คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ช็อคโกแลต
ประวัติ
ช็อกโกแลตถูกค้นพบมาตั้งแต่สองพันปีที่แล้ว หลังสมัยพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ เป็นผลผลิตที่ได้จากเมล็ดของต้นคาเคา (cacao) ในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกา จัดอยู่ในตระกูล Theobroma cacao แปลว่า "อาหารแห่งทวยเทพ" ชนกลุ่มแรกที่รู้จักทำช็อกโกแลตเป็นอารยธรรมโบราณที่อยู่ในเม็กซิโก และอเมริกากลาง ชนกลุ่มนี้ได้แก่ชาวมายา และชาวแอซเทค แห่งอารยธรรมเมโสอเมริกา คนเหล่านี้เอาเมล็ดคาเคามาบดแล้วผสมกับเครื่องปรุงหลายชนิดเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มที่มีรสขมเฝื่อน นอกจากใช้ประกอบอาหาร แล้วช็อกโกแลตยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตเชิงศาสนาและสังคมด้วย
ชาวมายา (ค.ศ.250-900) เป็นชนชาติแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่าได้ค้นพบความลับของต้นคาเคาโดยพวกเขา ได้นำต้นคาเคามาจากป่าฝนและปลูกไว้ที่สวนหลังบ้าน พอออกฝักก็เก็บเอาเมล็ดมาหมักบ้าง คั่วบ้าง และยังบดเป็นเนื้อเหนียว อยากชงเป็นเครื่องดื่มก็เอามาผสมน้ำ โรยพริกไท แป้งข้าวโพด ก็จะได้เครื่องดื่มช็อกโกแลตรสซาบซ่ามีฟองฟ่อง
ต่อมาราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 อาณาจักรของชาวแอซเทคครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอารยธรรมเมโสอเมริกา โดยมีเมืองหลวงตั้งอยู่ที่เมืองปัจจุบันเรียกว่า เม็กซิโก ซิตี้ ชาวแอซเทคได้ซื้อขายเมล็ดคาเคากับชาวมายาและชนชาติอื่น และยังเรียกเก็บค่าบรรณาการจากพลเมืองของตนและเชลยเป็นเมล็ดคาเคาโดยใช้แทนค่าเงิน ชาวแอซเทคนิยมดื่มช็อกโกแลตขมเช่นเดียวกับชาวมายายุคแรกโดยปรุงรสชาติให้ซู่ซ่าขึ้นด้วยเครื่องเทศ ชาวเมโสอเมริกาสมัยนั้นยังไม่มีใครปลูกอ้อยก็เลยไม่มีใครใส่น้ำตาลกัน
เล่ากันว่า คนมายายุคคลาสสิกชอบดื่มช็อกโกแลตกันในวาระพิเศษขณะที่บรรดาเชื้อพระวงศ์จะนิยมดื่มกันมากส่วนชาวแอซเทค บรรดาผู้ปกครองระดับสูง พระ ทหารยศสูง และพ่อค้าที่มีหน้ามีตาเท่านั้นที่มีสิทธิลิ้มรสเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์นี้ ช็อกโกแลตมีบทบาทสำคัญในพิธีของราชวงศ์และศาสนา พระใช้เมล็ดคาเคาเป็นเครื่องสักการะเทพเจ้า และดื่มในพิธีสำคัญ
สำหรับที่มาของชื่อช็อกโกแลตนั้นยังไม่มีใครอธิบายได้แจ่มชัดแต่มีความเป็นไปได้สองทาง ทางแรกเป็นคำที่ผันมาจากคำว่า "ช็อคโกลัจ" ในภาษามายาซึ่งหมายถึง มาดื่มช็อกโกแลตด้วยกัน อีกทางหนึ่งอธิบายว่าน่าจะมาจากภาษามายาเช่นกัน คือ " chocol" แปลว่า ร้อน ผสมกับคำว่า "atl" ของแอซเทคที่แปลว่า น้ำ พอมารวมกันจึงกลายเป็นคำว่า chocolatl และมาเป็น chocolate ต่อมาในยุโรป
ช็อกโกแลต ( Chocolate) คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิด
ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้นโกโก้นั้นถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก (Aztecs) แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายและปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรสฝาดที่เข้มข้นมาก ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกในนาม "โกโก้"
ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดโกโก้รู้จักภายใต้หลายชื่อแตกต่างกันไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในอเมริกา อุตสาหกรรมช็อกโกแลตได้จำกัดความไว้ว่า
โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้
เนยโกโก้ (cocoa butter) คือไขมันของเมล็ดโกโก้
