ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ลวง...บ่วงเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #2 : ยกที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 56


    บ้านคชาบดินทร์ คึกคักเป็นพิเศษ  เพราะนอกจากแขกของคุณท่านแล้ว  บรรดาญาติสนิทที่ทราบข่าวต่างก็เดินทางมาเพื่อร่วมต้อนรับการกลับมาของภีร์มะ  จนอาหารค่ำมื้อนี้ กลายเป็นงานเลี้ยงขนาดย่อม และต้องย้าย สถานที่จัดงานไปเป็นบริเวณสวนหน้าบ้านแทน

     

                เสียงเครื่องยนต์ที่วิ่งเข้ามาภายในโรงจอดรถ ก่อนแขกคนสำคัญจะเดินตรงมายังบริเวณ พื้นที่จัดงาน โดยมีการจัดโต๊ะ เตรียมไว้สำหรับการเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ

     

                ปารลี ต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้าด้วยความขันแข็ง พร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อนรัก

     

                สวยจริงเชียวเพื่อนเรา ...สวัสดีค่ะ คุณแม่ปารลีเอ่ยทักเพื่อนรัก พร้อมกับทำความเคารพผู้สูงวัยข้างกายอย่างนอบน้อม

     

                แล้วคุณมล  กับตาภีมอยู่ที่ไหนละ หนูป่าน ท่านเอ่ยถามถึงเพื่อนรักและว่าที่ลูกเขยในอนาคตทันที

     

                คุณท่าน รอคุณแม่อยู่ที่โต๊ะค่ะ  เดี๋ยวป่านพาไปนะคะ

     

                ไม่ต้องหรอก หนูป่าน  ตามสบายนะ  แม่ขอตัวก่อน ท่านเดินแยกออกไปทิ้งให้สองสาวยืนคุยกันตามลำพัง

                เป็นยังไงบ้างไหวหรือเปล่า วิรดี ลอบมองเพื่อนรักที่ยังคงยิ้มร่า  เพราะเธอรู้ดีว่านอกจาก คุณสุวิมล แล้ว บรรดาญาติ คนอื่น ๆ ไม่มีใครต้อนรับ ปารลี เนื่องจากประมุขของบ้านให้ความเมตตากับเธอมากกว่าลูกหลานแท้ ๆ ของตัวเอง จึงสร้างความไม่พอใจ  ให้กับญาติ ๆ เหล่านั้น จนบางครั้ง ปารลีต้องเผชิญกับคำพูดที่คอยถากถางและประชดประชันอยู่เสมอ

     

                สบายมากจ๊ะ  ตอนนี้ยิ่งสนุกใหญ่เพราะมีคู่ปรับเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง.. คนอื่น ๆ มาแล้วก็ไป  เขาจะด่าว่ายังไง ป่านก็แค่กองมันทิ้งเอาไว้ตรงนั้น แต่กับว่าที่สามีของวินี่ซิ ตามรังควาญเหมือนยังกะวิญญาณปารีเอ่ยประชด

     

                โอ้ย ปารลีร้องเบา ๆ เมื่อเพื่อนรักหยิกที่แขนอย่างหมั่นไส้  มารดาเปรยเรื่องที่ต้องการหมั้นหมายเธอกับภีร์มะมานานแล้ว  ทั้ง ๆ ที่เธอปฏิเสธอยู่หลายครั้งแต่ท่านก็ไม่ยอมลดละความพยายาม  แต่เพราะขัดท่านไม่ได้เธอจึงต้องมาร่วมทานมื้อค่ำที่นี่

     

                หมั่นไส้นักเชียว ใครเป็นว่าที่สามีกัน  ก็รู้ว่าวิไม่ชอบก็ยังจะแซวอยู่ได้..นี่ป่านกับคุณภีมเป็นยังไงยังทะเลาะกันอยู่อีกเหรอ ปารลีเบ้หน้าทันทีเมื่อเพื่อนรักเอ่ยถึงคู่อริคนสำคัญของตัวเอง ที่ปารลีมักจะโทรไปเล่าวีรกรรมที่ภีร์มะ ทำกับเธอในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาทิ้งเธอให้รอที่สนามบินและเรื่องอื่น ๆ ที่ทำกับเธอในที่ทำงาน

     

