คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หัวไม้ : 02 {100%}
ชานยอลหิ้วของกลับมาบ้านเต็มสองมือ เขาใช้เวลาแวะซื้อของกินท่ามกลางสายฝน ตามรายการที่บอกแบคฮยอนไว้ตอนกลางวันเกือบสองชั่วโมง
โชคดีที่วันนี้ไม่มีร้านไหนปิดเพื่อหนีฝนเลยได้กลับมาครบทุกเมนู
"แอ๊คออน อ้วยอ่อยยยยยยย" ชานยอลตะโกนเรียกคนตัวเล็กให้ออกมาช่วยถือของอยู่หน้าประตู ทั้งที่ปากคาบถุงผลไม้อยู่
ไม่มีเสียงตอบรับ ทั้งที่แบคฮยอนน่าจะรีบออกมาตั้งแต่ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาในบ้านแล้ว
"แบคฮยอน หลับหรอ?" เมื่อรู้ว่าเสียงตะโกนเรียกไม่ได้ผลจึงต้องวางของทั้งหมดไว้บนพื้นเพื่อหยิบกุญแจออกมาไขประตู
"หื้ม?" ประตูบ้านไม่ได้ล็อค แถมหน้าโซฟายังไม่มีร่างของน้องชายม้วนเป็นก้อนอย่างที่มันควรจะเป็นอีกต่างหาก
"นี่ จะนอนทำไมไม่ล็อคประตูบ้านล่ะ อันตรายรู้ไหม?" ขายาวก้าวฉับเพื่อเข้าไปในห้องนอนที่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง แต่ก็ต้องแปลกใจที่แบคฮยอนไม่อยู่ในนี้
"แบคฮยอน แอบหรอ?" คนพี่เริ่มออกตามหาน้องชายทั่วบ้าน ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ไม่เว้นแม้แต่ในตู้เสื้อผู้หรือตู้เก็บของ
"ออกมาเหอะ มากินอะไรอร่อยๆกัน กูซื้อกลับมาทุกอย่างเลยนะ แถมผลไม้ให้ด้วย"
ร่างสูงกัดริมฝีปากแน่น กดต่อสายไปยังเบอร์โทรน้องชายที่ตั้งเป็นเบอร์โทรฉุกเฉินหมายเลขสอง แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์แบคฮยอนวางอยู่บนตู้รองเท้า
"ไปไหนของมันวะ" หยิบของในถุงออกมาจัดวางบนโต๊ะเพื่อรอเวลาให้น้องชายกลับมา
เวลาผ่านไปจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีก็ยังไม่มีวี่แววของแบคฮยอน อาจเป็นเพราะน้องชายเขากำลังหลบฝน แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นร่างเล็กมีเหตุผลสำคัญอะไรที่ต้องออกจากบ้านในเวลานี้
"คยองซู อยู่กับแบคฮยอนรึป่าว?" ความร้อนใจทำให้ชานยอลกรอกเสียงถามโดยที่ปลายสายไม่ทันได้เอื้อนเอ่ย
[กูเอง มีไร]
"แบคฮยอน มึงอยู่ไหน?"
[กูอยู่โรงพยาบาล]
"เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรรึป่าว?"
[มาทำธุระนิดหน่อย อีกเดี๋ยวก็กลับ]
"ทำไมน้ำเสียงไม่ค่อยดีเลยวะ เดี๋ยวกูไปหาแล้วกัน รอแปปนะ"
ชานยอลขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์โดยไม่ลืมสวมหมวกกันน็อค บึ่งรถออกจากบ้านโดยไม่ลืมล็อคประตูอีกเหมือนกัน
แบคฮยอนนั่งรอผู้ปกครองของรุ่นน้องอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ถึงแม้จะมีคำพูดมากมายที่คิดจะพูดตอนได้เจอกับผู้ใหญ่ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆเขากลับพูดไม่ออก
พวกผู้ใหญ่เอาแต่ต่อว่าแบคฮยอนที่ทำให้พวกเขาต้องเสียลูกชาย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนตัวเล็กโดนอะไรแบบนี้ แต่เขาก็ไม่อาจห้ามให้คนที่กำลังเสียใจหยุดเสียใจได้ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็เสียใจไม่แพ้กัน
"ผมขอโทษครับคุณแม่ ผมขอโทษครับคุณพ่อ"
แบคฮยอนปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะถ้าเขารอบคอบมากกว่านี้เรื่องแบบนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น อาจจะไม่มีการสูญเสีย
เราถูกสอนมาให้ต่อสู้และอยู่ด้วยศักดิ์ศรี เด็กทั้งโรงเรียนต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อความเป็นเหนือกว่า
ให้ยกเลิกการตีรันฟันแทงคงเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเราไม่สู้…เราก็แพ้
คงไม่มีใครอยากเป็นคนแพ้หรอก จริงไหม?
"แบคฮยอน" เสียงทุ้มต่ำปลุกให้คนที่กำลังจมอยู่ในห้วงของความรู้สึกผิดหลุดออกจากภวังค์ "ไม่ใช่ความผิดน้องหรอก ไม่ใช่ความผิดน้องเลยสักนิด หยุดคิดมากได้แล้ว เข้าใจไหม?"
