ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เด็กหนุ่มผู้มีตาสีฟ้า
บทที่ 1 เด็กหนุ่มผู้มีตาสีฟ้า
              ณ ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ภายใต้เขตการปกครองของ องค์จักรพรรดินี สเตลาลูน่า ฮีมาโมเน่
แห่งอาณาจักร ไอโอเนียร์ ผู้คนต่างยิ้มแย้มแจ่มใส และอยู่กันอย่างสงบสุข เหมือนพี่เหมือนน้อง
เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่สุดขอบทวีปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ทางด้านทิศเหนือของอาณาจักรนั้นติดกับ ซาเลเรีย
ด้านตะวันตกเชื่อมต่อกับ ริงค์ก้า ส่วนทิศตะวันออกและใต้นั้นเป็นทะเล
              ชาวเมืองส่วนใหญ่ในเขตแดนมักยึดอาชีพกสิกรรมเป็นหลัก อีกทั้งม้าแห่งไอโอเนียร์ก็ลือชื่อในแดนไกล
ไม่แพ้กัน ทั้งในเรื่องความเร็วและความทรหดนั้นไม่เป็นแรงม้าที่ใด ซึ่งหนึ่งในจำนวนม้าเหล่านั้นมาจากฟาร์ม
เพาะพันธุ์ม้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงลงทางทางใต้ไม่ไกลนักของชายวัยกลางคน นามว่า แกมบาร์ด
ฟรานไลอาสต์ แม้จะเป็นเพียงฟาร์มม้าเล็กๆที่ใหญ่โตสู้ฟาร์มอื่นไม่ได้ แต่ม้าของเขาก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่า
แข็งแรงและปราดเปรียวเป็นที่สุด แม้แต่บรรดาขุนนางและผู้ดีชั้นสูงเองก็ยังเจาะจงเลือกม้าจากฟาร์มแห่งนี้
              เขาอาศัยอยู่กับบุตรชายเพียงคนเดียวในบ้านชั้นเดียวสีขาว หลังคาสีน้ำตาลแดง ตัดกับสีของตัวบ้าน
มีปล่องไฟขนาดย่อมอยู่ที่ปลายจั่วด้านหนึ่งของหลังคา ทางด้านขวาห่างออกไปเล็กน้อยเป็นที่ตั้งของโรงนาขนาด
ย่อมๆสีน้ำตาลแดง หลังคาสีดำที่ทำจากไม้กระดานทั้งหลัง มีประตูไม้สีขาวบานโตที่เปิดออกได้ 2 ด้านเป็นทาง
เข้าออก ด้านข้างประตูโรงนามีต้นไม้แก่ๆยืนต้นอยู่
              มันเป็นช่วงบ่ายของวันอันสดใส แสงแดดอันร้อนแรงถูกเมฆก้อนโตบดบังเอาไว้ สายลมอ่อนพัดพา
ความเย็นให้ไหลผ่านเมื่อสัมผัสโดนร่างกาย ทำให้เด็กหนุ่มผู้หนึ่งเผลอหลับไปใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นด้วยอาการ
ผ่อนคลาย
            “อีริก! อีริก เจ้าอยู่ไหน!”  เสียงชายวัยกลางคน ผู้มีผมสีทอง ตาสีน้ำตาลอ่อน ในชุดสีเทาดูมอซอ
ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มชื่อดังแห่งไอโอเนียร์ เรียกหาลูกชายตัวดีของตนด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
            “อีริก ข้ารู้น่ะว่าเจ้าอยู่แถวนี้ ออกมาซะดีๆ”
            “ข้าอยู่นี่” เด็กหนุ่มร้องตอบหลังจากสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเรียกหา
            “ท่านพ่อไม่ต้องตะโกนเสียงดังก็ได้ เดี๋ยวม้ามันก็ตกใจเตลิดไปหมดหรอก” เด็กหนุ่มผู้มีตาสีฟ้าสดใส
เหมือนน้ำทะเล ใบหน้านั้นหยาบกร้าน ร่างกายกำยำเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป ผมสีดำสนิทที่ยาวปรกหน้านั้นดู
ยุ่งเหยิงบ่งบอกอาการของคนพึ่งตื่นนอน ส่งเสียงตอบขณะมองมายังผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
            “ต่อให้ม้ามันหนีเตลิดไปจริงอย่างเจ้าว่า มันก็ออกจากรั่วกั้นที่ข้าเป็นคนทำเองกับมือไม่ได้หรอก”
ผู้เป็นพ่อคุยโอ่กับผู้เป็นลูกชายคนเดียวของเขา
