ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอบรู้กฎหมายสไตล์ฮาๆกับเจ้าชาน้อย

    ลำดับตอนที่ #2 : ลอกหรือแรงบันดาลใจ และแฟนฟิค

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 246
      0
      8 ธ.ค. 49

    ณ สตูดิโอแห่งหนึ่ง

    5 4 3 2....

    เฮียสอ : "สวัสดีครับ เมื่อไหร่มีเรื่องเด็ดประเด็นร้อน เมื่อนั้นผมเฮียสอและรายการเสี้ยมเขาให้ชนกันก็จะกลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้ง"
     
    "และวันนี้ก็มีเรื่องที่ตกเป็นกระแสเกรียวกราวอีกครั้ง กับประเด็นที่ว่าอะไรคือการลอก อะไรที่จัดว่าเป็นแรงบันดาลใจ แล้วแฟนฟิคชั่นที่แต่งกันอย่างเอิกเริกนี่จะเข้าข่ายผิดกฏหมายหรือไม่ รวมถึงคนที่ออกมาเปิดโปงจะโดนฟ้องกลับรึเปล่า"

    "เพื่อให้ได้คำตอบทางรายการจึงขอเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายมาถกกันให้รู้ไปข้าง ว่าใครถูกใครผิด ขอเชิญผู้ร่วมรายการของเราเลยครับ ท่านเปา(เอ็มวอส) ผู้ทรงคุณวุฒิทางกฏหมาย คุณคามิยาม่าผู้เชี่ยวชาญแหล่งของมูลแฟนฟิคและโดจินชิ และผู้จุดประเด็นทำให้เปิดศาลเตี้ย เอ้ยไม่ใช่เปิดรายการ คุณนักข่าวสาว(ของสงวนนาม)"

    "ก่อนอื่นคงต้องถามคุณคามิยาม่าก่อนว่า "แฟนฟิคชั่น" นี่คืออะไรครับ"

    คามิย่าม่า : "กราบเท้าคุณแม่ที่เคารพ อ้าวผิดเรื่อง เอ่อ..ตามความเห็นของผม แฟนฟิคชั่นคือ นิยายหรือเรื่องที่นักเขียนคนอื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของงานต้นฉบับแต่งขึ้นมาเพื่อสนองตันหาของตัวเอง ไม่ว่าจะเอาตัวละครจากเรื่องเดิมมายำให้แตกต่างไปหรือว่าจับมา Y กันสนองความหื่น กระทั้งใช้จินตนาการอันสูงส่ง(แกมเฟ้อเจ้อ)ทำให้เรื่องหรือตัวละครดั้งเดิมอยู่ในเหตุการณ์ที่ต่างออกไปตามเราต้องการ"

    เฮียสอ : คุณคามิย่าม่าไม่ต้องเก็กมากก็ได้ครับ ไม่มีใครเห็นหน้า ช่วยยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นสักนิดได้มั้ยครับ"

    คามิย่าม่าหันมาทำหน้าตาย: ไม่ได้เก็ก มันมีอยู่หน้าเดียว อะแฮ่ม..พวกแฟนฟิคนี่ก็เห็นได้ตามเวปต่างๆ ลองเข้าไปหาใน google เจอได้เลยเป็นล้าน (อันนี้ผมพูดจริงนะ) อย่างเช่นฟิคบารามอสหรือว่าฟิคแฮรี่ โดยปกติพวกนี้มักจะบอกเลยว่าเป็นฟิคคือเอามาจากเรื่องไหน เขียนห้อยมันท้ายชื่อเลยให้เห็นหรือไม่ก็จั่วด้วยชื่อตัวละคร เพราะว่าคนแต่งทำเพราะชอบเรื่องนั้นๆใช่มั้ย ดังนั้นจะหยิบยกมาแต่งต่อหรือดัดแปลงปู้ยี้ปู้ยำยังไงก็ตามก็ต้องทำให้รู้อยู่แล้วว่าออรินั้นเป็นเรื่องอะไร"