"ทำไม่ได้หรอก ผมทำไม่ได้"
"ฟังนะ…" ฝ่ามือใหญ่แสนอบอุ่นโอบอุ้มฝ่ามือน้อยเย็นเฉียบและสั่นเทาเอาไว้แน่น "คนเรามีทางเลือกตั้งมากมายให้เลือกเดิน แบคฮยอนไม่ได้บังคับใครให้มาอยู่ที่นี่ เขาต่างหากที่เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง พี่บอกอยู่เสมอไม่ใช่หรอว่าเรากำหนดลมหายใจของใครไม่ได้"
"แต่ทุกคนต่อว่าผม"
"นี่คือสิ่งที่แบคฮยอนต้องรับผิดชอบ นอกเหนือจากการดูแลและออกคำสั่ง คนเป็นหัวหน้าจะต้องโดนติเมื่อเกิดข้อผิดพลาด"
"เห็นไหม ชานยอลเองยังบอกว่ามันคือข้อผิดพลาดเลย" คนตัวเล็กเริ่มหลั่งน้ำตา
"แล้วมีใครบ้างที่อยากให้เกิดข้อผิดพลาดล่ะ หืม? ไม่ร้องดิ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอเรื่องแบบนี้ซะหน่อย"
"ไม่รู้แหละ" และยังคงเป็นหน้าอกแผงเดิมที่แบคฮยอนซุกใบหน้าลงเมื่อเขาร้องไห้
สิ่งที่ทำให้คนเป็นน้องรู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอก็คือการมีชานยอลอยู่ข้างๆ เขาเป็นเสมือนเกราะกำบังแข็งแกร่งให้พ้นจากเหล่าร้าย และปลอบประโลมได้อ่อนโยนเหมือนปุยนุ่นในคราวเดียวกัน
"กลับไปกินอะไรอร่อยๆกันดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาเคารพศพ เนอะ?"
"อื้อ" แบคฮยอนเดินไปเคารพและบอกลาผู้ปกครองของรุ่นน้องโดยไม่ลืมขอโทษทุกคนจากใจจริงอีกครั้งหนึ่ง
ชานยอลจับมือคนซ้อนท้ายไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวระหว่างขับรถ แน่นอนล่ะเพราะถ้าจับสองข้างพวกเขาก็คงตายห่ากันพอดี
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ คนตัวสูงก็ดันไหล่เล็กให้ไปนั่งบนโซฟาแล้วเริ่มต้นทานของหวานด้วยกัน
"พรุ่งนี้ม๊าจะเข้ามา กูบอกเรื่องกิมจิให้แล้ว"
"ขอบใจ งั้นกูไปนอนก่อนนะ เหนื่อยละ"
"เดี๋ยวดิ!"
"อะไรเล่า"
"ยังกินไม่หมดเลย"
"กินหมดนี่ก็พุงแตกตายพอดี ช่วงนี้กูต้องลดความอ้วน ปล๊อย!" แบคฮยอนสะบัดมือที่ถูกเกาะกุมทิ้งก่อนจะปีนข้ามโซฟาเพื่อวิ่งเข้าห้องนอน
"อ้วนก็ดีแล้วหนิแบคฮยอน มากินกันๆ"
"ไม่กิน! จะนอน!"
"แป๊กกกกกกก" มือหนาทุบลงบนบานประตูเสียงดังลั่น
‘ทุบไปเถอะ ไม่เปิดโว้ย!’
"งั้นไขกุญแจเข้าไปนะ"
"เป็นไรมากป่ะวะ! บอกว่าอิ่มแล้วไง!! อิ่มแล้ว!!!" คนตัวเล็กตะโกนสุดแรงจนกลายเป็นเสียงตะคอก
เสียงเคาะเงียบลงจนได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศในห้อง แบคฮยอนขมวดคิ้วแล้วแนบใบหูเข้ากับประตูก่อนจะแง้มศีรษะออกมาจากห้อง
เดินเข้าไปวางมือบนไหล่กว้างหลังโซฟา
"อ้าว ไหนบอกอิ่มแล้ว?"
"ก็อิ่มแล้ว"
"อ้าว ไหนบอกจะนอน?"
"ก็ไม่อยากนอนตอนนี้แล้ว"
"อ้าว ไหนบอกเหนื่อย"
"นั่งเฉยๆ ไม่ได้ขยับ" คนน้องเดินอ้อมมานั่งบนพื้นแทรกกลางระหว่างขายาวก่อนจะวางแขนพาดไว้บนหน้าขา หยิบรีโมทมากดเปลี่ยนเป็นช่องการ์ตูนแล้วตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับจอแก้ว
"อะไร ไม่ยอมนอนเพื่อจะมาดูการ์ตูนเนี่ยนะ?"
"นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ดูนานแล้ว"
"สนุกมากหรอ?"
หลังจากพ่นลมหายใจออกทางจมูก แบคฮยอนก็เงียบไปพักหนึ่งจนร่างสูงคิดว่าตัวเองคงน่ารำคาญเกินไป "ขอโทษ"
"ห้ะ?"
"ขอโทษไง รู้นะว่าได้ยินที่กูบ่นว่ามึงน่ารำคาญอ่ะ" แบคฮยอนละสายตาจากหน้าจอ เงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่สูงกว่า "แต่มึงน่ารำคาญจริงๆนั่นแหละ คนอะไร๊ น่ารำค๊าญ น่ารำคาญ"
"ตกลงจะขอโทษหรือจะด่า"
"ขอโทษ"
"งั้นก็หยุดด่าแล้วจะไปนอนก็ไป มึงมันก็น่ารำคาญเหมือนกันนั่นแหละ กูจะดูเดอะเฟสโคเรีย" คนพี่ฉกรีโมทออกมาจากมือคนน้องก่อนจะกดเปลี่ยนช่อง
"ได้ไงอ่ะ กูดูโปเกม่อนอยู่นะ"
"ก็กูไม่อยากดูนี่"
"ไม่อยากดูก็เข้าไปนอน แก๊งล็อคเก็ตกำลังจะออกมาแล้ว เปลี่ยนช่องเดี๋ยวนี้!"