                ผู้ชายนิสัยแย่ หน้าตาก็งั้น ๆ จอมหาเรื่องก็ที่หนึ่ง คงจะมีทางได้ญาติดีกันหรอก

     

                ใช่สิ  ใครจะสู้พี่วุธของป่านได้ล่ะ วิรดีเอ่ยถึง  เอกวุธซึ่งเป็นรุ่นพี่ของพวกเธอสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และคอยให้ความช่วยเหลือพวกเธอในฐานะพี่รหัส  ด้วยอายุที่ห่างกันสามปี ในสายตาของเธอนอกจากเขาจะเป็นชายหนุ่มรูปงาม และแสนดีแล้ว ความอบอุ่น ความมีน้ำใจของเขา ตั้งแต่รู้จักกันจนถึงปัจจุบัน ทำให้เธอตกหลุมรักเขาอย่างไม่รู้ตัว

    แต่....วิรดีก็ทราบดีว่าในสายตาของเอกวุธ มีเพียง ปารลีเท่านั้น หญิงสาวจึงต้องคอยเก็บซ่อนความรู้สึกของตนเอาไว้เพราะรู้ว่าระหว่างเธอกับเอกวุธคงไม่มีทางสมหวังและเธอก็ยินดีหากทั้งสองตกลงปลงใจกันจริง ๆ ในเมื่อ พวกเขาต่างก็เป็นคนที่เธอรักทั้งคู่

     

                แน่นอนอยู่แล้ว ปารลียิ้มรับอย่างภูมิใจ ไม่นานนักทั้งสอง พากันเดินเข้าไปยังบริเวณงานอีกครั้ง  ร่างสูงของภีร์มะ ยืนเด่นอยู่ข้างกายประมุขของบ้าน  ที่ทำการแนะนำว่าที่ลูกสะใภ้ให้รู้จักกับบุตรชายของตนพร้อมกับเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ทำความคุ้นเคยกันทันที

     

    เสียงพูดคุย ยังคงดังอยู่เบื้องหลังแต่ปารลีกลับแยกตัวออกมาพร้อมกับเดินเข้าห้องครัว

     

    อ้าวคุณป่าน ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่าค่ะ เสียง ป้าแช่มเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องครัว

     

    เปล่าหรอกค่ะ  ป่านแค่หิวน้ำ เสียงใสเอ่ยตอบ  ความจริงแล้วเธอเพียงต้องการพักอารมณ์ของตัวเองจากคำพูดถากถางที่ดังมาตามลมของแขกบางคนเท่านั้น

     

    สอพลอ ขี้ประจบ  ทุก ๆ คำที่มันตอกย้ำความรู้สึกนั้นเธอไม่อยากจำเท่าไหร่นัก  แต่น่าแปลก  ถ้อยคำเหล่านั้นมันกลับหยั่งรากลึกในทุกอนูความคิดชนิดที่เธอแกะเท่าไหร่ก็ไม่หลุดเสียที 

    ภายนอกเธอทำได้เพียงรับฟังคำพูดเหล่านั้นด้วยอาการสงบ เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้กับผู้มีพระคุณและพวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสกว่าเธอจะคิดว่าเป็นคำสอนเพื่อเตือนสติด้วยความหวังดี

     

    ไม่ต้องคิดมากนะคะคุณป่าน  คนเรามีปากเขาจะพูดอะไรก็พูดได้ แค่คุณท่านและพวกเรารู้ว่าคุณป่านเป็นคนดี และไม่ได้เป็นเหมือนที่พวกเขากล่าวหาก็พอแล้ว หญิงสาวยิ้มรับบาง ๆ

    ขอบคุณนะคะ  ป่านไม่คิดมากหรอก เพียงแต่ไม่อยากทำให้บรรยากาศของงานกร่อยเพราะป่าน  อีกอย่าง..นั่งทานข้างในดีกว่า  ป่านชอบน้ำพริกผักต้ม  รสจัด กับปลาทูทอดของป้า มากกว่าอาหารฝรั่งรสเลี่ยนข้างนอกเสียอีก ปารลีปากหวานเอาใจจนคนถูกชมรีบตักข้าวสวยร้อน ๆ ให้เสียพูนจาน

     

    พอแล้วค่ะ  ขืนทานขนาดนั้น ป่านคงท้องแตกพอดี เธอรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าคนบ้ายอ ยังไม่หยุดตักข้าวให้เสียทีแต่ยังไม่ทันที่ปารลีจะเริ่มทานคำแรกร่างสูงของภีร์มะก็เดินตรงเข้ามาในครัวพร้อมกับเอ่ยเสียเข้ม

