คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มเรื่อง
เมื่อเสียงเพลงจบลง ร่างระหงในชุดบัลเล่ห์สีชมพูอ่อนสำรวจตนเองบกระจกบานใหญ่ ก่อนจะเดินมายังโซฟาเล็กๆหน้าห้อง วิวาตรีไหว้มารดาพร้อมก้มลงกอดอย่างสนิทสนม
“คุณแม่มานานรึยังค่ะ”
“ซักพักแล้วล่ะจ๊ะ แล้วนี่หนูซ้อมเสร็จแล้วใช่ไหมจะได้กลับกันเลย”
“ค่ะ แต่สองขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะค่ะ”
คนอายุมากกว่ายิ้มให้แทนคำตอบว่าอนุญาติ ร่างบางจึงค่อยๆเดินไปยังห้องแต่งตัวทางด้านซ้าย ไม่นานวิวาตรีก็ออกมาในชุดเดรสสีครีมยาวประมาณเข่า ช่วยขับให้ใบหน้าเนียนนั้นดูผ่องใสยิ่งขึ้น
“ไปกันเถอะค่ะคุณแม่”
คุณหญิงชลฤดีพยักหน้กับบุตรสาวเป็นเชิงตอบก่อนจะเดินนำออกไปยังลานจอดรถด้านนอกของสถาบันสอนบัลเล่ชื่อดัง รถคันโตสีดำสนิทจอดรอผู้เป็นเจ้าของอยู่อย่างสง่างาม คุณหญิงชลฤดีเปิดประตูทางด้านหลังพร้อมกับเข้าไปนั่ง ตามมาด้วยบุตรสาว
เมื่อประตูรถปิดลงคุณหญิงชลฤดีกล่าวกับคนขับรถด้านหน้าว่าให้กลับบ้าน รถคันหรูจึงค่อยๆเคลื่อนตัวไป ข้างหน้า
“นี่ยายสองเตรียมตัวพร้อมรึยัง อีกสองสามวันก็จะเปิดเทอมแล้วนะ”
“ ค่ะ แต่ความจริงแล้วคุณแม่น่าจะให้สองเรียนที่กรุงเทพฯมากกว่านะคะ เพราะโรงเรียนดีๆที่กรุงเทพฯก็มีถมเถไป ไม่เห็นต่อถ่อสังขารไปเรียนถึงเชียงใหม่เลยค่ะ อีกอย่างสองก็ชักจะเบื่อโรงเรียนเก่าแล้วด้วย คุณแม่ให้สองย้ายโรงเรียนเถอะนะคะ”
“อะไรกันฮะยัยสอง อยู่ไม่ถึงปีจะมาบอกว่าเบื่อได้ยังไงกัน แล้วนี่โรงเรียนก็จะเปิดแล้วจะมาย้ายอะไรกันตอนนี้ แม่จะไปหาโรงเรียนที่ไหนให้ทัน”
“โธ่คุณแม่คะระดับคุณหญิงอย่างคุณแม่เนี่ยจะหาโรงเรียนให้ลูกสาวไม่ได้เชียวเหรอคะ”
“ไม่รู้ละยังไงก็อยู่ไปก่อน อยู่โรงเรียนประจำนะจะได้ดัดนิสัยชะย้างถ้าแม่ให้มาเรียนที่กรุงเทพเราก็จะเอาแต่เล่นนะสิ ยังไงเรื่องนี้ค่อยเอาไว้พูดกันทีหลัง แม่จะดูผลการเรียนปีนี้ก่อนถ้าดีก็อาจจะมีสิทธิ์ย้าย”
การสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น วิวาตรีรู้ดีว่ามารดาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นถึงจะฝืนดึงดันต่อไปก็ไร้ประโยชน์ เธอจึงเพียงแต่นั่งเงียบๆแทน
รถสปอตสีแดงดำเคลื่อนตัวเลี้ยวเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของก้าวออกจากรถอย่างอารมดีอัชชารัช สาวเท้าไปข้างในบ้าน หันมองไปทางห้องโถงใหญ่ก็เจอมารดาในชุดนอนสีเหลืองอ่อนพลิวถักนิตติ้งอยู่บนโซฟาใหญ่ คุณหญิงวรพักตร์รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองอยู่จึงเหลียวไปมองก็พบบุตรชายในสภาพที่รู้ได้ทันทีว่าไปไหนมา
