ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✰ หัวไม้ ' {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #4 : หัวไม้ : 03 {100%}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.04K
      12
      6 ก.พ. 58






              เมื่อไล่ตะเพิดทุกคนออกจากบ้านได้สำเร็จชานยอลก็รีบเข้าครัวทำมื้อเย็นทันที และเมื่อร่างเล็กได้กลิ่นหอมของอาหารก็รีบแจ้นออกมาจากห้องตามเสียงประท้วงของกระเพาะโดยรู้งาน

     

              นั่งยิ้มแป้นกำช้อนส้อมในมือแน่นรอเวลาอาหารเสิร์ฟ เป็นภาพที่น่ารักน่าชังพอสมควรไม่สิ ออกจะน่ารักมากเลยทีเดียว แต่สำหรับปาร์คชานยอลแล้วมันน่าเอาเข่าฟาดเบ้าหน้าซะมากกว่า

     

              "พรุ่งนี้ให้กูไปส่งอีกไหม?"

     

              "มึงถามเหมือนกูขอร้องให้มึงไปส่งงั้นแหละ"

     

              "ถ้าไม่ให้ไปส่งก็อดกินมื้อเย็นนะ"

     

              "ได้ไงอ่ะ"

     

              "บอกก่อนว่าจะให้กูไปส่ง"

     

              ร่างเล็กจ้องหน้าพี่ชายสลับกับจานข้าวในมือใหญ่อย่างเอาเรื่อง "ก็ได้"

     

              "ห้ามตอบส่งๆนะ"

     

              "เออ"

     

              "อ่ะเคร" จานข้าววางเสิร์ฟพอดีองศาคนน้องก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของตัวเองไปด้วย

     

              นานมาแล้วที่เขาเป็นคนไปรับไปส่งแบคฮยอนหน้าโรงเรียนทุกวัน แต่หลังจากซื้อมอเตอร์ไซด์คันใหม่ตอนม.ปลาย แบคฮยอนก็กล้าๆกลัวๆที่จะซ้อนท้ายทันที

     

              เหตุผลที่ได้มากจากปากเจ้าตัวก็คือ มันสูง มันใหญ่ มันเสียงดัง มันน่ากลัว

     

              "แต่ห้ามทำรุ่มร่ามเหมือนเมื่อเช้าอีกนะ"

     

              "เขินหรอ"

     

              "เขินกับผีน่ะสิ กูโดนเด็กทั้งโรงเรียนมองเนี่ย"

     

              "ก็นั่นไง มึงเขิน"

     

              "หุบปากไปเลยไอ้ช้อนยาน"

     

              "ช้านนนนนนนยอนนนนนนน" ชานยอลล้อเลียนคนน้องด้วยเสียงยานคางแบบตลกๆ ทำให้โดนยักปากหมั่นไส้กลับมาหนึ่งที

     

              แล้วสุดท้ายชานยอลก็เป็นพ่อบ้านที่ดีคอยเก็บกวาดจานชามอีกเช่นเคย ส่วนน้องชายก็สะบัดตูดไปนอนดูละครหลังข่าวบนโซฟาตั้งแต่กินข้าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

     

              แบคฮยอนกำลังสงสัยว่าพวกไอ้เจ๊กมันจะเอาประธานช่างไปทำไม? ฆ่า? ทรมาน? ทำความรู้จัก? สังสรรค์? ปาร์ตี้?

     

              "อย่าลืมปิดไฟนะ"

     

              "อะไร จะนอนแล้วหรอ?" ร่างเล็กผงกหัวยันตัวขึ้นมองพี่ชาย

     

              "อืม ทำการบ้านเสร็จก็จะนอนละ อย่านอนดึกนะ"

     

              "ฝันดีๆ"

     

              ชานยอลเมื่อยล้าหลังจากเล่นฟุตบอลเมื่อตอนกลางวันมาอย่างหนักหน่วง ทำให้เขารู้สึกเพลียเป็นพิเศษ แต่การบ้านที่เดทไลน์ส่งวันพรุ่งนี้สำคัญกว่า

     

              หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งทำการบ้าน เสียงเพลงในโทรศัพท์ที่ดังทะลุกำแพงก็กล่อมให้ร่างสูงบนเตียงหลับได้โดยไม่ต้องคิดอะไร เพราะเช้าวันพรุ่งนี้เขายังมีภารกิจอีกหลายอย่างที่จะต้องสะสาง

     

     

              "จอดดีๆล่ะ"

     

              "รู้แล้วน่า" มอเตอร์ไซด์คันใหญ่จอดเทียบริมฟุตบาท

     

              "ห้ามลูบหัวด้วย" แบคฮยอนชี้หน้าพี่ชายเป็นการเตือนพร้อมกับหลบศีรษะไปด้านหลัง

     

              "เอออออ" ชานยอลรับหมวกกันน็อคก่อนจะโบกมือเล็กน้อยแล้วออกรถไป

     

              โชคร้ายที่วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งตามประสาวัยรุ่น เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงมินซอกจึงเขียนใบคำขออนุญาตย้ายโรงเรียนชั่วคราว

     

              ราวกับเป็นวารระระดับชาติที่ต้องจัดการ ชานยอลโดนเรียกตัวทันทีที่เอกสารถึงมืออาจารย์ใหญ่

     

              "นั่งลง"

     

              "ครับ"

     

              "คิดว่าย้ายไปทั้งทีมแล้วจะจัดการอะไรได้"

     

              "เอ่อ อย่างน้อยเราก็ช่วยเป็นหูเป็นตา"

     

              "ฉันไม่มีอำนาจหน้าที่จับพวกเธอทั้งหมดย้ายไปย้ายมาได้หรอกนะ"

     

              "ครับ" ปาร์คชานยอลก้มหน้าก้มตายอมรับความผิดหวัง ว่าเขาคงไม่ได้ปกป้องแบคฮยอนอย่างใกล้ชิดดังที่คิดไว้ตอนแรก

     

              "แต่ถ้าสลับวันกันไปก็คงไม่มีปัญหา" ร่างสูงค่อยๆเงยหน้าขึ้นจ้องบุคคลอาวุโสตาโต "ทางที่ดีแบ่งไปโรงเรียนช่างกลฮอด้วยสิ"

