คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ดอกไม้
การเวก
"
สามกษัตริย์เที่ยวชมบุปผชาติ ดอกดกเดียรดาษในสวนขวัญ เกดแก้วพิกุลแกมพิกัน จวงจันทร์ลำดวนกระดังงา
"
วรรณคดี : "รามเกียรติ์"
ผู้ประพันธ์ : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Artabotrys siamensis
ชื่อสามัญ : Artabotrys
ชื่อวงศ์ : Annonaceae
ชื่ออื่น ๆ : กระดังงาเถา กระดังงัว
การเวกเป็นไม้เถาขนาดกลางถึงใหญ่ เนื้อไม้แข็ง มักพบตามป่าชื้นทั่ว ๆ ไปนิยมปลูกให้เลื้อยเป็นไม้ซุ้มตามเรือนต้นไม้ หรือซุ้มประตู ใบร่มทึบ อายุยืนมาก ออกดอกตลอดปี ขึ้นได้ดีในทุกที่ทุกแห่งที่มีความชื้นพอสมควร ชอบอยู่กลางแจ้ง ลำต้นอาจมีขนาดโคนต้นใหญ่ ๘ - ๑๒ นิ้ว ลำต้นมีผิวเปลือกค่อนข้างเรียบ สีเทาอมดำหรือน้ำตาล มีกลิ่นเหม็นเขียวเพราะมีต้นน้ำมันกระจายอยู่ ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวจัด เป็นมัน รูปมนรี ปลายแหลม ยาวประมาณ ๖ - ๗ นิ้ว แต่กว้างกว่ากระดังงา ดอกอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นขาว เหลืองอ่อน จนแก่จัดมีสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอมรุนแรงและส่งกลิ่นไปได้ไกลดอกเป็นกลีบเรียวยาวแยกจากกัน ๖ กลีบ ดอกใหญ่กว่าและกลีบดอกหนากว่ากระดังงา เมื่อดอกแก่จะร่วงเป็นผล ผลมีลักษณะกลมรี เป็นพวง สีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม เมื่อผลแก่จัดภายในผลแก่มีเมล็ดสีดำเป็นเมือก ๆ การขยายพันธุ์ นิยมใช้กิ่งตอน เพราะโตเร็วกว่าการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
จำปา
"เอนองค์ลงเหนือบรรจถรณ์ อันขจรด้วยกลิ่นบุปผา รื่นเร้าเสาวรสสุคนธา มาลัยโอฬาร์ผกากาญจน์แก้วกุหลาบจำปาสารภิน จรุงรวยชวยกลิ่นหอมหวาน กลั้วกลิ่นวนิดายุพาพาล ระเหยหานเสียวซ่านสำราญใจ"
วรรณคดี : บทละคร เรื่อง "อุณรุท" ตอนอภิเษกทศมุขครองกรุงรัตนา
ผู้ประพันธ์ : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Michelia champaca
ชื่อสามัญ : Champaka
ชื่อวงศ์ : Magnoliaceae
จำปาเป็นพุ่มไม้ขนาดกลาง ดอกสีเหลืองอมส้ม เรียกว่าสีจำปา ดอกจำปาใหญ่กว่าจำปี แต่ต้นจำปาไม่ทนน้ำเท่าจำปี ไม่ควรปลูกในที่ลุ่มมีน้ำขัง ไทยมีจำปาอีกชนิดหนึ่ง เรียก จำปาขาว เชื่อว่าพ่อขุนบางกลางหาวปลูกไว้ที่วัดในอำเภอนครไทย พิษณุโลก ปัจจุบัน (๒๕๓๙) ยังยืนต้นอยู่ มีขนาดโอบไม่รอบ แต่เป็นโพรงเพราะอายุมากการขยายพันธุ์ ใช้กิ่งตอนหรือไหล คุณค่าทางสมุนไพร คือดอกใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ ระงับอาการเกร็ง รากเป็นยาถ่าย และขับระดูสตรี เปลือกแก้ไข้ ขับปัสสาวะ ใบใช้คั้นน้ำแก้โรคลำไส้อักเสบ
กระทกรก
กระทกรกกระลำพอสมอไข่
ผักหวานตาลดำลำใย
มะเฟืองไฟไข่เน่าสะเดานา
"
วรรณคดี : "ขุนช้างขุนแผน" ตอนขุนแผนลุแก่โทษ
ผู้ประพันธ์ : สุนทรภู่
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Passiflora foetida, L.
