ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dream Boyfriend แอพพลิเคชั่นสุดร้ายกับเจ้าชายในฝัน

    ลำดับตอนที่ #3 : My Boyfriend (What?)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 55


     


     

     

    3

    My Boyfriend (What?)

     

    ฉันมองหน้าตัวเองในกระจก สะท้อนให้เห็นถึงรอยคล้ำใต้ขอบตาที่ผุดขึ้นมาอย่างเด่นชัด เอ่อ... เมื่อคืนฉันนอนดึกน่ะ ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่ได้นอนเลยมากกว่า =_= เพราะทุกๆ ครึ่งชั่วโมงฉันจะแอบย่องลงไปข้างล่าง ไปดูว่าเขาหลับรึยัง คอยตรวจเช็คของมีค่าว่ามีอะไรหายไปบ้างรึเปล่า ยังดีที่ไม่มีอะไรหาย และหมอนั่นก็หลับอยู่บนโซฟา ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน จำได้ว่าเมื่อตอนตีสามหมอนั่นลืมตาขึ้นมา แล้วยิ้มให้ฉันด้วยแหละ T_T ตอนนั้นฉันเผลอกรี๊ดออกมาเพราะตกใจมาก

    แล้วอีตานั่นก็หัวเราะที่เห็นฉันกรี๊ด =_=

    ฉันไม่คิดว่านั่นคือการแสดงออกของการเป็นแฟนในฝันเลยสักนิด ถึงหน้าตาของเขาจะเข้ากับอิมเมจผู้ชายแสนดีมากก็ตาม แต่การเป็นแฟนที่ดีมันต้อง... เอ่อ ช่างเถอะ =_=

    ฉันรีบรวบผมสีกาแฟขึ้นมัดเป็นหางม้า ทารองพื้นให้เป็นธรรมชาติที่สุด โดยเฉพาะช่วงใต้ขอบตา ปิดท้ายด้วยลิปสติกสีสดใสแล้วหมุนตัวไปรอบๆ เพื่อเช็คความเรียบร้อยของชุดเดรสสีขาว ฉันรู้ว่าฉันควรจะหวาดระแวง และควรจะกระตือรือร้นมากกว่านี้ แต่ในเมื่อมีแผนการเด็ดๆ อยู่ในหัว ฉันก็รู้สึกเบิกบานขึ้นมาทันที

    ฉันนั่งคิด นอนคิดมาตั้งแต่เมื่อคืน ว่าควรจะทำยังไงต่อไป เมื่อหมอนั่นไม่ยอมออกจากบ้าน การแจ้งตำรวจอาจเป็นทางออกที่ดี แต่ถ้าแอพพลิเคชั่นนั่นเกิดเป็นของจริงขึ้นมาฉันอาจจะหน้าแหกได้ง่ายๆ -_-;; เลยคิดได้ว่าฉันควรจะพิสูจน์ตัวตนของแอพพลิเคชั่นซะก่อน บางที ถ้ามองไปรอบๆ อาจมีกล้องติดอยู่ตามส่วนของบ้านสักสี่ห้าตัว หรือจะมีรายการปัญญาอ่อนมาอำฉันเล่นก็ได้ใครจะไปรู้

    เอาล่ะ แผนแรก พิสูจน์ว่าแอพพลิเคชั่นเป็นของจริงหรือไม่

    ฉันรีบเดินออกจากห้อง ตั้งหน้าตั้งตาไปหาหมอนั่นเต็มที่ แต่กลิ่นหอมบางอย่างทำให้ฉันติดสตั๊นท์ไปสามวิ มันคือกลิ่นของอาหารที่มาจากห้องครัว

    อย่าบอกนะว่าหมอนั่นจะทำอาหารกินเองน่ะ -_-! ฉันเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง มุ่งหน้าไปที่ห้องครัวทันที

    "ใครอนุญาตให้นายมาใช้เครื่องครัวฉันตามอำเภอใจไม่ทราบ ถ้าข้าวของฉันพังใครจะรับผิดชอบ หัดมีมารยาทบ้างสิยะ!" ฉันแว้ดใส่ทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา อันที่จริงฉันอยากจะบอกว่า จ่ายค่ากับข้าวมาซะดีๆ มากกว่า -_-;;

    "อ้าว อรุณสวัสดิ์ครับชาร์ล็อต" เขาทักทายด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่ฉันว่าไปเลยสักนิด

