ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักกระชากใจของนายจอมโหดซุปเปอร์สตาร์

    ลำดับตอนที่ #3 : chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 52


    สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโลกนี้ก็คือการที่ฉันได้เกิดมาเป็นลูกของแม่

    ข้อความที่เขียนติดไว้บนหัวนอนเป็นลายมือของฉันตอนอายุห้าขวบ เพราะพ่อเสียชีวิตตั้งแต่ฉันอายุได้ สามเดือน แม่จึงต้องรับภาระเลี้ยงดูเด็กดื้ออย่างฉันเพียงลำพังคนเดียว ฉันชื่นชมในตัวแม่เพราะแม่เป็นผู้หญิงเก่ง ตอนที่พ่อตายพ่อไม่ได้ทิ้งสมบัติอะไรให้เราสองแม่ลูกเลยสักอย่าง มีเพียงแต่หนี้สินที่แม่ต้องมานั่งรับภาระหาจ่ายทุกๆเดือน จนกระทั้งทุกวันนี้ ถึงเราจะไม่ได้ร่ำรวยมหาศาล แต่กิจการร้านอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของจังหวัดก็ทำให้ฉันกับแม่อยู่กันได้อย่างสบายๆโดยที่ไม่ต้องไปเป็นหนี้ใคร

    แต่ตอนนี้สิ่งมหัศจรรย์ของฉันกำลังจะกลายเป็นปีศาจ เพราะเมื่อฉันกลับถึงบ้านก็ต้องรู้ข่าวร้ายว่างานหมั้นของฉันกับนายชินจิจะมีขึ้นในอาทิตย์หน้า

    อ๊ากกก! ทำไมมันเร็วขนาดนั้นล่ะคะแม่ T^T”

    ไม่ดีเหรอลูก ถ้าเราไม่จับจองชินจิไว้ก่อน มีหวังโดนผู้หญิงคนอื่นคาบไปรับประทานแน่ๆ หล่อซะขนาดนั้น =O=”

    ก็ช่างเขาสิคะ หนูก็ไม่ได้อยากแต่งกับเขาสักหน่อย

    อ้าย! ไม่ได้นะลูกรัก ผู้ชายดีๆเดี๋ยวนี้หายากจะตาย ถ้าไม่รีบคว้าไว้ก่อน ลูกต้องขึ้นคานแหงๆ แม่ทำท่าขนลุก ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจว่าไอ้การขึ้นคานเนี่ยมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ -_-*

    เอี๊ยดดดดด~

    เสียงเบรกรถดังลั่น ฉันเลยหลุดปากสาปแช่งคนที่ชอบขับรถเร็วในเขตชุมชนไปเรียบร้อย

    สวัสดีครับคุณแม่ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากรถ เรียกให้ฉันต้องหันไปมองยังเขาทันที ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้กรอบแว่นกันแดดสีชาของเขาช่างคล้ายใครบางคนที่ฉันเคยรู้จัก เพียงแต่นึกไม่ออกเท่านั้นว่าเหมือนใคร

    “O.o!!”

    หนอย!! หมอนี่กล้าดียังไงมาเรียกแม่ของฉันว่าแม่

    ผมมารับนาโอมิไปดูชุดครับ

    ฉันไม่ไปกับนายหรอก แค่งานหมั้นเล็กๆ ทำไมต้องตัดชุดให้ยุ่งยากด้วยเล่า ไปเช่าเอาก็ได้นี่หรือไม่งั้นก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนดูสบายดีออก -O-”

    เธอเอาสมองส่วนไหนคิด เรียนก็สูง อายุก็มาก น่าก็แก่ เรื่องแค่นี้ยังคิดเองไม่ได้เลย แล้วอย่างนี้จะรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ยังไง

    อ้าย!!! ไอ้บ้า ไอ้คนปากเสีย ฉันไม่หมั้นกับนายแล้ว >O<”

    ขวับ!!

