ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ลวง...บ่วงเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #6 : รุกราน

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 56


                    ขอบคุณนะคะ  พี่ภีมที่มาส่ง วิรดี เอ่ยขอบคุณ  เมื่อรถของภีร์มะขับรถเข้ามาจอดบริเวณบ้าน  ไม่นานนัก คุณหญิงวิไลเดินออกมารับบุตรสาวพร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงยินดี

     

                    “แวะเข้ามาดื่มน้ำดื่มท่า ก่อนสิจ้ะพ่อภีม...สวัสดีจ้ะหนูป่าน ท่านเอ่ยทักเมื่อเห็นปารลีนั่งมาด้วย และหญิงสาวกำลังทำความเคารพด้วยความนอบน้อมเช่นทุกครั้ง

     

                    ไว้โอกาสหน้านะครับ..วันนี้ดึกมากแล้ว

     

                    จ้ะ แม้จะรู้สึกเสียดาย แต่ท่านก็เห็นจริงตามที่ชายหนุ่มว่าจึงได้ยืนส่งจนรถแล่นออกไปจากตัวบ้าน

     

     

     

                    ปารลี หน้าเสียเมื่อรถที่แล่นมาเรื่อย ๆ จอดลงระหว่างซอย ที่จะออกไปสู่ถนนใหญ่ แม้จะมีแสงไฟเป็นระยะ แต่เนื่องจาก หมู่บ้านของวิรดี นั้นแต่ละหลังอยู่ห่างกันมากและไม่มีรถสวนไปมา ประกอบกับที่เธอไม่ค่อยไว้ใจอีกฝ่ากเป็นทุนเดิม ยิ่งทำให้เธอระแวงมากขึ้นเป็นเท่าตัว

     

                    จอดรถทำไมค่ะ น้ำเสียงไม่ไว้ใจเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองร่างสูงไม่วางตา

                   

                    “นี่คุณ ...ผมไม่ใช่คนขับรถของคุณนะ..ย้ายมานั่งหน้า น้ำเสียงดุ และออกคำสั่งของภีร์มะ อาจจะทำให้ใคร ๆ หวาดกลัว แต่ปารลีก็ไม่ได้คิดจะทำตามแม้แต่น้อย

     

                    ไม่เป็นไรค่ะ  อีกไม่นานก็จะถึงแล้ว  หญิงสาวเอ่ยปัด

     

                    ผมบอกให้มาไงภีร์มะเริ่มอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่ชอบให้ใครขัดใจแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ยิ่งเป็นผู้หญิงอวดเก่งและถือดีเช่น ปารลีด้วยแล้ว  ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกว่าความอดทนของเขาน้อยกว่าทุกที

     

                    ฉันก็บอกว่า..ไม่ไง ปารลียังคงไม่ยอมแพ้   เธอมีความความระแวงต่อภีร์มะเป็นทุนเดิม ยิ่งพอเห็นเขาหงุดหงิด โมโห เช่นตอนนี้ ...การอยู่ห่างเขาให้มากที่สุด น่าจะปลอดภัยกับชีวิตและร่างกายของเธอมากกว่า

     

                    ได้..งั้นเราก็อยู่แบบนี้จนเช้าแล้วกัน.. ภีร์มะ ทำอย่างที่พูดจริง ๆ เพราะเขาจอดรถนิ่ง โดยที่ไม่ยอมเคลื่อนไปไหน แม้ภายนอกจะดูเงียบสงบ  แต่ตอนนี้อารมณ์โกรธกำลังปะทุขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาอยากจะบีบคอเล็ก ๆ ที่กำลังเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นนั้นให้หักคามือ

     

                    “.......ปารลีนั่งกระวนกระวายอยู่ตอนหลังของรถ เพราะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่นภายในรถ เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที  เธอจึงตัดสินใจเดินไปนั่งคู่คนขับเพื่อตัดปัญหา

     

                    “ก็แค่นี้ ภีร์มะเอ่ยด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ ก่อนจะขับรถออกไปทันที

     

                    นี่คุณ...นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่ ปารลีเริ่มโวยวายเมื่อเห็นว่าภีร์มะเลี้ยวไปคนละทางกับทางกลับบ้าน

                    อ้าว....เหรอ  ขอโทษที  ผมยังไม่ค่อยชินเส้นทางเท่าไหร่...อีกอย่างถนนหนทางแถวนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะ ภีร์มะตอบเรียบ ๆ โดยไม่สนใจ หญิงสาวที่เริ่มไม่ไว้ใจเขา

     

                    ข้างหน้ามีทางกลับรถ ..เอ๊ะ  นี่คุณ ปารลีร้องเสียงหลง เมื่อภีร์มะไม่ทำตามที่เธอบอก  หนำซ้ำยังขับเลยทางกลับรถไปไกลมาก  และอีกหลายกิโลถึงจะมีทางกลับรถอีกครั้ง