แล้วสงครามแย่งรีโมทย่อมๆก็เกิดขึ้นร่วมนาที แน่นอนว่าคนที่ยอมเป็นฝ่ายแพ้ก็คือพี่ชาย
กว่าจะตั้งสติได้ว่าตัวเองเหนื่อยและเพลียมากก็ตอนที่เผลอหลับแล้วทำรีโมทในมือหล่น แบคฮยอนจึงบอกลาชานยอลเพื่อเข้าไปนอนพักผ่อนในห้อง
เมื่อหัวถึงหมอนปุ๊บคนตัวเล็กก็เข้าสู่ห้วงนิทราปั๊บราวกับสั่งได้ ทำให้วันที่แสนหนักหน่วงผ่านไปอีกหนึ่งวัน
"เป็นยังไงบ้างลูกชายสุดที่รักของม๊า" เช้าวันนี้ชานยอลตื่นเร็วกว่าปกติเพราะต้องอยู่ต้อนรับมารดา
"หนูยังหล่อเหมือนเดิมครับ"
"แต่ม๊าว่าหนูหล่อขึ้นนะลูก ขอม๊าหอมแก้มหน่อยเร็ว" หญิงสาววัยกลางคนโน้มใบหน้าลูกชายตัวสูงลงมาหอมฟอดใหญ่จนชื่นใจ
"ป๊าไม่มาหรอครับ"
"ป๊าติดงานตามมาตอนเย็น นายนั่นบ่นคิดถึงน้องชายเราบ่อยกว่าการกระพริบตาซะอีกมั้ง น่ารำคาญ" คนเป็นแม่เดินนำเข้าบ้านหลังจากโยนของทุกอย่างให้ลูกชายเป็นคนถือ "แล้วนี่แบคฮยอนไปไหน?"
"ไปทำธุระครับ เดี๋ยวคงมา"
"ลูกไม่ไปกับน้องล่ะ"
"แบคฮยอนโตแล้วนะแม่ ไม่ต้องตามดูแลขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเพื่อนมันก็มี แล้วหนูก็ไม่ได้สำคัญขนาดที่มันจะชวนออกออกไปไหนมาไหนด้วยซะหน่อย"
"ก็ไม่แน่หรอกนะ บางทีน้องอยากให้ลูกไปด้วย แต่ไม่กล้าบอกไง เด็กวัยรุ่นก็เงี้ย"
ชานยอลเดินตามคุณนายปาร์คทุกฝีก้าว เนื่องจากต้องคอยจับตาดูว่าท่านจะเล่นพิเรนทร์อะไรอีกหรือเปล่า
เพราะทุกครั้งที่มาเยี่ยมจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเช่น… ลิ้นชักกางเกงชั้นในในห้องของชานยอลสลับกับลิ้นชักกางเกงชั้นในในห้องของแบคฮยอน ทำให้เช้าวันนั้นต้องวิ่งสลับลิ้นชักกันให้วุ่น
ที่บ่อยสุดเห็นจะเป็นการเอาหน้ากากผีไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าให้ตกใจจนเกือบเปล่งเสียงกรี๊ดไปหลายครั้ง ล่าสุดแอบเอาชุดนักเรียนไปซ่อนในไมโครเวฟ
แต่ยังไงแม่ก็คือแม่ จะขี้แกล้งยังไงก็น่ารัก
"ทำไมหนูเอาแต่เดินตามม๊าล่ะลูก?"
"หนูเห็นม๊าถืออะไรไม่รู้ เลยสงสัย" ชานยอลชี้กำมือหญิงสาวก่อนจะลอบสบสายตา
‘จับได้ทุกทีเลยไอ้ลูกคนนี้นี่’
"ไม่มีอะไรหรอกลูก ไปนั่งดูทีวีเถอะ เดี๋ยวม๊าทำมื้อเที่ยงให้กิน"
"ถ้าหนูบอกว่าไม่เชื่อใจม๊าก็กลัวม๊าจะเสียใจ งั้นหนูบอกว่าไม่ไว้ใจม๊าดีกว่า"
"ความหมายเดียวกันลูกรัก ม๊าไม่แกล้งหนูหรอก ไปเถอะ ไปนั่ง" ปาร์คยูราดันหลังลูกชายให้ไปนั่งรอที่โซฟาก่อนจะลงมือทำอาหารเที่ยงด้วยตนเอง
"ชานยอล! ม๊ามาแล้วหรอ!" ทันใดนั้นประตูบ้านก็เปิดกว้างพร้อมกับร่างน้องชายที่ยินดีกับการมาถึงของ… "ม๊า~ กิมจิหนูล่ะ"
ยินดีกับการมาถึงของกิมจิสุดโปรด
"แบคฮยอนลูกม๊า คิดถึงหนูจังเลย มากอดหน่อยเร็ว" ทั้งสองโผเข้ากอดกันกลมเสมือนอยู่ในรายการวันนี้ที่รอคอย
ลูกชายคนโตเร่งเสียงโทรทัศน์ด้วยความหมั่นไส้ ไม่นานนักเจ้าคนตัวเล็กก็ถูกไล่ตะเพิดให้ออกมานั่งรอมื้อเที่ยงบนโซฟาตัวเดียวกัน
"อยากพูดอะไรก็พูด"
"เห้ย! แอบฟังกันอีกแล้วหรอ?" คนตัวเล็กขยำคอเสื้อพี่ชายอย่างเอาเรื่อง
"อย่าดังสิวะ เดี๋ยวม๊าก็ได้ยินหรอก"
"ก็มึงมาแอบฟังความคิดกูทำไมเล่า"
"มึงก็ไปนั่งคิดไกลๆดิ"
"ได้ไงล่ะ โซฟามีตัวเดียว ให้กูไปนั่งของบ้านข้างๆหรือไง"
"ถ้าได้ก็ดี กูหนวกหูกับความคิดปัญญาอ่อนมึงจะแย่ล่ะ"
"ว่ากู…!"