    "เอาจริงๆแฟนฟิคนั้นก็มีมานานหลายปีแสงแล้วแหละครับ ลองย้อนกลับไปดูพวกเทพนิยายหรือตำนานก็ได้ ของพวกนี้ถูกเอามาทำเป็นแฟนฟิคตั้งเยอะ อย่างเรื่องเฮอร์คิวลิสก็ใช่ จากวีรบุรุษในตำนานกรีก ก็ถูกเพิ่มเติมขยายเรื่องราวทำให้เราเห็นเป็นหนังสือ หนัง หรือแม้แต่กระทั้งการ์ตูน"

    เฮียสอ : "แล้วอย่างนี้แฟนฟิคต่างกับการลอกหรือแรงบันดาลใจยังไงล่ะ"

    คามิย่าม่า : "ฟิคมันคือความคลั่งไคล้ แต่งขึ้นมาเพื่อสนอง need ดังนั้นมันต้องสื่อไปถึงเรื่องที่เป็นต้นฉบับได้ แบบอ่านปุ๊บรู้ปั๊บเลย เหมือนกับพวก GMOs หรือพืชดัดแปลงนั่นแหละ มันฝรั่งที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมยังไงก็เป็นมันฝรั่งวันยังค่ำ มันจะกลายเป็นมะนาวหรือแมงสาปก็คงไม่ได้ผิดสปีชีย์ หรือว่าแตงโมที่ถูกปลูกในบล๊อกเหลี่ยมถึงแม้ไม่กลมแต่ให้เกิดอีกกี่ชาติมันก็ยังเรียกว่าแตงโม

    "ส่วนเรื่องแรงบันดาลใจนั้น ผมขอยกตัวอย่างแล้วกัน ถ้าเราให้เชอร์ล๊อค โฮล์ม เป็นงานต้นฉบับ อาคากาว่า จิโร่ (นักเขียนญี่ปุ่น) ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากมันออกมาเป็นมิเกะโนโกะ โฮล์ม แล้วอาโอยาม่า โกโช ก็รับมาอีกทีกลายเป็นโคนัน"

    "พอจะเห็นภาพมั้ยครับ คือแรงบันดาลใจนี่ทำให้เกิดประกายความคิดอ่ะ เหมือนกับแว๊บเข้ามาในสมองปิ๊งไอเดียไปต่อยอดเป็นอะไรต่อมิอะไร ถามว่ามิเกะกับโฮล์มเหมือนกันมั้ย ถ้าตอบว่าเป็นนิยายสืบสวนนั่นก็ต้องเหมือนแน่ แต่จะให้หาความคล้ายคลึงในสองอันนี้คงยากหน่อย (ไม่นับชื่อเรื่องนะ) ตัวเอกก็ต่างกัน การดำเนินเรื่องก็ต่างกัน ฉากสถานที่ไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง เอาเป็นว่าถ้าคนเขียนไม่บอกคงยากที่จะรู้ เรื่องโคนันก็เหมือนกัน"

    "แต่ถ้าเป็นการลอกเราจะได้กลิ่นมาเลย โชยหึ่งๆมาแต่ไกลเหมือนใครทำหนังสือตกไปตามคลองแสนแสบแล้วงมมาอ่าน การดำเนินเรื่องแบบนี้ ฉากแบบนี้ เครื่องมือแบบนี้มันคุ้นๆนี่หว่า ส่วนกลิ่นจะแรงมากหรือน้อยก็คงขึ้นอยู่กับการกลบกลิ่นของนักลอก ว่าจะมีพรนรกส่งเสริมขนาดไหน"

    เฮียสอ : "อ้าวตอนแรกบอกว่าฟิคต้องให้รู้ว่ามาจากไหน แล้วทำไมไม่จัดว่าลอกล่ะครับ"

    คามิยาม่า : "อย่างฟิคที่ไม่ถือว่าลอกเพราะมันเป็นการต่อยอดจากของเดิมเหมือนไปหยิบยืมของเขามาแล้วเอามาตกแต่งตามใจเรา (ซึ่งบางทีเจ้าของงานมาอ่านอาจสะอึกก็ได้)"