     

                    คุณภีร์มะ  ฉันไม่มีเวลาทะเลาะกับคุณทั้งคืนหรอกนะคะ  ฉันจะกลับบ้าน  ถ้าคุณอยากขับรถเล่นนัก  ก็เชิญคนเดียว กรุณาจอดข้างหน้าด้วย  ดิฉันจะลง ปารลีเริ่มโวยวาย  ยังไม่ทันที่เธอจะสงบใจได้ก็ต้องร้องด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อภีร์มะเร่งความเร็วขึ้นพร้อมกับเลี้ยวรถกระทันหัน ไปยังเส้นทางที่มืดสนิท

     

                    คุณภีร์มะ  ฉันบอกให้คุณจอดรถได้ยินมั๊ย ปารลีเริ่มหน้าเสียใบหน้าใส ซีดเผือด  ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอด้วยความกลัวแต่ภีร์มะยังคงเร่งความเร็วเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงที่หมาย

     

                    รถยนต์ค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อขับมาถึงบริเวณอาคารสูงตั้งตระหง่าน ซึ่งปราศจากแหล่งชุมชนในบริเวณใกล้เคียง ภายนอกประดับประดาด้วยแสงไฟงดงาม โดยที่ปารลี ไม่มีสมาธิที่จะ สำรวจบริเวณโดยรอบเพราะในขณะนี้ เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจ จะหยุดเต้นเมื่อเห็นป้ายโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า 

     

                    ฉันจะกลับบ้าน ปารลีโวยวาย พยายามตั้งสติและคิดหาทางออกให้กับตัวเอง....คิดสิ ยัยป่าน..คิด  ไอ้ประตูบ้านี่ก็ทำไมต้องเป็นระบบออโต้ล็อคด้วยหญิงสาวว้าวุ่นอยู่ในใจก่อนที่จะขยับตัวหนีจนชิดขอบประตูและพยายามรั้งไว้แน่น เมื่อ ภีร์มะขยับตัวลงจากรถและเดินมายังฝั่งที่เธอนั่งอยู่ โดยที่ไม่ยอมปลดล็อคประตูให้เธอ...มือเรียวสอดเข้าไปภายในกระเป๋าถือ เพื่อควานหาอาวุธคู่ใจก่อนจะกำแน่น

     

                    ลง.. ภีร์มะเอ่ยเสียงเข้ม  ภายในใจเริ่มสนุกที่ได้แกล้งเธอเล่น  ยิ่งเห็น ปารลี หน้าซีดเขาก็ยิ่งอยากแกล้งเธอมากขึ้น  อยากรู้นักว่าเธอจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้ายังไง

     

                    ไม่..ถ้าคุณทำคิดจะทำอะไรบ้า ๆ ละก็  ฉันร้องแน่ ปารลีขู่

                   

                    “คงไม่มีใครสนใจหรอกแม่คุณ  ไม่เห็นหรือว่าที่นี่มันที่ไหน ภีร์มะเอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียมก่อนจะออกแรงเบา ๆ รั้งประตูรถจนคนที่นั่งอยู่เซไปตามแรงดึงโชคดีที่เธอมีเข็มขัดนิรภัยเป็นตัวช่วย  จึงทำให้ร่างของเธอยังยึดอยู่กับเบาะแน่น  ประตูถูกเปิดออกช้า ๆ ก่อนเสียงภีร์มะจะยืนนั่ง เมื่อรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่แล่นผ่านไปทั่วร่าง

     

                    อ่ะ!!!”  เครื่องช๊อตไฟฟ้าที่อยู่ในมือปารลี ส่งผลให้ร่างสูงทรุดอยู่ข้าง ๆ รถทันทีพร้อมกับสติที่เริ่มเลือนราง  มือเรียวปลดเข็มขัดนิรภัยและหนีออกจากตัวรถได้สำเร็จตั้งใจจะหนีไปจากที่นี่  แต่พนักงานโรงแรมเดินออกมาเสียก่อนพร้อมกับทำหน้าที่ของเขาทันที

     

                    มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ มือเรียวรีบดึงกุญแจรถออกจากมือของชายหนุ่มพร้อมกับซ่อนอุปกรณ์ในมือทันทีพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้พนักงาน

     

                    เอ่อ..พอดีว่าหัวหน้าของดิฉันเมามาก..ช่วยพาไปที่ห้องพักก่อนได้หรือเปล่าค่ะ พนักงานที่มาเอ่ยเรียกเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกลเพื่อให้ช่วยกันพาร่างสูงของภีร์มะ ที่พยายามขัดขืนและพยายามโวยวายเรื่องที่ตนเองไม่ได้เมา ด้วยสติที่เหลือน้อยเต็มที ..จนลับสายตา ปารลีรีบเดินเข้าไปจัดการธุระเรื่องห้องพักอย่างรีบร้อน ก่อนจะขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุทันที...

