คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part:1 ชิน โซวอน
Part:1 ชิน โซวอน
วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันสำหรับบางคนที่ถูกเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะเด็กชายผมยุ่งคาดหูฟังอันเท่าบ้านที่กำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่บนทางฟุตบาท ในเมืองอันแสนเรียบง่ายที่มีชื่อว่าขอนแก่น เด็กชายเป็นคนเบื่อโลก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเองก็เป็นคนที่น่าเบื่อไม่น้อยเลยทีเดียว
บางทีเขาอาจจะเบื่อตัวเองด้วยก็เป็นได้...
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมของการเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนวิชาเคมี ในประเทศไทยการเรียนพิเศษถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของเด็กมัธยม ที่ว่าปัจจัยนั้นหมายความว่าขาดไม่ได้ แต่ก็ยังมีผู้คนหลายคนที่ฝืนปัจจัยอยู่เช่นกัน คนเหล่านั้นถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือเด็กนักเรียนพวกที่ไม่สนใจอนาคตของตัวเอง กับพวกที่เก่งระดับพระเจ้าซึ่งสามารถทำคะแนนสูงๆได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการเรียนพิเศษ
เอาเป็นว่าเรื่องการเรียนนี่ปล่อยให้พวกคนที่เรียนเก่งๆเขาพูดกันก็แล้วกัน...
เด็กชายที่ชื่อฮาชิกาวะ อากิโตะกำลังมุ่งหน้าไปที่อาคารวรรณสรณ์เพื่อเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนในโรงเรียน อาคารวรรณสรณ์คือแหล่งรวมของเด็กมัธยมที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นพวกที่‘สนใจในอนาคตของตนเอง’หรือก็คือเป็นที่เรียนพิเศษที่รวบรวมวิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ และคณิตไว้ด้วยกันแล้วแต่คนจะเลือกเรียน แต่ที่ขึ้นชื่อของที่นี่จริงๆคงเป็นเคมีกับชีวะ ส่วนในรายวิชาอื่นๆหลายคนยังคงเลือกที่จะเรียนที่อื่นอยู่ แต่เพียงแค่สองวิชาเด็กมัธยมที่มาเรียนก็แห่กันมาอย่างล้นหลาม
ฮาชิกาวะเดินทางไปที่อาคารวรรณสรณ์ด้วยการเดินเท้าแทนการนั่งรถโดยสารประจำทาง เขาคงคิดว่าอาจจะเจออะไรที่สนุกๆระหว่างทาง ทว่าเขาก็ต้องผิดหวังที่เจอกลุ่มนักเลงนักสุมหัวกันอยู่ที่หน้าร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ มันเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายๆในทุกๆเมืองในประเทศไทย เขาทำหน้าเซ็งและเดินปิดหูรีบๆก้าวย่างผ่านจุดนี้ไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้
ระหว่างทางเด็กชายได้พบกับกลุ่มคนแต่งตัวแปลกๆบางคนแต่งตัวเป็นซามูไรบ้างนินจาบ้างยืนอยู่ด้วยกัน เขารีบเดินผ่านไปโดยคิดเพียงแค่ว่าพวกนี้คงเป็นพวกชอบแต่งคอสเพลย์เรียกร้องความสนใจธรรมดาๆดีๆนี่เอง ไม่นานเขาก็ได้เห็นผู้ชายอีกคนหนึ่งวิ่งสวนกับเขาท่าทางร้อนรนแถมยังแต่งตัวเน้นสีดำแปลกๆ ตามด้วยหมอหญิงซึ่งวิ่งตามชายคนนั้นไป แม้ผู้คนรอบข้างจะมองตามชายหญิงคู่นั้นแต่ฮาชิกาวะก็ไม่สนใจเพราะคิดเพียงแค่ว่าไม่นานก็คงหยุดคุยกันแบบปรกติ ทำให้กลายเป็นเรื่องหน้าเบื่อ เด็กชายคิดว่าตนเจอแต่เรื่องน่าเบื่อในขอนแก่นตลอดทางการเดินมาที่อาคารวรรณสรณ์
ฮาชิกาวะ อากิโตะอาจจะเป็นหนึ่งในเด็กที่สนใจอนาคตของตนเอง เขาเองก็เรียนอยู่ในชั้นมัธยมปีที่สี่แล้ว คงจะไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเรียนเหมือนกับคนอื่นๆอีกมากมายที่กำลังนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือหรือพูดคุยกันอยู่ในอาคารวรรณสรณ์ หลายๆคนอาจจะคิดเช่นนั้นซึ่งผิดแผกจากความจริงมากมาย เด็กชายเพียงแค่อยากหาอะไรแก้เบื่อแก้เซ็งเท่านั้น
ฮาชิกาวะยืนคุยกับเด็กสาวคนหนึ่งในอาคารวรรณสรณ์ครู่หนึ่งก่อนเปลี่ยนสีหน้าอันอมทุกข์นั้นเป็นท่าทางดีใจสุดขั้ว ผมเองก็ได้ยินไม่ชัดนักก่อนที่ฮาชิกาวะกับเด็กสาวจะผละแยกจากกัน ผมได้ยินเพียงคำแปลกๆเช่น “…สงครามกลางเมือง…”
ทันใดนั้น พริบตาที่ฮาชิกาวะ อากิโตะพบหน้ากับผมครั้งแรกเขาก็เดินตรงดิ่งมาหาผมและพูดทิ้งท้ายสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคำพูดที่เกิดขึ้นจากความจริงจังพร้อมชี้นิ้วมาที่ใบหน้าของผม
“นายน่ะ ที่ใส่ตุ้มหูเพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างใช่มั้ย เพราะอยากหนีจากความน่าเบื่อหน่ายของตัวเองใช่มั้ย เพราะอยากหนีจากความน่าเบื่อของขอนแก่นนี่ใช่มั้ย แต่นายไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ เพราะอีกไม่นานฉันจะก่อสงครามกลางเมืองขึ้นในเมืองนี้ยังไงเล่า”
เอ๊ะ!?...
ความคิดเห็น