ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DAFFODIL ❧ | HUNHAN

    ลำดับตอนที่ #4 : ❧ DAFFODIL : III

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 57










    ห้องชุดสุดหรูของโรงแรมชื่อดังในอเมริกาทำให้แดฟโฟดิลไม่ต้องจองห้องพักหลายห้องให้เปลืองงบบริษัทเลย พวกเขาตกลงนอนพักห้องเดียวกันด้วยขนาดเตียงที่กว้างถึงขนาดให้นอนดิ้นกันทั้งวงก็ไม่มีเสี่ยงต่อการตกเตียงแน่ ไหนจะห้องน้ำสามห้อง ที่สำคัญ ไม่ว่าพวกเขาจะเปิดสักกี่สิบห้องยังไงสุดท้ายก็ต้องมานอนขลุกด้วยกันอยู่ดี

     

    พอรับทราบการตัดสินใจของพวกเขา ผู้จัดการคนเก่งหรือคิมจุนมยอนก็รีบเอ่ยปากดักคอเรื่องเหล้าเบียร์อย่างรู้ทัน

     

    เซฮุน ดูเนื้อเพลงหน่อย จะแก้ตรงไหนหรือเปล่า

     

    ทันทีที่มาถึงสิ่งแรกที่คิมจงอินทำคือเปิดกระจกระเบียงห้องนั่งรับลม รินเบียร์หนึ่งแก้ว คาบดินสอแล้วออกไปจดบางอย่างยุกยิกคนเดียวกับกีต้าร์โปร่งคู่ใจ ระหว่างเพื่อนร่วมวงคนอื่นพากันเก็บของทำธุระส่วนตัว ครึ่งชั่วโมงผ่านไปหนุ่มหน้าเข้มถึงชะโงกหน้าเข้ามาส่งเสียงเรียกให้เซฮุนที่กำลังถอดเสื้อต้องชะงัก

     

    เพลงใหม่เหรอ

     

    อืม ลองดูก่อนว่าใช้ได้ไหม ฉันว่ามันแปลกๆ เหมือนขาดอะไรสักอย่าง

     

    เซฮุนคว้ากระดาษสีขาวขึ้นมาอ่าน ดวงตาคมไล่มองแต่ละคำด้วยความตั้งใจ น้อยครั้งนักที่มีโอกาสเห็นเขาจริงจังกับอะไรสักอย่าง ซึ่งหนึ่งในน้อยเรื่องนั้นคือเพลง สิ่งที่รักและใฝ่ฝันจะทำ

     

    อักษรตัวสุดท้ายยังไม่ทันผ่านตาดีอู๋อี้ฟานกับปาร์คชานยอลก็เปิดประตูเดินเข้ามาสมทบ ร่างสูงทั้งสองอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเบาบางชวนวาบหวิว(?) เซฮุนกับจงอินแอบคิดในใจ...ถ้าไม่เกรงใจสถานที่สองคนนี้คงแก้ผ้าเดินแล้ว

     

    คริสกวาดตามองรอบห้อง เมื่อแน่ใจว่าลู่หานยังอาบน้ำอยู่ก็พรายยิ้ม

     

    ท่านเซฮุนกับท่านจงอินช่วยกันแต่ง คงหนีไม่พ้นเพลงรักสามเส้า อืม...หรือเพื่อนรักหักหล่อโหดดีวะ

     

    ชานยอลตบปั่กเข้ากลางหลังมือกลองหน้าหล่อ ส่ายศีรษะคล้ายสุดแสนระอา

     

    พูดให้มันดีๆ หน่อยเฮีย อย่างไอ้สองคนนี้ต้อง ผู้ชายคนนั้นฉันให้นาย ต่างหากเว้ย

     

    ฮ่าๆๆๆ

     

    มือกีต้าร์ผู้ถูกพาดพิงซึ่งหน้าสบตากันก่อนถอนหายใจยาว ตลกบริโภคจริงๆ ทีตอนอยู่บนเวทีล่ะเก๊กหล่อกันไม่มีใครเกิน อิมเมจแตกต่างขนาดนี้แฟนคลับมาเห็นคงเสื่อมศรัทธาไปถึงไหนต่อไหน