     

              "แสดงว่า"

     

              "ฉันอนุญาต ดูแลกันดีๆ แล้วอย่าทิ้งการเรียนล่ะ"

     

              "เยส! ขอบคุณครับ ขอบคุณครับอาจารย์ใหญ่" เด็กหนุ่มวิ่งแจ้นไปหาเพื่อนในทีมที่นั่งรออยู่ใต้อาคารเรียน เพื่อแจงงานแจงการและจัดตารางเพื่อเวียนกันไป


     

              ก่อนจะดีใจเนื้อเต้นไปมากกว่านี้ ภารกิจแรกก็มาถึง

     

              รถตู้สีมืดดูลึกลับจอดเทียบหน้าตึก ผู้ชายร่างสูงเด่นใส่แว่นดำลงจากรถ เดินตรงมายังโต๊ะที่ชานยอลนั่งและโค้งทักทาย

     

              "ไม่เจอกันนานเหมือนกันนะชานยอล"

     

              "สบายดีหรอ"

     

              "ก็พร้อมจะเล่นสนุกกับเพื่อนๆแล้วล่ะ"

     

              "ครั้งนี้ได้อะไรเป็นเดิมพัน"

     

              "พ่ออยากให้ฉันมีเพื่อนเยอะๆ แต่ก็คงเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ"

     

              "งั้นก็ยินดีต้อนรับปิดเทอม" ชานยอลยื่นมือจับกับคู่อริตลอดกาลของตน

     

              แม้ว่าจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วแต่ชานยอลก็ยังคงตัวสั่นด้วยความโกรธไม่หาย การที่อู๋อี้ฟานใส่แว่นดำก็เพื่อปกปิดสายตา ไม่ให้เขาจับไต๋ความคิดได้นั่นเอง

     

              ถ้ารู้ว่าโตมาแล้วจะเป็นแบบนี้จะไม่เผยความสามารถนี้เด็ดขาด

     

              นี่ถือเป็นการเปิดเกมได้อย่างเร้าใจจนไม่อาจคาดเดาลูกเล่นของฝ่ายตรงข้ามได้เลยทีเดียว

     

     

     

    BaekYeol

    PM 15:40   เลิกเรียนไม่ต้องมารับนะ กลับกับเซฮุน

     

    ChanHyun

    PM 15:41   ไม่ได้

     

    BaekYeol

    PM 15:41   ไม่ได้โว้ย นัดไว้แล้ว

     

    ChanHyun

    PM 15:42   มึงก็นัดกูไว้แล้ว

     

    BaekYeol

    PM 15:42   งั้นยกเลิกนัด

    PM 15:42   จะไปกินเนื้อย่าง

    PM 15:43   ไม่ต้องรอกินข้าวเย็นนะ

     

    ChanHyun

    PM 15:43   แป๊ก ทิ้งกูหรอ?

    PM 15:44   ไมทำงี้อ่ะ

    PM 15:45   น้อยใจแล้วนะ

    PM 15:47   ._.

     

     

              เสียงออดเลิกเรียนดังปุ๊บแบคฮยอนก็ลุกขึ้นปั๊บ ร้านเนื้อย่างกำลังรอเขาอยู่ ถึงฝนจะกระหน่ำตกแต่ก็มั่นใจได้ว่าจะไม่เปียก เย่!

     

              เมื่อมาถึงร้านคยองซูก็ขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระด่วน ครั้นจะรั้งไว้ก็กระไรอยู่เพราะนั่นคือคยองซู

     

              "มึงได้เข้าไปส่องแท็กในทวิตเตอร์บ้างป่ะ?"

     

              "ไม่ว่ะ มีไร"

     

              "ก็แท็กมึงกับชานยอลนี่ไง" เด็กหนุ่มหน้าทะเล้นวางสมาร์ทโฟนตรงหน้าเพื่อนขี้โวยวาย

     

              "ยังไม่จบอีกหรอวะ"

     

              "เรื่องมันเพิ่งเกิดจะจบง่ายๆได้ไง"

     

              "เออ ช่างเหอะ"

     

              "ไหนบอกว่าจะไม่อยู่เฉยๆไง"

     

              "ก็กูไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่า เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบไปเองแหละ" เจ้าตัวลองเลื่อนหน้าจออ่านตัวหนังสือในโซเชียลแล้วพลันหน้าแดงขึ้นมาซะงั้น

     

              หวายยยยย~ ทำไมมีรูปเขากับชานยอลโผล่มาเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ แถมบางรูปยังตัดต่อซะ18+อีกด้วย

     

              "หน้าแดงเลยหรอ"

     

              "ห หา?"

     

              "เขินหรอครับเพื่อน"

     

              "กู กูโกรธเว้ย! มึงดูดิ กูกับไอ้ชานยอลจะปี้กันอยู่ละ แม่ง! คิดได้ไง" เลื่อนโทรศัพท์คืนให้เพื่อนก่อนจะสนใจเนื้อย่างตรงหน้า

     

              "ฮั่นแน่"

     

              "แน่หน้ามึงสิ แดกเหอะ"

     

              "กูก็สงสัยเหมือนกันนะ ว่ามึงกับชานยอลเป็นพี่น้องกันแบบไหน"

     

              "แบบไหนอะไร?! มึงอย่าไร้สาระน่า กินๆ" เป็นรอบสองที่แบคฮยอนปัดมือไล่ให้เซฮุนเลิกสนใจเรื่องเขา

     

              "สงสัยมานานแล้วด้วย"

     

              "หุบ ปาก แล้ว แดก ซะ" ตะเกียบแหลมชี้ลูกตาจนผงะถอยหลัง

     

              เซฮุนไม่เคยไม่สงสัยความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้เลย แต่พอถามทีไรก็โดนแบคฮยอนทำร้ายร่างกายตลอด มันเลยกลายเป็นสิ่งที่น่าสงสัยเสมอมา

     

              "มึงว่าข่าวลือที่พวกไอ้เจ๊กจะเอาตัวประธานช่างนี่จริงป่ะวะ?"