"มากินข้าวได้แล้วหนุ่มๆ"
"คร้าบ/คร้าบ" มือเล็กคลายหมัดออกพร้อมกับเจ้าของคอเสื้อปัดพอดี
เพื่อให้ชานยอลได้นั่งข้างแม่ ทั้งสองเลยต้องเดินแยกไปคนละฝั่งเมื่อเข้ามายังเขตประตูห้องครัว
"ไม่ต้องรีบทานกันนะ วันนี้ม๊ามีเวลานั่งดูทั้งวันเลย" ชานยอลสบตากับแบคฮยอนแทบจะทันทีเมื่อจับสังเกตุความผิดปกติได้
"เราก็มีเวลาทั้งวันเหมือนกัน เนอะชานยอลเนอะ"
"แน่นอนสิ ก็วันนี้วันเสาร์นี่" แต่ก็ยังทำตัวเหมือนไม่รู้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
ความไม่มีพิรุธของคุณนายยูราทำให้ลูกชายทั้งสองกลืนข้าวได้อย่างไร้ความกังวลราวกับมีเข็มทิ่มคอ และมีความโล่งใจราวกับโดนปืนจ่อเป็นที่สุด
ยิ่งการที่เห็นคุณนายปาร์คเท้าคางแล้วส่งยิ้มหวาน ทำให้ความสงสัยของสองพี่น้องไม่เกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว
"กิมจีฝีมือม๊าอร่อยไม่ตกเลยนะเนี่ย สมแล้วที่เป็นม๊าพี่ชานยอล" ร่างเล็กเคี้ยงตุ้ยด้วยความหิวโหยจนแก้มบวมเป่งทั้งสองข้าง
"แน่นอนอยู่แล้ว ม๊าถ่ายทอดวิทยายุทธิ์การทำอาหารให้ชานยอลตั้งแต่อยู่ในท้องเลยนะ"
"ถึงว่าล่ะ หนูออกจากท้องมาพร้อมช้อนเงินช้อนทองเลย" ชานยอลเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะนานๆทีจะได้ลิ้มฝีมือต้นตำรับสูตรอาหารที่เขาร่ำเรียนมาตั้งแต่เป็นสาวเต็มกาย
"นั่นไม่ใช่ช้อนนะลูก นั่นหู"
"โอ๊ะ หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนะ" คนตัวเล็กรุดจากเก้าอี้เพื่อไปถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยไม่รู้เลยว่าสีหน้าของพี่ชายตอนนี้กำลังแย่
ปัง! ปัง!
"ไอ้แป๊ก ออกมาได้แล้ว กูปวดขี้"
"กูขี้อยู่"
"ออกมาก่อนดิ จะอั้นไม่อยู่แล้วนะเว้ย!" เสียงทุ้มสั่นกระเส่าราวกับสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหว
"สัญญาก่อนว่าจะไม่นาน"
"สัญ อึ้ก ญา"
แบคฮยอนแบ่งเวลาให้คนพี่ได้เข้าไปปลดปล่อยเพียงชั่วครู่ก่อนจะออกแรงเคาะประตูเรียกให้ออกมา
"ไหนบอกไม่นานไงวะ"
"ไปขุดหลุมข้างบ้านเอาสิโว้ย!!"
"เห้ยไอ้ช้อน! ทำไมพูดหมาๆแบบนี้ล่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้"
"ใจเย็นดิ"
"ไม่ออกกูเข้าไปขี้บนเตียงมึงนะ" สิ้นสุดคำขู่ ชานยอลก็รีบเสียสละให้คนเป็นน้องอีกครั้ง
สองชั่วโมงผ่านไปโดยที่ทั้งคู่ยังคงสลับกันเข้าห้องน้ำและมีคนเป็นแม่คอยนั่งหัวเราะไปพร้อมกับให้กำลังใจอยู่ห่างๆ "เอิ้กๆ สู้เขานะลูกชาย"
ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่ผู้บังเกิดเกล้าจะวางยาลูกชายตัวเองได้ลงคอ เล่นเอาหมดแรงคลานสี่ขาออกมาจากห้องน้ำกันเลยทีเดียว
นอนซมอยู่บนพื้นหน้าทีวีสักพัก จนเทพบุตรอย่างคุณผู้ชายบยอนแบคโฮปรากฏตัวพร้อมกับน้ำเกลือแร่
"คุณแกล้งลูกอย่างนี้ได้ยังไง?"
"ก็คุณให้ฉันสั่งไม่ให้ลูกออกไปไหนจนกว่าคุณจะมาไง"
"แล้วทำไมคุณไม่สั่งพวกเขาล่ะ"
"คิดว่าพวกเขาจะฟังเราหรือไง?"
"นั่นสินะ" หัวหน้าครอบครัวลดเสียงลงก่อนจะยอบกายลงตรงหน้าลูกชาย "ป๊าคิดถึงหนูจังเลย"
"หนูก็คิดถึงป๊า" แบคฮยอนเปล่งเสียงที่คิดว่าจริงใจที่สุดพร้อมกอดตอบบุพการี
"ยัยนั่นวางยาถ่ายหนูทั้งสองคนเดียวนะ เรื่องนี้ป๊าไม่เกี่ยว"
ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโยนความผิดไปให้ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะถึงยังไงก่อนมาที่นี่สองสามีภรรยาก็ต้องสมรู้ร่วมคิดกันวางแผนแกล้งลูกชายตัวเองอยู่แล้ว
"พรุ่งนี้ก็ห้ามไปไหนนะลูก"
"หนูขอไปทำธุระช่วงเช้านะครับ"
"คนเดียวหรอ?"
