ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4
บทที่ 4
แสงแดดยามเช้าส่องรอดผ้าม่านเข้ามา แยงตาผมจนต้องลุกขึ้นจากที่นอนขนาดคิงไซส์ ถึงแม้ว่าผมอยากจะนอนต่อแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถสู้รบกับแสงจ้านี่ได้ จึงต้องลากสังขารมายืนจ้องตัวเองในกระจกห้องน้ำอยู่เนี้ย...
กระจกสะท้อนภาพของเด็กหนุ่มผมรองทรง ผิวขาวตามเชื้อสายจีน หน้าตาธรรมดาค่อนไปทางหวาน แต่ใต้ตากลับมีร่องรอยดำคล้ำจากการนอนไม่พอปรากฎอยู่
ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ นอกจากต้องคิดเรื่องรังสิมันต์ที่อยู่ๆก็พูดอะไรเลี่ยนๆแบบนั้น ก็ยังมีไอห้องสุดหรูชวนนอนไม่หลับนี้อีก ถ้าคุณนึกภาพไม่ออกล่ะก็ ลองนึกถึงพวกห้องฟรุ้งฟริ้งสไตล์เจ้าหญิงในการ์ตูนดิสนีย์ดูสิครับ คิดดูว่าเด็กผู้ชายอกสามศอก วัยอย่างผมต้องมานอนห้องที่มีแต่ระบายลูกไม้แบบนี้ มันจะหลับลงได้ไง!!!
"เฮ้อ~ คิดมากไปคงไม่ได้อะไรขึ้นมา เอาเถอะ อาบน้ำดีกว่า"
ผมงึมงำ พูดคนเดียวก่อนจะเดินไปอาบน้ำ เตรียมตัวรับกับวันนี้ ที่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองโผล่มาอยู่ในโลกแฟนตาซีแบบนี้ ถ้าไม่ลืมตามาเจอระบายลูกไม้บนเตียงล่ะก็นะ ฮะ ฮะ ฮะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังพยายามผูกผ้าพันคอที่เป็นจีบแบบพวกชุดเจ้าชายแฟนตาซี แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ เหลือแต่การใส่เสื้อเชิตตัวไหน ตามด้วยเสื้อกั๊ก แล้วตบท้ายด้วยเสื้อคลุม เอ๊ะ หรือเรียกสูท ผมเดินไปเปิดประตูก็พบกับสาวเมดหูแมวผมทอง ตาสีฟ้าใส โคตรสวย ที่สำคัญหนองโพมหึมานั้นมัน...โคตรดี
"ว่าที่พระชายาเพคะ องค์รัชทายาทให้เชิญท่านไปพบที่ห้องอาหารเพคะ" เธอโค้งคำนับด้วยท่าทางอ่อนน้อมสุดๆ อ้า...อย่าโค้งเยอะเลยครับ ถึงชุดจะมิดชิด ไอกันต์ก็ใจไม่ดีครับ..
"เอ่อ..เรียกว่า กันต์เถอะครับ อย่าเรียกว่าที่พระชายาเลย ผมไม่ชินเลยครับ"
"เกรงว่าจะไม่เหมาะสมเพคะ ท่านเป็นถึงว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาท ส่วนดิฉันเป็นแค่เมด ไม่อาจเรียกชื่อท่านได้ค่ะ เชิญว่าที่พระชายาที่ห้องอาหารเถอะเพคะ"