     

              "ไม่แน่ใจแต่ก็ประมาทไม่ได้หรอก ไอ้พวกนี้มันคิดจะทำอะไรก็ทำ"

     

              "แล้วมึงยังมีหน้ามานั่งลอยชายกินเนื้อย่างอีกหรอ"

     

              "ก็กูอยากกินอ่ะ"

     

              "โถ่~ เพื่อนกู ถ้าไม่ติดว่ามือเลอะนี่กูกุมขมับไปแล้วนะ"

     

              "เช็ดมือก่อนดิ" แบคฮยอนปากระดาษทิชชู่ใช้แล้วข้างตัวใส่หน้าผากคนข้างหน้า

     

              "ยังมีหน้ามาขำอีกนะมึง"

     

              "กูอยู่กับมึงนี่หว่า มีอะไรต้องกังวลวะ"

     

              "อยู่กับกูนี่แหละน่ากังวลสุด ไม่รู้หรอ"

     

              "รู้ แต่มีเพื่อนแล้วมันก็สบายใจไง"

     

              "ตอแ_ล" เซฮุนคีบเนื้อย่างใส่ปากยักท่ายักทางล้อเลียนเพื่อนตัวเล็กอย่างบ้าคลั่ง จนโดนก้อนทิชชู่กระแทกเบ้าหน้าอีกรอบ

     

     

              ชานยอลขับรถวนระแวกหน้าโรงเรียนช่างกลชอเพื่อหาร้านเนื้อย่างที่แบคฮยอนไปนั่งทาน โชคดีที่สายตาอันเฉียบคมเหลือบไปเห็นรอยนต์ของเซฮุนจอดริมทางพอดี เขาเลยพอใจที่จะกลับ

     

              คนพี่เข็นมอเตอร์ไซด์เข้าบ้านเพราะน้ำมันรถเกิดหมดกลางคันตั้งแต่หน้าปากซอย รีบเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารอมินซอกซื้อน้ำมันรถเข้ามาให้

     

              แต่จนแล้วจนรอดฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ ทำให้ต้องเลื่อนนัดออกไปโดยไม่มีกำหนด

     

              "มืดแล้วนะแบคฮยอน ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก?" ต่อสายหาน้องชายที่หายไปนานจนน่าประหลาด

     

               [หนีห่าว อาปั๊กชางยอง]

     

              "ใครวะ?"

     

               [อั๊วเอง จางอี้ชิง]

     

              "ทำไมโทรศัพท์น้องฉันถึงไปอยู่กับนายได้"

     

               [ก็อาแบกยองอีอยู่กะอั๊วงาย]

     

              "จะทำอะไรแบคฮยอน อย่านะเว้ย!"

     

               [อั๊วไม่ทำๆ ลื้อม่ายต้องเป็งห่วง]

     

              "แล้วมึงเอาแบคฮยอนไปทำไม"

     

               [โอ๊ะโอ น้องชายลื้อตึ่งเลี้ยว เดี๋ยวอั๊วโทรไปหม่ายน้า ตุ๊กตุ๊กตู๊กกกกก]

     

              "เห้ยเดี๋ยว! อี้ชิง จางอี้ชิง โว้ยยยยย!"

     

              ชานยอลกำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน คว้าเสื้อคลุมใส่และขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน้ำมันหมด "อีตุ๊ดเอ้ย! ไร้ค่าสัส!"

     

              ลูกรักที่เคยทะนุถนอมเวลานี้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นจนเกิดเสียงดังลั่น หลังจากเท้ายาวยกขึ้นถีบอย่างเต็มแรง

     

              ไม่สนใจรอยถลอกที่อาจเกิดขึ้นกับลูกชาย แต่กลับออกแรงวิ่งฝ่าสายฝนอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย

     

               [ว่า…]

     

              "ไอ้มินซอก มึงออกมาช่วยกูหาแบคฮยอนหน่อย"

     

               [อะไรวะชานยอล]

     

              "พวกไอ้เจ๊กมันจับน้องกูไป มึงช่วยกูหน่อย" เด็กหนุ่มวิ่งมาจนถึงหน้าโรงเรียนน้องชาย พูดคุยโทรศัพท์อย่างร้อนรนราวกับโดนไฟเผา

     

               [แล้วน้องมึงอยู่ไหน]

     

              "ไม่รู้ไง"

     

               [เอางี้ มึงใจเย็นๆก่อนนะ ตั้งสติ อยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหา]

     

              "หน้าช่างกลชอ"

     

     

              เมื่อเพื่อนมาถึงร่างสูงก็รีบชิงหน้าที่คนขับทันที บิดคันเร่งจนเกือบหมดมือเพื่อตรงไปยังจุดหมายที่คิดไว้

     

              โกดังร้างหลังสุสานกลางป่าเปิดประตูคอยต้อนรับผู้มาใหม่

     

              ชานยอลรีบวิ่งเข้าไปด้านในโดยไม่คิดชีวิต มีเจ้าของสำเนียงจีนนั่งกระดิกเท้าอยู่บนเก้าอี้ชั้นสอง ขนาบข้างด้วยเพื่อนชาวจีนอีกสองคนยืนควงไม้เบสบอลอยู่ในมือ

     

              อาปั๊กชางยองหล่อจาง

     

              "แบคฮยอนอยู่ไหน"

     

              "อีม่ายล่ายอยู่ที่นี่เลี้ยว ลื้อมาช้าปาย"

     

              "แบคฮยอนอยู่ไหน!!" เสียงทุ้มดังไปทั่วบริเวณ ก้องสะท้อนเป็นระดับ

     

              โต๊ะจาย

     

              "โทรถามอีสิ"

     

              "ไปหาน้องมึงเหอะ ทางนี้พวกกูจัดการเอง" มินซอกเดินเข้ามาขนาบข้างเพื่อกระซิบกระซาบ

     

              ร่างสูงพยักหน้าก่อนจะหมุนตัววิ่งออกไป ต่อสายหาน้องชายอย่างรีบร้อนและบิดมอเตอร์ไซด์กลับทางเดิม

     

              ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนช่างกลชอมีร่างน้อยๆของเด็กหนุ่มนั่งตัวสั่นด้วยความหนาวเหน็บ

     

              "แบคฮยอน พี่มาแล้ว หนาวหรือเปล่า" ค่อยๆเดินเข้าหาน้องชายช้าๆและยอบกายลงตรงหน้า

     

              "อื้อ หนาว" น้ำตาหยดแรกที่กลั้นไว้พรั่งพรูเป็นสาย

     

              "กลับบ้านกันดีกว่าเนอะ" สองมือเย็นเฉียบของร่างเล็กถูกมือหนากุมไว้กลายๆ

     

              "ขอโทษนะ"

     

              "เรื่องอะไรครับ?"