     

    “เอ้าเงียบ มักเน่ไลน์ถึงกับเงียบ”

     

    “ประสาทกันหรือไง”

     

    จงอินสวนมาคำ ชานยอลแสร้งทำตาโตใส่คริสที่หัวเราะลืมโลกแล้ว

     

    “ไคย่า ยังไงฉันก็เข้าข้างนายเสมอนะ”

     

    “แต่พี่เชียร์นายว่ะ เซฮุนน้องรัก”

     

    “พี่จะส่งลู่หานของพวกเราเข้ากรงเสือหรือไง”

     

    เซฮุนชูนิ้วกลางให้ชานยอลเน้นๆ แทนคำพูด เขาอ่านเนื้อเพลงอีกครั้งคล้ายไม่เห็นพี่ชายจอมกวนทั้งสองในสายตา

     

    ตั้งใจให้เป็นยังไง คอนเซ็ปต์เพลงนี้น่ะ เพราะเท่าที่ดู...มันไม่เหมือนที่นายเคยแต่ง

     

    จงอินกระดกเบียร์ที่เหลือค่อนแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด คิ้วเข้มขมวดชิดอย่างครุ่นคิด...ว่าควรจะพูดต่อหน้าคู่หูกวนอารมณ์ดีหรือไม่ โชคดีที่ท่าทางมือกีต้าร์ทั้งสองเป็นงานเป็นการจนคริสกับชานยอลต้องหยุดความรั่วแล้วยื่นหน้าเข้ามาช่วยดูอีกแรง

     

    ความจริงตั้งใจให้เป็นเพลงรัก”

     

    “อืม...”

     

    “รักที่ไม่ใช่ความหวานแหวว หรือฉาบฉวย รักที่อธิบายไม่ได้

     

    เมมเบอร์อีกสามคนพยักหน้ารับรู้ ที่ผ่านมาพวกเขาแทบร้องเพลงรักลึกซึ้งแบบนี้นับครั้งได้ ลองเปลี่ยนสไตล์สักทีก็คงดีเหมือนกัน

     

    คุยอะไรกันอยู่

     

    เจ้าของกลิ่นหอมฟุ้งเดินหน้าใสเข้ามาหลังอาบน้ำคลายความอ่อนเพลียจากการเดินทางเป็นคนแรก และเมื่อสบายกายสบายใจลู่หานก็ยิ้มกว้างทักทายราวกับเด็กๆ ให้ชานยอลต้องคว้าตัวเย็นเฉียบเข้ามาฟัดแก้มเจือกลิ่นแป้งเด็กอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    หยุดเลยชานยอล!” ดิ้นปัดๆ มีหรือจะเอาชนะแรงอีกคนได้ “คริส! ลากน้องนายไปเก็บที!!

     

    ไม่ต้องให้พูดซ้ำสองคริสก็ยินดีลากคอเสื้อน้องชายกึ่งเพื่อนสนิทด้วยความเต็มใจยิ่ง ลู่หานยืนหอบแฮ่ก หรี่ตามองมือเบสตัวสูงคาดโทษ

     

    ชานยอล เอาโค้ทฉันไปวางไว้บนตู้เสื้อผ้าสูงเท่าเสาไฟฟ้านั่นใช่มั้ย เอาลงมาเดี๋ยวนี้

     

    ไม่ งอนลู่หานแล้ว หยิบเองเลย

     

    ชานยอลแกล้งทำปากเชิด จะบอกได้ยังไงว่าทีแรกตั้งใจจะแกล้งซ่อนให้หาไม่เจอแต่ดันถูกจับได้เสียก่อนน่ะ

     

    ไม่ นายต้องรับผิดชอบ หยิบลงมาให้ฉัน เดี๋ยวนี้ด้วย

     

    ไม่ๆๆ

     

    ปาร์คชานยอล!