"อ่า ครับ" เธอเดินนำผมไปยังห้องอาหารอย่างสุภาพ เมื่อเปิดประตูเข้าก็พบรังสิมันต์ที่นั่งอยู่ ทั้งที่สวมชุดคล้ายกันแท้ๆ แต่เขากลับดูดีมีสง่าผิดกับผมลิบลับ อาจจะเพราะเขามีโครงร่างสูง แขนขายาว หุ่นแบบพวกนายแบบยุโรป โครงหน้าเรียว ได้สัดส่วน จมูกโด่ง ตาสีฟ้าใสเหมือนทองฟ้า ผมยาวสลวยสีทองมัดเป็นหางม้าผูกโบว์ไว้อย่างปรานีต อืม..จะว่าไป ลักษณะของเขาก็คล้ายพวกเอลฟ์ในเทพนิยาย ในเกม ไม่ก็พวกเทวดา หรือเจ้าชายในเกมจีบหนุ่ม ผมมองรังสิมันต์ด้วยสายตาอิจฉาตาร้อนกับความหล่อไม่บันยะบันยังของเขาสักพักก่อนจะหันไปเห็น บนโต๊ะยาวเต็มไปด้วยอาหารสไตล์ยุโรปแบบฟูลคอร์สนี่มันอะไรกันนี้ ทั้งซุปทั้ง ขนมปัง ไหนจะสลัด โอโห้..มันเยอะเกินไปแล้ว ผมอึ้งไปกับอาหารตรงหน้าจนเผลอยืนค้างไปสักพัก จนรังสิมันต์ต้องเอ่ยปากเรียกผมให้หลุดจาภวังค์
"กันต์ ยืนเช่นนั้นไม่เหมื่อยหรือ นั่งก่อนเถอะ"
"เอ่อ ครับๆ"ผมที่หลุดจากภวังค์ของอาหารตรงหน้าก็รีบรับคำเขา ก่อนจะเดินตรงไปยังที่นั่งข้างเขา เขาลุกขึ้นมาเลื่อนเก้าอี้ให้ผม รอจนผมนั่งเรียบร้อย จึงกลับไปนั่งที่ตัวเอง ไม่ชินเลยแหะ กับโต๊ะอาหารสุดหรู ช้อน ส้อมเยอะแยะดูมากพิธีการแบบนี้ รังสิมันต์สังเกตุเห็นถึงความอึดอัดของผมได้ เขายิ้มบางๆก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหวังให้ผมผ่อนคลาย
"เจ้าลองทานอาหารหน่อยเถอะ พ่อครัวที่นี้ฝีมือดีอยู่ หวังว่าเจ้าจะถูกปาก หากมีอะไรที่เจ้าทานไม่ได้ ให้บอกนะ ข้าจะให้เขาเปลี่ยนให้ อีกอย่างแค่มื้อเช้า ที่เจ้าจะต้องทานแบบมีพิธีการ ข้าจะสอนเจ้า พอตอนเที่ยงเราจะทานอาหารมื้อเล็กๆง่ายๆ เจ้าจะได้สบายใจขึ้นดีหรือไหม?"
"จริงเหรอครับ?" ผมตาเป็นประกายด้วยความดีใจ อย่างน้อยทนอึดอัดแค่มื้อเช้าก็ยังดี ผมเข้าใจที่เขาพยายามจะให้ผมเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหาร ยังไงถ้าผมอยู่ที่นี้ก็ต้องวางตัวให้เป็นล่ะนะ
"จริง เอาล่ะเรามาเริ่มกันเถอะ กันต์"
เขาเอื้อมมือเรียวได้รูปไปหยิบเอาผ้าเช็ดปากที่ถูกพับเป็นรูปหงส์ตรงกลางจานของผม แล้วคลี่มาวางเบาตักผมให้อย่างเบามือ ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบผ้าเช็ดปากคลี่ออก วางลงบนตักตนเอง
"คราวนี้ เจ้าทำตามข้านะ"
เขาหยิบเอาช้อนหัวกลมที่อยู่ขวามือสุดด้านนอกของจำนวนอุปกรณ์การกิน ชูขึ้นให้ผมดู
"นี่เรียกว่าช้อนซุป จะวางอยู่ด้านขวามือสุดของเจ้าเสมอ ใช้สำหรับทานซุป เวลาตักเจ้าต้องใช้ช้อนตักออกจากตัว จับช้อนเบาๆ ตักเฉพาะด้านบน อย่าจ้วงเยอะ และอย่ากางศอก"