"ไปกับเพื่อนครับ"
"เอาพี่ชายไปด้วยสิ จะได้รีบกลับ"
"ไม่ต้องหรอกป๊า เดี๋ยวหนูรีบกลับเอง"
"เอาน่า ให้พี่ชานยอลขับรถป๊าพาไป"
เช้าวันนี้ร่างสูงเลยกลายเป็นสารถีจำเป็น และต้องมาเคารพศพเป็นเพื่อนแบคฮยอนตั้งแต่ไก่โห่ บรรดาเด็กนักเรียนในงานที่จำหน้าประธานหัวหน้าทีมของโรงเรียนช่างก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ต่างก็ส่งสายตามองด้วยความสงสัย
เพราะเหตุนี้เลยต้องรีบปลีกตัวออกมานั่งคอยน้องชายอยู่ในสวนสาธารณะ
"รุ่นพี่!"
"อ้าว~ ว่าไงฮเยจอง ไปไงมาไงเนี่ย" ร่างสูงขยับให้ม้านั่งว่างพอดีกับผู้มาใหม่
"ฉันน่าจะถามรุ่นพี่มากกว่าว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
"พาน้องชายมาทำธุระนิดหน่อย"
"ฮ้า พี่แบคฮยอนก็มาหรอ" สาวน้อยตื่นอกตื่นใจเมื่อได้ยินเสียงรุ่นพี่ต่างสถาบันที่แอบปลื้ม
"นี่ๆ เก็บอาการหน่อย เราเป็นผู้หญิงนะ"
"ฉันเป็นผู้หญิงยุคใหม่ไง พี่ไม่เข้าใจหรอ"
"ไม่อ่ะ พอดีไม่ใช่ผู้หญิง"
นั่งคุยกันพักใหญ่ชานยอลก็ขอตัวกลับหลังจากรับสายแบคฮยอน ก่อนไปเขาได้ให้กำลังใจด้วยการเปิดรูปแผ่นหลังเปลือยเปล่าของน้องชายตัวเองให้หญิงสาวแรกรุ่นดู
"อ๊ายยยยย เนื้อหนังของพี่แบคฮยอนช่างเนียนละมุนละไมอะไรอย่างนี้ ฉันขอรูปนี้เถอะนะ"
"ไม่ได้หรอก จะเอารูปไอ้แบคฮยอนไปปู้ยี่ปู้ยำใช่ไหม?"
"ใช่ค่ะ"
"เธอนี่มันน่ากลัวจริงๆ" ดันศีรษะกลมที่พะเน้าคลอเคลียออกจากต้นแขน "เจอกันที่โรงเรียนนะ ไปละ"
"บ๊ายบายค่ะ" สาวน้อยผู้ร่าเริงโบกมือจนชานยอลเข้ามาในตัวอาคาร
แบคฮยอนลงลิฟต์มาพร้อมเซฮุนและคยองซู ก่อนจะบอกลาเพื่อนแล้วเดินนำไปขึ้นรถ เปิดเพลงย้อนยุคที่ป๊าชอบฟังจนเสียงดังลั่น
รถเคลื่อนตัวช้าๆโดยที่ชานยอลเองก็ไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนพูดมากอย่างแบคฮยอน แม้จะอยากรู้แต่ก็กลัวกระทบกระทั่งความรู้สึกที่คนน้องอาจจะโดนผู้ใหญ่ตำหนิมา
"ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่าลูก?" แบคฮยอนเงียบไปจนมองเห็นช่องว่างระหว่างครอบครัว
"หนูจะไปทะเลาะกับพี่เขาทำไมล่ะครับ"
"ก็ม๊าเห็นหนูเงียบตั้งแต่กลับมาจากข้างนอก ไม่ได้เป็นอะไรแน่หรอ?"
"ครับ"
"แน่ใจนะชานยอล"
"ครับม๊า เราไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ" ชานยอลยืนยันอีกครั้งก่อนจะปิดไฟห้องนั่งเล่นเพื่อเข้านอน
"ไม่เอาดีกว่า คืนนี้ป๊าอยากนอนกับม๊า"
"ได้ไงอ่ะ นานๆหนูจะได้นอนกอดป๊าสักทีนะ" แบคฮยอนโวยวายหลังจากที่แบคโฮเดินกลับออกมาจากห้องนอนลูกชายเพื่อเรียกภรรยาไว้
"เมื่อคืนก็นอนกอดไปแล้วไง"
"ป๊าก็ค่อยกลับไปนอนกับม๊าที่บ้านสิ"
"ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนี่ เอ้า! ยืนทำหน้าหมูอยู่นั่นแหละ ไปนอนห้องพี่ชานยอลเดี๋ยวนี้"
"ป๊าง่ะ T^T" ร่างเล็กเบะปากจะร้องไห้ก่อนจะเดินกระทืบเท้าตึงตังเข้าห้องข้างๆ
"ฝันดีนะจ๊ะลูกรัก"
ชานยอลหายไปอาบน้ำกลับมาอีกทีก็พบว่าแบคฮยอนนอนหันตูดให้เขาไปแล้วเรียบร้อย ทำให้ต้องแทรกตัวเข้าผ้าห่มช้าๆเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของคนข้างๆ
‘ชานยอล’
"…"
‘ชานยอล ได้ยินกูไหม?’
"ยังไม่หลับหรอ"
‘ขอถามอะไรหน่อยดิ’
"ว่ามา"
‘มึงมีแฟนละหรอ?’