            “ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมหลบมานอนอู้ขี้เกียจอยู่ตรงนี้ ถ้าว่างนักสู้เอาเวลาไปฝึกดาบไม่ดีกว่ารึไงฮึ
วันประลองสอบเข้าเป็นอัศวินของไอโอเนียร์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว”
            “โธ่ พ่อ ...ก็ข้าไม่อยากเป็นอัศวินนี่” ผู้เป็นลูกตอบอย่างขัดใจ
            “ว่ะ! ทำไมแกถึงไม่อยากเป็นอัศวินล่ะ เป็นอัศวินน่ะเท่ห์จะตาย แถมมีเกียรติมีชื่อเสียงอีกตังหาก”
คิ้วทั้ง 2 ข้าง ขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนักกับคำตอบของบุตรชาย
            “เรื่องใช้อาวุธเจ้าก็ไม่เป็นรองใคร ยิ่งการใช้ดาบด้วยแล้วเจ้าเก่งกว่าอัศวินมีชื่อพวกนั้นเยอะ
ไม่ว่าบนพื้นดินหรือว่าบนหลังม้า”
            “ข้ารึอุตส่าห์ ทุ่มเต็มที่ฝึกสอนเจ้าเองกับมือ” ผู้เป็นพ่อกล่าว ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วย
ความเสียดาย เมื่อรู้ว่าลูกชายโยนโอกาสทิ้งไป
            “น่า น่าๆ ข้ารู้ท่านพ่อเก่ง อัศวินเก่าอย่างท่านฝืมือยังไม่ตกหรอก” ลูกชายกล่าวชมเพื่อให้พ่อของตน
รู้สึกดีขึ้น และเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่... ข้าไม่อยากเป็นอัศวิน”
            \"ไม่เป็นอัศวิน? ไม่เป็นอัศวินแล้วเจ้าจะทำอะไร” ผู้เป็นพ่อทวนคำบุตรชาย หัวคิ้วทั้ง 2 ข้างวิ่งเข้าหากัน
อีกครั้ง ในขณะที่นัยต์ตาสีฟ้าของคู่สนธนาหลุบลงต่ำ
            ผู้เป็นพ่อกล่าวต่อโดยไม่รอคำตอบจากลุกชายแต่อย่างใด “เจ้าอยากเป็นจอมเวทย์งั้นรึ หรือว่าจะเป็น
นักปราชญ์ หรือว่าอยากจะเป็นพ่อค้ากันล่ะ ...หรือเจ้าอยากจะช่วยพ่อดูแลฟาร์มนี่ไปตลอดชีวิตฮึ?”
            ลูกชายหันมาสบตาพ่อของตน แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ข้า... ข้าอยากเห็นโลกท่านพ่อ ข้าอยากเดินทางไป
ตามที่ต่างๆ ข้าอยากเห็นเอลฟ์ อยากเจอมังกร อยากพบ...”
            “เอาละ พอ พอๆ” เมื่อผู้เป็นพ่อได้ยินลูกชายตัวดีเริ่มร่ายยาว ซึ่งดูท่าจะไม่จบง่ายๆเลยรีบตัดบท
ซะก่อนที่มันจะเริ่มร่ายยาวไปมากกว่านี้
            ดวงตาสีน้ำตาลนั้นมีแววลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบไป “...ก็แล้วแต่เจ้าเถอะ อยากทำอะไร อยากจะไปไหน
ก็เชิญ ปีนี้แกก็ 20 แล้ว น่าจะโตพอตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองแล้ว”
            “ท่านพ่อยอมให้ข้าไปจริงๆเหรอ” ผู้เป็นลูกยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ข้าว่า บางทีถ้า
ไม่ไปน่าจะดีกว่า”
            “ว่ะ! อะไรของแกอีกล่ะ พอข้าปล่อยให้ทำตามใจแล้วดันเปลี่ยนใจไม่ไปซะนี่
            “...ก็ถ้าข้าไปแล้วใครจะอยู่ช่วยงานพ่อล่ะ”
            “แกไม่ต้องไปห่วงเรื่องพรรณนั้นหรอก ข้าแก่เฒ่าขนาดไม่มีแรงจะลุกขึ้นทำอะไรไม่ได้ซะเมื่อไหร่
กันเล่า แถมยังมีเจ้าบิลไว้คอยช่วยงานอยู่แล้วด้วย อีกอย่างน่ะฐานะเราก็ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอะไร ไว้ข้า
จ้างคนงานมาทำแทนในส่วนของเจ้าก็ยังได้” ผู้เป็นพ่อยิ้มให้ พลางตบไหล่ลูกชายคนเดียวของตนอย่างเอ็นดู
            “ถ้างั้นข้าเอาเจ้าลาร์ดไปด้วยน่ะ” ลูกชายตัวดีถามถึงม้าตัวโปรดด้วยเสียงที่สดชื่นขึ้น
            “ตามใจแกซิ ถ้าแกลากไอ้ม้าบ้านั้นออกจากคอกได้แกก็เอาไปเถอะ”
            “ว่าแต่แกเถอะ อยากไปเมื่อไหร่ล่ะ?”