     

                    เอาเถอะ..ยัยป่านพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าต้องเจออะไร  ขอแค่วันนี้ให้มันผ่านไปก่อนก็พอแล้ว ปารลีได้แต่ปลอบใจตนเองไปตลอดทาง.. เพราะรู้ว่าภีร์มะจะต้องโกรธมากและเธออาจจะต้องเจอฤทธิ์เดชกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่

     

     

    **********************************************

     

                   

    แกหยุดหัวเราะซักทีได้มั๊ย..ไอ้ต้น ภีร์มะเอ่ยอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นว่าอำนาจ ยังคงหัวเราะไม่หยุด  ทุกครั้งที่เห็นหน้าเครียดจัดของเขา

     

    อำนาจเดินทางไปรับเขาที่โรงแรมตั้งแต่เช้าเพื่อพาไปส่งที่บ้านเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์

     

    นาน ๆ ฉันจะเห็นแกเสียท่าผู้หญิงแบบหมดรูปซะที  ยิ่งฟังก็ยิ่งปลื้มคุณเลขาเข้าไปใหญ่  น้ำเสียงชื่นชมที่ได้ฟังยิ่งทำให้ ภีร์มะอารมณ์ขุ่นเคืองมากขึ้น  ความจริงเขาตั้งใจจะเดินทางกลับตั้งแต่เมื่อคืน  แต่เนื่องจากดึกมากแล้วรวมทั้ง กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ ก็อยู่ภายในรถเขาจึงต้องจำใจพักที่โรงแรมและโทรบอกอำนาจให้เดินทางมารับในช่วงเช้าแทน 

     

    คอยดู   อย่าให้เจอนะ.. ภีร์มะเอ่ยอย่างอาฆาต  เพราะความรู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่ถูกเธอทำร้าย ยังไม่เท่ากับที่เขาต้องเสียหน้าที่ถูกลูบคม

     

    ..ไอ้คุณภีม จะไปโกรธเขาก็ไม่ถูก ก็อยากไปหาเรื่องหาก่อนนี้น๊า..

     

    นี่พ่อสุภาพบุรุษ ฉันไม่รู้หรอกว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร..แต่แกเคยบอกว่าจะให้เกียรติผู้หญิงทุกคนไง..เท่าที่ฉันเห็นแกเป็นอะไรกับคุณป่าน นักหนา  ถึงได้ไปหาเรื่องเขาแบบนั้น ดีนะที่ยังแค่สลบถ้าเกิดเขาช็อตแกนานกว่านั้นมีหวังอำนาจพูดเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่าภีร์มะยังคงนิ่งเงียบ

     

    แกไม่รู้อะไร  เห็นหน้าซื่อ ๆ ตาใส ๆ แบบนั้น......ร้ายนักล่ะ ตอนที่ฉันอยู่ที่เมืองนอก ญาติ ๆ ก็โทรไปบอกพฤติกรรมของแม่นั่นให้ฟังตลอด  และที่ร้ายไปกว่านั้นคุณแม่ทั้งรักทั้งหลงแม่นั่นขนาดขู่ว่าจะยกสมบัติให้ผู้หญิงคนนั้นถ้าฉันไม่กลับมา ภีร์มะเอ่ยอย่างหงุดหงิด  ที่เห็นว่าเพื่อนของตนยังคงเข้าข้างปารลีและยังชอบอกชอบใจที่เธอแก้เผ็ดเขาได้

     

    ถามหน่อย ...ที่ไม่ชอบเขาเพราะเป็นลูกขี้อิจฉา พอเห็นว่าแม่ทำท่าว่าจะรักคนอื่นมากกว่า  ก็เลยพาล..หรือว่าหวงสมบัติ อำนาจเอ่ยขึ้นลอย ๆ

     

    ต้นเหตุมาจากอะไรไม่สำคัญแล้ว  ฉันรู้แต่ว่าตอนนี้  ฉันกับแม่นั่นไม่มีทางญาติดีกันได้..คอยดูฉันต้องทำให้แม่ปารลี  ออกไปจากบ้านให้ได้ ภีร์มะพูดด้วยความแค้นเคือง

     

    ดีเลย..ฉันมีข้อเสนอ

     

    ....อะไรคิ้วเรียวขมวดมุ่น  พร้อมกับรอคอยฟังคำตอบอย่างตั้งใจ

     