    สวัสดี ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย -_-” ฉันแขวะ

    ฮะๆ เชิญนั่งครับเขาผายมือไปที่โต๊ะอาหาร ฉันยืนนิ่ง มองหน้าเขาด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร แต่เขากลับตอบฉันด้วยสายตาที่อธิบายไม่ได้ พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ที่ฆ่าผู้หญิงได้ทั้งโลก... ผ่านไปเกือบนาทีที่เราสองคนประจันหน้ากัน ฉันเป็นฝ่ายหลบสายตา ก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะอย่างจำใจ... สายตาและรอยยิ้มของเขาเมื่อครู่ทำให้ฉันเสียศูนย์ได้เลย ถ้าขืนจ้องไปมากกว่านี้คนที่โดนกดดันจะไม่ใช่เขา แต่อาจจะเป็นฉันแทนก็ได้

    ฉันค่อยๆ หย่อนก้นลงบนเก้าอี้อย่างช้าๆ ส่วนสายตาก็กำลังจับจ้องบนโต๊ะอาหารอย่างตื่นตะลึง เชื่อไหมว่าอาหารเหล่านี้เป็นฝีมือของผู้ชาย? ถ้าม่เชื่อก็จงเชื่อซะ เพราะมันอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว... นอกจากไข่ทอดกับเบคอนเหลืองกรอบที่อยู่ในจาน ก็ยังมีขนมปังปิ้งปาดเนยบางๆ พร้อมแยมสตรอว์เบอรี่สด ตามด้วยฟรุตสลัดราดด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ซุปหัวหอม กาแฟลาเต้ น้ำส้มคั้น ตบท้ายด้วยน้ำเปล่า

    จัดเต็มแบบฟูลคอร์สอลังการ....

    “หวังว่าจะถูกใจนะครับ ผมทำเต็มฝีมือเพื่อคุณเลยนะ” เขาพูดยิ้มๆ แล้วผายมือไปที่อาหารอันแสนภาคภูมิใจของเขา

    “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบลาเต้” ฉันถามพลางยกลาเต้ขึ้นมาดื่ม ทั้งๆ ที่ในใจคิดว่าในลาเต้แก้วนี้อาจมียาอะไรผสมอยู่ก็ได้ แต่บางอย่างกลับทำให้ฉันเชื่อว่าเขาไม่ทำอย่างนั้น

    เอ่อ สารภาพก็ได้ว่าการวางตัวของเขาทำให้ฉันสบายใจ หรืออีกคำตอบนึงก็คือ เขาหล่อจนคิดร้ายไม่ลง -_-;

    ผมเห็นในเฟซบุ๊คของคุณน่ะครับ

    พรวดดดด!!!” ลาเต้ที่อยู่ในปากฉันกำลังพุ่งเป็นน้ำพุ ให้ตายเถอะ ลืมไปเลยว่าเคยบ่นเรื่องลาเต้ในเฟซบุ๊คอยู่บ่อยๆ นึกไม่ถึงว่าเขาจะก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของฉันได้ขนาดนี้ ฉันไม่น่าวางแล็ปท็อปไว้แถวนี้เลย โธ่เอ๊ย!

    นะ...นายแอบดูเฟซบุ๊คฉันเหรอ ได้ยังไงน่ะ

    “ผมแค่ศึกษาว่าผู้หญิงของผมชอบอะไรน่ะครับ... ผมจะได้ไม่ผิดพลาดทำเรื่องที่คุณไม่ชอบ”

    แล้วไอ้ผู้หญิงของผมนี่มันคือใครกันยะ อยากจะบ้า!

    แต่นี่มันละเมิดสิทธิฉันเกินไปนะ รู้ตัวรึเปล่า ฉันตวาด

    เขาทำได้เพียงแค่ยิ้มบางๆ แล้วตอบว่า ครับ ผมขอโทษ

    “เฮอะ”

    แผนที่วางเอาไว้ก็ยังไม่ได้เริ่มสักที ถ้าถามว่าทำไม ก็เพราะรอยยิ้มจอมปลอมกับคำพูดสวยหรูที่ราวกับหลุดออกมาจากพจนานุกรมนั่นน่ะสิ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอ้บริษัทที่จ้างเขาจะเสี้ยมสอนมาแบบไหน และฉันก็ไม่รู้ว่าตลอด 14 วันนี้ฉันจะทำยังไงต่อไปดี ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเขาอาจกำลังหลอกฉันอยู่

    หึ อย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมเขาได้ง่ายๆ แอพพลิเคชั่นมีจริงหรือไม่ เราจะได้รู้กัน!