ช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของต้นโกโก้และเนยโกโก้
ช็อกโกแลต คือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของฝักถั่วโกโก้และเนยโกโก้ ซึ่งได้ผสมน้ำตาลและส่วนผสมอื่น ๆ และถูกทำให้อยู่ในรูปของแท่งและรูปอื่น ๆ
เมล็ดของต้นโกโก้นอกจากทำเป็นช็อกโกแลตได้แล้วยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ด้วย เช่น ช็อกโกแลตร้อน เครื่องดื่มช็อกโกแลตนั้นได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวอัซเตก (Aztecs) หลังจากนั้นโดยชนเผ่าอินเดียนแดงและชาวยุโรป
ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมที่นิยมมาก และมีให้เลือกในหลากหลายรูปแบบ รูปแบบและรสชาติของช็อกโกแลตนั้นแตกต่างกันได้โดยส่วนผสมและปริมาณของส่วนผสมในช็อกโกแลต นอกจากส่วนผสมแล้วรสชาติยังแตกต่างกันโดยระยะเวลาและอุณหภูมิของการคั่วเมล็ดโกโก้ด้วย
ช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลก ต้องเป็นช็อกโกแลตของประเทศเบลเยียม
เวลาไปร้านขายช็อกโกแลต หากเห็นช็อกโกแลตที่ทำท่าจะละลายในมือถือว่าเป็นช็อกโกแลตที่ดี เพราะแสดงว่ามีเนยโกโก้ผสมอยู่ในปริมาณสูง ควรมองหาชิ้นที่มีผิวมันเรียบ
ถ้าลองชิมได้อย่าซื้อที่กัดแล้วร่วงกราวเป็นเศษเล็กเศษน้อยหรือนิ่มเหลว
ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน (unsweetened chocolate) คือ ช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์หรือที่รู้จักกันในนาม ช็อกโกแลตฝาด ใช้ในการอบอาหาร และเป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติเข้มข้มและลุ่มลึกของช็อกโกแลตบริสุทธิ์ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อมีการเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี เค้ก ลูกกวาด และคุกกี้
ช็อกโกแลตดำ (dark chocolate) คือช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งบางครั้งก็ถูกเรียกเป็นช็อกโกแลตธรรมดา แต่ว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเป็นช็อกโกแลตหวาน และกำหนดให้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 15% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 35% ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ป้องกันมิให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว สาเหตุของการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูง
ช็อกโกแลตนม (milk chocolate) คือช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดว่าหากจะเรียกว่าช็อกโกแลตนม ต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25%
ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (cocoa butter) นม และยังเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย ช็อกโกแลตนมนี้ใช้สำหรับแต่งหน้าขนมได้เป็นอย่างดี ช็อกโกแลตนมที่ทำในประเทศสหรัฐฯ ต้องประกอบด้วยน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 10% และนมที่ไม่ได้เอามันเนยออก 12%
Chocolate Liquor เป็นผลผลิตจากเมล็ดโกโก้นำมาบดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตนี้สามารถทำให้เย็นและทำให้แข็งตัวโดยใส่พิมพ์ไว้ แต่ช็อกโกแลตที่ได้เป็นชนิดที่ไม่หวาน น้ำช็อกโกแลตนี้จะมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53% กลมกล่อม
ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (semi-sweet) อยู่ในรูปของเหลวแล้วเพิ่มความหวานและใส่เนยโกโก้ลงไปด้วย สีของช็อกโกแลตชนิดนี้สีจะเข้ม ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ จะมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27% ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติความหวานเล็กน้อย และกลมกล่อมลิ้นอย่างมากก
ช็อกโกแลตหวาน (sweet chocolate) ช็อกโกแลตชนิดนี้จะเพิ่มความหวานลงไปมากกว่าช็อกโกแลตแบบหวานน้อย และมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 15 % ช็อกโกแลตชนิดนี้ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมและตกแต่งขนม และยังมีไขมันเท่า ๆ กับช็อกโกแลตแบบหวานน้อย NA KA
ช็อกโกแลตขาว (white chocolate) ชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ แต่ไม่มีโกโก้ที่อยู่ในรูปของไขมัน แต่จะประกอบไปด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และใส่กลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ช็อกโกแลตขาวนี้จะแตกหักง่าย หากเป็นของปลอมจะทำมาจากน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้
Liquid Chocolate เป็นช็อกโกแลตที่ไม่หวาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายเป็นขวด ขวดละ 1 ออนซ์ และเนื่องจากมันไม่ละลายจึงสะดวกในการใช้มาก โดยพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ทำขนมอบ อย่างไรก็ดีเนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้ ซึ่งเนื้อช็อกโกแลตจะแตกต่างกัน ปกติแล้วช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสไม่หวาน
ช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ (couverture) เป็นชนิดที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือจะเป็นมันเงา โดยปกติจะมีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อยที่สุด 32% ทำให้มันสามารถคงตัวอยู่ในรูปของไขได้ดีกว่าชนิดเคลือบ ปกติแล้วจะใช้เฉพาะในร้านที่ทำขนมหวานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในรูปของส่วนที่เคลือบอยู่ภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตอยู่ 'มีรสเผ็ด;
Ganache ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีลักษณะข้นมาก เป็นที่นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต Ganache ทำโดยการเทวิปปิงครีมที่นำไปอุ่นลงไปในชอคโกแลตสับในปริมาณที่เท่ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนชอคโกแลตเริ่มละลายและคนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสมที่ข้นขึ้น อาจเติมเนยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงาให้กับกานาชด้วย
Confectionery Coating เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งรสชาติต่าง ๆ มีสีสันหลากหลาย ลูกกวาดที่ได้นี้ผงโกโก้จะมีไขมันต่ำ แต่จะไม่มีส่วนผสมของเนยโกโก้ เหมือนชนิดอื่น ๆ จึงแยกออกมาเป็นอีกประเภทหนึ่งได้
ประโยชน์ของช็อกโกแลต
ไม่นานมานี้ มีงานวิจัยที่ศึกษากับเพศชายจำนวน 8000 คนที่สำเร็จการศึกษาจากฮาร์วาร์ด พบว่า คนที่รับประทานช็อกโกแลตเป็นประจำมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่เคยรับประทานช็อกโกแลต สาเหตุที่กินช็อกโกแลตแล้วอายุยืนอาจเกี่ยวข้องกับ สารโพลีฟีนอลที่มีอยู่จำนวนมากในช็อกโกแลต โพลีฟีนอลเป็นสารที่ช่วยลดอนุมูลอิสระของไลโปโปรตีนความแน่นต่ำ และช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ความเชื่อดังกล่าวยังเป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่
ปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองเปรียบเทียบกลุ่มที่รับประทานช็อกโกแลตเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ให้รับประทานช็อกโกแลตเทียม เพื่อทดสอบความจำพบว่า กลุ่มที่กินช็อกโกแลตสามารถจดจำคำพูดและภาพได้ดีกว่า และยังเคลื่อนไหวตอบสนองได้คล่องแคล่วกว่า ปัจจุบันนักวิจัยกำลังทดลองซ้ำเพื่อเปรียบเทียบผลอยู่
การทดลองเหล่านั้นสอดคล้องกับชีวิตของคนที่มีอายุเกินร้อยปีหลายคน ยกตัวอย่าง ฌอง คลามงต์ (1875-1997) และ ซาร่าห์ เคลาส์ (1880-1999) ทั้งสองคลั่งไคล้ช็อกโกแลตมาก คลามงต์ มีนิสัยติดกินช็อกโกแลตอาทิตย์ละสองปอนด์จนกระทั่งแพทย์ต้องแนะนำให้เธอเลิกกินเมื่ออายุได้ 119 ปี สามปีก่อนที่เธอจะลาโลกไปด้วยอายุ 122 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุยืนมักแนะนำให้กินช็อกโกแลตดำแทนขนมหวานมีแคลอรีสูงและนิยมกันมากในอเมริกา
ในอังกฤษ ช็อกโกแลตแท่งสอดใส้คานาบิสนิยมใช้กับผู้ป่วยโรค multiple sclerosis หรือโรคปลอกหุ้มเส้นประสาทอักเสบ หรือเอ็มเอส เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดกับระบบประสาทส่วนกลางแบบฉับพลัน โรคดังกล่าวมีพัฒนาการอย่างช้าๆ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางสายตา การพูด เมื่อรักษาเฉพาะอาการแล้วอาจเกิดขึ้นอีกได้ และร้ายแรงถึงขั้นอัมพาต ตาบอด และเสียชีวิต
ในช็อกโกแลตมีส่วนประกอบมากกว่า 300 ชนิดที่ต่างกัน เช่นอนันดาไมด์ และเอ็นโดจีนัส คานาบินอยด์ที่พบได้ในระบบประสาท คนที่ไม่เชื่อแย้งว่า หากกินช็อกโกแลตให้ออกฤทธิ์ต่อประสาทได้จริงคงต้องกินกันทีละหลายปอนด์มากถึงเห็นผล และกินมากๆ ยังเสี่ยงเป็นนิ่วด้วย ถึงกระนั้น มีข้อมูลน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือ สารสองชนิดของอนันดาไมด์พบอยู่ในช็อกโกแลต ซึ่งเชื่อกันว่ามีผลช่วยยืดความรู้สึกสุขสบายให้ยาวนาน
ช็อกโกแลตยังมีกาเฟอีน แต่ไม่มากนักและยังสามารถหาได้จากแหล่งอื่นที่มีมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ช็อกโกแลตนมมีกาเฟอีนน้อยกว่าดื่มกาแฟชนิดกาเฟอีนต่ำเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ช็อกโกแลตมีสารทริพโทฟาน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญ ทำหน้าที่ควบคุมเซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ เมื่อร่างกายขับเซโรโทนินออกมาช่วยให้ผ่อนคลายความวิตกกังวลได้
ช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน สารที่คล้ายกับที่ได้จากฝิ่นที่ผลิตขึ้นเองในร่างกาย เมื่อร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินจะช่วยลดความเจ็บปวดได้ บางครั้งเชื่อว่า เอ็นดอร์ฟินมีส่วนช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและสงสัยกันว่าเป็นตัวที่ทำให้คนบางคนถึงขนาดติดช็อกโกแลตงอมแงม
วิธีทำช็อกโกแลต
Mixing ผงโกโก้นั้นทำโดยการแยกเอาโกโก้บัตเตอร์ออก แต่การทำช็อกโกแลตต้องเติมโกโก้ บัตเตอร์เข้าไปเพื่อช่วยเพิ่มรสชาด ในขั้นตอนนี้ ส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ในการทำช็อกโกแลต แต่ละชนิดจะถูกใส่เข้าไปในโกโก้ลิคเคอร์ที่เย็นแล้ว คือ น้ำตาล โกโก้บัตเตอร์ และวานิลาเล็กน้อย ผสมในเครื่องขนาดใหญ่จนเข้ากันส่วนน้ำตาลนั้น ใส่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิด ของช็อกโกแลต ที่ต้องการว่าเป็นแบบขมมาก (Extra-bittersweet) ขม (Bittersweeter) หวาน (sweetX หรือกึ่งหวาน (semi-sweet)
แต่หากเป็นช็อกโกแลตนมแล้ว จะใช้โกโก้คิลเคอร์น้อยกว่า และมีการเติมนมลงไปด้วยอาจเป็นได้ทั้งนมสดหรือนมผง ส่วนช็อกโกแลตขาว หรือ White chocolate ทำมาจากโกโก้บัตเตอร์ผสมนม แต่ไม่ว่าจะทำช็อกโกแลตแบบไหน และใช้ส่วนผสมอะไรนั้น ส่วนผสมทั้งหมดต้องผ่านขั้นตอน Couching ซึ้งจะทำให้ช็อกโกแลตข้นๆนั้นละเอียดขึ้น