    ชินจิคว้าข้อมือฉันไปกำไว้แน่น ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้แม่ฉัน ผมไปก่อนนะครับคุณแม่

    ได้สิลูก แม่ฝากนาโอมิด้วยนะ ^^” แม่ดันหลังฉันให้ตามชินจิไป

    ชินจิพยักหน้ารับคำแล้วเดินจูงมือฉันเดินไปที่รถของเขา

    อา...แล้วทำไมฉันต้องยอมให้หมอนั่นจูงมือด้วยเนี่ย?? หรือเพราะเขาหล่อ โฮๆๆ ฉันแพ้ความหล่อ ^^

     

    บรื้น~ บรื้น~ บรื้น~

    ฉันนั่งรถออกไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น หวั่นว่าจะหลงรักหมอนี่เข้าน่ะสิ อิอิ ^^ ก็คนอะไรหล่อกระจาย หน้าตาที่ถอดแบบมาจากนักร้องเมืองกิมจิ มิน่าล่ะยัยโมโม่ถึงได้หลงรักนักหนา

    มองอะไร

    “O.o”

    เธอกำลังหลงเสน่ห์ฉันอยู่ใช่มั๊ย

    โฮะๆ หมอนี่หลงตัวเองเป็นบ้า

    ฉันก็อยากหลงเสน่ห์นายอยู่หรอกนะ เพียงแต่ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะแค่เห็นหน้านายฉันก็อยากจะอ้วกออกมาสักสิบกะละมังแล้ว

    ก็ดี...เพราะฉันเบื่อพวกผู้หญิงที่ชอบวิ่งไล่ตามฉัน...แบบเธอนะ ฉันชอบ

    ชิ!! ของมันแน่อยู่แล้ว ก็ฉันสวยออกขนาดนั้น โฮะๆ

    “-_-^^^”

    และแล้วรถก็มาจอดที่....เอ๊ะ นี่มันไม่ใช่ร้านตัดชุดวิวาห์นี่นา ดูๆไปแล้วเหมือนตึกสำนักงานมากกว่า อ๊ากกก!!! อย่าบอกนะว่าหมอนี่จะเอาฉันมาฆ่าหมักศพ แง้~ ไม่อยากหมั้นก็บอกกันดีๆก็ได้ อย่าฆ่าฉันเลย ฉันกลัว TOT

    รออยู่นี่ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันกลับมา ชินจิเปิดประตูรถแล้วก้าวอาดๆเข้าไปในตึกนั่น

    ชิ! ใครจะไปรอนายให้โง่ล่ะ ขืนนายกลับมาพร้อมระเบิดซีโฟร์ฉันไม่ตายก่อนเหรอ

    ฉันรีบเปิดประตูรถแล้วเดินย่องออกไป (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันต้องย่องด้วย -_-*) ฉันวิ่งอ้อมไปอยู่หลังตึกก่อนจะเงยหน้าไปดูป้ายชื่อที่ติดอยู่บนตัวอาคาร ABC Music (ชื่อเหมือนค่ายเพลงเลยแฮะ -_-;; )ฉันมองซ้ายมองขวาก่อนจะเตรียมตัววิ่งออกไปยังจุดหมายซึ่งเป็นถนนใหญ่เพื่อโบกรถแท็กซี่กลับบ้าน

    ขวับ!!

    คอเสื้อของฉันถูกคว้าเอาไว้ด้วยมือของใครคนหนึ่ง ฉันค่อยๆเหลียวกลับไปมองช้าๆและก็พบว่า ชายหนุ่มที่กำลังเหยียดยิ้มอยู่ด้านหลังคือชินจินั่นเอง

    ฉันว่าแล้วว่าเธอเชื่อใจไม่ได้ ชินจิพูดทั้งที่มือยังคงดึงคอเสื้อฉันให้ลอยตามเขาเข้าไปข้างใน

    โฮะๆๆ ฉันแค่มาเดินเล่นนะ ^^”

    โกหก

    T_T

    ปล่อยฉันไปเถอะ อย่าทำอะไรฉันเลย ถ้าฉันเป็นอะไรไปแม่ของฉันจะอยู่ยังไง นายก็รู้ว่าเรามีกันแค่สองคนแม่ลูก เห็นแก่ที่แม่ของเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเถอะนะ YoY”

    เงียบน่า

    นายก็เป็นคนน่าตาดีคนหนึ่ง นายคงไม่รังแกผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้อย่างฉันหรอกใช่มั๊ย สุภาพบุรุษนะเขาไม่รังแกผู้หญิงหรอกนะ

    หุบปากซะที ไม่งั้นเธอโดนฉันจูบแน่!!”

