ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ & SNSD]My Kyuhyun พรรักประการเดียว

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 ฉวยโอกาส

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 53












    5

    ฉวยโอกาส

     

     

     

    “ผมคิดว่ามันยังยืดเยื้อไปนะครับ บางตอนก็กระชับจนดูห้วน ยังไม่ค่อยประติดประต่อ”

    “...”

    “ส่วนฉากเริ่มต้นก็ยังไม่ค่อยดึงดูดมากพอ ผมอยากให้คุณลองปรับดูใหม่”

    “...”

    “อืมม...ซักอาทิตย์หน้า คิดว่าทันมั้ยครับ?”

    “...ค่ะ” เป็นคำแรกที่ยูริได้เริ่มพูดตั้งแต่เอาบทละครเข้ามาส่ง หลังจากที่นั่งกัดริมฝีปากตัวเองอยู่นาน มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยจริงๆ บทละครเรื่องนี้เธอแก้ไขมันเป็นครั้งที่สี่ของสัปดาห์แล้ว

    “เอ่อ...ผมคงเร่งรัดเกินไป ขอโทษนะครับ” คิม เยซอง หัวหน้าแผนกผู้รับผิดชอบพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้านักเขียนสาว “ที่จริงผมว่าคุณเก่งมากเลยนะ งานแรกยังเขียนได้ขนาดนี้” เขาพูดต่อพลางเพ่งพินิจพลิกดูบทละครที่เพิ่งอ่านจบ “พยายามเข้านะครับ...แล้วอาทิตย์หน้าเจอกัน” บทละครไม่หนาไม่บางยื่นกลับมาตรงหน้า ยูริยื่นมือออกไปรับอย่างอ่อนใจ

    “อ้อ...ผมคิดว่าเราน่าจะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะครับ ผมอยากให้คุณช่วยแคสนักแสดงด้วย”

    ยูริเอียงคอมองชายหนุ่มตรงหน้า เขายิ้มจนตาหยีจนเธออดยิ้มตามไม่ได้ หัวหน้าแผนกคนนี้คือ คิม จงอุน หรือที่รู้จักกันในวงการว่า คิม เยซอง เป็นผู้ชายร่างเล็ก หน้าตาติดจะน่ารัก ทว่าจริงจังกับงานจนถึงขั้นเคร่งเครียด

    หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ได้เขียนบทละครทั้งที ก็ต้องเลือกดาราที่เหมาะเหม็งกันซักหน่อย

    *

    *

    *

    เพียงสิบห้านาทีก็ถึงร้านอาหารสไตล์อิตาลี ร้านอาหารเล็กๆ ที่ด้านหน้ามีสวนหย่อมเล็กๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ประดับตกแต่งจนดูร่มรื่น เกือบจะบดบังประตูและหน้าต่างบานเขียวที่ตัดกับผนังอิฐสีแดงที่ก่อเรียงอย่างสวยงามดึงดูดสายตาของยูริ ตรงกลางประตูมีกระดิ่งเล็กๆ ห้อยอยู่พร้อมกับช่อดอกไม้สีแดงเขียว ทันทีที่เยซองผลักบานประตูเข้าไป ลูกกระพรวนเล็กๆ นั้นก็ทำหน้าที่เรียกพนักงานจากด้านในร้าน

    พนักงานชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว สวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำดูเข้ากับสไตล์อิตาลี ดูเหมือนร้านอาหารแห่งนี้จะตกแต่งได้ตรงคอนเส็ปต์และลงตัว ยูริสำรวจร้านหรูด้วยความสนใจ กระทั่งเยซองเดินนำเธอไปถึงโต๊ะ

    “เอ่อ...แคสนักแสดงที่ร้านอาหารนี่น่ะหรอคะ” ยูริชะโงกหน้าถามด้วยความแปลกใจ เยซองยิ้มขำกับท่าทางเก้ๆ กังๆ ก่อนจะตอบออกไป

    “ที่จริงจะเรียกว่าแคสก็ไม่ถูกหรอกครับ คือจริงๆ นักแสดงถูกวางตัวไว้แล้ว แต่ผมอยากให้คุณดูว่าจะถูกใจถูกคาร์แรกเตอร์หรือเปล่า นู่นไงครับ มานู่นแล้ว” เยซองตอบพร้อมพยักเพยิดไปทางแขกที่มาใหม่