ชื่อสามัญ : Stinking - Passion Flower.
ชื่อวงศ์ : Passifloraceae
ชื่ออื่น ๆ : หญ้ารกช้าง กระโปรงทอง เถาสิงโต
กระทกรกเป็นไม้ประเภทเถาเลื้อย เถาเล็กสีเขียว ใบเป็นใบเดี่ยว แยกเป็น ๓ แฉกคล้ายใบตำลึง ยาวประมาณ ๖ - ๗ ซ.ม. แผ่นใบมีขนละเอียดปกคลุมจับนุ่มมือออกเป็นข้อ ๆ ละใบสลับข้างกัน ก้านใบมีขนเห็นได้ชัด หูใบมีลักษณะเป็นแผ่น ปลายจักแหลม ๆ ขนาบอยู่ที่ฐานก้านใบ ระหว่างฐานใบกับลำต้นมีมือเกาะลักษณะเป็นเส้นม้วนงอ สำหรับเกาะให้เลื้อยขึ้นไปตามรั้วหรือต้นไม้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง ดอกเป็นดอกเดี่ยว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๒ - ๓ เซนติเมตร มีกาบใบเป็นฝอยร่างแห ๓ กาบ กลีบเป็นเส้นฝอยละเอียดสีขาว วงในเป็นสีม่วง บอกในช่วงเช้าดอกออกตามซอกระหว่างก้านใบกับลำต้น เมื่อดอกโรยจะติดผล ผลมีลักษณะกลมเป็นพู มีกาบใบเจริญเติบโตตามผลหุ้มผลไว้ผลหนึ่ง ๆ มีหลายเมล็ด ออกดอกตลอดปี ผลรับประทานเล่นได้การขยายพันธุ์ ใช้เมล็ดปลูก
กรรณิการ์
คิดผ้าแสดติดขลิบนาง
เห็นเนื้อเรื่อโรงราง
ห่มสองบ่าอ่าโนเน่
"
วรรณคดี : กาพย์ห่อโคลง "นิราศธารโศก"
ผู้ประพันธ์ : เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Nyctanthes arbor - tristis
ชื่อสามัญ : Night Jasmine
ชื่อวงศ์ : Verbenaceae
กรรณิการ์เป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก สูงประมาณ ๑ - ๒ เมตร ใบสากคาย ขอบใบเป็นจักตื้น ๆ และใบออกทิศทางตรงข้ามกัน ดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ลักษณะคล้ายดอกมะลิ แต่มีขนาดกลีบแคบกว่า ปลายกลีบมี ๒ แฉก ขนาดไม่เท่ากัน โคนกลีบติดกันเป็นหลอดสีส้มสด ดอกบานส่งกลิ่นหอมในเวลากลางคืน และจะร่วงในเช้าวันรุ่งขึ้นผลมีลักษณะกลมแบน ขณะอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เป็นสีดำการขยายพันธุ์ ใช้ตอนกิ่งทางด้านสมุนไพร เปลือกให้น้ำฝาด เปลือกชั้นในเมื่อผสมกับปูนขาวจะให้สีแดง ดอกมีน้ำมันหอมระเหยที่กลั่นได้เช่นเดียวกับมะลิ ส่วนของดอกที่เป็นหลอด สกัดเป็นสีย้อมผ้าไหม ใบใช้แก้ไข้และโรคปวดตามข้อ น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาระบาย และเป็นยาขมเจริญอาหาร
ตะแบก
ช่อตะแบกชาตบุษย์ชูก้าน
พิกุลพวกแก้วเป็นแถวบาน
พุดตาลพันแต้วตำปี
"
วรรณคดี : "รามเกียรติ์"
ผู้ประพันธ์ : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Lagerstroemia frosreginae, Retz.