    "ในความเห็นผมคือว่า 1. ต้องอ้างหรือทำให้รู้ได้ว่าเอามาจากไหน คนอื่นจะได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ออรินะเป็นแค่แฟนฟิค ส่วนจะหยิบยื่มตัวละคร สถานที่ อะไรมาแค่ไหนมันก็เรื่องของเรา(คนแต่งฟิค) 2. ต้องไม่เอาขึ้นมาบนดินเพราะเมื่อไหร่ที่สาธารณชนรับรู้ในวงกว้างแล้ว ย่อมจะถูกเข้าใจผิดได้ว่ามันเป็นงานออริ เขาไม่ได้อ่าน/ดูต้นฉบับเรื่องนั้นกันทุกคนนี่ใช่มั้ย แล้วมันก็จะเกิดปัญหาตามมาอีกเป็นกระบุงโกยเลย ไม่เชื่อลองตามข่าวช่วงนี้ดูสิ"

    "ส่วนเรื่องเอาไปหากำไรนั้นในความเห็นส่วนตัวแล้ว แฟนฟิคกับโดจินก็เหมือนกันคือขายได้ แต่ต้องขายในกลุ่มของคนที่มีความสนใจประเภทเดียวกัน ไม่ใช่จะเอาไปวางตามซีเอ็ด ดวงกลม หรือส่งขึ้นอเมซอน เพราะของมันผิดกฏหมายใช่ม่ะ ถึงจะไม่ใช่ยาบ้ายาอีแต่จะให้ป่าวประกาศกันโต้งๆก็ดูไม่ดี ถ้ากะร่ำรวยหากินเป็นมืออาชีพเอาดีด้านนี้คงไม่ได้(ผิดกฏทั้งมวล) 

    "ก็มีนักเขียนหลายคนที่ไต่เต้า (มิใช่เต้าไต่นะครับ) มาจากของพวกนี้ก็แล้วต่อมาเขาก็ค่อยมาเขียนงานออริของตัวเอง มันก็ถือได้ว่าเป็นการฝึกปรือทางหนึ่งแหละนะ อาจจะเริ่มก็การให้คนอื่นจูงแต่ในที่สุดเขาก็ต้องเดินด้วยตัวเองให้ได้"

    เฮียสอ : "แล้วของพวกนี้ไม่ผิดกฏหมายหรือครับ"

    ท่านเปา : "ไอ้ผิดนะผิดแน่ ไม่ว่าลอกหรือแฟนฟิค เพราะกฏหมายลิขสิทธิ์ไม่ว่าที่ไหนๆเขาก็ตราขึ้นมาเพื่อปกป้องเจ้าของผลงานที่ทุ่มเทเวลาคิดเวลาเขียนออกมา ไม่งั้นมันก็จะไม่มีการสร้างสรรค์ ถ้าหากยอมให้ลอกกันได้เรื่อยๆเป็นใครก็ต้องท้อ โลกเราก็คงไม่มีอะไรใหม่ๆเจอแต่ของวนเวียนซ้ำซากถูกรึเปล่า"

    ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

    "แต่ปกติที่เจ้าของผลงานเขาไม่ฟ้องพวกฟิค ก็เพราะเหตุง่ายๆ คนชอบจึงเขียนใช่มั้ย ในเมื่อผลงานเราเป็นที่นิยมแถมยังช่วยต้อนคนอื่นมาเป็นสาวกอีกต่างหาก เขาจะไปขวางทำไม ทำงั้นก็ทุบหม้อข้าวตัวเองชัดๆ"

    "คนที่มีสิทธิฟ้องคดีคือ เจ้าของผลงานเท่านั้น คนอื่นไม่เกี่ยว ในเมื่อมันไม่ได้กระทบทางมาหาได้ของเขาแถมยังได้ประโยชน์ เรื่องมันก็เลยไม่ถึงศาลนะสิ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ไม่ผิดแต่โดยธรรมดาแล้วเขาไม่เอาเรื่องกันต่างหาก"