     

              "ฮึก เพราะผมผิดนัดกับพี่ ผมขอโทษ"

     

              "ไม่เอาน่า นี่ไง พี่มารับเรากลับบ้านแล้ว แต่พี่มาช้าไปหน่อย โทษทีนะ" ลูบหัวน้องชายแผ่วเบาพร้อมกับเกลี่ยปลอยผมที่ปรกหน้า

     

              หยดน้ำฝนและน้ำตาไหลปะปนกันจนแยกไม่ออก ตามเนื้อตัวและใบหน้าแบคฮยอนมีรอยฟกช้ำเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็เล่นเอาปาร์คชานยอลชาวาบไปทั้งร่าง

     

               ขอโทษ ขอโทษจริงๆ

     

              "รู้แล้วครับรู้แล้ว พี่ไม่โกรธเราหรอก ขอบคุณด้วยซ้ำที่น้องชายพี่ปลอดภัย" อ้อมกอดอบอุ่นแผ่ซ่านปกคลุมร่างเล็กไว้ก่อนจะหนาวสั่นไปมากกว่านี้ "กลับบ้านกันดีกว่า คนเก่งของพี่"

     

              ชานยอลหันหลังให้แบคฮยอนขึ้นขี่เพื่อเดินเท้ากลับบ้าน ทิ้งมอเตอร์ไซด์มินซอกไว้ให้เจ้าตัวกลับมาเอาเองเพราะน้องชายเขาไม่ชอบซ้อนท้ายรถคันใหญ่ มันเสียงดัง มันน่ากลัว

     

              "เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"

     

              "ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร"

     

              "ดีแล้ว เก่งมากน้องชายพี่" ชานยอลร้องเพลงกล่อมร่างเล็กบนแผ่นหลังเบาๆสู้เสียงฝน

     

              "เหมือนตอนนั้นเลยเนอะ"

     

              "หืม?" จู่ๆแบคฮยอนก็พูดแทรกเสียงฮัม

     

              "ตอนนั้นผมโดนเพื่อนในห้องรุมแกล้ง แล้วพี่ก็วิ่งมาจากบ้าน มาช่วยผม แล้วก็แบกผมขึ้นหลัง"

     

              "จำได้ด้วยหรอ" เหตุการณ์ที่ทำให้พี่ชายโดนคุณนายปาร์คยูราตีจนเป็นไข้

     

              "พี่บอกป๊าว่าเป็นคนแกล้งผม เพราะไม่อยากให้ผมถูกย้ายโรงเรียน"

     

              "ใครบอกเราเนี่ย?"

     

              "ป๊า" แขนเล็กโอบรอบคอพี่ชายแน่นขึ้นราวกับเป็นการกอด น้ำตาคนน้องนองหน้าแล้วนองหน้าเล่า

     

              เป็นเพราะเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้แบคฮยอนเข้มแข็งขึ้น การมองดูพี่ชายโดนแม่ทุบตีทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง ทำให้แบคฮยอนไม่กล้าเข้าใกล้ชานยอลเพราะกลัวสร้างปัญหาให้ไปพักใหญ่

     

              แต่สุดท้ายแล้วบยอนแบคฮยอนก็อดไม่ไหวที่จะเข้าไปคุยกับพี่ชายอยู่ดี



     

              "กินยาแล้วนอนพักนะ พี่ไปอาบน้ำก่อน" หลังจากจัดการคนเจ็บเรียบร้อย ก็ถึงเวลาจัดการกับตัวเอง

     

              แบคฮยอนอ้วนขึ้นอย่างที่เจ้าตัวบ่นจริงๆนั่นแหละ จำได้ว่าตอนแบกขึ้นหลังครั้งล่าสุดมันเบากว่านี้

     

              "อ้าว ทำไมยังไม่นอน" ร่างสูงหอบที่นอนหมอนมุ้งมาโยนไว้บนพื้นข้างเตียง

     

              "รู้สึกผิด"

     

              "ตลกละ มารู้สึกผิดเรื่องอะไร นอนได้แล้วเหอะ"

     

              "ม่ายยย รู้สึกผิดจริงๆ"

     

              "งอแงแล้วนะเราน่ะ ไม่สบายแล้วรู้ตัวหรือแปล่า" ชานยอลอังมือกับหน้าผากก็รู้ได้ว่าแบคฮยอนป่วยเข้าแล้ว

     

              ใช้ผ้าผืนเล็กชุบน้ำหมาดๆวางบนหน้าผากน้องชาย ก่อนจะจัดแจงที่นอนของตัวเองบนพื้น

     

              "ไม่ขึ้นมานอนด้วยกันหรอ"

     

              "จะแพร่เชื้อใส่พี่หรือไง นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นเช้า" ชานยอลเอนตัวลงนอนห่มผ้าขึ้นถึงคอ

     

              ระหว่างรอเวลาให้คนตัวเล็กหลับก็แอบหยิบมือถือส่งข้อความถามไถ่เพื่อนสนิท เมื่อได้คำตอบที่น่าพอใจก็ยันตัวขึ้นนั่งข้างเตียง

     

              คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันเหมือนคนกำลังครุ่นคิด ทั้งที่พี่ชายภาวนาขอให้เจ้าตัวน้อยฝันดีแล้วแท้ๆ

     

              ภาพที่ซ้อนทับในทุกช่วงเวลาของการเติบโต เมื่อแบคฮยอนไม่สบายหรือตากฝนกลับบ้านคืนนั้นชานยอลจะต้องขนสัมภาระมานอนเฝ้าทุกครั้ง