    บริษัทของนายอยู่ที่ไหน พาฉันไปหน่อยสิ

    ฉันเริ่มประเด็น เอาเมือท้าคางแล้วมองไปที่เขาอย่างหยั่งเชิง หมอนั่นก้มหน้าเหมือนกับใช้ความคิด มันน่าสงสัยอยู่นะ

    ผมไม่สามารถพาคุณไปที่บริษัทได้ มันผิดกฏน่ะครับ

    อ้อหรอ งั้นเบอร์โทรของบริษัทนายล่ะ ฉันกะจะลองคุยดูน่ะ

    อยู่ที่ปกหลังของคู่มือแอพพลิเคชั่นครับ

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็รีบเดินไปหยิบคู่มือที่โต๊ะรับแขก และเดินกลับมาที่ห้องครัวทันที ระหว่างที่เดินมานั้นฉันก็พลิกดูที่ปกหลัง ปรากฏว่ามีเบอร์โทรอย่างที่เขาบอกไว้จริงๆ ทั้งอีเมลล์และเว็บไซต์ ยกเว้นแต่ที่อยู่ของบริษัทเท่านั้นแหละ

    ฉันหยิบไอโฟนจากกระเป๋ากระโปรง แล้วกดเบอร์โทรที่อยู่บนหลังปกทันที

    [ตรู๊ด... ปิ๊บ... สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการติดต่อสอบถามของแอพพลิเคชั่น Dream Boyfriend ค่ะ]

    โอ้โหแฮะ มีจริงๆ ด้วยวุ้ย -_-;;

    [ต้องการติดต่อสอบถามเรื่องใดคะ]

    เอ่อ อยากทราบว่าบริษัทส่งผู้ชาย เอ๊ย แฟนในฝันมาให้ฉันรึเปล่าคะ

    [กรุณาบอกชื่อของคุณด้วยค่ะ]

    ชะ... ชาร์ล็อต แอตเลอร์ค่ะ

    [ช่วยบอกชื่อ หรือโค้ดเนมของพนักงานที่เราส่งไปด้วยค่ะ]

    เอ่อ สตีฟค่ะ เขาบอกมาแค่นี้

    [โค้ดเนมสตีฟ รหัส 001 นะคะ ทางเราได้ส่งพนักงานไปที่คุณจริงๆ ค่ะ]

    จริงหรอคะ -_-;;” ฉันเริ่มเหงื่อตก

    [ค่ะ จากเบอร์โทรที่ลงทะเบียนเอาไว้ คุณเป็นผู้ใช้บริการคนที่ 26 ค่ะ และยังอยู่ในช่วงการทดลอง 14 วัน]

    หมอนั่นพูดจริงแฮะ นับจากนี้ไปอีก 14 วัน ผมจะมาเป็นแฟนในฝันของคุณนี่คือประโยคที่เขาพูดเมื่อวาน ตอนเจอกันครั้งแรก

    เดี๋ยวนะ นับจากนี้ไปงั้นเรอะ =[]=

    เอ่อ แล้ว 14 วันนี่เริ่มจากวันไหนคะ

    [จากข้อมูลก็คือ 7.00 น. ของวันนี้ค่ะ เราจะส่งแฟนในฝันไปให้คุณล่วงหน้า 1 วัน เพื่อทำความคุ้นเคยค่ะ]

    คุ้นเคยมากค่ะ คุ้นเคยซะจนเอาไม้กวาดไล่ฟาดไปหลายทีเลยค่ะ -_-;; เอิ่ม ถ้าอย่างนั้นอีตาสตีฟก็มาอาศัยอยู่บ้านฉันฟรีตั้งแต่เมื่อวานน่ะสิ

    [ถ้ามีอะไรจะถามก็ถามซะเดี๋ยวนี้เลยนะคะ เพราะดูเหมือนคุณจะไม่มีเรื่องจะถามแล้ว เห็นเงียบไปเลย พอดีหมดกะของดิฉันแล้วน่ะ ไว้โทรมาอีกทีนะคะ โฮะๆ]

    เอาอะไรมาอุดปากยัยนี่ทีเถอะ หล่อนเป็นพนักงานประสาอะไรยะ ถึงกล้าพูดจาไร้มารยาทแบบนั้น  -_-;;

    ปี๊บ!