ชื่อสามัญ : Queen's Flower
ชื่อวงศ์ : Lythraceae
ชื่ออื่น ๆ : กระแบก
ตะแบกเป็นไม้ยืนต้นเนื้อแข็งขนาดกลางถึงใหญ่ ชอบขึ้นอยู่ทั่วไปตามป่าราบ เป็นไม้กลางแจ้งออกดอกปีละครั้ง ลำต้นมีเปลือกเรียบสีขาวเป็นมัน เมื่อแก่ผิวร่อนคล้ายต้นฝรั่ง ลำต้นสูง แตกกิ่งก้านด้านบน ใบโต ปลายใบแหลมคล้ายใบลั่นทม เมื่อออกดอกจะทิ้งใบ ดอกสีชมพูอมม่วง บางพันธุ์ดอกสีขาว เวลาดอกบานจะดูสะพรั่งสวยงามมาก เมื่อดอกโรยจะติดผลเป็นช่อ ลูกคล้ายหมากดิบ การขยายพันธุ์ ใช้วิธีเพาะเมล็ด
ผักตบ
บอนสุพรรณหั่นแกง อร่อยแท้
บอนบางกอกดอกแสลง เหลือแล่ แม่เอย
บอนปากยากจแก้ ไม่สริ้นลิ้นบอน ฯ
"
วรรณคดี : "โคลงนิราศสุพรรณ"
ผู้ประพันธ์ : สุนทรภู่
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Eichhornia crassipes, Solms.
ชื่อสามัญ : Water Hyacinth
ชื่อวงศ์ : Pontederiaceae
ชื่ออื่น ๆ : ผักบัวลอย ผักปอด ผักโป่ง สวะ ผักตบชวา
ผักตบเป็นพืชน้ำประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว ลอยน้ำได้ งอกงามได้โดยไม่ต้องมีที่ยึดเกาะ สามารถแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก จัดเป็นวัชพืชน้ำที่สร้างความเสียหายให้กับการชลประทาน การประมง การเกษตร การสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ เป็นอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามในแง่ของประโยชน์ ผักตบสามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ ใช้นำมาถักเป็นเครื่องเรือน ใช้แก้ปัญหาน้ำเสีย ใช้เป็นวัสดุในการเพาะเห็ดฟาง ใช้ผลิตก๊าซชีวภาพ ใช้ผลิตปุ๋ยหมัก ใบเป็นใบเดี่ยว แผ่นใบคล้ายรูปหัวใจ เป็นมันหนา ก้านใบพองออกตรงช่วงกลาง ภายในมีลักษณะเป็นรูพรุน เนื้อฟ่าม ช่วยพยุงลำต้นให้ลอยน้ำได้ ดอกมีลักษณะเป็นช่อ ดอกย่อยแต่ละดอกมีสีฟ้าอมม่วงแกมเหลือง ไม่มีก้านช่อดอก ดอกมีกลีบ ๖ กลีบ ตอนที่ดอกยังไม่บานจะมีใบธงหุ้มอยู่ เมื่อดอกออกพ้นใบธงดอกจะบานทันที การขยายพันธุ์ ใช้ "ไหล" ที่แตกมาจากลำต้นแม่ หรือเมล็ด ด้านสมุนไพร ใช้แก้พิษภายในร่างกาย และขับลม ใช้ทาหรือพอกแก้แผลอักเสบ
กระดังงาไทย
พระสี่กรชมพรรณพฤกษา
ประดู่ดอกดก ดาษดา
กระดังงาจำปาแกมกัน
"
วรรณคดี : "รามเกียรติ์"
ผู้ประพันธ์ : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Cananga odorata,Hook. F.&Th.
ชื่อสามัญ : Ilang - ilang, Perfume Tree
ชื่อวงศ์ : Annonaceae
กระดังงาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ออกดอกตลอดปี ชอบอยู่กลางแจ้ง โคนต้นมีปุ่มบ้าง มีกิ่งก้านห้อยย้อย เปลือกมีผิวค่อนข้างเรียบ สีเทาปนดำหรือน้ำตาล เปลือกลอกเป็นชั้น ๆ ได้ มีกลิ่นเหม็นเขียว เพราะมีต่อมน้ำมันกระจายอยู่ทั่วไป ใบเป็นใบเดี่ยว ขึ้นเรียงสลับกันไปตามกิ่ง ใบมนรี ปลายแหลมโคนใบมน ริมใบเรียบเกลี้ยง ยาวประมาณ ๖ - ๗ นิ้ว ดอกมีสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง โคนก้านใบ กลีบดอกเรียวยาวประมาณ ๔ นิ้ว กลีบบิด ดอกหนึ่งมีกลีบ ๖ กลีบ เรียงกันเป็น ๒ ชั้น ชั้นละ ๓ กลีบ กลีบชั้นนอกใหญ่และยาวกว่ากลีบชั้นใน ก้ามเกสรตัวผู้สั้นมาก เมื่อดอกโรยจะติดผล ดอกกระดังงาใช้อบทำน้ำเชื่อม หรือใช้ปรุงขนมหวาน การขยายพันธุ์ใช้วิธีเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง
ความคิดเห็น