     

    ก่อนสงครามจะบานปลายจงอินเลยจำต้องยกมือห้ามทัพ มองหน้าชานยอลก็แน่ใจนักว่ายังไงพี่ชายตัวโย่งคงไม่หยิบมาคืนให้แน่ๆ ชายหนุ่มบอกลู่หานเสียงอ่อน

     

    เสี่ยวลู่หยิบเอาแล้วกัน พี่ชานยอลงอแงจริงนะวันนี้

     

    ไม่เอา

     

    “เสี่ยวลู่...”

     

    “ไม่!

     

    ทำไมล่ะครับกลายเป็นเซฮุนถามแทนจงอินที่เงียบอย่างจำนนกับสีหน้าเด็ดเดี่ยวเข้าอีกราย

     

    ก็......ฉันหยิบไม่ถึงนี่

     

    ประโยคสารภาพเสียงอ่อยเจือทั้งความเขินและขุ่นเคืองเรียกเสียงหัวเราะดังลั่น คนกำลังอารมณ์เสียเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม ท้ายที่สุดชานยอลก็ก้าวเท้าไปหยิบโค้ทให้มือคีย์บอร์ดร่างเล็กแต่โดยดี

     

    เมื่อได้ตามต้องการลู่หานก็ตรงเข้ากอดเอวเซฮุน เอียงแก้มให้หอมซ้ายทีขวาที ก่อนดวงตากลมโตจะอ่านกระดาษสีขาวซึ่งกำลังได้รับความสนใจถ้วนหน้าบ้าง

     

    จงอินแต่งเหรอ ขยันจริงคนนี้ ได้ทำนองหรือยังอ่ะ อยากฟังแล้ว

     

    คนถูกถามส่ายหน้า แค่เนื้อเพลงยังไม่สมบูรณ์ทำนองคงต้องร่วมด้วยช่วยกันอีกนาน

     

    วันนี้นอนเร็วหน่อยนะเสี่ยวลู่ใบหน้าสวยเงยมองเจ้าของเสียงทุ้มที่เขายังกอดไว้ เซฮุนจับศีรษะเล็กโยกไปมา พรุ่งนี้ตื่นมาซ้อมแต่เช้า โอเคไหม

     

    หากถามก่อนหน้านี้สักสองวันลู่หานคงได้แต่แค่นยิ้มตอบ ทว่าเวลานี้ หลังจากได้ผ่านค่ำคืนที่หลับสนิทในอ้อมกอดอันอบอุ่นโดยไร้ความกังวลใดๆ ตลอดคืน เขาเลยตอบได้อย่างมั่นใจว่า

     

    โอเค

     

     

     

    *

     

     

     

    เสียงกรีดร้องเรียก DAFFODIL ดังก้องมาถึงด้านหลังเวทีปลุกกำลังใจกับแรงฮึกเหิมให้ทั้งห้าคนได้เป็นอย่างดี ทำนองดนตรีหนักหน่วงเริ่มต้นขึ้นทำให้แดฟโฟดิลรู้ตัวว่าถึงเวลาแล้ว พวกเขาแท็กมือกันโดยไร้คำพูดหรือพิธีรีตองใดมากกว่านี้ อู๋อี้ฟานสวมหมวก ก้าวออกจากห้องแต่งตัวเป็นคนแรก

     

    พี่ทำได้ ท่องเอาไว้เสี่ยวลู่

     

    เสียงคุ้นเคยดังเหนือหน้าผากตามด้วยจูบหนักๆ บนริมฝีปากบาง ลู่หานยิ้มกว้าง พยักหน้ารับ เขาเรียกความมั่นใจคืนสู่ตัวเองในฐานะมือคีย์บอร์ดได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว มือบางกำสร้อยเงินเครื่องประดับที่ใส่ติดตัวเรียกกำลังใจ

     

    ชานยอลจับจมูกที่เพิ่งไปเจาะมาสดๆ ร้อนๆ คล้ายยังติดขัดไม่เข้าที่ มือเบสตัวสูงบ่นอุบอิบกับตัวเองได้ไม่นานก็ถูกจงอินลากออกไป ตามด้วยโอเซฮุน