    อุ๊บส์!!” ฉันเอามือปิดปากทันที แง้~ เรื่องอะไรฉันต้องเสียจูบแรกให้ผู้ชายใจร้ายอย่างนายด้วยล่ะ

    ชินจิใช้เข่าเตะประตูให้เปิดออก แล้วเหวี่ยงฉันให้ลงไปนั่งจุมปุ๊กอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ริมประตู

    ในห้องที่ฉันอยู่เป็นห้องกระจก ซึ่งฉันเดาว่าคงเป็นห้องซ้อมเต้นของพวก Dark Devil เพราะมีสมาชิกที่อยู่ในนั้นประมาณสี่ห้าคนและทุกคนก็สวมชุดรัดติ้วฟิดเปี๊ยะจนเห็นสัดส่วนสุดเอ็กซ์ได้อย่างชัดเจน อา...ปู้จายคนที่ใส่ชุดสีแดงนะ ดูตุงๆนะ -.,-

    ยัยนี่เป็นใครอ่ะ แฮอินรีบวิ่งมาจ้องหน้าฉัน หมอนี่คงไม่คิดจะกินเลือดกินเนื้อฉันหรอกนะ -_-* ดูสายตาหมอนี่สิ หื่นชะมัด

    หรือว่าจะเป็นแฟนคนที่ห้าร้อยแปดสิบเอ็ดของนาย...น่ารักไม่เบาแฮะ เหมือนป้าปานเว้ยเลย เพียงแค่มีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปเท่านั้นเองแฮอินลดสายตาลงมองที่หน้าอกของฉัน แว๊กกกก!!! ไอ้ลามก แอบลวนลามฉันทางสายตางั้นเหรอ

    เธอคงจะเป็นคู่หมั่นของชินจิสินะทีระที่ยังนั่งอ่านหนังสืออะไรสักอย่างพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    อ้าย!!! ทีระสุดที่รักของช้านนนน

    อ่านอะไรอยู่เหรอคะ ^^” ฉันใช้วิชาตัวเบากระโดดไปนั่งข้างๆทีระโดยที่เขาไม่รู้ตัว

    ธะ..เธอมานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    ก็ตอนที่ได้เห็นหน้าหล่อๆของทีระไงคะ ฮิวๆ

    ข้ามหน้าข้ามตากันเกินไปแล้วนะ นี่เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉันอยู่ ><” ชินจิกระชากเสียงดังข้ามห้องแถมยังมองฉันด้วยสายตาเดือดดาล

    จ๊ากกก!!! ทำไมต้องตะโกนด้วย ขี้หูฉันออกมาแดนซ์กระจายแล้วนะ T_T

    หึหึ เธอเนี่ยน่ารักดีนะ มิน่าล่ะถึงมัดใจชินจิได้อยู่หมัด

    กรี๊ด~ ทีระชมว่าฉันน่ารักด้วยล่ะ พรุ่งนี้ได้มีเรื่องเม้าท์ไม่จบแน่

    ฉันต้องรีบไปก่อนนะ ต้องพายัยนี่ไปลองชุดชินจิคว้าข้อมือฉันแล้วลากให้เดินตามด้วยสีหน้าบึ้งตึง

    เฮ้สาวน้อย! ถ้าเบื่อชินจิเมื่อไหร่ก็บอกฉันนะ แฮอินตะโกนตามหลัง

    ชิ! ฉันหรือจะสนใจนาย ฉันสนใจทีระคนเดียวย่ะ บ๊ายบายทีระสุดที่รักของฉัน ^^ ฉันโบกมือบ๊ายบายทีระ แต่ก็ต้องโดนชินจิรวบมือทั้งสองข้างเอาไว้ คนอะไรหวงก้างชะมัด เชอะ!!

     

    ในรถ

    นี่ชินจิ คราวหน้าถ้านายจะพาฉันไปเจอพวกเพื่อนๆของนาย ช่วยบอกฉันก่อนล่วงหน้านะ

    .....

    ฉันจะได้แต่งตัวสวยๆไปเจอทีระ โฮๆ

    ทีระไม่มีวันชอบเธอหรอก

    กรี๊ด! ดูถูกกันเกินไปแล้ว ฉันนะดาวมหาวิทยาลัยเชียวนะยะ

    (อันที่จริงฉันโกหก แต่ชินจิไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับฉันนี่นา จะรู้ได้ไงว่าฉันมุสา อิอิ ^^)

    หึ ชินจิหัวเราะในลำคอ ก่อนที่จะเลี้ยวรถกะทันหันจนหัวฉันกระแทกกระจกอย่างแรง

    โอ๊ย!! เจ็บนะ บ้านนายไม่เคยสอนเรื่องมารยาทบนท้องถนนหรือไง ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองยังร้านตัดเสื้อผ้าหรู