    ฉันกดตัดสายทันที เพราะไม่มีเรื่องจะพูดอย่างที่ยัยนั่นบอกจริงๆ นั่นแหละ  เฮ้อ นึกไม่ถึงเลยว่าแอพพลิเคชั่นนั่นจะเป็นของจริง เฮอะ แต่มันก็มีทางเป็นไปได้สูงทีเดียว เพราะมนุษย์เรามักจะหากินด้วยวิธีการแปลกๆ อยู่เสมอ อย่างเช่นรถบริการเก็บอึสุนัขที่ผ่านหน้าบ้านฉันทุกวี่ทุกวันนั่นไง -_-

    เป็นยังไงบ้างครับสตีฟเดินเข้ามาถาม

    ฉันเชื่อนายก็ได้ แค่นิดเดียวนะ

    ครับ งั้น... ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมคือแฟนของคุณนะครับน้ำเสียงของเขาเริงร่า

    ไม่ต้องบอกซ้ำๆ ซากๆ หรอกย่ะ ฉันรู้แล้ว จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ หิว!”

    อ่าครับ เชิญนั่งได้เลย J

    เขาดันฉันให้ไปนั่งที่เก้าอี้ ก่อนที่จะวางผ้ากันเปื้อนไว้บนตักฉัน ใบหน้าของเราชิดกันมาก เขาเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร แต่หน้าของฉันตอนนี้มันแดงก่ำแล้ว -///- ให้ตายเถอะ ถึงฉันจะเคยมีแฟนมาก่อน แต่ภูมิต้านทานผู้ชายหล่อๆ ของฉันมันช่างน้อยสิ้นดี

    ฮะๆ

    หัวเราะอะไรของนายฉันถามพลางยัดเบคอนเข้าปาก

    ผมเพิ่งเคยเห็นคุณหน้าแดงน่ะ

    แค่หน้านายคล้ายๆ นักร้องที่ฉันชอบก็เท่านั้นแหละย่ะ

    นักร้องที่ชอบ... งั้นก็ชอบผมด้วยสิครับ J

    นี่! ฉันแค่พูดเล่น อย่ามาเนียนด้วยวิธีทุเรศๆ แบบนั้นนะ

    ผมว่ามันไม่ได้ทุเรศอะไรนะครับ ผมดีใจนะที่คุณคิดอย่างนั้น ถึงจะแค่ว่าหน้าตาผมคล้ายนักร้องที่ชอบก็เถอะ แต่มันก็บ่งบอกได้ว่าคุณพอใจในตัวผม

    ใช่ ฉันพอใจในตัวเขา ฉันบ้าพอที่จะยอมเชื่อเขา ถึงแม้เรื่องแอพพลิเคชั่นจะเป็นเรื่องโกหกหรือเรื่องจริงก็ตาม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวฉันในตอนนี้ ปัญหาบางอย่าง ที่ทำให้ฉันต้องการที่พึ่งทางจิตใจอย่างมาก และเขาก็เป็นเหยื่อของฉัน... โดยทางอ้อมน่ะนะ

    ฉันว่า เราควรจะมีกฏ

    ครับ?

    ฉันจะตั้งกฎ 3 ข้อ ระหว่างฉันกับนาย ในเมื่อมีกฎของแอพพลิเคชั่นคอยผูกมัดฉัน ฉันก็จะใช้กฏของฉันผูดมัดนายเหมือนกัน

    ฉันไม่อยากโดนเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ

     แล้วผมจะต้องทำยังไงบ้าง

    ข้อแรก นายต้องทำอาหารให้ฉันทานทุกมื้อ ข้อที่สองห้ามขึ้นไปชั้นบนเด็ดขาด และข้อที่สาม...

    ข้อที่สาม?

    ยังคิดไม่ออก เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน

    อุ๊บ ฮ่าๆๆๆ เขาหัวเราะเสียงดัง

    มันตลกตรงไหนเนี่ยก็คนมันคิดไม่ออกจริงๆ นี่

    ผมว่าตลกดีนะครับ ^^”

    เฮอะ นายมันประหลาดคนต่างหาก -_-”

    หลังจากทานอาหาร และฟาดปากกับสตีฟเสร็จ ฉันก็เดินไปที่ห้องของไบรอันอย่างเงียบๆ เมื่อไปถึงฉันก็ใช้สองมือคว้าเสื้อเชิ้ตและกางเกงกว่าสิบตัวออกจากตู้เสื้อผ้า เอ่อ ขอโทษนะไบรอัน เดี๋ยวฉันจะส่งซักรีดให้ =_= ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฉันเลยว่าจะให้สตีฟใส่เสื้อผ้าของพี่ชายฉันนี่แหละ เห็นมาแต่ตัวไม่พกอะไรมาเลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองจะต้องมาทำงาน มาค้างบ้านคนอื่น เฮอะ  -_-

