คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : รุกราน
“ขอบคุณนะคะ พี่ภีมที่มาส่ง” วิรดี เอ่ยขอบคุณ เมื่อรถของภีร์มะขับรถเข้ามาจอดบริเวณบ้าน ไม่นานนัก คุณหญิงวิไลเดินออกมารับบุตรสาวพร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงยินดี
“แวะเข้ามาดื่มน้ำดื่มท่า ก่อนสิจ้ะพ่อภีม...สวัสดีจ้ะหนูป่าน” ท่านเอ่ยทักเมื่อเห็นปารลีนั่งมาด้วย และหญิงสาวกำลังทำความเคารพด้วยความนอบน้อมเช่นทุกครั้ง
“ไว้โอกาสหน้านะครับ..วันนี้ดึกมากแล้ว”
“จ้ะ” แม้จะรู้สึกเสียดาย แต่ท่านก็เห็นจริงตามที่ชายหนุ่มว่าจึงได้ยืนส่งจนรถแล่นออกไปจากตัวบ้าน
ปารลี หน้าเสียเมื่อรถที่แล่นมาเรื่อย ๆ จอดลงระหว่างซอย ที่จะออกไปสู่ถนนใหญ่ แม้จะมีแสงไฟเป็นระยะ แต่เนื่องจาก หมู่บ้านของวิรดี นั้นแต่ละหลังอยู่ห่างกันมากและไม่มีรถสวนไปมา ประกอบกับที่เธอไม่ค่อยไว้ใจอีกฝ่ากเป็นทุนเดิม ยิ่งทำให้เธอระแวงมากขึ้นเป็นเท่าตัว
“จอดรถทำไมค่ะ” น้ำเสียงไม่ไว้ใจเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองร่างสูงไม่วางตา
“นี่คุณ ...ผมไม่ใช่คนขับรถของคุณนะ..ย้ายมานั่งหน้า” น้ำเสียงดุ และออกคำสั่งของภีร์มะ อาจจะทำให้ใคร ๆ หวาดกลัว แต่ปารลีก็ไม่ได้คิดจะทำตามแม้แต่น้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ อีกไม่นานก็จะถึงแล้ว” หญิงสาวเอ่ยปัด
“ผมบอกให้มาไง” ภีร์มะเริ่มอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่ชอบให้ใครขัดใจแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ยิ่งเป็นผู้หญิงอวดเก่งและถือดีเช่น ปารลีด้วยแล้ว ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกว่าความอดทนของเขาน้อยกว่าทุกที
“ฉันก็บอกว่า..ไม่ไง” ปารลียังคงไม่ยอมแพ้ เธอมีความความระแวงต่อภีร์มะเป็นทุนเดิม ยิ่งพอเห็นเขาหงุดหงิด โมโห เช่นตอนนี้ ...การอยู่ห่างเขาให้มากที่สุด น่าจะปลอดภัยกับชีวิตและร่างกายของเธอมากกว่า
“ได้..งั้นเราก็อยู่แบบนี้จนเช้าแล้วกัน..” ภีร์มะ ทำอย่างที่พูดจริง ๆ เพราะเขาจอดรถนิ่ง โดยที่ไม่ยอมเคลื่อนไปไหน แม้ภายนอกจะดูเงียบสงบ แต่ตอนนี้อารมณ์โกรธกำลังปะทุขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาอยากจะบีบคอเล็ก ๆ ที่กำลังเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นนั้นให้หักคามือ
“.......” ปารลีนั่งกระวนกระวายอยู่ตอนหลังของรถ เพราะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่นภายในรถ เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที เธอจึงตัดสินใจเดินไปนั่งคู่คนขับเพื่อตัดปัญหา
“ก็แค่นี้” ภีร์มะเอ่ยด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ ก่อนจะขับรถออกไปทันที
“นี่คุณ...นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่” ปารลีเริ่มโวยวายเมื่อเห็นว่าภีร์มะเลี้ยวไปคนละทางกับทางกลับบ้าน
“อ้าว....เหรอ ขอโทษที ผมยังไม่ค่อยชินเส้นทางเท่าไหร่...อีกอย่างถนนหนทางแถวนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะ” ภีร์มะตอบเรียบ ๆ โดยไม่สนใจ หญิงสาวที่เริ่มไม่ไว้ใจเขา
“ข้างหน้ามีทางกลับรถ ..เอ๊ะ นี่คุณ” ปารลีร้องเสียงหลง เมื่อภีร์มะไม่ทำตามที่เธอบอก หนำซ้ำยังขับเลยทางกลับรถไปไกลมาก และอีกหลายกิโลถึงจะมีทางกลับรถอีกครั้ง