"หืม ทำไมถามงั้นอ่ะ ไหนหันหน้ามาคุยกันดิ้" ชานยอลจับเอวคนตัวเล็กให้หันมา แต่เจ้าตัวก็รั้งไว้
‘ไม่! ขอคุยแบบนี้แหละ’
"โอเค ไหนเล่าซิว่ารู้อะไรมา"
‘ผู้หญิงที่เกาะแขนมึงวันนี้อ่ะ ไม่ใช่แฟนหรอ’
"นั่นรุ่นน้องที่โรงเรียน แฟนเฟินอะไรล่ะ"
‘รุ่นน้องเกาะแขนได้ขนาดนี้เลยหรอ ดีเนอะ’
"นี่ใช่ไหมที่ทำให้มึงเงียบมาทั้งวัน หืม?" ชานยอลพยายามดึงร่างเล็กให้หันหน้ามาคุยกันแต่ก็โดนปฏิเสธด้วยการปัดมือออก "น้องชายดุซะขนาดนี้จะกล้าไปมีใครได้ยังไงล่ะ"
"ปล่อยนะโว้ย!!"
"ชู่ววว~ อย่าดังสิ ชุดนอนอยู่นะ" เมื่อพลิกตัวมาไม่สำเร็จ ร่างสูงจึงขยับเข้าใกล้ก่อนจะสอดแขนรองศีรษะกลมและวาดแขนอีกข้างโอบร่างเล็กไว้แน่นจนหลับไป
เสียงเครื่องยนต์รถทั้งสองคันปลุกให้เจ้าของบ้านทั้งสองคนตื่นโดยมีแค่โน้ตแปะร่ำลาไว้หน้าทีวีเท่านั้น
ก่อนที่จะไปโรงเรียนสายไปมากกว่านี้ ชานยอลก็รีบเด้งตัวขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าและปลุกน้องชายที่ยังคงเฝ้าห้วงนิทราให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก
"วันนี้มึงมีเวรพูดหน้าเสาธงนะแบคฮยอน"
"เฮือก! จริงด้วย!" ราวกับนักวิ่งมาราธอนที่เกือบจะถึงเส้นชัยและต้องเร่งฝีเท้า
แบคฮยอนวิ่งผ่านน้ำก่อนจะออกมาจากห้องนอนเมื่อแต่งตัวเสร็จ หยิบแซนวิสบนโต๊ะที่พี่ชายวางเตรียมไว้ให้เป็นมื้อเช้า
"เดี๋ยวไปส่ง" ร่างสูงนั่งคร่อมมอเตอร์ไซด์คันใหญ่รอแบคฮยอนหน้าประตูบ้าน
"ไม่เอาอ่ะ ไปเองดีกว่า"
"ไปเองไม่ทันหรอกน่า" ชานยอลรั้งข้อมือคนตัวเล็กไว้ทันก่อนจะครอบหมวกลงบนศีรษะ "ขึ้นมา"
แบคฮยอนเกาะเอวคนขับไว้แน่นเพราะไม่อยากร่วงลงไปนอนหัวแบะอยู่บนพื้นถนน
เมื่อเช้าวันจันทร์แรกของเดือนใหม่มาถึง ผู้ทำหน้าที่ประธานแผนกต่างๆในโรงเรียนต้องมีบทสนทนากับนักเรียนทุกสายชั้นเล็กๆน้อยๆหน้าเสาธง
เอี๊ยดดดดดดด!
เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนเรียกให้ทุกสายตาของผู้คนที่อยู่ระแวกนั้นหันมาจับจ้อง ร่างเล็กลูบหน้าผากป้อยเมื่อหมวกกันน็อคของตัวเองปะทะกับของพี่ชาย
"จอดดีๆจะตายห่าหรือไง"
"ไม่เท่ดิ เห็นไหม? คนมองเต็มเลย" แบคฮยอนปีนลงจากมอเตอร์ไซด์ก่อนจะโวยวายตามสเต็ป
"กูบอกแล้วใช่ไหมว่าผู้หญิงพวกนี้มันขี้เม้าท์"
"ไม่แคร์ ตั้งใจเรียนล่ะ" ก่อนออกรถยังเรียกเสียงกรีดร้องของสาววายที่ยังไม่ละสายตาจากเมะร่างสูงกับเคะร่างบางด้วยการยีผมน้องชายอย่างเอ็นดู
"ไอ้…เชี่ยเอ้ย มองไรวะ! ไม่เคยเห็นพี่ชายลูบหัวน้องชายหรือไง!" เมื่อชี้หน้าด่าเจ้าตัวไม่ทันก็หันมาโวยวายใส่คนรอบข้างแทน
ถึงแม้เด็กนักเรียนที่เห็นภาพนั้นจะมีน้อยเพราะยังเช้าอยู่ แต่เด็กพวกนั้นคือแก๊งปากสว่างแต่งตั้งตัวเองเป็นนักกระจายข่าวได้ซะนี่
แบคฮยอนหงุดหงิดจนแทบจะระเบิดตัวเองให้เป็นจุล รีบจ้ำเท้าไปยังห้องคณะกรรมการเพื่อเริ่มประชุมญัตติใหม่ของเดือนนี้ แน่นอนว่าไม่พ้นเรื่องไอ้เจ๊กเหิมเกริม
"สามปีที่ผ่านมาเราต่างรู้ดีว่าอิทธิพลคนรวย ก่อสร้างเกราะกำบังให้ตัวเองแน่นหนา จนไม่อาจมีใครคิดเทียบรัศมีได้" ประธานแต่ละแผนกและคณะกรรมการฝ่ายต่างๆตั้งใจฟังประธานนักเรียนพูดเป็นอย่างมาก
"ผมอยากให้ทุกคนแสดงความแข็งแกร่งด้วยความสามัคคี ทำให้คนอื่นรู้ว่าโรงเรียนเล็กๆของเรายิ่งใหญ่ไปด้วยมิตรภาพและความรักใคร่" ทำให้บางคนถึงกับต้องเท้าคางไว้กับโต๊ะเพราะความง่วง