“กลับมาแล้วหรอตาอาช แม่กะว่าจะรอทานข้าวแต่เรากลับบ้านเอาซะดึกแม่เลยรอไม่ไหวทานพร้อมคุณพ่อไปแล้ว”
“คุณแม่ไม่ต้องรอผมหรอกครับ ก็รู้อยู่แล้วว่าผมจะต้องกลับดึก แล้วผมก็ทานมาเรียบร้อยแล้วด้วย”
“ต่อไปก็อย่ากลับให้มันดึกมากนักนะ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหาว่าคุณพ่อเป็นถึงนายกรัฐมนตรี คุณแม่เป็นคุณหญิงแต่ไม่มีใครดูแลลูกเลยปล่อยให้ไปเที่ยวซะจนดึกมันจะไม่ดีนะ”
“โธ่คุณแม่ครับพรุ่งนี้ผมก็ต้องไปโรงเรียนแล้วได้เที่ยวอีกแค่วันเดียวก็ต้องไปอยู่เชียงใหม่แล้วแถมยังต้องอยู่โรงเรียนประจำอีกอีกนะครับ”
“ว่าไงแม่ลูกคุยอะไรกันอยู่ “
“กำลังอบรมเรื่องที่กลับบ้านดึกอยู่นะซิคะคุณวุฒิ”
“อาชแม่เขาพูดอะไรก็ฟังบ้างนะ พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปส่งที่เชียงใหม่เองนะจะไปดูว่าเรียบร้อยไหมแกจะเข้าโรงเรียนใหม่ทั้งที”
“อ้าวแล้วรถผมละครับคุณพ่อ”
“ก็ให้เสริมขับไปให้ซิแล้วเราก็มานั่งกับพ่อ”
“งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ ไปเที่ยวมาเหนียวตัวจะแย่”
“ไปเถอะแม่ก็ว่าจะถักอีกซักสองสามแถวก็จะขึ้นนอนแล้วเหมือนกัน”
อัชชารัชในชุดนอนสีเขียวเข้มล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างอ่อนล้า อาชครุ่นคิดเรื่องโรงเรียนใหม่ของเขาว่ามันจะเป็นอย่างไร เพื่อนที่นั่นจะเข้ากับเขาได้ไหม เขาพานคิดไปถึงเรื่องที่เพื่อนได้บอกเขาวันนี้เกี่ยวกับเธอคนนั้น “นี่ไอ้อาชมึงรู้รึเปล่าว่ามิ้นเขาก็ย้ายโรงเรียนไปที่เชียงใหม่เหมือนกัน ข้าได้ยินมาว่าโรงเรียนเดียวกับมึงด้วยมึงก็ระวังเอาไว้ละกันนะโว้ย”มินญา ผู้หญิงตัวเล็กๆบอบบาง เธอจะมาอยู่โรงเรียนเดียวกับเขาจริงๆเหรอเขาแทบไม่อยากจะเชื่อ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเจอเธอเพราะใจของเขาใช่ว่าจะลืมเธอได้แต่ในเมื่อเขาและเธอเลิกลากันไปแล้ว เขาจึงไม่มีสิทธ์ในตัวเธออีกต่อไป แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะได้เจอเธอ เขายังจำได้ถึงเวลาที่มีเธออยู่ในอ้อมอกของเขาผมสีดำดก นุ่มสลวยที่ยาวมาถึงกลางหลังนั้นชวนให้กอด เวลานั้นช่างเป็นเวลาที่มีความสุขเหลือเกิน อัชชารัชค่อยเลอหลับไปในที่สุด เขาหวังว่ากาลเวลาจะเป็นสิ่งที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในใจของเขาจนกว่าเขาจะพบใครสักคนมาแทนที่
ความคิดเห็น