“คุณภีร์มะ ฉันไม่มีเวลาทะเลาะกับคุณทั้งคืนหรอกนะคะ ฉันจะกลับบ้าน ถ้าคุณอยากขับรถเล่นนัก ก็เชิญคนเดียว กรุณาจอดข้างหน้าด้วย ดิฉันจะลง” ปารลีเริ่มโวยวาย ยังไม่ทันที่เธอจะสงบใจได้ก็ต้องร้องด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อภีร์มะเร่งความเร็วขึ้นพร้อมกับเลี้ยวรถกระทันหัน ไปยังเส้นทางที่มืดสนิท
“คุณภีร์มะ ฉันบอกให้คุณจอดรถได้ยินมั๊ย” ปารลีเริ่มหน้าเสียใบหน้าใส ซีดเผือด ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอด้วยความกลัวแต่ภีร์มะยังคงเร่งความเร็วเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงที่หมาย
รถยนต์ค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อขับมาถึงบริเวณอาคารสูงตั้งตระหง่าน ซึ่งปราศจากแหล่งชุมชนในบริเวณใกล้เคียง ภายนอกประดับประดาด้วยแสงไฟงดงาม โดยที่ปารลี ไม่มีสมาธิที่จะ สำรวจบริเวณโดยรอบเพราะในขณะนี้ เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจ จะหยุดเต้นเมื่อเห็นป้ายโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า
“ฉันจะกลับบ้าน” ปารลีโวยวาย พยายามตั้งสติและคิดหาทางออกให้กับตัวเอง....คิดสิ ยัยป่าน..คิด ไอ้ประตูบ้านี่ก็ทำไมต้องเป็นระบบออโต้ล็อคด้วย…หญิงสาวว้าวุ่นอยู่ในใจก่อนที่จะขยับตัวหนีจนชิดขอบประตูและพยายามรั้งไว้แน่น เมื่อ ภีร์มะขยับตัวลงจากรถและเดินมายังฝั่งที่เธอนั่งอยู่ โดยที่ไม่ยอมปลดล็อคประตูให้เธอ...มือเรียวสอดเข้าไปภายในกระเป๋าถือ เพื่อควานหาอาวุธคู่ใจก่อนจะกำแน่น
“ลง..” ภีร์มะเอ่ยเสียงเข้ม ภายในใจเริ่มสนุกที่ได้แกล้งเธอเล่น ยิ่งเห็น ปารลี หน้าซีดเขาก็ยิ่งอยากแกล้งเธอมากขึ้น อยากรู้นักว่าเธอจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้ายังไง
“ไม่..ถ้าคุณทำคิดจะทำอะไรบ้า ๆ ละก็ ฉันร้องแน่” ปารลีขู่
“คงไม่มีใครสนใจหรอกแม่คุณ ไม่เห็นหรือว่าที่นี่มันที่ไหน” ภีร์มะเอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียมก่อนจะออกแรงเบา ๆ รั้งประตูรถจนคนที่นั่งอยู่เซไปตามแรงดึงโชคดีที่เธอมีเข็มขัดนิรภัยเป็นตัวช่วย จึงทำให้ร่างของเธอยังยึดอยู่กับเบาะแน่น ประตูถูกเปิดออกช้า ๆ ก่อนเสียงภีร์มะจะยืนนั่ง เมื่อรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่แล่นผ่านไปทั่วร่าง
“อ่ะ!!!” เครื่องช๊อตไฟฟ้าที่อยู่ในมือปารลี ส่งผลให้ร่างสูงทรุดอยู่ข้าง ๆ รถทันทีพร้อมกับสติที่เริ่มเลือนราง มือเรียวปลดเข็มขัดนิรภัยและหนีออกจากตัวรถได้สำเร็จตั้งใจจะหนีไปจากที่นี่ แต่พนักงานโรงแรมเดินออกมาเสียก่อนพร้อมกับทำหน้าที่ของเขาทันที
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ” มือเรียวรีบดึงกุญแจรถออกจากมือของชายหนุ่มพร้อมกับซ่อนอุปกรณ์ในมือทันทีพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้พนักงาน
“เอ่อ..พอดีว่าหัวหน้าของดิฉันเมามาก..ช่วยพาไปที่ห้องพักก่อนได้หรือเปล่าค่ะ ” พนักงานที่มาเอ่ยเรียกเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกลเพื่อให้ช่วยกันพาร่างสูงของภีร์มะ ที่พยายามขัดขืนและพยายามโวยวายเรื่องที่ตนเองไม่ได้เมา ด้วยสติที่เหลือน้อยเต็มที ..จนลับสายตา ปารลีรีบเดินเข้าไปจัดการธุระเรื่องห้องพักอย่างรีบร้อน ก่อนจะขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุทันที...