Couching เป็นกระบวนการปรับปรุงรสชาดช็อกโกแลต ที่คิดค้นโดยรูดอฟล์ ลินต์
เป็นการนำช็อกโกแลตที่มีลักษณะกึ่งๆเหลวไปผ่านการ " นวด" โดยลูกกลิ้งหนักๆที่ไถ่ไปมา ในช็อกโกแลตระยะเวลาที่ใช้นั้น มีัตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงไปจนหลายวัน ขั้นตอนนี้ช่วยบดผสมผลึกน้ำตาลและผลึกอื่นๆ ในช็อกโกแลตให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกับช็อกโกแลต ช็อกโกแลตที่ผ่านกระบวนการนี้นานจะมีราคาแพงกว่าช็อกโกแลตที่ใช้ระยะเวลาในขั้นตอนนี้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นเมื่อคนกินจะรู้สึกได้ถึงผลึกของส่วนผสมเวลาที่ช็อกโกแลตละลายในปาก ช็อกโกแลตที่ดีที่สุดนั้น คุณจะรู้สึกได้ว่าละเอียด เรียบ เลื่อน เวลาที่มันละลายอยู่บนลิ้น
Tempering การปรับอุณหมภูมิเป็นขั้นตอนสำคัญสุดท้ายโดยนำช็อกโกแลตที่ได้จาก การconching มาปรับอุณหภูิมิ ร้อนสลับเย็นอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันการตกผลึก ก่อนเทลงแม่พิมพ์ให้เป็นช็อกโกแลตที่มีรูปร่างตามต้องการ ทั้งแบบแท่ง แบบก้อนเล็กๆ ที่พร้อมกินทั้นที หรือแบบก้อนใหญ่ขนาด 10 ปอด์น สำหรับผู้ผลิดขนมหวานนำไปใช้เป็นวัตถุดิบอีกที เมื่อช็อกโกแลตเย็นและแข็งตัวก็สามารถบรรจุหีบห่อได้ทันที
การทำช็อกโกแลตเทียม
ส่วนผสม
1.ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
2.นมผง 1 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนชา
4.ไขมันปาล์ม 20 กรัม
5. ส่วนผสมสุดท้ายคือน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะใส่ 1 ช้อนชาหรือ 2 ช้อนชาก็ได้
วิธีทำ
เมื่อได้ส่วนผสมทั้งอย่างพร้อมแล้ว นำไขมันปาล์มไปละลายในน้ำมันปาล์มโดยใส่ภาชนะกันร้อนแล้ววางในน้ำร้อนไม่เกิน 60 องศาเซลเซียสประมาณ 3-5 นาที ระหว่างนั้นผสมผงโกโก้ นมผงและน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกัน โดยหลังจากยกไขมันและน้ำมันปาล์มออกจากน้ำร้อนให้รีบเทส่วนผสมทั้งหมดลงภาชนะเดียวกัน และคนให้เป็นเนื้อเดียวกันทันที ซึ่งจะได้ช็อกโกแลตเหลวๆ แล้วเทใส่ภาชนะหรือพิมพ์ที่ต้องการ ก่อนให้นำไปแช่เย็น 3-5 นาที ก็จะได้ช็อกโกแลตแท่งพร้อมรับประทาน
อีกวิธีหนึ่ง
หาซื้อช๊อกโกแลตสำเร็จรูป (ที่เป็นเมล็ดแห้งหรือแท่ง)ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป เมื่อได้มาแล้วให้นำช็อกโกแลตสำเร็จรูปมาทำละลายด้วยวิธีง่ายๆ คือ
- เตรียมน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นำช็อกโกแลตใส่ในชามแก้ว แล้วลงแช่ในน้ำร้อนจนละลาย
- ยกขึ้น ให้อุณหภูมิต่ำลงที่ 28 องศาเซลเซียส
- จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ทิ้งไว้ให้เย็น
- ประมาณ 3 นาทีจึงค่อยแกะช็อกโกแลตออกจากแม่พิมพ์ ก็จะได้ช็อกโกแลตในรูปร่างที่ต้องการ (หากทิ้งไว้เกิน5นาทีรูปร่างช็อกโกแลตจะไม่สวย)
เคล็ดลับความอร่อยของช็อกโกแลต
ต้องเป็น “แบล็คช็อกโกแลต” หรือช็อกโกแลตดำเท่านั้นที่ใช้ในการทำช็อกโกแลต จึงจะเป็นช็อกโกแลตที่หอมและให้รสชาติความอร่อยได้ดีที่สุด และยังเป็นสูตรดั้งเดิมของชาวยุโรปด้วย(ที่สำคัญต้องไม่ใช่ช็อกโกแลตที่ทำจากนมหรือไวท์ช็อกโกแลต)
การเก็บรักษา
ควรเก็บช็อกโกแลตไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสเท่านั้น ไม่ควรเก็บช็อกโกแลตไว้ในตู้เย็นเพราะในตู้เย็นจะมีไอน้ำมาเกาะช็อกโกแลต ทำให้ช็อกโกแลตแฉะ เปลี่ยนสีและไม่น่ารับประทาน
รูปทรงช็อกโกแลต บ่งบอกความเป็นตัวคุณจากภายนอกมากและจริงแค่ไหน?