     

    ทว่า ก่อนที่ลู่หานจะขยับปลายเท้าเดินตาม แรงสั่นของอะไรบางอย่างกลับดึงความสนใจให้หันหลังมอง

     

    เครื่องสื่อสารบางเฉียบขาว

     

    โทรศัพท์มือถือของโอเซฮุน

     

    ร่างบางเม้มริมฝีปาก แม้เสียงดนตรีด้านหน้าจะเร่งเร้ามากขึ้นทุกทีแต่ลู่หานก็ยังหยิบมันขึ้นมา...และพบว่าหน้าจอกำลังขึ้นชื่อที่เขาไม่คุ้นเคย

     

     

    คิมนัมจู

     

     

    ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าเป็นใคร ในเมื่อเพื่อนผู้หญิงของเซฮุนทุกคนแดฟโฟดิลรู้จักหมด หากมีชื่อที่ไม่เคยเห็นปรากฏขึ้นมาเมื่อไหร่ความหมายของมันมีเพียงอย่างเดียว

     

     

    “.....................”

     

     

    เซฮุนจะโกรธไหม จะดุเสี่ยวลู่คนนี้หรือเปล่า

     

    หากรู้ว่าเขากดปิดมัน...แล้ววางคืนลงที่เดิม

     

     

    .

    .

     

     

    บทเพลงแล้วบทเพลงเล่าผ่านพ้นด้วยดี เหงื่อกาฬชุ่มโชกแผ่นหลัง เส้นผม ใบหน้า แต่ทุกคนก็เหมือนจะลืมคำว่าเหน็ดเหนื่อยเสียสิ้น เสียงดนตรีกับภาพแฟนเพลงนับหมื่นดึงดูดพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจนไม่อยากให้จบสิ้นลง

     

    กระทั่งเสียงอินโทรเพลงหนึ่งเริ่มขึ้น...

     

    เพลงนี้ ที่เมื่อสองปีก่อนลู่หานได้ทำผิดพลาดลงไป

     

     

    “Until your distress sleeps fill me up with your grief”

     

     

    เสียงเรียกชื่อเขาดังอยู่เบื้องหน้า เมื่อลืมตาที่เผลอปิดแน่นสนิทตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันรู้ตัวขึ้น ก็ประสานสายตาเข้ากับอีกฝั่งหนึ่งของเวที...โอเซฮุนกำลังส่งยิ้มมาให้

     

     

     

    พี่ทำได้ ท่องเอาไว้เสี่ยวลู่

     

     

     

    คล้ายได้ยินเสียงทุ้มพร่ากระซิบซ้ำๆ ข้างหู เพียงเท่านี้ความมั่นใจก็ยิ่งเพิ่มพูน

     

    ริมฝีปากแดงขยับตามคำร้อง เรียวนิ้วมือกดลงเหนือเครื่องดนตรีที่แสนรักตามจังหวะท่วงทำนองได้ พร้อมรอยยิ้มของความสุขแตะแต้มเหนือใบหน้างดงาม

     

     

     

    *

     

     

     

    คอนเสิร์ตกว่าสามชั่วโมงสร้างความอ่อนเพลียให้ไม่น้อย โชคดีที่มันจบลงด้วยดีไม่แพ้ครั้งก่อน ทั้งห้าคนแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวแล้วมานั่งรวมกลุ่มกันที่ระเบียงกว้าง ณ เวลาตีสองยี่สิบหกนาที

     

    ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาชวนให้สูดลมหายใจลึก ชะล้างความเหน็ดเหนื่อยทั้งใจและกายให้พ้นผ่านไป ไม่ทันได้ปริปากพูดอะไรกันมากมายขวดเบียร์ที่รินหมดทุกหยดหยาดก็ถูกคริสจับวางกลางวงล้อม

     

    “Truth or Dare”

     

    เซฮุนแทบจะถอนหายใจแรงๆ

     