            เด็กหนุ่มตาสีฟ้าทำท่าครุ่งคิดเล็กน้อย แล้วจึงตอบกลับไป “อืม... งานประลองอัศวินจบแล้ว ข้าค่อย
ออกเดินทางแล้วกัน”
            “ห่วงแต่สนุกจริงๆน้า” ผู้เป็นพ่อส่ายหน้าหน่ายๆแล้วโยนแปรงขนหนาสีดำอันใหญ่ให้ลูกชาย
            “งั้นตอนนี้ไปทำงานซะก่อน นู่นม้าพวกนั้นยังไม่ได้แปรงขนเลย ไปจัดการซะให้เรียบร้อย” ผู้เป็นพ่อว่า
พลางชี้ไปยังม้าฝูงหนึ่งทางด้านหลังแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ลูกชายตัวดียืนทำหน้าเซ็งๆก่อนจะเดินไปทำงานที่ได้รับมา
________________________________________________________________________
จากผู้เขียน: ช่วยกันวิจารณ์เยอะน่ะครับ โหวตให้ด้วยก็ดี^ ^
ป.ล. ผมแก้ไขเนื้อหา และรายละเอียดเกือบทั้งหมดของที่เคยเอาลงน่ะครับ เพื่อให้ได้งานเขียนที่มีคุณภาพ
มากยิ่งขึ้น
              ณ ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ภายใต้เขตการปกครองของ องค์จักรพรรดินี สเตลาลูน่า ฮีมาโมเน่
แห่งอาณาจักร ไอโอเนียร์ ผู้คนต่างยิ้มแย้มแจ่มใส และอยู่กันอย่างสงบสุข เหมือนพี่เหมือนน้อง
เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่สุดขอบทวีปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ทางด้านทิศเหนือของอาณาจักรนั้นติดกับ ซาเลเรีย
ด้านตะวันตกเชื่อมต่อกับ ริงค์ก้า ส่วนทิศตะวันออกและใต้นั้นเป็นทะเล
              ชาวเมืองส่วนใหญ่ในเขตแดนมักยึดอาชีพกสิกรรมเป็นหลัก อีกทั้งม้าแห่งไอโอเนียร์ก็ลือชื่อในแดนไกล
ไม่แพ้กัน ทั้งในเรื่องความเร็วและความทรหดนั้นไม่เป็นแรงม้าที่ใด ซึ่งหนึ่งในจำนวนม้าเหล่านั้นมาจากฟาร์ม
เพาะพันธุ์ม้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงลงทางทางใต้ไม่ไกลนักของชายวัยกลางคน นามว่า แกมบาร์ด
ฟรานไลอาสต์ แม้จะเป็นเพียงฟาร์มม้าเล็กๆที่ใหญ่โตสู้ฟาร์มอื่นไม่ได้ แต่ม้าของเขาก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่า
แข็งแรงและปราดเปรียวเป็นที่สุด แม้แต่บรรดาขุนนางและผู้ดีชั้นสูงเองก็ยังเจาะจงเลือกม้าจากฟาร์มแห่งนี้
              เขาอาศัยอยู่กับบุตรชายเพียงคนเดียวในบ้านชั้นเดียวสีขาว หลังคาสีน้ำตาลแดง ตัดกับสีของตัวบ้าน
มีปล่องไฟขนาดย่อมอยู่ที่ปลายจั่วด้านหนึ่งของหลังคา ทางด้านขวาห่างออกไปเล็กน้อยเป็นที่ตั้งของโรงนาขนาด
ย่อมๆสีน้ำตาลแดง หลังคาสีดำที่ทำจากไม้กระดานทั้งหลัง มีประตูไม้สีขาวบานโตที่เปิดออกได้ 2 ด้านเป็นทาง
เข้าออก ด้านข้างประตูโรงนามีต้นไม้แก่ๆยืนต้นอยู่
              มันเป็นช่วงบ่ายของวันอันสดใส แสงแดดอันร้อนแรงถูกเมฆก้อนโตบดบังเอาไว้ สายลมอ่อนพัดพา
ความเย็นให้ไหลผ่านเมื่อสัมผัสโดนร่างกาย ทำให้เด็กหนุ่มผู้หนึ่งเผลอหลับไปใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นด้วยอาการ