    "ส่วนกรณีลอกมันเป็นอีกเรื่อง อันนี้เจ้าของเขาเดือดร้อนแน่ คิดมาแทบตายมันนั่งเปิดๆไล่อ่านพิมพ์จึ๊กๆไม่กี่นาทีก็ออกมาสวยหรูได้แล้ว จะไปยอมได้ไง การลอกคือการเอางานของคนอื่นมาแอบอ้างว่าเป็นของตัวเองใช่มั้ย ไม่ว่าจะหยิบยืมหรือใช้คำพูดสวยหรูว่าชื่นชมยังไง แต่ยังไงซะลอกก็คือลอก ผลงานที่ออกมามันก็ไม่ได้เป็นเครดิตของคนคิดแต่เป็นของคนลอก พวกทำนาบนหลังคนอย่างนี้ต้องเอาตัวไปประหาร"

    "โหวววววววววววววววววววววว"

    เฮียสอ : "เอ่อ..ท่านเปาครับคนละรายการไม่ต้องโยนติ้วก็ได้ครับ อะแฮ่ม..ต่อนะครับ ถ้าจะเขียนไม่ให้โดนฟ้องละครับจะต้องทำอย่างไร"

    ท่านเปา : "เรื่องนี้ก็ง่ายๆ ไปขออนุญาตเจ้าของผลงานซะ ย้ำนะว่าต้องเจ้าของผลงานเท่านั้น เพราะเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์ดัดแปลง ทำซ้ำ หรือส่งตามสายเคเบิ้ลได้ เอ้ยอันหลังไม่เกี่ยวแฮะ ผู้จัดจำหน่ายหรือสายส่งอะไรก็ไม่มีสิทธิทั้งนั้นเว้นแต่สัญญาจะระบุไว้ให้ทำได้"

    เฮียสอ : "แล้วถ้าอย่างเราไปเอาพล๊อกเรื่องมาจากหนังแล้วเราจะไปขอกับตัวแทนจำหน่ายได้มั้ยครับ"

    ท่านเปา : "ไม่ได้ดิ ก็บอกแล้วว่าเจ้าของเท่านั้น ปกติเวลาเขาให้เอาหนังเข้ามาเขาก็ให้สิทธิเฉพาะทำซ้ำกับแผยแพร่นะ คือทำผลิตไปขายหรือฉายได้ไง ไม่ใช่ให้มาทั้งหมด"

    นักข่าวสาว : "แล้วถ้าเกิดหาเจ้าของไม่ได้ล่ะคะ"

    ท่านเปา : "อันนี้ก็ต้องให้เครดิตไว้สิหนู ว่าเอามาจากไหนของใคร ที่จริงให้แล้วมันก็เข้าข่ายผิดนะแต่มันก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้เจตนาไง ก็จะได้รับการแผ่เมตตามากขึ้น"

    นักข่าวสาว : "ในกรณีที่มีคนไปเจองานฟิค เกิดรับไม่ได้บอกว่าลอกนี่ เขาทำอะไรได้บ้างคะ"

    ท่านเปา : "ก็ประจาน เอ้ยบอกต่อไงล่ะ ถือว่าเป็นการวิจารณ์งานตามสมควรในฐานะผู้บริโภค แต่จะไปฟ้องเขามันไม่ได้น้า เพราะคนอ่านไม่ใช่เจ้าของเรื่องไม่ใช่เจ้าทุกข์ตามกฏหมาย"

    นักข่าวสาว : "ทีนี้ถ้าเกิดคนที่โดนกล่าวหาว่าลอกจะฟ้องกลับล่ะคะ"

    ท่านเปา : "ข้อหาอะไรล่ะ จะเป็นหมิ่นก็ไม่เข้าเพราะเจอข้อยกเว้นเข้าไป "ในกรณีติชม ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ" ท่านว่าไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ทีนี้เราเป็นนักอ่านซึ่งซื้อหนังสือเขามาใช่มั้ยถ้าเห็นว่าไม่ดี ลอกมา ก็ย่อมที่จะต้องทวงถามหาความกระจ่างเป็นธรรมดา"

    เฮียสอ : "ท่านว่านี่ใครว่าหรือครับ"