    ยูริพยักหน้าอย่างเข้าใจพลางเอี้ยวตัวกลับไปมอง

    เธอไม่เคยคิดเลยว่าพระเจ้าจะเล่นตลกเช่นนี้ หญิงสาวตาเบิกกว้างด้วยความอึ้งหลังจากที่เห็นนักแสดงหนุ่มเดินตรงมายังโต๊ะที่เธอและเยซองรออยู่ โจว คยูฮยอนในชุดกางเกงขายาวและเสื้อยืดที่สวมทับด้วยเสื้อกึ่งสูทกึ่งลำลอง กำลังถอดแว่นตากันแดดแบรนด์ดังด้วยความตกใจไม่แพ้กัน

    “เธอ!!” นั่นคือคำทักทายแรก พร้อมกับนิ้วที่ชี้ตรงมาที่ควอนยูริ คยูฮยอนหันกลับไปมองเยซองอย่างไม่เข้าใจ

    “อ้าว! รู้จักกันแล้วหรอกหรอ” เยซองเองก็งุนงงไปไม่แพ้คนทั้งคู่ เขามองคยูฮยอนสลับกับยูริด้วยความสงสัย

    “ไหนพี่บอกว่าจะนัดผมมาเจอนักเขียนไง”

    “เอ้า! ฉันนึกว่านายจะรู้แล้วซะอีก...นี่คุณควอน ยูริ นักเขียนบท” เยซองอุทานเป็นครั้งที่สองก่อนจะผายมือแนะนำอย่างเป็นทางการ ตกลงพวกเขาสองคนจะรู้จักหรือไม่รู้จักกันแน่

    “นี่พี่ล้อผมเล่นหรือไง” คิ้วหยักหนาขมวดเข้าหากันทันที คยูฮยอนมองนักเขียนสาวอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะกลอกตาทำท่าเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ชายหนุ่มแสร้งหัวเราะออกมาทันที เขายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ สมกับที่เป็นดาราเจ้าบทบาท ท่าทางและการแสดงอารมณ์ของคยูฮยอนเปลี่ยนไปมาตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    “อ้อ...โอเค๊...นักเขียนก็นักเขียน” ตรงข้ามกับคำพูดและเร็วเกินกว่าที่นักเขียนสาวจะตั้งตัว มือหนาก็คว้าข้อมือเล็กลากลุกออกจากโต๊ะ ยูริที่โดนคว้าจนตัวโยนถูกลากออกไปจากร้านด้วยหน้าตื่นตกใจ เยซองมองดูการกระทำของดาราหนุ่มงงๆ

    “อะไรของนายเนี่ย” ยูริโวยวาย พยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากพันธนาการของเขา แต่ไม่เป็นผล มือแข็งแรงยิ่งบีบรัดแน่นขึ้นจนรู้สึกเจ็บ เขาลากร่างบางจนหลังกระแทกเข้ากับต้นไม้กลางสวนหย่อมขนาดย่อมหน้าร้าน

    “ฉันต่างหากที่ต้องถาม เธอต้องการอะไรกันแน่..คุณ ควอน ยูริ” ชายหนุ่มเน้นชื่อของเธอชัดเจน แววตาคมจ้องเขม็งอย่างต้องการคำตอบ

    “ต้องการอะไรล่ะ ก็เขียนบทละครไงเล่า” คิ้วเรียวขมวดมุ่น ดวงตากลมใสจ้องตอบไม่กลัวเกรงแต่อย่างใด ยูริเองก็รู้สึกโมโหไปไม่น้อยกว่ากัน ใช่เธอจะยินดีที่เจอคนอย่างเขา โดยเฉพาะต้องมาทำงานร่วมกันอย่างนี้ จะว่ากันจริงๆ แล้ว เธอก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าคยูฮยอนเป็นนักแสดงที่มีคาร์แรกเตอร์ตรงกับพระเอกของเรื่องทุกอย่าง ทั้งในแง่ของรูปร่างหน้าตาและอุปนิสัยใจคอแบบหลอกลวงที่เขาสามารถแสดงมันออกสื่อได้อย่างแนบเนียน แต่ก็เถอะ! จะไม่ให้ตรงได้ยังไงในเมื่อนิยายเรื่องนี้ยูริเขียนขึ้นในครั้งที่ยังคลั่งไคล้ดาราหนุ่มคนนี้หัวปักหัวปำนี่นา

    คยูฮยอนกลอกตาด้วยความหงุดหงิด เขาคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าอะไรดลบัลดาลให้เขาต้องมาเจอเธออยู่ทุกครั้งไป แถมทุกครั้งก็ต้องมีเรื่องวุ่นๆ ขุ่นอารมณ์อยู่เรื่อย ไหนจะตกน้ำ ไหนจะบะหมี่ราดหัว แล้วถ้าต้องร่วมงานกันอย่างนี้เขาไม่ต้องเละเทะไปทั้งตัวเลยหรือ