"ข่าววงในรู้มาว่าพวกมันต้องการตัวประธานช่างมากที่สุด" ประธานช่างทุกแผนกสะดุ้งกันยกใหญ่ ยกเว้นแบคฮยอนที่กำลังปรือตาจะหลับแหล่มิหลับแหล่
"เราเสียรุ่นน้องแผนกไฟฟ้าไปแล้วหนึ่งคน เราจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก" ไฟหน้าจอมือถือสว่างวาบเตือนว่ามีสายเข้า
"ผมอยากให้แบ่งเวรกันเพื่อคอยสอดส่องและให้ความปลอดภัยกับทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจเกิดอันตรายได้ง่ายกว่า" แต่แบคฮยอนเคลิ้มหลับไปแล้ว ทำให้เขามองไม่เห็นจนสายนั้นวางไป
"วันนี้ผมขออีกหนึ่งเรื่องก่อนจะขึ้นไปพูดหน้าเสาธง อยากให้ประธานแผนกไฟฟ้าพูดอะไรสักหน่อยเกี่ยวกับข่าวลือ"
"ZzZzZz"
"แบคฮยอน แบคฮยอน" คนข้างๆปลุกเรียกแบคฮยอนจนสะดุ้งเช็ดน้ำลายที่ยืดเป็นสาย
"ห้ะ? ว่าไง?"
"พูดอะไรเกี่ยวกับข่าวลือหน่อย"
"ข่าวลืออะไรวะ?" ร่างเล็กหันไปขมวดคิ้วใส่ประธานนักเรียน
"ก็เรื่องที่เป็นแฟนกับหัวหน้าทีมพลอยโรงเรียนช่างก่อสร้างไง"
"แฟน?" หัวหน้าทีมพลอยโรงเรียนช่างก่อสร้าง "ไอ้ชานยอลน่ะหรอ?!"
"นั่นแหละ"
"หมอนั่นมันเป็นพี่ชายฉันเอง โถ้เหวยยยยย~"
แล้วการประชุมก็ยุติลงเมื่อเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้น บทสนทนาหน้าเสาธงของแบคฮยอนในวันนี้คือการแก้ข่าวเรื่องที่เขาเป็นคู่เกย์กับพี่ชายตัวเอง
BaekYeol
AM 08:15 สัส
ChanHyun
AM 08:16 อะไร
BaekYeol
AM 08:16 กูบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวเป็นข่าวลือ
AM 08:16 มึงนี่นะ
ChanHyun
AM 08:17 น่ารักดีออก
AM 08:17 พี่ชายกับน้องชายสกินชิพกันแบบนี้หายากนะเว้ย
BaekYeol
AM 08:18 ค_ย
"ยิ้มอะไรมึงวะไอ้ชานยอล" เจ้าของฉายาแก้มซาลาเปาเดินเข้ามาผลักไหล่เพื่อนตัวสูงกว่าก่อนจะนั่งลงบนที่นั่งตัวเอง
"กูคุยกับน้องชายอยู่"
"แล้วจำเป็นต้องยิ้มขนาดนั้นเลยหรอ"
เออว่ะ
"เอาน่า อย่าเสือกเลยมึง นะนะ" ชานยอลหันไปพยักเพยิดหน้าใส่มินซอกแล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อ
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนคนตัวเล็กเดินออกมาพร้อมเพื่อนอีกสองคนเช่นเดิม ถึงแม้จะมีสายตาเด็กสาวจ้องมองมาอย่างแปลกประหลาดแต่เขาก็พยายามข่มใจไม่ให้เดินเข้าไปตบหัวเพศหญิงได้
เพราะไอ้พี่ชายคนเดียวที่ทำให้ต้องกลายเป็นเป้าสายตาทั้งวันแบบนี้
"โหยยยยย มีคนตั้งแท็กในทวิตเตอร์ด้วยอ่ะมึง ดูดิๆ" คยองซูยื่นโทรศัพท์ให้เซฮุนข้ามหน้าข้ามตาแบคฮยอนอย่างเฉียดฉิว
"#สถาบันไม่คงที่พี่รักน้องสิคงทน โหวยยยยย" เซฮุนดึงโทรศัพท์ไปถือและช่วยเสริมขึ้นอีกแรงจนแบคฮยอนต้องเอี้ยวตัวตามเพื่อมองข้อความบ้าง
"ห้ะ? ใครเป็นแอดมินทวิตเตอร์โรงเรียนวะ" คนตัวเล็กกระชากเครื่องมือสื่อสารมาถือไว้เพื่อโวยวาย
"ใจเย็นแบคฮยอน ยิ่งมึงร้อนตัวเขาจะยิ่งสงสัยนะเว้ย"
"แล้วถ้ากูไม่ทำอะไรคนจะเข้าใจถูกงั้นหรอ ห่า"
"แต่รูปแม่งชวนคิดจริงว่ะ เมะวางมือบนศีรษะเคะก่อนจะดึงเข้ามาจูบ" ไม่พูดอย่างเดียว เซฮุนแสดงท่าทางประกอบฉากกับคยองซู ต่อยอดจากรูปในโซเชียลที่มีปาปารัสซี่มือดีถ่ายไว้ได้
"ไม่ได้จูบ สัส"
"ตั้งใจเรียนนะครับที่รัก"
"หุบปาก!"