“เอาเถอะ..ยัยป่านพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าต้องเจออะไร ขอแค่วันนี้ให้มันผ่านไปก่อนก็พอแล้ว” ปารลีได้แต่ปลอบใจตนเองไปตลอดทาง.. เพราะรู้ว่าภีร์มะจะต้องโกรธมากและเธออาจจะต้องเจอฤทธิ์เดชกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่
**********************************************
“แกหยุดหัวเราะซักทีได้มั๊ย..ไอ้ต้น” ภีร์มะเอ่ยอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นว่าอำนาจ ยังคงหัวเราะไม่หยุด ทุกครั้งที่เห็นหน้าเครียดจัดของเขา
อำนาจเดินทางไปรับเขาที่โรงแรมตั้งแต่เช้าเพื่อพาไปส่งที่บ้านเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
“นาน ๆ ฉันจะเห็นแกเสียท่าผู้หญิงแบบหมดรูปซะที ยิ่งฟังก็ยิ่งปลื้มคุณเลขาเข้าไปใหญ่” น้ำเสียงชื่นชมที่ได้ฟังยิ่งทำให้ ภีร์มะอารมณ์ขุ่นเคืองมากขึ้น ความจริงเขาตั้งใจจะเดินทางกลับตั้งแต่เมื่อคืน แต่เนื่องจากดึกมากแล้วรวมทั้ง กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ ก็อยู่ภายในรถเขาจึงต้องจำใจพักที่โรงแรมและโทรบอกอำนาจให้เดินทางมารับในช่วงเช้าแทน
“คอยดู อย่าให้เจอนะ..” ภีร์มะเอ่ยอย่างอาฆาต เพราะความรู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่ถูกเธอทำร้าย ยังไม่เท่ากับที่เขาต้องเสียหน้าที่ถูกลูบคม
“..ไอ้คุณภีม จะไปโกรธเขาก็ไม่ถูก ก็อยากไปหาเรื่องหาก่อนนี้น๊า..”
“นี่พ่อสุภาพบุรุษ ฉันไม่รู้หรอกว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร..แต่แกเคยบอกว่าจะให้เกียรติผู้หญิงทุกคนไง..เท่าที่ฉันเห็นแกเป็นอะไรกับคุณป่าน นักหนา ถึงได้ไปหาเรื่องเขาแบบนั้น ดีนะที่ยังแค่สลบถ้าเกิดเขาช็อตแกนานกว่านั้นมีหวัง” อำนาจพูดเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่าภีร์มะยังคงนิ่งเงียบ
“แกไม่รู้อะไร เห็นหน้าซื่อ ๆ ตาใส ๆ แบบนั้น......ร้ายนักล่ะ ตอนที่ฉันอยู่ที่เมืองนอก ญาติ ๆ ก็โทรไปบอกพฤติกรรมของแม่นั่นให้ฟังตลอด และที่ร้ายไปกว่านั้นคุณแม่ทั้งรักทั้งหลงแม่นั่นขนาดขู่ว่าจะยกสมบัติให้ผู้หญิงคนนั้นถ้าฉันไม่กลับมา ” ภีร์มะเอ่ยอย่างหงุดหงิด ที่เห็นว่าเพื่อนของตนยังคงเข้าข้างปารลีและยังชอบอกชอบใจที่เธอแก้เผ็ดเขาได้
“ถามหน่อย ...ที่ไม่ชอบเขาเพราะเป็นลูกขี้อิจฉา พอเห็นว่าแม่ทำท่าว่าจะรักคนอื่นมากกว่า ก็เลยพาล..หรือว่าหวงสมบัติ” อำนาจเอ่ยขึ้นลอย ๆ
“ต้นเหตุมาจากอะไรไม่สำคัญแล้ว ฉันรู้แต่ว่าตอนนี้ ฉันกับแม่นั่นไม่มีทางญาติดีกันได้..คอยดูฉันต้องทำให้แม่ปารลี ออกไปจากบ้านให้ได้” ภีร์มะพูดด้วยความแค้นเคือง
“ดีเลย..ฉันมีข้อเสนอ”
“....อะไร” คิ้วเรียวขมวดมุ่น พร้อมกับรอคอยฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“แกก็อำนวยความสะดวกให้ฉันไง..พอฉันจีบคุณป่านติด เราอาจพัฒนาถึงขั้นแต่งงานกัน...คุณป่านก็ต้องออกจากบ้าน..ได้ประโยช์ทั้งสองฝ่าย โอเคมั๊ย”