    อย่าบอกว่าร้านนี้!” ฉันอุทานออกมาเบาๆ

    อันที่จริงที่ฉันตกใจเพราะร้านนี้ฉันเคยได้ยินชื่อเสียงมาเหมือนกัน เพราะเป็นร้านที่ดาราและบรรดาไฮโซทั้งหลายมักมาใช้บริการที่นี่ และก็รู้มาเหมือนกันว่าราคาค่าบริการที่นี่แพงหูฉี่เลยทีเดียว

    ชินจิไม่ยอมตอบอะไร (หมอนี่เป็นใบ้หรือเปล่านะ บทจะไม่พูดก็ไม่พูดเอาซะดื้อๆ แต่บทจะเสียงดังก็เล่นเอาขี้หูฉันลืมเกิดเลยทีเดียว)

    ฉันเดินลงจากรถโดยมีชินจิเดินมาเปิดประตูให้ อย่างกับเจ้าหญิงเลยแฮะ ^^ เขาจูงมือฉันเข้าไปในร้าน เล่นเอาหัวใจฉันเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะ >..<~ ก็ฉันแพ้ผู้ชายอบอุ่นนี่นา ยิ่งเวลาที่นิ้วโป้งนุ่มๆของเขา(นุ่มจริงๆนะ)ลูบที่หลังมือฉันเบาๆ ฉันแทบอยากจะขอเขาแต่งงานซะตั้งแต่วันนี้เลย อาโฮะอาโฮะ

    สวัสดีค่ะคุณชินจิ มาแล้วเหรอคะ พนักงานต้อนรับในร้านที่ดูจะสนิทสนมกับชินจิเป็นพิเศษกล่าวคำทักทาย แล้วหันไปพยักหน้าหงึกๆให้พนักงานอีกคนในร้านไปเอาอะไรสักอย่างมาให้หล่อน

    สักพักพนักงานคนนั้นก็เดินถือชุดราตรียาวสีทอง........อ๊ากกก!! สีทองเนี่ยนะ อยากจะบ้าตาย หวังว่าคงไม่ใช่ของฉันหรอกนะ

    นี่ค่ะที่คุณชินจิสั่งไว้

    เฮือก! ขอฉันจริงๆด้วย แง~ ไม่เอานะ ฉันไม่ชอบสีทอง

    ชินจิรับชุดนั้นมาก่อนจะส่งใส่มือของฉันและบังคับด้วยสายตาให้ฉันไปเปลี่ยนมาให้เขาดู T.T

    อยากตาย!!

    แต่สุดท้าย ฉันก็ต้องเข้าไปลองชุดอยู่ดี ใครจะกล้ามีปากมีเสียงล่ะ หมอนั่นน่าตาน่ากลัวจะตาย

    ฉันสวมชุดราตรีเกาะอก โฮะๆๆ คิดได้ยังไงเนี่ยที่เอาชุดเกาะอกมาให้ฉันใส่ -_-;; แต่ถึงกระนั้นชุดราตรีนี้ก็ใส่ได้พอดีกับรูปร่างของฉันอย่างกับเคยวัดตัวกันมาก่อน

    ฉันเดินออกจากห้องลองเสื้อโดยมีพนักงานคนหนึ่งเข้ามาจับฉันพลิกตัวไปมาเพื่อดูว่าชุดพอดีหรือเปล่า

    ว้าว!! ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าใส่ได้พอดี ไม่ต้องแก้เลย

    เว้นแต่ยัยนี่จะน้ำหนักขึ้น

    ชิ!! ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบหรอกน่า - -*

    จะรับชุดกลับไปเลยหรือเปล่าคะ พนักคนที่มาจับตัวฉันถามขึ้น

    ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวยัยนี่ทำซุ่มซ่ามจนชุดเสียหายหมด เอาไว้อาทิตย์หน้าผมจะกลับมาเอาอีกที

    หลังจากจัดการเรื่องเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชินจิก็เดินจูงมือฉันกลับมาที่รถ

    นี่ชินจิ ค่าชุดราคาเท่าไหร่อ่ะ

    ถามทำไม

    ฉันจะช่วยออกด้วย

    มีเงินเหรอ

    กรี๊ด! หมอนี่ปากเสียที่ซู๊ดดดด อา...แต่ฉันก็ไม่มีเงินจริงๆนี่นา -_-;;

    เธอเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเหรอ

    อึม เพราะฉันไม่อยากให้นายสิ้นเปลืองกับเรื่องไร้สาระน่ะ

    เขาบอกว่า ถ้าผู้หญิงคนไหนช่วยเราประหยัด แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังตกหลุมรักเราอยู่

    -_-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×