เขาตักซุปเข้าปากด้วยท่าทางสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ไม่ติดขัดหรือเคอะเขินเลยสักนิด ซุปครีมผักโขมสีเขียวอ่อนดูเข้มข้นทำให้ผมเริ่มอยากลิ้มลองดูบ้าง จึงเริ่มหยิบช้อนและเลียนแบบรังสิมันต์ แต่มันไม่ง่ายเลย ถ้าผมไม่เผลอกางศอก ก็จะใช้ช้อนตักเข้าหาตัวด้วยความเคยชิน รังสิมันต์ก็รอผมกินอย่างเงียบๆ เขารอจนผมกินซุปเสร็จก็หยิบเอาขนมปังโฮลวีต แบบก้อนสีน้ำตาลอ่อน ที่ยังอุ่นๆราวกับเพิ่งอบเสร็จจากเตา ส่งกลิ่นหอมของแป้งโฮลวีตธัญพืช ขึ้นมาบิออกเป็นชิ้นเล็กๆพอคำ
"ขนมปังที่ทานคู่กับมื้ออาหาร เจ้าจะขอเพิ่มได้แต่เอาให้พอเหมาะพอดี เวลาทานเจ้าต้องบิออกเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ ห้ายกกัดนะ"
เขาพูดจบก็เอาเข้าปากแล้วมองมาทางผม เป็นเชิงให้ผมทำตาม ผมบิขนมปังเป็นชิ้นเล็กแล้วกินเข้าไป ขนมปังมันนุ่มและหอมจนผมอยากจะกินต่อจนหมดชิ้นแต่ก็กลัวจะอิ่มแล้วกินอย่างอื่นต่อไม่ได้ พอผมเริ่มกินซุปและขนมปังเสร็จ เขาจึงส่งสัญญาณให้เมดเอาสลัดมาเสิร์ฟ ซึ่งเป็นซีซ่าสลัด เป็นผัดสลัดสดสีเขียว กรอบ ราดด้วยซอสครีมซีซ่า โรยด้วยเบคอนกรอบชิ้นเล็กๆ ขนมปังกรอบสี่เหลี่ยวชิ้นเล็ก และโรยด้วยชีส
"สลัด เจ้าต้องใช้ส้อมสลัดซึ่งอยู่ซ้ายมือสุดของเจ้า ใช้ส้อมคว่ำจิ้มอาหาร ห้ามหงายส้อมตักอาหารนะ"
เขาทำเป็นตัวอย่างอีกครั้ง พอต่อจากจานสลัดก็เป็นจานหลัก เป็นเซตอาหารเช้าแบบฝรั่งที่ผมคุ้นเคย เป็นจานที่ประกอบไปด้วยไข่ดาวไม่สุก 1 ฟองไข่แดงเยิ้มๆ ไส้กรอกย่างได้ที่ส่งกลิ่นหอม 2 ชิ้น และยังมีเบคอนทอดสุก อีก 2 ชิ้น มีถั่ว มะเขือเทศเชอรี่ ผักสลัดอีกนิดหน่อยเคียงจาน ...บางทีการกินเป็นคอร์สแบบนี้ก็หนักไปสำหรับมือเช้าแฮะ
"อาหารจานหลักเราจะใช้ส้อมเนื้อและมีดเนื้อที่ถัดเข้ามา ห้ามใช้มีดตักอาหารเข้าปาก เจ้าจะต้องใช้ส้อมมือซ้าย มีดหั่นด้วยมือขวา ทีละคำ หั่นแล้ววางมีด ย้ายส้อมมามือขวา เพื่อจิ้มอาหารเข้าปาก หากเจ้าจะดื่มน้ำระหว่างมือ เจ้าต้องวางอุปกรณ์ในมือให้เรียบร้อย ใช้ผ้าซับริมฝีปากก่อนดื่มน้ำ เมื่อทานจานหลักเสร็จ จะมีของหวาน แต่ในมือเช้านี้ ข้าเกรงว่าจะหนักไปสำหรับเจ้า จึงไม่ได้สั่งให้เตรียมไว้ ชาร้อนเมื่อเจ้าใช้ช้อนคนแล้ว ให้วางไว้บนจานรอง เวลายกดื่มเจ้าใช้มือยกขึ้นมาแนบริมฝีปาก อย่าก้มตัวไปดื่ม ระหว่างทานทั้งมือต้องนั่งตัวตรง" และแล้วมือเช้าก็จบด้วยความรู้ที่อัดเต็มหัวผม แต่ก่อนที่ผมจะได้ลุกขึ้น เขาก็ลุกมาเลื่อนเก้าอี้ให้ผม อย่างสุภาพบุรุษสุดๆ แต่แบบว่าผมเองก็เป็นผู้ชายนะครับ ให้ผมทำเองก็ได้ แต่ก็นะ ได้แค่คิด ไม่กล้าบอกหรอกครับ 555
"เมื่อเจ้าทานเสร็จ รวบช้อนวางไว้ข้างใดข้างหนึ่งของจาน ผ้าเช็ดปากให้พับให้เรียบร้อยแล้ววางบนจานด้วยนะ"