ผ่อนคลาย
            “อีริก! อีริก เจ้าอยู่ไหน!”  เสียงชายวัยกลางคน ผู้มีผมสีทอง ตาสีน้ำตาลอ่อน ในชุดสีเทาดูมอซอ
ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มชื่อดังแห่งไอโอเนียร์ เรียกหาลูกชายตัวดีของตนด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
            “อีริก ข้ารู้น่ะว่าเจ้าอยู่แถวนี้ ออกมาซะดีๆ”
            “ข้าอยู่นี่” เด็กหนุ่มร้องตอบหลังจากสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเรียกหา
            “ท่านพ่อไม่ต้องตะโกนเสียงดังก็ได้ เดี๋ยวม้ามันก็ตกใจเตลิดไปหมดหรอก” เด็กหนุ่มผู้มีตาสีฟ้าสดใส
เหมือนน้ำทะเล ใบหน้านั้นหยาบกร้าน ร่างกายกำยำเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป ผมสีดำสนิทที่ยาวปรกหน้านั้นดู
ยุ่งเหยิงบ่งบอกอาการของคนพึ่งตื่นนอน ส่งเสียงตอบขณะมองมายังผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
            “ต่อให้ม้ามันหนีเตลิดไปจริงอย่างเจ้าว่า มันก็ออกจากรั่วกั้นที่ข้าเป็นคนทำเองกับมือไม่ได้หรอก”
ผู้เป็นพ่อคุยโอ่กับผู้เป็นลูกชายคนเดียวของเขา
            “ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมหลบมานอนอู้ขี้เกียจอยู่ตรงนี้ ถ้าว่างนักสู้เอาเวลาไปฝึกดาบไม่ดีกว่ารึไงฮึ
วันประลองสอบเข้าเป็นอัศวินของไอโอเนียร์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว”
            “โธ่ พ่อ ...ก็ข้าไม่อยากเป็นอัศวินนี่” ผู้เป็นลูกตอบอย่างขัดใจ
            “ว่ะ! ทำไมแกถึงไม่อยากเป็นอัศวินล่ะ เป็นอัศวินน่ะเท่ห์จะตาย แถมมีเกียรติมีชื่อเสียงอีกตังหาก”
คิ้วทั้ง 2 ข้าง ขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนักกับคำตอบของบุตรชาย
            “เรื่องใช้อาวุธเจ้าก็ไม่เป็นรองใคร ยิ่งการใช้ดาบด้วยแล้วเจ้าเก่งกว่าอัศวินมีชื่อพวกนั้นเยอะ
ไม่ว่าบนพื้นดินหรือว่าบนหลังม้า”
            “ข้ารึอุตส่าห์ ทุ่มเต็มที่ฝึกสอนเจ้าเองกับมือ” ผู้เป็นพ่อกล่าว ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วย
ความเสียดาย เมื่อรู้ว่าลูกชายโยนโอกาสทิ้งไป
            “น่า น่าๆ ข้ารู้ท่านพ่อเก่ง อัศวินเก่าอย่างท่านฝืมือยังไม่ตกหรอก” ลูกชายกล่าวชมเพื่อให้พ่อของตน
รู้สึกดีขึ้น และเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่... ข้าไม่อยากเป็นอัศวิน”
            \"ไม่เป็นอัศวิน? ไม่เป็นอัศวินแล้วเจ้าจะทำอะไร” ผู้เป็นพ่อทวนคำบุตรชาย หัวคิ้วทั้ง 2 ข้างวิ่งเข้าหากัน
อีกครั้ง ในขณะที่นัยต์ตาสีฟ้าของคู่สนธนาหลุบลงต่ำ
            ผู้เป็นพ่อกล่าวต่อโดยไม่รอคำตอบจากลุกชายแต่อย่างใด “เจ้าอยากเป็นจอมเวทย์งั้นรึ หรือว่าจะเป็น
นักปราชญ์ หรือว่าอยากจะเป็นพ่อค้ากันล่ะ ...หรือเจ้าอยากจะช่วยพ่อดูแลฟาร์มนี่ไปตลอดชีวิตฮึ?”