     

              เพราะเมื่อไหร่ที่น้องชายไม่สบาย เขาจะงอแงและร้องไห้เป็นเด็กๆ

     

              "ช้อนอยู่ไหน แป๊กกลัว แป๊กกลัวจัง"

     

              เหมือนกับตอนนี้ที่พิษไข้กำลังเล่นงานคนตัวเล็กจนละเมอเพ้อพกอีกครั้ง ร่างสูงลูบหัวน้องชายคล้ายปลอบโยน


              ปาร์คชานยอลละเอียดอ่อนทุกครั้งถ้าเป็นเรื่องของแบคฮยอน





     






              พ่อครัวประจำบ้านเข้าครัวปรุงอาหารตั้งแต่เช้าเพื่อทำข้าวต้มให้คนป่วยทาน

     

              "ชานยอลลล"

     

              "เห้ย! ลุกมาทำไม"

     

              "ปวดฉี่" ร่างเล็กเดินโต๋เต๋เกาะขอบประตูทักทายพี่ชายภายในครัว

     

              "ไหวไหมนั่น"

     

              "ไม่ต้องๆ ถือเองได้"

     

              "เท่านิ้วก้อยตีนไม่ต้องช่วยถือหรอก" ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแรงทะเลาะกันอย่างเต็มแม็ก

     

              ชานยอลช่วยพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงเข้ามาในห้อง ตามมาด้วยข้าวต้มร้อนๆจนควันโขมงโฉงเฉง แบคฮยอนดิ้นพล่านเป็นเด็กเหมือนปกติที่ต้องกินยาหลังอาหาร

     

              ร่างสูงโทรไปบอกเพื่อนตัวเองและเพื่อนน้องชายให้บอกอาจารย์ว่าขอลาป่วยเมื่ออาการแบคฮยอนยังไม่ดีขึ้น

     

              "ทำไมถึงโดนพวกมันจับไปได้ล่ะ หืม"

     

              "ไม่ต้องมาถามเลยนะ!" คนตัวเล็กเหวี่ยงใส่ก่อนจะคลุมโปงแล้วหันหนี

     

              "เอ๊า ทำไมถามไม่ได้อ่ะ" แบคฮยอนไม่ตอบแถมยังไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวอีกด้วย "แป๊ก ร้องไห้ทำไม โอ๋ๆ พี่ขอโทษนะ"

     

              "ไม่ต้องเลย"

     

              "โอเคๆ ไม่ถามก็ได้" ชานยอลยกธงขาวยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มสู้

     

              "เพราะพี่นั่นแหละ ผมยืนเรียกพี่อยู่หน้าบ้านตั้งนานอ่ะ ฮือๆ ตากฝนด้วย"

     

              "ทำไมไม่เข้าบ้านเล่า"

     

              "ผมทำกุญแจบ้านหล่นไว้บนรถเซฮุน ฮึก"

     

              "แล้วจะร้องไห้ทำไมเนี่ย ขอโทษๆ" ชานยอลตะครุบร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด "พี่ผิดไปแล้ว ขอโทษน้า"

     

              แบคฮยอนยิ่งสะอื้นใหญ่เมื่อจมเข้าแผงอกอุ่น

     

              "จริงๆซื้อเค้กมาให้ แต่เอาฟาดหัวพวกนั้นเละหมดแล้ว" เขารู้สึกเสียดายเค้กหน้านิ่มร้านห้าหมู่บ้านที่เสียเวลาแวะซื้อเมื่อวานจริงๆ ไม่งั้นป่านนี้คงลงท้องปาร์คชานยอลไปแล้ว

     

              "วันหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะ"

     

              "แบบไหน?"

     

              "ก็ให้เพื่อนแวะส่งตรงนู้นตรงนี้ แล้วกลับบ้านเองไง"

     

              "ก็จะซื้อเค้กมาง้อนี่นา" นิสัยขี้น้อยใจแบบเด็กๆแบบนี้แก้ไม่หายซะจริงๆ

     

              "มันอันตรายรู้ไหม?"

     

              "ไม่รู้"

     

              "บยอนแบคฮยอน"

     

              "อะไร! ไม่ต้องมาทำเสียงดุเลยนะ ถ้าไม่ต้องยืนตะโกนเรียกมึงอยู่หน้าบ้านกูก็ไม่โดนพวกนั้นอุ้มไปหรอก เพราะมึงนั่นแหละ เพราะมึงคนเดียว!"

     

              ชานยอลนิ่งไปเมื่อเห็นว่าน้องชายตะโกนจนหน้าดำหน้าแดง เขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังกลั้นน้ำตาจากเหตุการณ์ที่เจอเมื่อวาน เขารู้ว่ามันทำให้แบคฮยอนตกใจ ทำให้แบคฮยอนกลัว

     

              "ขอโทษไงขอโทษ" ร่างสูงเอนตัวหนุนศีรษะลงบนหมอนใบเดียวกับคนป่วย "ขอโทษพันครั้ง พันๆครั้งเลย"

     

              "พันครั้งเองหรอ?"

     

              "ไม่พอหรอ งั้นหมื่น แสน ล้านครั้งเลยป่ะ" คนตัวเล็กส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก "ยังไม่พออีกหรอ จะเอาแค่ไหน?"

     

              "ตลอดชีวิตดิ ขอโทษไปตลอดชีวิตเลย โอเคป่ะ?"

     

              "โอเค๊" ปาร์คชานยอลตีเนียนโอบร่างเล็กผ่านผ้าห่มก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน

     

     

              แบคฮยอนตื่นขึ้นกลางดึกหลังจากซัดยาเข้าไปจนสลบไสล ข้างกายว่างเปส่าไม่มีพี่ชายที่คอยกล่อมทั้งคืน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาตกใจเพราะเมื่อมองลงไปข้างล่างก็เจอร่างสูงหลับตาพริ้มอยู่ข้างเตียง

     
     

              อุณหภูมิร้อนในร่างกายลดลงจะเหลือก็แต่รอยเจ็บช้ำจากการโดนทำร้าย

     
     

              ร่างเล็กรู้สึกขอบคุณพี่ชายอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ตาม ชานยอลก็เอาเขาเป็นที่หนึ่งเสมอ

     
     

              "รู้แล้วน่าแบคฮยอน"

     
     

              "ห หา?"