    แกก็อำนวยความสะดวกให้ฉันไง..พอฉันจีบคุณป่านติด เราอาจพัฒนาถึงขั้นแต่งงานกัน...คุณป่านก็ต้องออกจากบ้าน..ได้ประโยช์ทั้งสองฝ่าย โอเคมั๊ย

    ฉันไม่น่าเสียเวลาฟังแกเลย พับผ่าสิ!!!” ภีร์มะ กล่าวอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มเหม่อมองออกไปด้านนอกรถด้วยความหงุดหงิด  ผิดกับอำนาจที่หัวเราะอย่างถูกใจที่ยั่วโมโหเขาได้

     

    เอาน่าอย่าคิดมาก..แกอาจไม่ถูกชะตาเขาในช่วงแรก ๆ บางทีพอรู้จักกันไปนาน ๆ ความรู้สึกของแกอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้

     

    คงยากว่ะ รู้จักกันมาหนึ่งเดือน  ฉันถูกแม่นั่นเอาไฟฟ้าช๊อต  แล้ว 2 ครั้ง  ขืนรู้จักกันนานกว่านี้  ถ้าไม่ตายฉันคงได้เป็นหมันเสียก่อนภีร์มะนึกถึงสิ่งที่ปารลีทำกับตัวเองแล้วความรู้สึกหงุดหงิดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ภายในใจกำลังวางแผนการเอาคืนวุ่นวายไปหมด

     

    แหม..ไอ้คุณภีม  อย่างแกนะเหรอจะเป็นหมัน  ไม่ใช่ว่าเจ็ดปีที่ผ่านมาสาว ๆ ในฮาเร็มของแกให้ทายาทเกือบร้อยแล้วหรือไง

     

    ปากเสียจริง ๆ  คิดที่จะเจ้าชู้  ฉันก็ต้องรู้จักป้องกัน เรื่องนี้ไม่มีทางพลาดแน่ ..อีกอย่าง ถ้าฉันคิดจะคบใครก็คบทีละคนไม่ได้มั่วไปทั่ว

     

    เอออย่าให้พลาดก็แล้วกัน..ฉันยังไม่อยากเป็นคุณลุงในวัย สามสิบต้น ๆ แบบนี้..เฮ้อเหนื่อยที่จะเถียงกับเพลย์บอยอย่างแกแล้ว..ยิ่งฟังยิ่งหมั่นไส้ อำนาจมองหน้าหล่อ ขาวจัดของเพื่อนแล้วก็ได้ แต่โมโห ใบหน้าคมเริ่ม มีเคราน้อย ๆ ดวงตาสีมรกตคู่นั้นดึงดูดให้หญิงสาวหลายคนหลงใหลมานักต่อนัก เท่าที่เขารู้จักภีร์มะมาตั้งแต่เรียนมหาลัยชายหนุ่มมักจะมีสาว ๆ เข้ามาติดพันมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นภีร์มะจริงจังกับใครซักครั้ง..และบรรดาสาว ๆ เหล่านั้นก็เหมือนกับแมลงเม่า  เพราะทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไฟอย่างภีร์มะ นั้นร้อนแค่ไหน แต่ก็ยังเอาตัวเข้ามาพัวพัน..

     

     

     

     

    ไอ้ภีม..ทำไมวันนี้บ้านแกดูเงียบ ๆ วะ อำนาจเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านคชาบดินทร์ แล้วพบกับความเงียบผิดปกติ  ภีร์มะส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าลุงมีกำลังจะเดินเข้าไปหลังบ้าน

     

    ลุงครับทุกคนไปไหนกันหมดลุงมีเดินเข้ามาหาแล้วเล่าให้ชายหนุ่มฟังคร่าว ๆ

     

    เมื่อเช้าคุณหญิงวิไลท่านมารับครับ..เห็นว่าจะไปเที่ยวที่ไร่ของท่านแถว ๆ โคราช

     

    แล้วแม่ปา...เอ่อ  คุณป่านของลุงละครับภีร์มะเอ่ยถึงต้นเหตุของความหงุดหงิดของเขาในขณะนี้

     

    ไปด้วยกันครับ..ส่วนนี่คุณท่านฝากไว้ครับ บอกแค่ว่าถ้าคุณภีมกลับมาให้เอาให้  ภีร์มะเปิดดูด้านใน และพบว่าเป็นแผนที่ของ.ไร่ วิรดี  ซึ่งมีข้อความสั้น ๆ เขียนไว้มุมกระดาษว่า  ตามมานะลูก

     

    แกว่างไปเที่ยวกับฉันหรือเปล่า อำนาจ ตอบรับทันทีเพราะเขาตั้งใจเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ต้องล้มเลิกแผนการเพราะภีร์มะโทรให้เขามารับเสียก่อน 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×