     

    อยู่นี่เองหรือ มือเรียวชะงักมือที่กำลังตักข้าวเข้าปากทันที

     

    ....... ปารลีเงยหน้าขึ้นพร้อมกับมองสบตาคมนิ่ง

     

    ผมอยากได้น้ำแตงโมปั่น ..ซักแก้วเสียงทุ้มตอบกลับ

     

    เอ่อ..เดี๋ยวป้ายกไปให้นะคะคุณ ภีมป้าแช่มมองคนโน้นที คนนี้ที อย่างอึดอัด  เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่าง ภีร์มะกับปารลี  พวกเขาถึงได้มีท่าทีมึนตึงใส่กันเสียทุกครั้งที่พบหน้า

     

    ป้าทานข้าวต่อเถอะครับ ...ปล่อยให้หนูป่านของป้าทำดีกว่าร่างสูงเอ่ยห้ามเมื่อเห็นว่าแม่บ้านกุลีกุจอเพื่อเตรียมเครื่องดื่มที่เขาต้องการ

     

    แต่ว่า...ป้าแช่มอึกอักเพราะสงสารหนูป่านที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง  แต่ก็ไม่กล้าพูดค้านอย่างเต็มปากนัก เพราะคุณภีมก็เป็นสุดที่รักของตนที่ดูแลมาแต่อ้อนแต่ออกและไม่เคยขัดใจเขาได้เลย

     

    ไม่เป็นไรค่ะ ป้าแช่ม  เดี๋ยวป่านทำเอง...ไปทานข้าวเถอะค่ะ  หญิงสาวรีบจัดแจงตามที่ ภีร์มะต้องการเพื่อตัดปัญหา

     

    เรียบร้อยแล้วค่ะ หลังจากเวลาผ่านไปสักครู่ ปารลีวางแก้วน้ำแตงโมปั่น สีแดงฉ่ำ น่าทานตรงหน้า ชายหนุ่ม แต่เขากลับยืนนิ่งพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ

     

    ช่วยยกตามมาด้วย  ภีร์มะเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะเดินนำ เธอออกไปจากห้องครัว

     

    “..แก้วน้ำใบติ๊ดเดียว..ก็ถือเองไม่ได้ ปารลีบ่นอุบอิบ และถือแก้วน้ำเดินตามร่างสูงไป

     

    บ่นอะไร ภีร์มะถามขึ้นเมื่อเห็นจากหางตาว่าหญิงสาวกำลังบ่นอุบ

     

    เปล่านี่คะ

     

    ก็ผมได้ยินภีร์มะหยุดเดินทันที พร้อมกับหันกลับมาจ้องหน้าเธออีกครั้ง

     

    ถ้าได้ยินแล้วจะถามทำไม..   ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเปิดศึกย่อม ๆ คุณสุวิมลที่กำลังเดินตามหาบุตรชาย และหญิงสาวก็เอ่ยทักขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงเสียอีก

     

    มาแล้วหรือหนูป่าน  ฉันให้ตาภีมไปตามตัวตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาละจ๊ะ

     

    ปารลีขมวดคิ้วมุ่น พร้อมจ้องมองไปยังร่างสูงด้วยความแปลกใจ เพราะชายหนุ่มไม่ได้บอกเธอว่า คุณท่านเรียกหา

     

    ผมให้เขาทำน้ำแตงโม มาเพิ่มให้คุณแม่ครับ เลยช้าไปหน่อย ..คุณแม่ไม่น่าลำบากต้องเดินมาตามเลย  กลับไปที่โต๊ะดีกว่าครับ ร่างสูงโอบประคองร่างของมารดาพร้อมกับพาท่านเดินกลับไปยังบริเวณสวนหน้าบ้านอีกครั้ง

     

    ประมุขของบ้านยิ้มอย่างเป็นสุขกับการเอาอกเอาใจของบุตรชาย  โดยมีปารลีเดินตามหลังมาพร้อมกับจ้องมองร่างสูงนิ่งอย่างเคลือบแคลง

     