"ครับ ผมจะจำได้หมดไหมเนี้ย เฮ้อ" ผมบอกเขาด้วยความกังวล มันเยอะเกินกว่าที่เขาสอนครั้งเดียวผมจะจำได้ ถึงจำได้ แล้วจะทำได้เป็นธรรมชาติ ดูดีแบบเขาได้ไหม นั่นก็อีกเรื่อง เขาสังเกตุว่าผมกังวลมาก อาจจะเกินเหตุไปนิด เขาเลยเอือมมือมาลูบหัวผมเบาๆ พลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ กันต์ ข้าจะค่อยๆสอนเจ้าไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะจำได้เอง ข้ามีเวลาสอนเจ้าได้ ตลอดชั่วชีวิตนั่นล่ะ"
"ห๊ะ! 0o0" พอผมได้ยินประโยคปลอบใจที่โคตรจะแปลกๆนั้น ก็เผลออ้างปากค้างออกมา อืม...รังสิมันต์ ถ้าเขาไม่ใช่พวกเสือผู้หญิงก็พวกหน้าด้าน ที่พูดอะไรเลี่ยนๆออกมาได้โดยไม่อายเลยสักนิด เขาเห็นผมอ้าปากค้างไปก็มองผมแบบเป็นห่วง โดยไม่รู้เลยว่าการกะทำของตัวเองนั้นแหละ ที่ทำให้ผมทำสีหน้านั่นออกไป
"กันต์..เจ้าไม่สบายรึ สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ"
"ไม่ ผมไม่เป็นไรครับ แค่น่าจะง่วงนิดหน่อย นอนไม่ค่อยพอน่ะ ไม่ชินที่"
"งั้นรึ งั้นข้าจะให้เขาแต่งห้องให้เจ้าใหม่ เอาให้เรียบขึ้นดีรึไหม"
"ดีครับ ว่าแต่คุณรู้ได้ไง ว่าผมอยากได้ห้องเรียบๆ"
"เจ้ามักจะทำชอบของที่ไม่หรูหรา ข้าสังเกตุดูก็พอรู้"
"งั้นเหรอครับ ว่าแต่กินข้าวเสร็จ คุณจะไปไหนต่อ แล้วผมต้องไปไหนต่อครับ?"
เขาเริ่มออกเดินไปเปิดประตูให้ผม เราเลยเดินไปด้วยกัน ในตอนแรกผมก้าวตามเขาไม่ค่อยทัน เขาจึงผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงแล้วมาเดินข้างๆกัน
"ข้าต้องไปทำงาน มีรายงานมากเกินกว่าที่ข้าจะพาเจ้าไปข้างนอก หรือ พาเจ้าไปทำอะไรได้ ส่วนเรื่องการวางตัวจะมีอาจารย์มาสอนเจ้า แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม เจ้าคงต้องรออีกหน่อย ข้าต้องขออภัยด้วย"
"อืม ไม่เป็นไรครับ เอาจริงๆแล้ว ผมก็ไม่อยากเรียกนิดหน่อย ฮะๆๆ แล้วผมต้องทำอะไรล่ะครับ?"
"เจ้าไปอ่านหนังสือที่ห้องทำงานข้าดีหรือไม่ หรืออยากทำสิ่งใด"
"เอ่อ..อ่านหนังสือก็อยากนะครับ แต่ก็อยากวาดภาพที่สวนเมื่อวานด้วยอ่ะครับ"
"ได้ งั้นข้าจะสั่งให้เขาหาอุปกรณืวาดภาพให้เจ้า ที่สวน กลางสวนนั้นมีศาลากุหลาบอยู่ ที่นั้นน่าจะเหมาะ"
เขาตอบผมเสร็จก็ หันไปสั่งพวกเมดที่เดินตามมาด้านหลัง ก่อนจะสั่งพ่อบ้านคนสนิท
"พวกเจ้าไปจัดหาอุปกรณ์วาดภาพ ของว่างและน้ำชา ไปจัดที่ศาลากุหลาบที่สวน ส่วนเจ้าตามข้าไปเอาเอกสาร งานข้าตามไปที่ศาลา วันนี้ข้าจะทำงานที่นั้น"
"เอ๊ะ รังสิมันต์ ท่านก็จะไปที่นั้นด้วยเหรอครับ?"