    ท่านเปาปล่อยลำแสงพระจันทร์เสี้ยวก่อนหนึ่งทีก่อนจะตอบอย่างเสียไม่ได้ : "ท่านก็คือกฏหมาย ไม่ใช่ใครเป็นคนๆหรอก ไม่ใช่สาระคำถามไม่สร้างสรรค์ข้ามๆ"

    นักข่าวสาวเห็นท่าไม่ดีเริ่มดึงประเด็นกลับก่อนออกอ่าว : "ถามอีกเรื่องนะคะ ถ้าเกิดคนที่มาวิจารณ์ต่อๆมา (มาด่านั่นเอง) ในเวปบอร์ดที่ให้แสดงความคิดเห็นอย่างนี้คนโดนว่ามีสิทธิ์เช็คไอพีแล้วเอาไปเล่นงานตามกฏหมายได้มั้ยคะ"

    ท่านเปา : "โดยปกตินะ การหมิ่นประมาทคือการพูดหรือเล่าอะไรก็ตามให้คนอื่นฟัง แล้วคนที่ถูกกล่าวถึงนั้นได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเสียชื่อ ถูกเกลียด โดนดิสเครดิตไม่ได้รับความเชื่อถือ (เสียหน้าไม่นับนะ) อย่างนี้คนโดนเขาก็เอาเรื่องได้"

    "แต่ก็ต้องดูก่อนว่าเข้าข้อยกเว้นที่บอกไปแล้วรึเปล่า คือ เป็นการติชม วิพากษ์(ด่า)วิจารณ์กันพอสมควรหรือไม่ ถ้าใช่ก็รอดถ้าไม่ใช่ก็อาจซวย ดังนั้นเวลาไปให้ความเห็นอะไรก็ควรจะใช้เหตุผล หากไม่มีก็ถูๆไถๆให้มันมีซะหน่อยก็ยังดีจะได้ไม่โดนข้อหานี้"

    "ยิ่งเป็นการหมิ่นด้วยการโฆษณา อย่างลงเวปนี่ก็ถือว่าใช้สื่อใช่มั้ย มันก็ถือว่าเป็นการโฆษณาอย่างหนึ่งนะ อันนี้โทษก็จะหนักกว่าธรรมดา แต่ถามจริงเถอะจะนั่งเช็คไอพีทุกคนที่เขามานั่งด่าแล้วร่อนโนติสเอาเรื่องทุกคนนี่นะ เห็นศาลว่างนักหรือไง"

    เฮียสอ : "ท่าทางท่านเปาจะต้องไปเล่นปังย่าต่อแล้วนะครับ อย่างนั้นวันนี้ผมขอจบรายการแต่เพียงเท่านี้แล้วกัน แหะๆ ลาละครับทุกท่าน" 

    อ้างอิง :
    http://www.cipitc.or.th/
    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4939887/K4939887.html
    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4939887/K4939887.html
    http://en.wikipedia.org/wiki/Fan_fiction
    http://en.wikipedia.org/wiki/Legal_issues_with_fan_fiction

    หมายเหตุ ข้อความข้างต้นแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ที่มีอยู่จริง หากท่านใดคิดว่าเกี่ยว โปรดิวเซอร์รายการนี้ก็ไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

    ปล. เรื่องมันข้อมูลเยอะไปนิดถ้าที่แทรกมุขไม่ค่อยได้ ถ้าใครมีข้อเสนอแนะติติงอะไรก็เชิญได้เลยนะครับตามสบาย แต่ถ้าจะมารุมผมละก็ อันนี้ผมตามใบสั่งนะ  เขาบอกอยากให้จัดก็จัดให้ /me ชะแว๊บไปให้อาหารนกดีกว่า เผ่นละคร้าบ

    ลป. เรื่องสัญญากับนักเขียนขอหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดนะครับ นักเขียนท่านใดสนใจให้รายละเอียดเรื่องสัญญาเพื่อเป็นวิทยาทานแก่เด็กรุ่นใหม่ ติดต่อหลังไมค์ได้ตลอด 24 ชม. ครับ ^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×