูบเมียไม่ได้หรือไงล่ะ หืม?”

     

                    “คุณคิดแค่นี้เหรอ”

     

                    “ใช่ ก็ในเมื่อนายเป็นเมียฉัน ฉันมีสิทธิ์จะจูบนาย หรือจะทำมากกว่านี้ฉันก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรือไง หรือว่านายหวังอะไรอยู่ลู่หาน?”

     

                พูดไม่ออก เมื่อได้ฟังคำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน...เจ็บจนแม้แต่น้ำตาก็ไม่มีให้ไหล หัวใจมันด้านชาจนไร้ความรู้สึก ลู่หานเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกนี้ ก็วันนี้เอง

     

                    “คุณมันเห็นแก่ตัวที่สุด...”

                    ต่อว่าแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ ลู่หานใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักร่างสูงออกไปจนตัวเองหลุดพ้นจากอ้อมแขนแข็งแรง กำลังจะปิดประตูเพื่อกันตัวเองออกจากการคุกคามแต่เซฮุนก็ไวกว่า แทรกตัวเข้ามาประชิดได้อีกครั้ง อาการต่อต้านที่ลู่หานแสดงออกมาอย่างชัดเจน ทั้งทุบทั้งตี มันทำให้เขาหัวเสีย

     

                    สองแขนแกร่งรวบร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง กำปั้นเล็กๆ นั่น ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้เซฮุนระคายแม้แต่น้อย กลับยิ่งกระชับวงแขนให้แนบแน่นยิ่งขึ้นอีก ร่างสูงกดจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอีกครั้งอย่างไม่ปรานี แสดงสิทธิ์ในตัวลู่หานตามอย่างที่ใจคิด

     

                    แต่เซฮุนคงชะล่าใจเกินไป ถ้าหากคิดว่าลู่หานจะยอมเป็นลูกไก่ในกำมือให้ตัวเองทำร้ายอีกเป็นครั้งที่สอง

     

                เพียะ!’

                    ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างหยุดความเคลื่อนไหว ใบหน้าคมคายสะบัดไปตามแรงตบ ไหล่บอบบางสั่นสะท้าน ดวงตากลมไหวระริกวาวฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา ลู่หานไม่ได้อยากทำร้ายเซฮุน แต่จิตใจมันบอบช้ำจนเกินจะทนรับไหว ลู่หานก็แค่อยากปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด

     

                    “ผมเกลียดคุณ! ได้ยินไหมว่าผมเกลียดคุณ!

     

                    ไม่รอให้คนใจเอาแต่ใจทำร้ายอีกเป็นครั้งที่สอง ร่างเล็กพยายามพาตัวเองออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด กลับไปยังห้องนอนห้องเก่าที่เคยเป็นของตัวเอง ซึ่งเซฮุนก็ไม่คิดจะรั้งหรือขัดขวางไว้เหมือนอย่างทุกที

     

                    ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะยอมปล่อยให้ลู่หานจากไปง่ายๆ เพียงแต่ราวกับหัวใจหยุดเต้นไป และสมองก็ไม่สั่งการ เพียงได้ยินคำว่าเกลียดออกมาจากปากของอีกคน



    To be continued.


     

    มันเป็นตอนที่แต่งยากมาก มากกกกกก Orz
    นั่งลบไปลบมา ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเคเลยอ่ะ แฮะ
     ดราม่านิดๆ พอกรุบกริบ โอเซมันก็ร้ายทุกตอนอยู่แล้ว
    สาวกชานแบครอตอนหน้านะคะ จ่อคิวรออยู่ มาแน่นอนค่ะ
    ดีไม่ดียังไงช่วยติชมกันหน่อยน้า ตอนนี้มันสื่ออารมณ์ยากจริงอ่ะ
    อยากรู้ว่ารีดรู้สึกยังไงกันบ้าง ^^
    อ่านให้สนุกนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×