    เสื้อผ้าของไบรอันเน้นโทนมืดเป็นส่วนใหญ่ ถ้าผู้ชายขาวสะอาดแบบสตีฟใส่ คงจะดูเป็นแบดบอยไม่น้อย อืม ฉันเป็นคนเรื่องมากน่ะ โดยเฉพาะกับเรื่องเสื้อผ้า การแต่งตัวหรือแฟชั่น และอีกหนึ่งเหตุผลที่ยอดเงินในบัญชีของฉันมีไม่ถึง 500 เหรียญ ก็เพราะว่าหมดไปกับคอลเลคชั่นฤดูหนาวที่กำลังลดราคาในห้างเนี่ยแหละ -_-;;

    ชาร์ล็อตครับ

    ฉันสะดุ้ง

    อะไร เอ๊ย นายเข้ามาได้ยังไง!” ฉันว่าเราตกลงเรื่องกฎกันไปแล้วนะ ว่าห้ามขึ้นมาชั้นบนน่ะ!

    คือว่ามีคน...

    หรือว่า... หมอนี่จะเข้ามาปล้ำฉัน!!!

    หึ ออกลายแล้วสินะ ไอ้โรคจิต!” ฉันชี้หน้าด่า ในขณะเดียวกันฉันก็ใช้สายตามองหาสิ่งที่พอจะเป็นอาวุธป้องกันตัวได้ ให้ตายสิ ฉันไม่น่าหวังดีกับอีตานี่เลย

    เอ่อ ผมไม่รู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้มีคนมาที่หน้าบ้านน่ะครับ

    ฮะ มีคนมา?ไม่ได้มาปล้ำฉันใช่ไหม T_T

    ขอโทษที่ผิดกฎนะครับ พอดีผมเรียกคุณแล้วไม่ขานรับ ผมเลยต้องมาตามด้วยตัวเอง ขอโทษอีกครั้งครับเขาก้มหัวให้เล็กน้อย

    โอ๊ย อะไรจะสุภาพขนาดนั้น -_-;;

    เดี๋ยวฉันลงไปดูเอง ส่วนนายก็เอาเสื้อผ้าที่กองไว้หน้าตู้ไปใส่ซะ มันอาจจะไม่ใช่สไตล์นาย แต่ก็ใส่ๆ ไปก่อนเถอะ

    ครับ

    หลังจากทิ้งคำสั่งให้กับสตีฟ ฉันก็เดินลงไปข้างล่างด้วยความโล่งใจ บางทีฉันอาจจะระแวงเขาเกินไปก็ได้ ตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้มาก คิดไปเถอะว่าเขาเป็นผู้ชายจากแอพพลิเคชั่น... มาเป็นแฟนของฉัน ใช่ แต่ถ้าเขาเป็นโรคจิตหรือมิจฉาชีพเมื่อไหร่ เบอร์ของสถานีตำรวจก็คงได้ใช้เมื่อนั้น -_-;;

    ปิ๊งป่องๆๆๆๆ

    เสียงกริ่งของประตูหน้าบ้านดังขึ้นรัวๆ ฉันขมวดคิ้วและนึกสงสัย ก่อนที่จะเดินไปที่หน้าต่างบานที่ใกล้ที่สุด แล้วทอดมองบุคคลที่บังอาจมาทำร้ายทรัพย์สินของบ้านฉันอย่างไร้มารยาท -_-;; เธอเป็นผู้หญิงหุ่นดี ใส่แว่นสีดำและเดรสสีเดียวกับแว่น ถ้าไม่มีประตูรั้วบังอยู่ฉันอาจจะระบุได้ว่าใคร แต่นี่...

    เฮ้ย!!! =[]=

    ฉันผงะ เมื่อกี้ฉันเห็นหน้าของหล่อนแวบๆ ไม่จริงน่า ยัยนั่นเนี่ยนะจะลงทุนถ่อมาถึงบ้านฉัน นี่มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจและแฟนตาสติคมาก ฉันคิดว่าเรื่องของฉันกับยัยนั่นจบไปตั้งนานแล้วนะ แต่นี่!

    มีอะไรหรอครับชาร์ล็อต คุณทำหน้าเหมือนอยากจะเข้าห้องน้ำนะสตีฟเดินมาพร้อมกับตะกร้าผ้า

    ปากหรือนั่น -_-+

    สตีฟ อย่าให้แม่นั่นเข้ามาเด็ดขาดนะ ฉันจะไปหลบในห้องน้ำ ถ้าหล่อนถามถึงฉัน บอกว่าฉันไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ โอเค๊?

    ครับ

    เอ่อ งั้นฉันไปก่อนล่ะ -_-;;”

    ฮึก ว่าจะไปหลบที่อื่นนะ T^T สุดท้ายก็ไม่พ้นห้องน้ำอยู่ดี 

     

     

    **************************************************************************************************************

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×