"กูดูยังเขิน"
"ไอ้เซฮุน!!" เซฮุนเงียบลงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่าทางเย้ยหยันนั้นจะหายไปจากใบหน้าด้วย
"อย่าโมโหดิวะ นู่น พี่มึงกวักมือเรียกอยู่นู่น" คยองซูกลายเป็นคนห้ามศึกก่อนจะชี้นิ้วไปที่พี่ชายเพื่อน
ร่างสูงในชุดยูนิฟอร์มต่างสถาบันยืนพิงมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่เงียบๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกลุ่มน้องชายตัวเองเข้าพอดี
เหตุผลที่ไม่โดนเจ้าถิ่นรุมกระทืบเป็นเพราะชานยอลอยู่สถาบันที่ทุกคนระแวกนี้ต่างรู้กันดีว่าไม่ควรแหยม โดยเฉพาะเด็กอ่อนด๋อยในเรื่องชกต่อยอย่างเด็กที่นี่
"แบคฮยอน พี่ชายสุดที่รักมารับกลับบ้านแล้วครับ"
ไอ้เหี้_ชานยอลลลลลลล T^T
แบคฮยอนจำใจนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ท่ามกลางเป้าสายตาอีกครั้ง เนื่องมาจากเขาลองเดินหนีแล้วแต่ชานยอลแกล้งตะโกนดังๆเหมือนกับว่าเป็นคู่รักที่ตามง้อตามงอนกันอยู่
"ทำเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย หา?" ทันทีที่เข้ามาในบ้านแบคฮยอนก็หยิบม้วนทิชชู่ปาใส่หัวคนตัวสูงเต็มแรง
"ก็พี่กลัวน้องแบคฮยอนจะหาว่าพี่ไปมีแฟนนี่จ๊ะ พี่เลยพิสูจน์ว่าพี่ไม่มีใครไง"
"กูไม่ชอบนั่งมอไซด์ มึงก็รู้นี่"
"แต่พี่ชานยอลมีแค่มอไซด์อ่ะ"
"งั้นก็ทางใครทางมัน" คนน้องเดินเข้าห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะ… "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก! แมลงงงงงงงสาบบบบบบบ"
วิ่งพรวดพราดออกมาจากห้อง กระโจนเกาะหลังพี่ชายบนโซฟา
"ฝีมือม๊าแน่นอน" ชานยอลเดินนำโดยด้านหลังมีร่างเล็กๆของน้องชายติดสอยห้อยตามไปด้วย
แก๊งแมลงสาบปลอมนอนนิ่งอยู่ในตู้เสื้อผ้า ในขณะเดียวกับที่กำลังก้มลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อก็แผดเสียงดังขึ้นซะก่อน
"ว่าไงมินซอก"
[ประชุมทีมด่วนเว่ยมึง คราวนี้วนไปบ้านมึงละ]
"อ้าวหรอ เออมาดิๆ"
ชานยอลโยนแก๊งแมลงสาบปลอมลงถังขยะก่อนจะเก็บกวาดรอบบ้านให้ดูเรียบร้อยเพื่อต้อนรับแขก
แบคฮยอนขลุกตัวอยู่ในห้องทันทีเมื่อเพื่อนในทีมของชานยอลมาถึง เขาขี้เกียจออกไปตอบคำถามว่าเป็นอะไรกับชานยอลทำไมถึงอยู่ด้วยกัน พี่น้องอะไรรูปร่างหน้าตาต่างกันราวฟ้ากับเหว
"กูว่าที่น่าเป็นห่วงสุดคือโรงเรียนชอนี่แหละ"
"เออ โรงเรียนนี้แม่งผู้หญิงเยอะ แล้วอีกอย่างเลยคือเรื่องชกต่อยนี่เรียงไปอยู่ท้ายจักรวาลนู่นนนนน" ลากเสียงยาวเพื่อเน้นความหมาย
"แล้วเอาไงอ่ะ ไอ้ชานยอลแม่งช่วยคิดหน่อยดิ้" ลูกน้องในทีมโวยวายใส่หัวหน้าที่มัวแต่นั่งเหม่อลอยจ้องพื้นปูน
"เอาไงล่ะ ย้ายไปอยู่โรงเรียนนั้นเลยไหม จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตา"
"เอ้อ ความคิดดีนี่หว่า" มีเสียงสนับสนุนเพิ่มมาหนึ่งคน
"โรงเรียนนั้นแม่งสาวๆเด็ดด้วย" สองคน
"นี่คือที่มึงต้องการใช่ป่ะ"
"หรือว่ามึงจะปฏิเสธ"
"ก็เหี้ยละ" สามคน
"ฮ่าฮ่าฮ่า" และทุกๆคน
"งั้นเอาเป็นว่าทำเรื่องย้ายโรงเรียนชั่วคราวละกัน มึงจัดการนะไอ้มินซอก"
สมาชิกทั้งหกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะพล่อยๆของหัวหน้าปาร์ค ว่าให้ทีมพลอยย้ายไปเรียนโรงเรียนชอเพื่อป้องกันอันตรายจากพวกไอ้เจ๊ก
และโรงเรียนชอที่ว่านี้ก็คือโรงเรียนช่างกลที่แบคฮยอนศึกษาอยู่
TBC.
#หัวไม้ชานแบค
ไม่แท็กไม่เม้นจะงอน
จะไม่อัพด้วยคอยดู
ปล.หลอกนะ เพราะเรื่องนี้แต่งลื่นเหมือนรองเท้าไม่มีดอกมาก
ไม่แท็กไม่เม้นก็อัพ
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ความคิดเห็น