- ชอบกินช็อกโกแลตทรงกลม
เป็นคนชอบสังคม เป็นคนอบอุ่นและเพื่อนเยอะ มีความสามารถจัดการกับงานที่เกี่ยวกับคน เอาใจใส่คนอื่นตั้งแต่คนร่วมงานไปจนถึงคนรัก แต่กับตัวเองมักทำตัวตรงกันข้าม คือไม่จัดการกับตัวเอง ปล่อยให้น้ำหนักขึ้นบ้าง หรือเป็นไข้ไม่ยอมไปหาหมอ อะไรประมาณนี้ แถมยังไม่ชอบมีปากเสียงด้วย เหตุเพราะไม่อยากให้คนอื่นอารมณ์เสีย และนี่แหละทำให้คนผู้นี้เข้าไปยุ่งกับปัญหาคนอื่นแล้วติดกับ คือตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เหตุการณ์อย่างนี้เกิดแล้วเกิดอีก เหมือนวงกลม
ใครคนนี้เป็นคนหลงรักรูปร่างหน้าตาภายนอก ทั้งของคนอื่นและตัวเอง ซึ่งอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด คิดว่าเป็นคนหลง(รูป) ตัวเองและยึดติดกับเปลือก ให้เวลาสักหน่อย คนคนนี้จะเข้าถึงภายในหรือตัวตนที่แท้ของคนอื่นและของตัวเอง เมื่อนั้นแหละเขาอยู่ใกล้ใคร หรือใครอยู่ใกล้เขาก็มักอมยิ้มเสมอๆ
- ชอบช็อกโกแลตรูปไข่
ใครคนนั้นเป็นคนเพื่อนเยอะ และมีเครือข่ายวงนอกวงในมากมาย เป็นคนพูดจาเป็น ฉะฉานและถูกกาลเทศะ มักให้คำแนะนำคนอื่นอยู่เรื่อย ที่สำคัญชอบช่วยเหลือคนอื่น ยิ่งถ้าคนนั้นเป็นคนรักด้วยแล้ว ถึงไหนถึงกันทีเดียวเชียว
แต่เป็นคนค่อนข้างอ่อนไหว และมักมีบุคลิกสองด้าน อันเป็นผลจากอดีตที่ตัวเขาสลัดไม่พ้น การแสดงออกบางครั้งอาจสร้างความฉงนฉงายแก่ผู้ร่วมงาน คนไม่ชอบหน้าเขามักมองว่าตัวเองกำลังโดนเล่นงานอยู่เสมอ และถ้าหากเขาแสดงความจริงใจออกมาให้ทุกคนเห็น แม้แต่คนไม่ชอบหน้า ยังชื่นชมเขาก็แล้วกัน
- ชอบช็อกโกแลตทรงเหลี่ยม
นับว่าเขาหรือเธอผู้นี้มั่นคง ซื่อสัตย์และจริงใจ มิหนำซ้ำมองเห็นปัญหาก่อนเกิดปัญหา เพื่อนร่วมงานสบายใจเพราะคนคนนี้มีมาตรฐานสูงและทำอะไรตรงไปตรงมา และมักตัดสินใจไม่พลาด ใครคนนี้มีเพื่อนซี้สมัยเรียนคนหนึ่งสองคน หรือกลุ่มหนึ่ง แวะเวียนมาขอคำแนะนำ และเพื่อนๆ ก็รู้สึกดีกลับไปทุกคราว
แต่พอเป็นเรื่องส่วนตัวของตัวเอง กลับกลายเป็นหนังคนละม้วนเลยล่ะคุณเอ๋ย เขาหรือเธอกลับเรื่อยๆ เฉื่อยๆ มัวทำโน่นทำนี่ให้คนอื่น เรื่องของตัวเองจึงไม่เสร็จสำเร็จสักอย่าง
ความจำของคนชอบช็อกโกแลตทรงเหลี่ยมมีความจำเป็นเลิศ แต่บางครั้งเขาก็ทำตัวเป็นคนที่ไม่ยอมให้คนอื่นลืมเรื่องที่มันควรจะถูกลืมไปตั้งนานแล้ว...
- ช็อกโกแลตรูปสามเหลี่ยม
มักเป็นคนชอบลงมือทำมากกว่าอ่านตำรา มีความสุขกับการแก้ปัญหาและต้องทำแบบเห็นผลตอนนี้ทีเดียว นั่นหมายถึง เขาหรือเธอเป็นคนตัดสินใจเร็ว ปลายแหลมทั้งสามด้าน มันเหมือนพีระมิด สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการเป็นผู้นำ และสร้างกฎของตัวเองขึ้นมา
เมื่อทำสิ่งใดสำเร็จ เขาไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะรับความดีความชอบไว้แต่เพียงผู้เดียว ในขณะที่มีความล้มเหลวเกิดขึ้นใครคนเดียวกันนี้ชอบตำหนิว่าเป้นความผิดของคนอื่นทุกคราวไปได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่า คนพวกนี้ก็มักพาตัวเองเข้าสู่สถานการณ์ประหลาดๆ อยู่เสมอ
พวกเขามักเปลี่ยนที่พักพิงบ่อย พอๆ กับเปลี่ยนงาน ทั้งนี้เพราะไม่ใส่ใจกับคนรอบข้างที่ตามเขาไม่ทัน
1. ช็อกโกแลตสีขาว : เป็นคนมีพลังในตัวเองมากมายเหลือเฟือ เชื่อมั่นหรือลงมือทำอะไรแล้ว ราวกับมีจักรวาลในระบบหนุนหลังเป็นพลังงานให้ทีเดียวเชียว เป็นคนมองเห็นข้อดีและข้อเสียของการถกเถียง จึงสามารถสรุปปัญหาได้ค่อนข้างแม่นยำ
2. ช็อกโกแลตนม : เพราะเป็นคนรักรสชาตินม จึงเป็นคนชอบอยู่ในอดีตอันหอมหวาน และชอบที่จะสัมผัสความละมุนละไมในวัยเยาว์ รวมทั้งความทรงจำในอดีต ซึ่งมีแต่เรื่องความรื่นรมย์และสุขสันต์ ด้วยทุกสิ่งดำเนินไปแสนธรรมดาอย่างที่มองเห็น
3. ช็อกโกแลตสีเข้ม : มองไปเบื้องหน้า ครุ่นคิดแต่อยาคต ไม่ว่าจะพรุ่งนี้ เดือนหน้า หรือปีหน้า เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และคิดอยู่เสมอว่าตัวเองสามารถทำอะไรให้ต่างออกไปได้บ้าง... แม้ว่าสำหรับใครคนนี้ อดีตก็คืออดีต แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนอย่างเขาเลิกสะสมของเก่า นั่นจะหมายความว่าหญิงหรือชายผู้นี้เป็นคนหลงใหลในวัตถุได้หรือไม่?