     
     

              "นอนได้แล้ว รู้แล้ว" ชานยอลพลิกตัวตะแคงหันข้างไปอีกทางกับเตียง

     
     

              คนน้องวางหัวกับหมอนอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเขาทำดีกับปาร์คชานยอลบ้าง

     

     



     

              "แบคฮยอน! ทำอะไร จะเผาบ้านหรอ?!"

     
     

              "ช ชานยอล ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!" ร่างเล็กวิ่งวุ่นอยู่ในครัวหลังจากที่พยายามทำอาหารเช้า แต่เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ไฟได้ลุกท่วมกระทะและควบคุมไม่อยู่

     
     

              "น้ำสิ น้ำๆ" ชานยอลดับเพลิงได้ทันเวลาก่อนที่ไฟจะลามไปสามบ้านแปดบ้าน ข้างกายเขามีก้อนกลมๆเจ้าของสาเหตุยืนเล่นนิ้วตัวเองอยู่ "ว่าไงเรา?"

     
     

              "ห หา อรุณสวัสดิ์" มือเล็กยกขึ้นทักทายพี่ชายแก้เขิน

     
     

              "ลุกมาซ่าแบบนี้หายดีแล้วหรอ"


     

              "ก็สบาย"


     

              "ดูหน้าสิ ไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว ไปโรงเรียนไหวหรือเปล่า"


     

              "ไม่ไหว" คนน้องส่ายหัวพร้อมน้ำตา


     

              "อ้าว ไหนบอกสบาย"

     
     

              "เจ็บแขน"

     
     

              "ไหน เจ็บตรงไหน"

     
     

              "ตรงนี้..." ร่างเล็กชี้ต้นแขนที่เป็นรอยช้ำให้คนถามดู


     

              "เพี้ยง! หายยัง?"


     

              "ตรงนี้ด้วย..."


     

              "เพี้ยง! หายยัง?"


     

              "แล้วก็ตรงนี้..."


     

              "เพี้ยง! เพี้ยง! เพี้ยง! หายหมดแล้ว" ชานยอลไล่เป่าตั้งแต่หน้าผาก หน้าท้องและจบลงที่หน้าแข้ง


     

              แบคฮยอนหลุดหัวเราะทั้งที่เขากำลังร้องไห้ สองมือน้อยเอื้อมจับมือพี่ชายไว้ก่อนจะขยับเข้าใกล้และซบหัวลงบนไหล่


     

              "ไม่โกรธหรอ?"


     

              "โกรธสิ โกรธมากด้วย"


     

              "ขอโทษ"


     

              "ถ้าเราทำกับข้าวเป็นแล้วพี่จะแสดงฝีมือให้ใครดูล่ะ คิดจะมาแย่งหน้าที่กันง่ายๆไม่ได้หรอกนะ"


     

              "อื้อ ไม่แย่งหรอก" แบคฮยอนปล่อยให้หยดน้ำตาไหลซึมเสื้อยืดพี่ชาย


     

              "ไม่ต้องพยายามทำอะไรหรอก แค่ดูแลตัวเองไม่ให้เป็นอะไรก็พอ นอกนั้นพี่ทำให้เอง โอเคไหม?"


     

              "อื้ม"


     

              มือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมร่างเล็กเบามือ เป็นแบคฮยอนในอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก จริงๆแล้วน้องชายเขาเปราะบางแต่ไม่อ่อนแอ


     

              นอกรั้วบ้านนั้นแบคฮยอนเข้มแข็งและเป็นผู้นำ แต่ภายในบ้านที่อบอุ่นและปลอดภัยแห่งนี้เขาไม่ต้องฝืนทำ เพราะบ้านหลังนี้ปกป้องเขาจากเหล่าร้ายได้ทุกทิศทาง


     

              "ขอบคุณนะ ขอบคุณพันครั้ง พันๆครั้งเลย" แบคฮยอนพูดเสียงอู้อี้หลังสั่งน้ำมูกเข้ากับแขนเสื้อพี่ชาย


     

              "พันครั้งเองหรอ?"


     

              "อือ พันครั้งนี่แหละ"


     

              "ไม่เอาดิ ทีกูยังต้องขอโทษมึงไปตลอดชีวิตเลย" ชานยอลงอแงจนแบคฮยอนหลุดขำ "นะนะ"


     

              "ก็ได้ๆ ขอบคุณไปตลอดชีวิตก็ได้" น้องชายยีผมหน้าม้าคนร่างสูงจนพันกันยุ่งเหยิงก่อนจะ "จุ๊บ...ขอบคุณครับ"


     

              เขย่งเท้าจุมพิตหน้าผากพี่ชายแผ่วเบาอย่างไม่ทันตั้งตัว เล่นเอาปาร์คชานยอลยืนแข็งทื่อกระพริบตาปริบด้วยความตกตะลึง


     

              แล้วแบคฮยอนก็เดินไปจากเขาก่อนจะผ่านมาอีกครั้งเพื่อเข้าห้องน้ำ


     

              "ไปทำกับข้าวได้แล้ว หิวจนตาลายแล้วเนี่ย?"


     

              "ห หา? ทำไรนะ?"


     

              "มื้อเช้า ร่างกายต้องการมื้อเช้าเพราะมันสำคัญที่สุด ไป" มือเล็กทาบทับลงบนไหล่เพื่อออกแรงหมุนและดันให้ร่างสูงเดินเข้าครัว "ขอพิเศษนะ หิวมาก"



     

     

     

              วันนี้ทั้งวันชานยอลมัวแต่หมกมุ่นกับหน้าผากจนเป็นที่สังเกตุของเพื่อนรอบข้าง แต่ก็ยังตีหน้านิ่งสมกับเป็นปาร์คชานยอลได้อย่างแนบเนียน

     
     

              "ถ้ามึงยังลูบหน้าผากอยู่อย่างนี้กูจะไม่ทนแล้วนะ"


     

              "อะไรมึงเล่า?" ชานยอลเซ็ทผมหน้าม้าให้เข้าทรงก่อนจะค้อนใส่มินซอก


     

              "หายไปหนึ่งวัน ไปทำอะไรกับหน้าผากมา"


     

              "ป่าว"


     

              "แหนะ ยังจะมาหลอกลวงกูอีก"


     

              "บอกว่าป่าวก็ป่าวไง มึงจะอะไรนักหนาเนี่ย?!"