“ฉันไม่น่าเสียเวลาฟังแกเลย พับผ่าสิ!!!” ภีร์มะ กล่าวอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มเหม่อมองออกไปด้านนอกรถด้วยความหงุดหงิด ผิดกับอำนาจที่หัวเราะอย่างถูกใจที่ยั่วโมโหเขาได้
“เอาน่าอย่าคิดมาก..แกอาจไม่ถูกชะตาเขาในช่วงแรก ๆ บางทีพอรู้จักกันไปนาน ๆ ความรู้สึกของแกอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้”
“คงยากว่ะ รู้จักกันมาหนึ่งเดือน ฉันถูกแม่นั่นเอาไฟฟ้าช๊อต แล้ว 2 ครั้ง ขืนรู้จักกันนานกว่านี้ ถ้าไม่ตายฉันคงได้เป็นหมันเสียก่อน” ภีร์มะนึกถึงสิ่งที่ปารลีทำกับตัวเองแล้วความรู้สึกหงุดหงิดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ภายในใจกำลังวางแผนการเอาคืนวุ่นวายไปหมด
“แหม..ไอ้คุณภีม อย่างแกนะเหรอจะเป็นหมัน ไม่ใช่ว่าเจ็ดปีที่ผ่านมาสาว ๆ ในฮาเร็มของแกให้ทายาทเกือบร้อยแล้วหรือไง”
“ปากเสียจริง ๆ คิดที่จะเจ้าชู้ ฉันก็ต้องรู้จักป้องกัน เรื่องนี้ไม่มีทางพลาดแน่ ..อีกอย่าง ถ้าฉันคิดจะคบใครก็คบทีละคนไม่ได้มั่วไปทั่ว”
“เอออย่าให้พลาดก็แล้วกัน..ฉันยังไม่อยากเป็นคุณลุงในวัย สามสิบต้น ๆ แบบนี้..เฮ้อเหนื่อยที่จะเถียงกับเพลย์บอยอย่างแกแล้ว..ยิ่งฟังยิ่งหมั่นไส้ ” อำนาจมองหน้าหล่อ ขาวจัดของเพื่อนแล้วก็ได้ แต่โมโห ใบหน้าคมเริ่ม มีเคราน้อย ๆ ดวงตาสีมรกตคู่นั้นดึงดูดให้หญิงสาวหลายคนหลงใหลมานักต่อนัก เท่าที่เขารู้จักภีร์มะมาตั้งแต่เรียนมหาลัยชายหนุ่มมักจะมีสาว ๆ เข้ามาติดพันมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นภีร์มะจริงจังกับใครซักครั้ง..และบรรดาสาว ๆ เหล่านั้นก็เหมือนกับแมลงเม่า เพราะทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไฟอย่างภีร์มะ นั้นร้อนแค่ไหน แต่ก็ยังเอาตัวเข้ามาพัวพัน..
“ไอ้ภีม..ทำไมวันนี้บ้านแกดูเงียบ ๆ วะ” อำนาจเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านคชาบดินทร์ แล้วพบกับความเงียบผิดปกติ ภีร์มะส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าลุงมีกำลังจะเดินเข้าไปหลังบ้าน
“ลุงครับทุกคนไปไหนกันหมด” ลุงมีเดินเข้ามาหาแล้วเล่าให้ชายหนุ่มฟังคร่าว ๆ
“เมื่อเช้าคุณหญิงวิไลท่านมารับครับ..เห็นว่าจะไปเที่ยวที่ไร่ของท่านแถว ๆ โคราช”
“แล้วแม่ปา...เอ่อ คุณป่านของลุงละครับ” ภีร์มะเอ่ยถึงต้นเหตุของความหงุดหงิดของเขาในขณะนี้
“ไปด้วยกันครับ..ส่วนนี่คุณท่านฝากไว้ครับ บอกแค่ว่าถ้าคุณภีมกลับมาให้เอาให้” ภีร์มะเปิดดูด้านใน และพบว่าเป็นแผนที่ของ.ไร่ วิรดี ซึ่งมีข้อความสั้น ๆ เขียนไว้มุมกระดาษว่า “ตามมานะลูก”
“แกว่างไปเที่ยวกับฉันหรือเปล่า” อำนาจ ตอบรับทันทีเพราะเขาตั้งใจเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ต้องล้มเลิกแผนการเพราะภีร์มะโทรให้เขามารับเสียก่อน
ความคิดเห็น