    “หรือว่า...” คยูฮยอนลากเสียงกระซิบแผ่วเบา เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น แวววาวโรจน์ก็ลุกโชนในดวงตาคมกริบคู่นั้น ชายหนุ่มใช้สายตาโลมเลียร่างเล็กอย่างทะลึ่งทะเล้น “ไม่ต้องเล่นตัวนักหรอกคุณนักเขียน ในเมื่อยังไงผมก็รู้ว่าคุณต้องการอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความทะนง รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาดั่งสวรรค์สรรสร้างเป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจและเป็นเครื่องมือทำมาหากินที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่เขาจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะทำให้หญิงสาวคนหนึ่งหลงใหลได้ปลื้มจนถึงขั้นต้องติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งอย่างนี้

    ยูริผงะถอยสุดชีวิต แต่ก็ไม่ห่างออกไปเลยซักนิด ท้ายทอยของเธอชิดติดต้นไม้อย่างจนมุม ตาคู่คมอยู่ใกล้เพียงไมกี่เซนต์ ทำเอาใจของหญิงสาวสั่นระรัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เหมือนดวงตาคู่นั้นกำลังสะกดเก็บคำโต้เถียงของเธอไม่ให้หลุดออกมาจากปาก

    เพิ่งจะเห็นหน้ากันชัดๆ ก็วันนี้ ชายหนุ่มเพ่งพิจารณาดวงหน้าเรียวมนตรงหน้า จมูกโด่งรั้นๆ ใกล้แทบชนจมูกของเขา ริมฝีปากกลีบบางสีชมพูอ่อนแลดูนุ่มละมุน แต่ที่ดึงดูดที่สุดเห็นจะเป็นดวงตากลมสุกใสประดับแพขนตาหนาเบิกกว้าง ความใสซื่อทอประกายจนคยูฮยอนรู้สึกได้ถึงความรู้สึกประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น

    เกินกว่าจะห้ามใจได้ ชายหนุ่มประกบริมฝีปากหนาเข้ากับกลีบกุหลาบบางเบาๆ สำหรับดาราหนุ่มคาสโนว่าอย่างโจว คยูฮยอน จูบ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาแทบจะที่สุด หากแต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง ความหวานที่เขากำลังซึมซับอย่างเพลิดเพลินนั้นอ่อนนุ่มละมุนละไม แม้ว่าจะไม่มีการตอบรับใดๆ จากหญิงสาวเลยก็ตาม

    จู่ๆ เสียงแฟลชก็ทำให้เขาไหวตัว คยูฮยอนละริมฝีปากออกจากดวงหน้าเรียว เขาหันมองหาต้นเสียงพร้อมกับความตกใจ ผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวมิดชิดยืนถือกล้องถ่ายรูปอยู่หลังพุ่มไม้ เขาสวมเสื้อสีดำสวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีน้ำตาลอ่อน หมวกแก็ปและแว่นตาดำอำพรางใบหน้าได้เป็นอย่างดี ชายแปลกหน้ากดชัตเตอร์รัวไม่ยั้ง

    ทันทีที่รับรู้ได้ถึงความไม่ประสงค์ดี ดาราหนุ่มคว้าข้อมือเล็กอีกครั้งแล้วฉุดกระชากเธอด้วยความเร็ว ไม่สนใจสีหน้าที่ยังคงอึ้งและช็อคของหญิงสาว ร่างบางที่นิ่งแทบไม่ไหวติงออกวิ่งตามแรงลากนั้น คยูฮยอนลากหญิงสาวข้ามรั้วต้นไม้เตี้ยออกมาจากสวนหย่อมแล้วออกวิ่งสุดกำลัง หนุ่มตากล้องปริศนาวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละเช่นกัน

    คยูฮยอนลากมือหญิงสาววิ่งออกมาได้ซักระยะ โชคดีที่อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ของตากล้องเป็นอุปสรรคในการไล่ล่าอยู่บ้าง แต่ชายแปลกหน้าก็ยังคงวิ่งตามอยู่ห่างๆ ย่านการค้าหรือตลาดด้านหน้าที่กำลังพลุกพล่านจึงน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ร่างหน้าคว้าแว่นตาดำสวมใส่ก่อนจะลากหญิงสาวเข้าเบียดเสียดผู้คนตรงหน้า มืออีกข้างพยายามปกปิดใบหน้าของตนไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ในที่สุดคยูฮยอนก็เหวี่ยงยูริและตัวเองเข้าไปยังซอกหลืบเล็กๆ ทั้งคู่ยืนเอาหลังแนบกำแพงให้มากที่สุด ราวกับหวังจะให้มันกลืนกินเพื่อหลบซ่อน เสียงหอบหายใจถี่รัวประสานแข่งขันกันกับเสียงอื้ออึงของผู้คนด้านนอก เมื่อแน่ใจว่าตนปลอดภัย คยูฮยอนก็เบี่ยงตัวหันมาหาหญิงสาวที่กำลังหอบหายใจอย่างหนัก ใบหน้าสวยเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทำเอาไรผมเล็กๆ เปียกชื้นทั่วกรอบหน้าผาก แต่ที่น่าตกใจคือดวงตาที่ยังคงเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ

    “เธอ...เธอ...ควอน ยูริ” คยูฮยอนโบกมือไปมาหน้าหญิงสาว แต่ขนาดเหตุการณ์ลุ้นระทึกเมื่อครู่ยังไม่สามารถปลุกหญิงสาวให้หลุดจากภวังค์อันหวามหวานและอารมณ์เตลิดเพริด แล้วนับประสาอะไรกับเสียงเรียกของเขา ยูรินิ่งอึ้งหรือเรียกว่าช็อคน่าจะถูกกว่า ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบกับใครไม่ว่าจะจริงจังหรือไม่ก็ตาม แล้วมีหรือที่เธอจะเคยจูบ

    คยูฮยอนประคองหน้าหญิงสาวแล้วตบพวงแก้มแดงเรื่อเบาๆ ยูริผงะออกมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกตัว มือเล็กยกขั้นปิดปากไว้ทันทีที่เห็นว่าใบหน้าคมคร้ามอยู่ไม่ห่างจากเธอซักเท่าไหร่

    “ไอ้..ไอ้โจวหื่น ไอ้คนฉวยโอกาส” เสียงเล็กอู้อี้เพราะมือปิดปากไว้ การกระทำใสซื่อนั้นเรียกรอยยิ้มขันอย่างไม่อยากเชื่อจากคนฉวยโอกาส เธอควรจะดีใจไม่ใช่หรือไงที่ได้รับการจุมพิตจากหนุ่มหล่ออย่างเขา

    “เห๊อะ! เธอนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ” ชายหนุ่มส่ายหัวกับความไร้เดียงสาอ่อนหัดของเธอ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างในซอกหลบภัยจำเป็น ซอกแคบๆ ทึบชื้นที่มีคนสองคนกับเจ้าถิ่นอีกหนึ่งตัว ดูเหมือนเสียงถกเถียงเมื่อครู่จะรบกวนเวลานอนกลางวันของมัน สุนัขสีดำตัวใหญ่จ้องมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาดุดัน ริมฝีปากยกขึ้นลงเผยให้เห็นเขี้ยววับแวมแหลมคม เสียงขู่แสดงอารมณ์โกรธอย่างชัดเจน

    คยูฮยอนหน้าซีดเหงื่อแตกพลั่ก ให้ตายเถอะ! หนีเสือมาปะจระเข้หรือไงกัน เขาถอยหลังช้าๆ มาหลบหลังคนอ่อนหัดที่ว่า ส่วนยูริเองก็กลัวไปไม่น้อยกว่ากัน หญิงสาวคว้าเสื้อคนข้างหลังไว้ คนทั้งคู่ยื้อยุดแย่งชิงกันหลบข้างหลัง ถ้าออกวิ่งตอนนี้ล่ะก็มีหวังได้เผ่นหนีกันอีกรอบแน่

    “นายเป็นผู้ชายนะ แถมนายเป็นคนพาฉันมา นายต้องรับผิดชอบสิ” เสียงของยูริสั่นกล้าๆ กลัวๆ มือกำแจ็กเก็ตที่หลบอยู่ด้านหลังไว้แน่น เจ้าของเสียงขู่ลุกขึ้นช้าๆ เรียกความกลัวขึ้นไปอีก

    “เป็นผู้ชายแล้วไม่กลัวหมาหรือไงยัยบ้า” ชายหนุ่มใช้แรงที่เยอะกว่าเกาะบ่าบางของหญิงสาวไว้อย่างป้องกันตัวเอง เรื่องอะไรที่ดาราดังอย่างเขาจะมาจบชีวิตเพราะหมาจรจัดตัวนี้ด้วยล่ะ

    “อีโจวบ้า” หญิงสาวซึ่งถูกใช้เป็นโล่กำบังร้องหน้าเหยเกอย่างขัดใจ สาบานว่าต่อไปจะลบภาพสุภาพบุรุษโจวคยูออกจากมโนสำนึกของตนทั้งหมด “แล้วจะทำไงล่ะคราวนี้”

    “นับหนึ่งถึงสาม...วิ่งนะ...หนึ่ง...สอง...สาม!!

    **************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×