    แหมตาภีมนี่ช่างรู้ใจแม่ไปซะทุกอย่าง ดูเถอะวิไล เราก็คิดว่าหายไปไหนเสียตั้งนานที่แท้ก็ไปหาเครื่องดื่มมาให้  ท่านเอ่ยเอาใจ บุตรชายทันทีเมื่อถึงโต๊ะ

     

     “นั่นสิจ๊ะ  ...นอกจากหน้าตาจะหล่อเหลาแล้วยังช่างเอาอกเอาใจอย่างนี้ใครได้เป็นคู่ครองคงมีความสุขน่าดู จริงหรือเปล่ายัยวิ ปาร ลีลอบมองเพื่อนรักที่ดูอึดอัดใจ กับการแสดงออกของท่านทั้งสองที่พยายามจับคู่ให้เพื่อนรักของตน อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งวิรดีทำได้เพียงยิ้มจืด ๆ ตอบกลับมารดาเท่านั้น

     

    หนูป่านมานั่งตรงนี้มา สิ้นเสียงของท่าน ปารลี  รู้สึกได้ถึงท่าทางไม่พอใจและสายตาที่แสดงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน จากน้องสาวทั้งสามคนของคุณสุวิมลที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ก่อนหน้า และแม้แต่ร่างสูงที่ยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่ข้างกายก็ชำเลืองมองเธอด้วยความหงุดหงิด

     

    ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน..ป่านนัดกับป้าแช่มว่าจะไปนั่งทานข้าวด้วยกันที่ครัว แค่แวะเอาน้ำมาเสิร์ฟให้คุณท่านเท่านั้น

     

    ไว้วันหลังเถอะจ๊ะ วันนี้อุตส่าห์เป็นวันพิเศษที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งที หนูก็เป็นเหมือนลูกหลานของฉันคนนึงจะหนีไปนั่งในครัวได้ยังไงกัน คำพูดที่แสดงออกถึงความเมตตาของท่าน ทำให้ปารลีแทบน้ำตาเอ่อด้วยความตื้นตัน  แต่เพราะรู้ว่ายังไม่อีกหลายคนที่ไม่ต้องการให้เธอนั่งร่วมโต๊ะ  รวมทั้งบุตรชายของท่านด้วยเธอจึงทำได้เพียงเอ่ยปฏิเสธอีกครั้ง

     

    ขอโทษจริง ๆ นะคะ ..ป่านต้องรีบเตรียมเอกสารการประชุมสำหรับพรุ่งนี้ ค่ะ ”  หญิงสาวเอ่ย เสียงเบากับคุณท่านเพียงลำพัง ปารลีไม่เคยคิดจะเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้างในการหนีปัญหา เพียงแต่ไม่ต้องการให้คุณท่านรู้สึกหนักใจกับสถานการณ์ที่เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ

     

    ถ้าเขาเล่นตัวนัก ก็อย่าไปขัดใจเขาเลยครับคุณแม่ ภีร์มะเอ่ยขึ้นลอย ๆ พร้อมกับจ้องมองเธอนิ่ง

     

     ดวงดากลมโต ของปารลี ฉายวาบด้วยความขุ่นเคืองทันที เพราะต้องการขัดใจเขา เธอจึงเปลี่ยนใจกะทันหัน พร้อมกับนั่งลงตามที่นั่งที่ท่านได้เตรียมไว้

     

    เห็นทีป่านต้องนัดกับป้าแช่มวันหลังแล้วละคะปารลีเอ่ยอย่างนอบน้อม กับคุณสุวิมล พร้อมส่งยิ้มหวานกวาดไปทั่วโต๊ะ  ก่อนที่จะหยุดนิ่งอยู่ที่ภีร์มะ โดยไม่ใส่ใจท่าทีขุ่นเคืองของเขาที่นั่งลงอีกข้างมารดาอย่างขัดใจที่ไม่สามารถกวนอารมณ์เธอได้

     

     

      ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมีความสุขและอยู่อย่างสุขสบายภายใต้การดูแลของคุณสุวิมล  ท่านให้โอกาส  ให้ชีวิตใหม่  แม้แต่งานที่ทำทุกวันนี้เธอก็ได้รับความไว้วางใจจากท่านให้รับตำแหน่งเลขา แม้ในขณะนั้นเธอจะอ่อนด้อยประสบการณ์ในทุก ๆ ด้านก็ตาม

     