     

              "นี่ไง โมโหเพื่อปิดบัง ปกปิดตลอดอ่ะเออ ใช่สิ"


     

              "ใช่สิอะไรมึง ไม่คุยด้วยแล้ว ไปขี้ดีกว่า" ชานยอลลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อเดินหนีคำถามเซ้าซี้ของเพื่อนสนิท ครั้นจะให้บอกว่าโดนน้องชายหอมหน้าผากมาก็ใช่เรื่องไปอีก


     

              "มึงรู้ข่าวที่ประธานช่างไฟฟ้าโรงเรียนชอโดนอุ้มป่ะ?"


     

              "หา จริงดิ ทำไมกูตกข่าววะ"


     

              "กูได้ยินมาว่าโดนไปไม่ใช่น้อยเลยนะเว้ย"


     

              "แล้วเป็นอะไรมากป่ะ?"


     

              "เห็นว่าขาดเรียนไปหนึ่งวันเลย สงสัยจะกลัวด้วยแหละมั้ง"


     

              "นั่นดิ ป่านนี้ขังตัวเองอยู่ในบ้านแล้วมั้ง เป็นกูนะขี้ราดไปแล้ว"


     

              ชานยอลเช็ดมือกับกางเกงหลังจากทำธุระเสร็จก่อนจะเดินออกไปหน้าห้องน้ำที่มีรุ่นน้องหัวโปกสองคนยืนคุยกันอยู่


     

              "น้องกูไม่ได้เป็นอะไร ที่มันขาดเรียนเพราะตากฝนจนไม่สบาย แล้วอีกอย่าง...มันไม่ได้กลัวจนต้องขังตัวเองไว้ในบ้าน" เด็กหนุ่มสองคนยืนอ้าปากพะงาบคิดคำพูดอะไรไม่ออกนอกจากรีบก้มหัวแล้วเดินจากไป


     

              ชานยอลยักปากไล่หลังไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ ไอ้เด็กพวกนี้ชอบเอาข่าวโคมลอยมาพูดมั่วจนคนอื่นเสียหาย ถ้าแบคฮยอนมันกลัวขนาดนั้นคงไม่ดื้อด้านจะไปโรงเรียนให้ได้หรอก


     

              ประเมินน้องชายเขาต่ำเกินไปซะแล้วพวกเด็กดาก

     

     



     

              วันหยุดนี้แบคฮยอนตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายในสวนของหมู่บ้านเพื่อรีดไขมันสักหน่อย แต่ฝนก็ดันตกลงมาจนได้ น่ารำคาญจริงๆเลย


     

              "นั่งด่าธรรมชาติไปก็เท่านั้นแหละ ระวังจะโดนลงโทษนะ" ชานยอลเดินเข้ามานั่งบนโซฟาข้างๆ


     

              "ก็ดูดิ ตกวันไหนไม่ตก ดันมาตกวันที่ตั้งใจจะออกกำลังกาย"


     

              "มึงก็เหมือนกันแหละ เสือกอยากออกกำลังกายวันที่ฝนตก"


     

              "นี่มึงเข้าข้างฝนใช่ไหม?"


     

              "อ้าว พาลกูเฉย"


     

              "ตอบมาเลยนะ"


     

              "มึงก็ออกกำลังกายในบ้านดิ เนี่ย เปิดเพลงแล้วเต้นเอา สนุกด้วย" ชานยอลเสียบสายคอมพิวเตอร์เข้ากับโทรทัศน์เพื่อเปิดคลิปเต้นแอโรบิคในยูทูป


     

              แบคฮยอนเต้นตามจังหวะอย่างเงอะๆงะๆ ถูกบ้างผิดบ้าง ทันบ้างไม่ทันบ้าง จนพี่ชายที่นอนดูอยู่บนโซฟาหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง


     

              แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่แคร์เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าต้องลดน้ำหนักให้ได้ จะไม่ยอมถอดใจเพียงเพราะมีสิ่งเร้าข้างกายเด็ดขาด


     

              "งั้นมื้อเย็นวันนี้เป็นสลัดปลาดีไหม?"


     

              "ไม่ แฮ่ก ดี แฮ่ก" แบคฮยอนหอบหายใจอยู่บนพื้นอย่างหนักหน่วงเหมือนปลาขาดน้ำ


     

              "อ้าว แล้วจะกินอะไร"


     

              "ข้าวขาหมู แฮ่ก ของหวานด้วยก็ดี"


     

              "นี่ๆ ลดความอ้วนอยู่นะ" ขายาวเตะไปตรงสีข้างเพื่อเรียกสติ


     

              "ไม่ลงไม่ลดแม่งละโว้ย ทรมานตัวเองให้ได้อะไร ไม่ ลด แล้ววววว"


     

              "ไม่มีความพยายามเอาซะเลย"


     

              "ใช่สิ มึงไม่อ้วนหนิ จะกินข้าวหน้าเนื้อแบบพิเศษโคตรๆ ใช้พลังงานไปเยอะ"


     

              "ดูมันๆ" ชานยอลมองตามน้องชายเดินสะดีดสะดิ้งไปอาบน้ำ


     

              ความอดทนของคนเราไม่เท่ากันจริงๆนี่เต้นไปแค่ครึ่งชั่วโมงยังบ่นขนาดนี้เลย ปากบอกจะลดความอ้วนแต่อยากกินหลายอย่างเหลือเกิน ไม่ขัดศรัทธาหรอกนะบอกไว้ก่อน


     

              คนพี่เข้าครัวทำมื้อเย็นอย่างขะมักเขม้นโดยมีร่างเล็กเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัว


     

              "หิวให้มันเบาๆหน่อยได้ไหม?"