4. ช็อกโกแลตรสขม : คนคนนี้รู้ว่าตัวเองพูดอะไร แถมยังชำนาญในสิ่งที่ทำ เมื่อยามต้องทำงานเป็นทีม ความคิดและการกระทำเช่นนี้ อาจถูกมองว่าเป็นเผด็จการ ความคิดที่ว่าคนอื่นต้องทำตามคุณมิเช่นนั้นคุณจะมองไม่เห็นค่า หรือความสำคัญของคนอื่น กระทั่งปฎิเสธพวกเขา …คนคนนี้อาจไม่รู้ว่าตัวเองสูญเสียอะไรไปบ้าง ก็ต่อเมื่อไปจนถึงจุดสูงสุดแล้วนั่นแหละ จึงรูว่าบนนั้นมันเหงา ว้าเหว่ และหนาวเหน็บเพียงใด
5. ชอบมันหมดนั่นแหละ : เป็นคนง่ายๆ สบายๆ และชอบประนีประนอม มิหนำซ้ำยังเข้าใจเรื่องราวทุกสถานการณ์และทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะเช่นใด เป็นคนตามสถานการณ์ และไม่ใคร่ตกข่าว เข้าจังหวะชีวิต แต่ไม่ชอบอยู่คนเดียวและถูกทิ้งไว้ข้างหลัง...
- คุณเป็นคนหนึ่งรึเปล่า ที่เอาช็อกโกแลตใส่ปากเสร็จก็ขยำๆ กระดาษห่อ แล้วทิ้งลงตะกร้าโดยไม่แม้แต่เหลือบสายตาไปมอง
นี่อาจหมายความว่า คุณพลาดอะไรบางอย่างไปในเรื่องของความรักและเซ็กซ์ บางอย่างที่ว่าอาจเป็นสายตาที่มองคุณ อาจเป็นสัมผัส หรือแม้แต่น้ำเสียงของใครบางคนที่กำลังทอดสะพานให้คุณ คุณมีความคิดอันแตกกระสานซ่านเซ็น และมันยากที่จะรวบรวมหรือมุ่งไปสู่เรื่องใดเรื่องหนึ่งในคราวเดียว
แม้แต่บนเตียงความคิดคุณยังล่องลอย คุณสนุกกับเซ็กซ์เพราะมันเป็นเซ็กซ์ แต่จริงๆแล้วคุณไม่รู้หรอกว่า เสียงบ่นพึมพำข้างๆ หูของคุณในเวลานั้นมันหมายถึงอะไร
- คุณชอบพับกระดาษเล่นไปเรื่อยเปื่อยราวกับเวลาของคุณไม่จบสิ้น
นี่หมายความว่า ห้องนอนของคุณต้องเนี้ยบเนียนสะอาดปราศจากเศษฝุ่นไปทุกซอกทุกมุม ในตู้ บนหลังตู้ ใต้ตู้เสื้อผ้า กระทั่งลิ้นชักก็วางทุกอย่างเป็นระเบียบ
กระทั่งความคิด คุณยังมีระบบระเบียบอย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนอย่างคุณเรื่องบนเตียงต้องมาหลังจากเสร็จธุระปะปังและหลังมื้อเย็น พูดถึงเรื่องบนเตียงคุณยังกังวลว่าทำถูกวิธีหรือไม่อีกต่างหากนะ มิหนำซ้ำคุณยังกำหนดว่า เรื่องบนเตียงต้องเป็นบนเตียงเท่านั้น ไม่ใช่บนพรม... อุ๊บส์
พอเสร็จกิจก็ยังต้องอาบน้ำชำระเพื่อให้ร่างกายสะอาด นี่คือสิ่งที่คุณเห็นว่ามันจำเป็นที่สุด
- ชอบหรือเปล่าที่จะพับกระดาษเป็นลูกกลมแล้วเล่นดีดไปดีดมาบนโต๊ะอีกต่างหาก
นั่นหมายถึงคุณกำลังส่งสัญญาณให้คนอื่นรู้ว่า คุณกำลังเบื่อหน่ายเรื่องบนเตียงกับใครคนนั้น คุณต้องการความตื่นเต้น สีสันเร้าใจ บางทีตอนนี้มันอาจถึงเวลาของคุณแล้วก็ได้ เวลาที่คุณจะขยายขอบเขตแห่งจินตนาการในชีวิตเรื่องความรักออกไปให้ไกลสุดขอบฟ้า