    เขาล่ะเกลียดเกมบ้านี่ชะมัด ชายหนุ่มแอบตั้งชื่อมันอย่างหยาบคายในใจว่า เกมเสือก

     

    แต่เวลาปากขวดหยุดหมุนอยู่ที่คนอื่นไม่ใช่ตัวเขา เซฮุนไม่ปฏิเสธว่ามันสนุกดีเหมือนกัน อย่างเช่นปาร์คชานยอลถ้าเซฮุนเป็นคนหมุนเขาสาบานกับตัวเองได้เลยว่าจะล้วงความลับให้กระจุยกระจายเลยทีเดียว

     

    เพราะนิสัยช่างกวนไม่เลือกของพี่ชายคนนี้นั่นแหละ

     

    เอาสิ น่าสนุกลู่หานพยักหน้าหงึกหงักคนแรก คริสรู้ทันทีว่าต้องได้เล่นแน่

     

    ก็ดี จะได้หายเบื่อเพราะเสียงสนับสนุนต่อมาต้องเป็นจงอินน่ะสิ ทีนี้ก็ครบสามเสียงจากห้าเสียง อีกสองคนจะคิดยังไงคริสไม่สนใจ ยังไงมันก็ต้องเล่นอยู่ดี

     

    งั้น...ฉันหมุนคนแรก เพราะฉันคนชวน

     

    ทันใดสายตาทั้งห้าคู่ก็เพ่งยังปากขวดที่หมุนรอบวงแน่วแน่ มันวนไปวนมาร่วมห้ารอบก่อนจะช้าลง...ช้าลง...

     

     

     

    แล้วหยุดที่โอเซฮุน

     

     

     

    YEHET!ชานยอลป้องปากร้อง เซฮุนนึกอยากเอาขวดเปล่านี่ตีหัวนัก

     

    น้องเซฮุนครับ Truth or Dare?

     

    ให้เสี่ยง Dare กับคริสเซฮุนบอกตามตรงว่าไม่กล้า มือกลองของแดฟโฟดิลบ้าบิ่นขนาดโดดตึกสามชั้นเพราะขี้เกียจเสียเวลาลงลิฟต์มาแล้ว ใครๆ ก็รู้กิตติศัพท์ความบ้าระห่ำของคริสทั้งนั้น

     

    “Truth”

     

    สายตาทุกคู่จับจ้องริมฝีปากที่กำลังจะเอ่ยถามของอู๋อี้ฟานทันที

     

    ผู้หญิงล่าสุดที่นายนอนด้วยหรือใคร

     

    ต้องอย่างนี้สิ

     

    เสียงพูดกลั้วหัวเราะบ่งบอกชัดเจนถึงความสนุกในใจดังมาจากปากคู่หูมือกีต้าร์อีกคน พอเซฮุนเหล่ตาใส่จงอินก็ทำท่าปิดปากอย่างจงใจแกล้ง

     

    ว่าไง คนล่าสุดที่หนุ่มฮอตนอนด้วยน่ะ

     

    เซฮุนกระตุกยิ้มมุมปาก นึกแล้วว่าคริสต้องถามเรื่องใต้สะดือเหนือหัวเข่า เขาตีหน้าครุ่นคิด

     

    ผู้หญิงที่นอนด้วยคนล่าสุดน่ะเหรอ...

     

    แม่ผม

     

    เฮ้ย! อย่ามาโกหกนะเว้ย ไอ้บ้านี่

     

    ชานยอลโวยวายลั่น ลู่หานฟังคำตอบของเซฮุนก็เริ่มหัวเราะเสียงดังคนแรก

     

    เจ้าเล่ห์จริงๆ

     

    คนถูกกล่าวหาทำโทษด้วยการบีบริมฝีปากแดงๆ สองที

     

    พี่ถามว่า นอน นี่ ใช่มั้ย? แม่ผมมาหาเมื่อสองวันก่อน แล้วก็ค้างคอนโดผม

     

    “.......................”