     

              "ก็คนมันหิวอ่ะ ทำเร็วๆสิ"


     

              "นี่ไง เสร็จแล้ว" ข้าวหมูทอดราดซอสจานใหญ่พิเศษเสิร์ฟพร้อมน้ำแดงหวานเย็นชื่นใจ ตบท้ายด้วยไอศกรีมทรีอินวันโปะวิปครีมจากร้านสะดวกซื้อเมื่อหลายวันก่อน


     

              "รู้แล้ว ทำไมถึงอ้วน"


     

              "กินเยอะไง"


     

              "ก็พี่ชายทำอาหารเก่งขนาดนี้ ไม่ให้กินเก่งได้ไงล่ะ" คนโดนชมถึงกับหูแดงแต่ก็แสร้งทำตลกกลบเกลื่อน "ไม่ดีเลย"


     

              "ไม่ดียังไง?"


     

              "ก็อ้วนง่ะ มันน่าเกลียด"


     

              "น่ารักจะตาย"


     

              "ตรงไหน?"


     

              "ตรงนี้..." นิ้วเรียวยืดแก้มนิ่มออกจากกัน "ตรงนี้..." เกาคางหรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าเหนียง


     

              "ตรงนี้..." เลื่อนมือลงมาปั๊มต้นแขนนุ่มจนกระเพื่อมไปทั้งร่างกาย


     

              "ตรงนี้..." ดีดหน้าท้องเสียงดังเป๊าะเหมือนเคาะแตงโม "และตรงนี้" ปิดท้ายด้วยการเข่าก้นน้องชายจนหน้าคะมำหนึ่งทีเป็นการส่งท้าย


     

              "เห็นไหม? น่ารักหมดเลย"


     

              "เชี่ย" แบคฮยอนสรรหาคำด่าไม่ออกจริงๆนอกจากคำนี้


     

              "นะ"


     

              "...?..."


     

              "พูดนอบสิ เอาใหม่"


     

              "นอบ ไรวะ?"


     

              "ไม่ใช่ พูดเชี่ยก่อน"


     

              "เชี่ย"


     

              "นะ"


     

              "นอบ"


     

              "ชอบนะเนี่ย อร๊ายแป๊กอ่ะ"


     

              "อร๊ายหน้ามึงดิ ไปล้างจาน" คนตัวเล็กง้างมือเตรียมบ้องหูพี่ชายแต่ชานยอลดันทำท่าหลบซะก่อนเขาเลยสงสาร



     

     

     

              กิจกรรมก่อนนอนวันนี้เป็นการประลองฝีมือต่อสู้กันระหว่าง ประธานช่างไฟฟ้าโรงเรียนช่างกลชอและหัวหน้าทีมพลอยโรงเรียนช่างก่อสร้างกอ


     

              ศึกครั้งนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะ...ไม่ต้องสืบ


     

              "ไอ้แป๊กแม่ง อย่าเอาท่อนซุงฟาดกูดิวะ"


     

              "พูดแล้วขึ้นเลยเนี่ย ขึ้นเลย ท่อนซุงหรอ นี่! ท่อนซุง"


     

              "โอ้ย!" แบคฮยอนพาดขาลงกลางหลังคนพี่ตามแรงโน้มถ่วงโลกจนคนตกเป็นเบี้ยล่างถึงกับจุกอก


     

              "จะว่าท่อนซุงอีกไหม?"


     

              "ไม่จ้า น้องก้านมะยม"


     

              "ประชดหรอ นี่แหนะ!"


     

              "อุ้ก!" ตาโตแทบถลนออกจากเบ้าเมื่อแบคฮยอนยกทั้งร่างขึ้นมาทับแผ่นหลัง โชคดีที่ช่วงความยาวแตกต่างกันมันเลยไม่มีปัญหาในแนวราบ


     

              "จะว่ากูอีกไหม?"


     

              "ไม่แล้ว อ่อก ลุก" ชานยอลกระหน่ำทุบที่นอนเพื่อบอกว่ายอมแพ้ให้กับมวยยกนี้อย่างราบคาบ ยกธงขาวกันไม่ทันเลยทีเดียว


     

              "เป็นไง ฝีมือใช้ได้ไหม?"


     

              "ใช้ได้ แต่ได้ใช้หรือเปล่าไม่แน่ใจ"


             

              "กูสู้กับพวกไอ้จงอินก็แบบนี้แหละ"


     

              "อะไร นี่มึงเอามวยปล้ำไปมีเรื่องกับโรงเรียนฮอเนี่ยนะ?"


     

              "ก็เออดิ"


     

              "โอ๊ยยยยย ขายหน้าชิบหาย อย่าบอกใครนะว่าเป็นน้องกู โอ๊ยยยยยตาย" ชานยอลยกมือกุมขมับอย่างช่วยไม่ได้


     

              "ทำไมอ่ะ กูก็ชนะนะ"


     

              "มึงเอามวยสากลสิครับ ปล่อยหมัดอ่ะ ไม่ใช่เอาตัวไปทับเขา"


     

              "ก็กูไม่ถนัดนี่หว่า"


     

              "มวยปล้ำเอาไว้สู้กับกูคนเดียวก็พอ เข้าใจไหม?"


     

              "ไม่โว้ย!"


     

              "ห้ามไปทับใครอีก เข้าใจไหม?!" ร่างสูงพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างเล็กไว้จนตาเรียวเหลือกหลุน


     

              "ข เข้าใจแล้ว"


     

              "สงสารเขา ตัวมึงหนัก"


     

              "สัส" และศึกครั้งนี้แบคฮยอนก็ชนะแบบทิ้งห่าง























     

    TBC.
    #หัวไม้ชานแบค

    สังเกตุเอานะว่าอันไหนคือคำพูด อันไหนคือเสียงความคิด
    ถ้าอ่านในคอมก็ง่ายหน่อย

    ถ้าอ่านผ่านแอพก็สู้ๆนะ
    อิ้อิ้

    รักเสมอ...



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×