อย่าไปอิจฉาคนอื่น เพราะนั่นเท่ากับรั้งคุณไว้ไม่ให้ไปถึงไหน และอย่าปล่อยความคิดให้เตลิดเปิดเปิง เพราะไม่ว่าคุณจะมีอะไรกับใคร ที่ไหน อย่างไร ความจริงมีอยู่ว่า คุณมองเห็นหรือยังว่าคุณกำลังมองหาอะไร รู้รึยังว่าอะไรคือสิ่งที่ขาดหายไป จนทำให้คุณเกิดความเบื่อหน่ายกับคนที่คุณอยู่ด้วยในขณะนี้
- คุณชอบฉีกกระดาษแต่ไม่ให้ขาด เพื่อดูว่ามันจะยาวได้แค่ไหน
ว่ากันว่านี่มันมีเงื่อนงำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างคนสองคน ห้วงเวลานั้นคุณอาจกำลังคิดว่า ครั้งนี้หรือคนนี้ ดีกว่าครั้งที่แล้วหรือคนที่แล้วรึเปล่านะ?
คุณกำลังจะปรับปรุงอะไรบางอย่างและเริ่มจากตัวเอง คือมันเกี่ยวกับคนอื่น แต่ต้องเริ่มจากตัวคุณเองก่อน มันค่อนข้างยากสำหรับคุณในการที่จะสืบสานต่อความสัมพันธ์ เพราะคุณมีความเชื่อลึกๆ อยู่ว่า บางทีคุณอาจจะพลาดอะไรไปรึเปล่าในการที่ต้องอยู่กับคนรักเพียงคนเดียว
- คุณใช้เหรียญหรือเล็บรีดกระดาษห่อช็อกโกแลตให้เรียบ หมายถึงเรียบกริบเชียวนะ
คุณไม่ถึงกับหมกมุ่นในเรื่องบนเตียง แต่ก็คิดถึงอยู่บ่อยๆ ถ้าคุณกำลังทำอะไรที่ว่านี้ต่อหน้าคนรักอยู่ล่ะก็ มันหมายถึงคุณกำลังส่งสัญญาณว่า กลับรวงรังของเรากันเถอะ...
คุณเป็นคนให้ความสำคัญกับการเล้าโลม และชอบที่จะถูกกระทำด้วยเช่นกัน เพราะสำหรับคุณแล้ว การเริ่มต้นมีความสำคัญมากกว่าเรื่องที่จะตามมา
- คุณชอบม้วนหรือใช้มือรูดๆ ถูๆ ให้กระดาษเป็นหลอดใช่มั้ย
มันหมายความว่า คุณกำลังทำตัวเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก หรือคิวปิด ผู้กำลังเป่าลูกศรผ่านหลอดที่คุณทำขึ้นกับมือ คุณชอบจับคู่ให้คนอื่น ชอบเข้าไปจัดแจงเรื่องความรักของคนอื่น แล้วของตัวคุณเองล่ะ?
เรื่องความรักบางทีเขาว่า คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า ตัวคุณเองจะว่าไง คุณอยากให้คนมีความสุขกับชีวิตคู่เหมือนที่คุณได้รับ หรือ...?
- ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชอบช็อกโกแลตไม่ห่อกระดาษ
นั่นอาจหมายความว่า คุณไม่ชอบความตื่นเต้นขณะเริงร่ากับคนรัก คุณชอบแบบที่เห็นๆ ด้วยตามากกว่า
ถ้าเป็นเรื่องตื่นเต้น มันก็ต้องเป็นเรื่องที่เห็นในขณะนั้น จะมาเห็นเอาตอนด้ายกำลังเข้าเข็ม ย่อมไม่ใช่คุณ
ว่ากันว่า คนแบบคุณไม่ใคร่อดทนกับเรื่องบนเตียงเท่าใด จนกระทั่งบางทีข้ามเรื่องโอ้โลมปฏิโลมไปเสียหน้าตาเฉย และพอใจอยู่แค่การมีอะไรกันเพียงอย่างเดียว
ความคิดเห็น