     

    พี่ไม่ได้ถามว่าผม มีเซ็กส์กับใครสักหน่อย ผมตอบถูกแล้วไงครับ

     

    คริสกัดฟันกรอด จิกทึ้งศีรษะตัวเองอย่างโคตรจะเสียดาย ลืมสนิทว่ากำลังเล่นกับคนประเภทน้ำนิ่งไหลลึกอยู่ ไม่น่าพลาดเลยจริงๆ

     

    รอดจนได้นะแก

     

    เซฮุนยิ้มอย่างผู้ชนะ นิ้วเรียวจับส่วนกลางของขวดเหล้าแล้วเริ่มต้นหมุนตามเกม สี่คนที่เหลือลอบสบตากันพลางกลืนน้ำลายฝืดคอ คราวนี้เกมอยู่ที่โอเซฮุนรับรองได้ว่ามันคงไม่ผ่านไปง่ายๆ เป็นแน่ ความหวาดหวั่นปนความตื่นเต้นทำให้ต้องรินแอลกอฮอล์สีอำพันลงคอดับกระหาย

     

    และลู่หานก็ต้องสบถสุดเสียง

     

    ให้ตายเถอะ! มันหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

     

    ผมไม่ได้อยากแกล้งพี่เลยนะเสี่ยวลู่อ่าเซฮุนทำเสียงหวาน อดกดริมฝีปากบนแก้มขาวของคนหน้าบูดไม่ได้

     

    อยากรู้จริง ถ้าขวดมันหยุดที่ชานยอลเซฮุนมันจะมีบริการจุ๊บปลอบใจรึเปล่า

     

    ถามน่าขนลุกนะพี่คริส” เซฮุนหัวเราะ “เสี่ยวลู่ครับ Truth or Dare?

     

    โธ่ เซฮุน~”

     

    เมื่อจนมุมก็ถึงคราวงัดกลยุทธ์ขึ้นมาใช้ ถ้าคนถามไม่ใช่เซฮุนลู่หานคงไม่นึกหวาดหวั่นหรือเล่นแง่ใดๆ ทั้งสิ้น ร่างเล็กจ้องเพื่อนร่วมวงตาแป๋ว ถูไถใบหน้าคล้ายลูกแมวออดอ้อนกับบ่าร่างสูง แต่เซฮุนไม่หลงกล อย่างมากก็แค่ประคองแก้มใสทั้งสองข้างด้วยฝ่ามือแล้วจูบแรงๆ เหนือริมฝีปากแดงนั่นแหละ

     

    เลือกมา

     

    เออ ก็ได้ๆ

     

    เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

     

    “Dare”

     

    ตอบอย่างนี้แสดงว่ามีความลับน่ะสิ

     

    ลู่หานเชิดหน้า

     

    ใครๆ ก็มีความลับด้วยกันทั้งนั้นแหละ ว่ามาเลยเซฮุน จะให้ทำอะไร

     

    ลู่หานฉลาดนัก เซฮุนนึกเข่นเขี้ยวผ่านใบหน้าเฉยเมยไร้ความรู้สึก ลู่หานคงรู้ว่าเซฮุนไม่ใจแข็งพอให้ทำอะไรประหลาดๆ ได้ลงคอเหมือนคริสถึงได้เลือกตอบอย่างนี้

     

    “ดื่มเหล้านั่นให้หมดแล้วมานั่งตักผม...จนกว่าจะจบเกม

     

    หา!

     

    ไอ้เหล้าดีกรีสูงที่เหลืออยู่เกือบเศษสองส่วนสามของขวดนั่นน่ะเหรอ โอเซฮุนใจร้ายเกินไปหน่อยแล้ว!

     

    “เฮ้ย”

     

    “ทำไม”

     

    เดี๋ยวเสี่ยวลู่ก็น็อคหรอกน่า เซฮุน

     

    เมื่อเซฮุนยักไหล่แทนคำตอบใส่เสียงคล้ายจะปรามจงอินก็ได้แต่ส่ายหัว ส่งสายตาเห็นอกเห็นใจให้ลู่หาน ครั้งนี้มันคืออำนาจการตัดสินใจของเซฮุน จอินคงยื่นมือช่วยไม่ได้

     

    ประคบประหงมกันเข้าไปเถอะจงอิน ลู่หานมันก็ผู้ชายนะ เกิดมันทนไม่ไหวอาละวาดขึ้นมา...