"ใช่ ข้าว่าเปลี่ยนบรรยากาศบางก็ดี กันต์เจ้าจะตามข้า ไปเลือกหนังสือเพื่อจะไว้อ่านตรงศาลาหรือไม่?"
"ครับ"
ผมเดินไปเลือกหนังสือพวกนิยาย ประวัติศาสตร์ เทพนิยายอะไรแบบนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในห้องทำงานของรังสิมันต์ด้วย เมื่อผมเลือกเสร็จ เขาก็เอาหนังสือผมไปถือ ก่อนจะเดินนำไปยังศาลาที่เราเจอกันเมื่อวาน เราใช้เวลากันอย่างเงียบๆ ผมวาดภาพ อ่านหนังสือ พยายามไม่กวนเขาเวลาทำงาน เขาจริงจังและดูเคร่งเครียดเอามากๆ แต่ก็ไม่ลืมหันมาใส่ใจดูแลผม ทั้งคอยถามเรื่องของว่าง น้ำชา เขารินชาให้ผม ด้วยไม่สนว่าตัวเองเป็นถึงองค์รัชทายาท หรือจะค่อยชวนผมคุยบางเป็นบางครั้งไม่ให้ผมเบื่อ ถึงจะไม่ได้บ่อยเพราะเราต่างคนก็ต่างทำงานกันไป
เพราะบรรยากาศพาไป ดินสอในมือผมก็เผลอร่างภาพเป็นภาพของรังสิมันต์ที่กำลังทำงานท่ามกลางดอกไม้หลากหลายสายพันธ์ในศาลากุหลาบหลากสีไปเสียแล้ว พอรู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปยันเที่ยงเสียแล้ว
"เจ้าหิวหรือยัง ทานอาหารเลยรึไม่"
"อืม ก็นิดหน่อยครับ แต่ผมยังวาดรูปไม่เสร็จเลย ผมอยากนั่งวาดต่ออีกเล็กน้อย รังสิมนต์ทานก่อนก็ได้นะ"
"ไม่ล่ะ ให้เมดเอาของทานง่ายๆมานั่งทานตรงนี้ด้วยดันเลยดีไหม?"
"ครับ แบบนั้นก็ได้ครับ"
"ครับ แบบนั้นก็ได้ครับ"
พวกพ่อบ้านและเมด ก็นำเอาอาหารเที่ยงแบบง่ายๆ อย่างพวกแซนวิส มาจัดวาง พร้อมน้ำชา กาแฟ พอเรากินอาหารเที่ยงกันเสร็จก็ต่างคนต่างทำงานต่อ เวลาล่วงเลยไปยันเย็น ผมเงยหน้าจากภาพรังสิมนต์ที่ลงสีใกล้สเร็จแล้ว มามองเขา เขามีท่าทางเหนื่อยล้าเล็กน้อย คงจะปวดตา เพราะต้องนั่งอ่านหนังสือทั้งวัน ผมนึกอะไรออกนิดหน่อยเลยว่าจะขอเขาทำตามที่คิด
"รังสิมันต์...ผมขอทำอาหารเย็นได้ไหม"
"หืม เจ้าอยากทานอะไรล่ะ ให้พ่อครัวทำให้ จะได้ไม่เหนื่อยดีไหม"
"ผมอยากทำเองมากกว่าอ่ะ นะ นะ รังสิมันต์"
"อืม ได้ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น"
ผมยิ้มขอบคุณเขาด้วยความดีใจ เพราะจะได้ลองทำอาหารไทยให้เขากินบาง ไม่รู้ว่าที่นี้จะมีอาหารไทยรึเปล่า แต่จากอาหารวันนี้แล้ว มันก็เหมือนของโลกของผม คิดว่ามีวัตถุของไทยบางแหละ หวังว่านะ..
พ่อบ้านนำทางผมไปยังห้องครัวส่วนเขาก็คงทำงานต่อ เห็นบอกว่าเดี่ยวจะตาม
...........................................................................................................................
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่าาาา
มาช้าแต่มานะคะ อิ อิ ^w^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น