            ลูกชายหันมาสบตาพ่อของตน แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ข้า... ข้าอยากเห็นโลกท่านพ่อ ข้าอยากเดินทางไป
ตามที่ต่างๆ ข้าอยากเห็นเอลฟ์ อยากเจอมังกร อยากพบ...”
            “เอาละ พอ พอๆ” เมื่อผู้เป็นพ่อได้ยินลูกชายตัวดีเริ่มร่ายยาว ซึ่งดูท่าจะไม่จบง่ายๆเลยรีบตัดบท
ซะก่อนที่มันจะเริ่มร่ายยาวไปมากกว่านี้
            ดวงตาสีน้ำตาลนั้นมีแววลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบไป “...ก็แล้วแต่เจ้าเถอะ อยากทำอะไร อยากจะไปไหน
ก็เชิญ ปีนี้แกก็ 20 แล้ว น่าจะโตพอตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเองแล้ว”
            “ท่านพ่อยอมให้ข้าไปจริงๆเหรอ” ผู้เป็นลูกยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ข้าว่า บางทีถ้า
ไม่ไปน่าจะดีกว่า”
            “ว่ะ! อะไรของแกอีกล่ะ พอข้าปล่อยให้ทำตามใจแล้วดันเปลี่ยนใจไม่ไปซะนี่
            “...ก็ถ้าข้าไปแล้วใครจะอยู่ช่วยงานพ่อล่ะ”
            “แกไม่ต้องไปห่วงเรื่องพรรณนั้นหรอก ข้าแก่เฒ่าขนาดไม่มีแรงจะลุกขึ้นทำอะไรไม่ได้ซะเมื่อไหร่
กันเล่า แถมยังมีเจ้าบิลไว้คอยช่วยงานอยู่แล้วด้วย อีกอย่างน่ะฐานะเราก็ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอะไร ไว้ข้า
จ้างคนงานมาทำแทนในส่วนของเจ้าก็ยังได้” ผู้เป็นพ่อยิ้มให้ พลางตบไหล่ลูกชายคนเดียวของตนอย่างเอ็นดู
            “ถ้างั้นข้าเอาเจ้าลาร์ดไปด้วยน่ะ” ลูกชายตัวดีถามถึงม้าตัวโปรดด้วยเสียงที่สดชื่นขึ้น
            “ตามใจแกซิ ถ้าแกลากไอ้ม้าบ้านั้นออกจากคอกได้แกก็เอาไปเถอะ”
            “ว่าแต่แกเถอะ อยากไปเมื่อไหร่ล่ะ?”
            เด็กหนุ่มตาสีฟ้าทำท่าครุ่งคิดเล็กน้อย แล้วจึงตอบกลับไป “อืม... งานประลองอัศวินจบแล้ว ข้าค่อย
ออกเดินทางแล้วกัน”
            “ห่วงแต่สนุกจริงๆน้า” ผู้เป็นพ่อส่ายหน้าหน่ายๆแล้วโยนแปรงขนหนาสีดำอันใหญ่ให้ลูกชาย
            “งั้นตอนนี้ไปทำงานซะก่อน นู่นม้าพวกนั้นยังไม่ได้แปรงขนเลย ไปจัดการซะให้เรียบร้อย” ผู้เป็นพ่อว่า
พลางชี้ไปยังม้าฝูงหนึ่งทางด้านหลังแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ลูกชายตัวดียืนทำหน้าเซ็งๆก่อนจะเดินไปทำงานที่ได้รับมา
________________________________________________________________________
จากผู้เขียน: ช่วยกันวิจารณ์เยอะน่ะครับ โหวตให้ด้วยก็ดี^ ^
ป.ล. ผมแก้ไขเนื้อหา และรายละเอียดเกือบทั้งหมดของที่เคยเอาลงน่ะครับ เพื่อให้ได้งานเขียนที่มีคุณภาพ
มากยิ่งขึ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น