     

    ไม่หรอกคริส เป็นผู้ชายแล้วถูกดูแลมันก็สบายดีออก

     

    ลู่หานหัวเราะ ขยิบตาใส่คริสอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวใช้ความน่ารักน่ามองที่มีได้คุ้มค่าแค่ไหน

     

    จริงๆ เลย

     

    เกมเริ่มขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับที่ลู่หานลอยมานั่งตักเซฮุนทั้งที่ยังดื่มเหล้าไม่หมดขวด สุดท้ายร่างบางก็ไม่ต้องน็อคคาวงจริงๆ เพราะเซฮุนคอยดึงมาช่วยดื่มเกือบครึ่งต่อครึ่ง ลู่หานเลยแค่มึนๆ จนต้องวางศีรษะไว้กับไหล่กว้าง...จวบจนพวกเขาหยุดเกมนี้ลง ณ เวลาตีสี่สี่สิบห้านาทีนั่นแหละ

     

    ลู่หานแอบยิ้มเล็กๆ

     

    คิดไว้ไม่มีผิด เซฮุนน่ะใจอ่อนกับเขาเสมอนั่นแหละ

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    สายลมพัดพากลิ่นหอมจางๆ รวมทั้งอากาศเย็นสบายลอยมากระทบผิวกาย ท้องฟ้าระบายสีดำสนิทหากดวงจันทร์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าลงไปทุกที

     

    ลู่หานยังนั่งข้างเซฮุนโดยพิงศีรษะอันหนักอึ้งไว้กับบ่ากว้างของคนที่จ่อบุหรี่มวนที่สามชิดริมฝีปาก ข้างกันคือคิมจงอินกำลังดีดกีต้าร์เป็นทำนองเพลงช้าแผ่วเบา ดวงตาคมเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล กลับกันกับคริสและชานยอลที่แบกหามกันหายลับเข้าห้องนอนร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้ว เพราะคิมจุนมยอนโทรมาเหวี่ยงใส่เป็นคำรบที่สี่น่ะสิ

     

    ถ้าเสี่ยวลู่หมุนขวดโดนผม จะถามผมว่าอะไร

     

    อยู่ๆ เซฮุนก็ทำลายบรรยากาศเงียบสงัดขึ้นมา ดวงตาคมมองคนตาปรือคล้ายจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ปลายนิ้วเรียวสวยเกลี่ยผมที่ปรกละใบหน้าใสให้ สำรวจคนตัวเล็กด้วยสายตาพลางคิดว่ากลับโซลเมื่อไหร่เขาคงต้องตัดผมด้านหน้าให้ลู่หานเสียที

     

    อืม...”

     

    “...............”

     

    “ถามเหรอ...

     

    ส่งเสียงงัวเงียถามกลับ น่าแปลกที่ตลอดสองชั่วโมงกับการเล่นเกม Truth or Dare ไม่มีสักครั้งที่โชคลู่หานจะหยุดตรงหน้าเซฮุน

     

    หรือถ้ามันหยุดจริงๆ ลู่หานก็ไม่แน่ใจนักว่าเขาจะถามสิ่งที่ปรารถนาจะรู้ออกไปได้หรือเปล่า

     

    ไม่รู้สิ...อาจจะถามว่า...เซฮุนเกลียดอะไรมั้ง

     

    “ทำไมล่ะ”

     

    ลู่หานยิ้มน่ารัก “ก็ถ้าเซฮุนเกลียด ฉันจะได้ไม่ทำไง”

     

    อืม...เกลียดเหรอ

     

    เซฮุนอืออาในลำคอ ดวงตาคมสบประสานกับจงอินที่หยุดเล่นกีต้าร์แล้วหันมามองเขาเช่นกัน เซฮุนเบนสายตามาหาคนตัวเล็กที่รอคำตอบตาแป๋ว