      เธอรู้มาโดยตลอดว่ามีญาติหลายคนที่ไม่พอใจและต้องการให้เธอออกไปจากที่นี่  เพราะความกลัวความใกล้ชิดที่มีระหว่างทั้งคู่ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน จะทำให้ท่านรักและเอ็นดูเธอมากกว่า  ลูก หลานคนอื่น ๆ ยิ่งท่านแสดงออกว่าเป็นห่วงและใส่ใจต่อเธอมากเท่าไหร่  เธอก็ได้รับสายตาดูแคลนและคำพูดถากถางมากขึ้นเท่านั้น  ที่ผ่านมาปารลีไม่เคยใส่ใจเพราะเป็นห่วงประมุขของบ้าน  แต่มาวันนี้เมื่อบุตรชายของเขากลับมาแล้ว  เธอคงต้องคิดเรื่องที่จะออกไปจากบ้านหลังนี้อย่างจริงจังเสียที แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้น เธอต้องช่วยนายของตนในการปรับปรุงนิสัยเรื่อยเปื่อยของลูกชายเจ้านายเสียก่อน ซึ่งงานนี้คุณสุวิมลพร้อมสนับสนุนเธออย่างเต็มที่

     

    งานนี้เราต้องเจอกันซักตั้งแล้วนายภีร์มะปารลี หมายมั่นอยู่ภายในใจเมื่อภารกิจการจับคู่ระหว่างภีร์มะกับเพื่อนรัก  และปฏิบัติการปฏิวัติพฤติกรรมเรื่อยเปื่อยของเขาสำเร็จ เธอก็จะไปจากที่นี่ทันที

     

     

     

    **********************************************

     

     

     

    ปารลีต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิมเมื่อคุณสุวิมลต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์  ซึ่งในครั้งนี้เธอไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากท่านต้องการให้เธออยู่ช่วยสอนงานภีร์มะ

     

    หญิงสาวไม่รู้ว่าเป็นเพราะภีร์มะหมดความสนใจในงานหรือเพราะเขาต้องการยั่วโมโหเธอกันแน่ เพราะจากที่เคยตื่นแต่เช้าเมื่อตอนที่มารดายังอยู่  เขาก็เริ่มตีรวนโดยการตื่นสาย และงานที่เธอพยายามอธิบายก็ทำเหมือนไม่เข้าใจ

     

    ช่วงเย็นเป็นเวลาที่เธอสบายใจขึ้นบ้างเพราะภีร์มะ  จะต้องไปสังสรรค์กับเพื่อนเก่าทุกเย็นกว่าจะกลับก็ดึกดื่น เธอจึงมีเวลาส่วนตัวเพื่อพักความเหนื่อยล้าทั้งทางใจและทางกายเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง ยกเว้นบางวันที่เขาเมามากขนาดที่ป้าแช่มรับมือไม่ไหวต้องให้เธอไปช่วยเท่านั้น

     

    สิ่งที่เริ่มมีปัญหากับงานของเธอ คือการที่มีสาว ๆ เข้ามาวอแวกับเขามากยิ่งขึ้นทั้ง ภายในบริษัท และบรรดาคู่ขาเก่าที่เพิ่งทราบเรื่องที่เขากลับมาเมืองไทยต่างก็โทรเข้ามาวุ่นวายกันไม่เว้นวันจนบางครั้งเธอแทบทำงานไม่ได้เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าภีร์มะเป็นใคร เพราะฉะนั้นบรรดาสายที่ต้องการคุยกับลูกชายของเจ้าของบริษัท จึงส่งตรงมาถึงเธอจนแทบไม่ได้หยุดหย่อน

     

    เป็นยังไงบ้างค่ะป้าแช่มปารลีเอ่ยถามเมื่อเห็นแม่บ้านเดินลงมาจากห้องภีร์มะที่อยู่ชั้นบนด้วยใบหน้าผิดหวัง

     

    ไม่ยอมลุกจากที่นอนเลยค่ะ ..แล้วคุณภีมยังบอกอีกว่าแม่บ้านมีท่าทีอึกอักแต่ไม่ยอมพูดเสียที

     

    มีอะไรค่ะ

     

    คุณภีมบอกว่า ..ห้ามไม่ให้ป้าเข้าไปในห้องอีกค่ะ ..แล้วก็บอกว่าให้คุณป่านเป็นคนเข้าไปปลุกเองค่ะ หญิงสาวพนักหน้ารับรู้ พร้อมกับคิดหนักกับอาการพาลของภีร์มะที่ดูเหมือนจะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ

     

    มีอะไรก็ไปทำเถอะค่ะ..เดี๋ยวป่านจัดการทางนี้เอง 

     

    ก๊อก..ก๊อก..ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง หลังจากที่ปารลีทำใจหน้าห้องนอนของชายหนุ่ม อยู่นาน 

     

    หญิงสาวเปิดประตูค้างเอาไว้  ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้าไปภายในห้อง บนเตียงกว้างมีร่างสูงนอนคลุมโปงนิ่งอยู่ ปารลีเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะทำใจกล้าเอ่ยเรียก

     

    คุณภีร์มะ..ลุกได้แล้วค่ะ  สายมากแล้ว

     

    คุณภีร์มะค่ะ หญิงสาวร้องเรียกอยู่หลายครั้งแต่ชายหนุ่มยังคงนอนนิ่ง  มือเรียวค่อย ๆ รั้งผ้าห่มผืนหนาแต่อีกฝ่ายยังคงยื้อยุด  และส่งเสียงในลำคอราวกับรำคาญเธอเสียเต็มประดา

     

    นี่คุณ..จะลุกขึ้นดี ๆ มั๊ย ปารลีเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง  หลังจากที่ยื้อยุดกับภีร์มะ จนตัวเองเริ่มหอบ

     

    ป้าแช่มมายืนรีรอ อยู่หน้าห้องนอนด้วยความเป็นห่วงปารลี  หญิงสาวกวักมือเรียกอีกฝ่ายพร้อมกับกระซิบกระซาบกันอยู่ครู่  ก่อนป้าแช่มจะกระวีกระวาดรีบลงไปเตรียมของที่ปารลีต้องการ

     

    ร่างที่แกล้งหลับสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟไหลเวียนไปทั่วบริเวณฝ่าเท้า พร้อมกับร้องลั่นเมื่อเห็นไม้ตียุงไฟฟ้าที่อยู่ในมือปารลี

     

    นี่..เธอคิดจะทำอะไรหา !!!  มันอันตรายนะภีร์มะร้องห้ามเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะใช้มันทำร้ายเขาอีกครั้ง ร่างสูงใต้ผ้าห่มนั้น ด้านบนเปลือยเปล่าแผงอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามกระเพื่อมขึ้นลงตามการหายใจหอบถี่ด้วยความโกรธจัด

     

    แล้วคุณจะลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวได้หรือยัง ถ้ามัว แต่โอ้เอ้  ..ฉันจัดการขั้นเด็ดขาดแน่  อย่าลืมว่าคุณท่านมอบหมายให้ฉันจัดการกับคุณ..ได้เต็มที่  นี่เห็นแก่ที่คุณเป็นลูกชายคนเดียวนะฉันถึงปราณี ปารลีเสียงเข้ม  ทั้ง ๆ ที่เริ่มรู้สึกขัดเขินกับร่างเปลือยท่อนบนของภีร์มะ

     

    โอเค..โอเค  ผมจะรีบอาบน้ำแต่งตัว แล้วยืนอยู่ทำอะไรอีกล่ะ หรืออยากเห็นผมโป๊ได้นะผมไม่ถือเพราะความโมโหและอยากเอาคืน  มือหนาถอดกางเกงนอน ออกจากตัวอย่างที่ปากพูดทันที ผิดกับปารลียืนนิ่งไปอึดใจด้วยความตกใจ ก่อนจะร้องเสียงหลง พร้อมกับปิดหน้าปิดตาวิ่งออกไปจากห้องทันที

     

    กรี๊ด ไอ้บ้า..ไอ้โรคจิต ไอ้คนลามก  ที่นี่เมืองไทยนะจะมาแก้ผ้าโชร์แบบนี้ได้ยังไง  ใบหน้าใสแดงก่ำ พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองด้วยใบหน้าร้อนผ่าว พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวกระหน่ำไม่หยุด  เธอไม่ได้อ่อนต่อโลกมากมายและพอจะทราบดี เรื่องลักษณะทางกายภาพ  ของบุรุษเพศ  แต่การที่ต้องมาเห็นเต็มสองตาในระยะประชิดเช่นนี้มันก็ยากเกินกว่าจะทำใจได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×