     

    ชายหนุ่มหัวเราะโดยไร้เหตุผล

     

    มีสิ บางสิ่งที่เขาเกลียดจับใจ

     

     

    ผมเกลียดความรัก

     

     

    คำตอบนั้นชะงักลมหายใจของคนถึงสองคน

     

    เพราะมันเป็นคำตอบของคำถามมากกว่าหนึ่ง ในเมื่อเซฮุนเกลียดความรักความหมายของมันมีเพียงสิ่งเดียว ชายหนุ่มไม่เคยมีมันในหัวใจเลย ดังนั้นไม่ว่าจะกอด จูบ แตะต้อง สัมผัสลู่หานหรือใครอื่นสักกี่ครั้ง...ทุกครั้งไม่เคยมีความรักเข้ามาเจือปน

     

    เราเป็นนักดนตรีไม่ใช่เหรอ แค่เสียงเพลงก็เพียงพอแล้ว ความรักอะไรนั่น...ผมว่าไม่จำเป็น

     

    เซฮุนตอกย้ำประโยคแรกอย่างชัดเจน หนักแน่น

     

     

    ก่อนที่ความรักจะทำลายทุกสิ่งที่แบกรับบนบ่า เขาไม่ควรที่จะรู้สึกไปกับความหอมหวานอันไม่จีรังยั่งยืน

     

     

    งั้นเหรอ...

     

    เสียงหวานแผ่วหวิวนักยามย้อนถามเหมือนรำพึงกับตัวเอง ลู่หานฝืนยิ้ม

     

    เพราะเซฮุนเกลียดความรัก ไม่ต้องการความรัก

     

     

    ความลับของเขาคงต้องเป็นความลับ ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน...หรืออาจจะเป็นตลอดไป

     

    โชคดีของนายหรือโชคร้ายของฉันนะ...ที่ไม่เคยหมุนขวดถูกนายสักที เซฮุน

     

    จงอินถามผ่านความเงียบงัน สายตาหยุดตรงร่างบอบบางที่ฟุบหลับพิงระเบียง เขาจะดันศีรษะเล็กให้พิงไหล่ตัวเองแทน

     

    ตลอดสองชั่วโมงจงอินไม่เคยหมุนขวดถูกเซฮุนสักหน ไม่ชานยอลก็คริส สลับกันทุกที

     

    มีเรื่องอยากจะล้วงความลับฉันหรือไง

     

    อืม

     

    คำตอบรับอย่างไม่คิดปิดบังความในใจของจงอินทำให้เซฮุนคว้าบุหรี่มวนที่สี่จ่อเข้ากับไลท์เตอร์ หากยังไม่ทันที่สารนิโคตินจะถูกเผาไหม้จงอินก็ดึงมันไว้เสียก่อน

     

    คืนนี้นายสูบเยอะแล้วเซฮุน

     

    “ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า”

     

    “เพื่อนห้ามก็ฟังสิวะ”

     

    “เออ” ใบหน้าหล่อเหลาผงกขึ้นลงแกนๆ แล้ว...นายคิดว่าโชคดีของนายหรือโชคร้ายของฉันล่ะ จงอิน

     

    เพราะไม่ว่าสักกี่ครั้งเซฮุนก็ไม่เคยหมุนขวดโดนจงอินเช่นกัน

     

    มือกีต้าร์แห่ง DAFFODIL สบสายตากัน พร้อมใจประสานเสียงหัวเราะน่าฟังรับดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า...ต้อนรับวันใหม่ด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง

     

    เมื่อไหร่กัน สิ่งที่แบกรับในใจจะมลายหายไปสักที

     


     

     

    To be continued.

     


     

    เซไคไม่มีอะไรในกอไผ่นะคะ ออกตัวก่อน 555555

    เป็นเพื่อนสนิทที่เข้าใจกันแค่นั้นแหละ

    เจอกันตอนหน้าค่า ^ - ^

    #ดฟด



     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×